เริ่มต้นฤดูกาลแห่งการเดินทาง ในช่วงเวลา golden week ของคนไทยคือช่วงสงกรานต์และต้นเดือนพฤษภาคม ปีนี้มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศทางแถบยุโรป เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่บางประเทศมักมีข่าวคราวของมิจฉาชีพที่มักจะฉวยโอกาส ฉก ชิง ขโมยกระเป๋า ที่มักมีกระทู้เกิดขึ้นเสมอๆ ประกอบกับปีที่แล้วกระเป๋าและ Passport หายบนรถไฟขณะเดินทางระหว่างเมือง บูดาเปสต์กับเวียนนา ปีนี้จึงเลือกไปประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย คือ สวิตเซอแลนด์ แต่ในใจอยากไป โครเอเชียมากกกก  จึงเพิ่มเข้าไปในแผนการเดินทาง โดยเรามีเวลาอยู่ที่โครเอเชียแค่ 5 คืน แต่อยากไปหลายเมืองซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางและท่องเที่ยว การเดินทางภายใน โครเอเชียของเรา จึงต้องใช้การบินภายในแทบทั้งหมด

          เราเริ่มต้นการเดินทางจาก ท่าอากาศยาน Zurich ต่อเครื่องไป Zagreb ซึ่งเป็นเมืองหลวงของโครเอเชีย โดยนั่งเครื่องบินของสายการบิน Croatia airline ขาไปเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ที่นั่ง 4 แถว คาดว่าทั้งลำไม่น่าจะถึง 50 คน นั่งจาก Zurich  ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงท่าอากาศยาน Zagreb ซึ่งเพิ่งทำใหม่ ลักษณะคล้ายสุวรรณภูมิ ขนาดย่อมๆ บางส่วนยังไม่เปิดใช้

          ถ้าจะไปโครเอเชีย ต้องมีวีซ่าเชงเก้นแบบ Multiple ซึ่งเราพ่วงจากสวิตเซอร์แลนด์ ตอนไปขอเราเขียนลงในแพลนไป และแจ้งว่าจะไปโครเอเชียและจำเป็นต้องใช้ Multiple เลยได้มามากกว่าเวลาในแพลนไป 1 วัน ตอนเข้าเมืองโครเอเชีย ตม. ของเค้าก็ถามนะ ว่ามาจากไหน และจะไปไหนบ้าง เป็นพิธีเราไปกะเพื่อน 2 คน ถามเราคนเดียวกะเพื่อนถามว่ามาด้วยกันใช่มั้ยแล้วให้ผ่านไปเลย เค้าน่าจะคุ้นกับชาวเอเชียพอสมควร เพราะมีนักท่องเที่ยวเกาหลีกับญี่ปุ่นเยอะมาก ส่วนคนไทยก็มีบ้างแต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นทัวร์

                                               
          การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองไม่มีรถไฟฟ้า มีบริการ Taxi และ Shuttle bus เราเลือก Shuttle bus ซึ่งขึ้นหน้าสนามบินและจะมาจอดที่สถานีรถบัสของเมือง Zagreb  ราคาต่อคน  30 kuna เทียบเป็นเงินไทยก็น่าจะคูณ 5.2 นั่งรถประมาณ 30 นาที สนามบินไม่ไกลจากเมือง และสามารถขึ้นรถจากสถานีรถบัสไปสนามบินในขากลับ โดยจะมีรถบัสออกทุกๆครึ่งชั่วโมง ถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และเราเลือกพักใกล้ๆ สถานีรถบัส เพราะต้องเดินทางไปเที่ยว Plivice ในรถบัสเที่ยวเช้า โดยเราได้จองตั๋วรถบัสไปจากประเทศไทย

          Zagreb เมืองหลวงเล็กๆของโครเอเชีย เงียบ สงบ เป็นระเบียบ โดยมีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแบ่งเป็น  Upper town และ Lower town สามารถเดินถึงกันได้ เรานั่งรถ tram จากสถานีรถบัสเข้าเมือง ประมาณ 3 ป้าย ค่ารถ 4 kuna ใช้ได้ 30 นาที เมื่อขึ้นรถแล้วต้อง validate ตั๋วบริเวณด้านหลังคนขับ สามารถซื้อตั๋วบนรถที่คนขับ หรือซื้อจากร้านขายของ tisak ก็จะมีขาย แล้วไปขอ MAP จาก tourist information ที่สถานีรถบัสแล้วไปตะลุยเมืองกันเลย

          ที่ที่เราจะไปที่แรกคือ St. Mark Church เป็นโบสถ์เล็กๆ บริเวณหลังคาของโบสถ์แสดงสัญลักษณ์สามแคว้นของโครเอเชียไว้ สวยงาม

          Zagreb Cathedral สามารถเดินทะลุมาจาก St. Mark Church และในตอนเช้า ก็จะมีตลาดเช้า Dolac market ที่จะขายผัก ผลไม้ ชีส ต้นไม้ ดอกไม้ ราคาไม่แพง

                                        
          เมือง Zagreb ลักษณะตึกเป็นตึกเก่าๆ แต่สวยงามตามแบบยุโรป บ้านเมืองเป็นระเบียบ ผังเมืองดีมาก มีสวน ต้นไม้ ให้เดินเล่นได้เกือบทุกที่ แอบหลงรักเมืองเล็กๆเมืองนี้ แต่ถ้าคิดจะ Shopping นี่คือผ่านไปเลย คือไม่มีห้างร้านหรือแบรนด์เนมอะไรมากมาย  อัตราค่าครองชีพถ้าเทียบกะเมืองอื่นในโครเอเชียนี่ถือว่าถูกที่สุด
          
                    สตรอเบอรี่ที่นี่ขายเป็นกิโลแบบตักใส่กิโลชั่งกันเลย ไม่มีแบบใส่แพคแบบทะนุถนอมแบบบ้านเราหรือญี่ปุ่น แต่หวานและอร่อยมากและราคาไม่แรง กิโลละ 40 kuna นี่คือลูกใหญ่มากกกก

                    อาหารการกินก็พอจะกินได้ พิซซ่า เฟรนฟรายน์ คล้ายๆอาหารฝรั่งทั่วๆไป แต่ชีสอร่อย ของฝากที่ขึ้นชื่อก็น่าจะเป็น ถุงหอมลาเวนเดอร์ ชีส เนคไทน์ที่เห็นขายกันเยอะๆ และก็ลูกมะเดื่อฝรั่งอบแห้ง

          หลังจากเที่ยวใน Zagreb กันแล้วพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยว น้ำตก Plivice โดยเราจะเดินทางโดยรถบัสเที่ยวเช้าสุด 7.30 น. จากสถานีรถบัสกลางโครเอเชีย โดยเราได้จองตั๋วไปกลับจากไทยมาเรียบร้อยแล้ว ปริ๊นท์ใบตั๋วไปด้วยเพื่อจะให้คนเก็บตั๋วสแกน QR code  แต่ถ้าไม่ปริ๊นท์ไปก็สามารถยิง QR code จากโทรศัพท์มือถือได้เลย แต่ถ้าไม่จองตั๋วไปจะมาซื้อตั๋วที่ท่ารถก็ได้ มีรถออกอยู่หลายยี่ห้อ พอดีตั๋วของเราไม่ได้บอกชานชลา เราเลยไปถามจากคนขายตั๋วเอา เค้าก็ใจดี บอกให้ พอถึงเวลารถก็จะมาจอดที่ชานชลาที่เค้าบอกคือตรงเวลามาก เราไปเร็วเลยขึ้นไปนั่งก่อน ตั๋วไม่ได้ระบุหมายเลขที่นั่งเลือกนั่งเอาได้เลย  ปรากฏว่ามีคนมาซื้อตั๋วแบบซื้อแล้วขึ้นเลยก็ได้ ก็ซื้อจากคนขับเลยคนขับก็ขายตั๋วเพลินเลย ประมาณ 4-5 ใบ ปรากฏว่ามีคนแขกและเกาหลีมาทีหลังประมาณ 3 คนแล้วมีตั๋วแบบออนไลน์มาตรงวัน คนเกินคร้าาาา ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีใครยอมลง เพราะใครๆก็อยากไปเที่ยวเช้า เพราะถ้าไปแบบ One day trip ถ้าจะเดินให้ทั่วน้ำตกนี่ใช้เวลาพอสมควร ประมาณ 4-6 ชม. ที่จะให้ทั่ว  สรุปวิธีแก้คือ ผู้ชายนั่งพื้นไปค่ะ 2 คน นั่งตรงบันไดไรงี้

          Plivice nation park นั่งรถประมาณ 2 ชม. จาก Zagreb นั่งผ่านเมืองเพลินๆพอใกล้ถึงจะเป็นเหมือนแม่น้ำแควไรงี้ น้ำเขียวๆเริ่มมีให้เห็น รถบัสจะไปจอดหน้าอุทยานพอดี ที่ ST1 มาถึงน้ำตก 10.45 น. เลทไป 15 นาทีตอนตั๋วเกิน
         แผนที่น้ำตก วันที่ไปนี่คือวันที่ 1 พฤษภาคม ไม่รู้ฝรั่งหยุดรึปล่าว คือคนเยอะมากกก  ต่อคิวซื้อตั๋วนี่ 30 นาที ถ้าใครจะไปถ้าเป็นช่วง high season นี่คงต้องเผื่อเวลากันเลย ค่าเข้าช่วงที่ไปยังเป็นช่วง  low  ราคาค่าเข้า 110 kuna

        
         การเดินภายในอุทยาน สามารถเดินได้รอบแต่ละเส้นทางใช้เวลา แตกต่างกันเราจองตั๋วกลับ ห้าโมงเย็น
                  เราเริ่มเดินจาก ST1 ซึ่งเป็นบริเวณที่เป็น Bigwater fall  พอดีแล้วเดินนย้อนไป ST2 โดยมีเส้นทางให้เดินชัดเจน เป็นบันไดไม้เลียบน้ำไป น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลามาก เดินแบบไหลๆ เพราะนักท่องเที่ยวมีเยอะประมาณนึง
         
         
         
         สรุปทั้งวันมีทั่งเดินแล้วมีบางจุดคือนั่งเรือข้าม lake  ตอนเดินก็เดินตามๆกันไป ไม่ค่อยมีใครสวนเลนส์ อากาศเย็นนิดๆ ตอนเที่ยงก็ร้อนหน่อยๆ เดินได้ เร่งการเดินนิดๆ แวะถ่ายรูปบ้าง ประมาณบ่าย 2 ก็เดินรอบ 4 ชั่วโมง คือเหนื่อยกันเลยทีเดียว
         
         
         
         
         ถ้าใครลงรถตรง ST2  จะไกลจาก big waterfall ต้องเดินวนมา แต่ในทุกๆเส้นทางสามารถขึ้นรถ เรือ ภายในได้ แต่เวลาในการนั่งรถและเรือก็ใช้เวลาประมาณรอบละครึ่งชั่วโมงต้องกะเวลาดีๆ
         เมื่อเดินรอบแล้วแวะกินข้าวที่ร้านอาหารตรงข้ามกับอุทยาน แล้วรอรถกลับ แต่ถ้าใครอยากเดินนานกว่านี้โดยไม่ต้องรีบก็สามารถนอนโรงแรมใกล้ๆอุทยานได้ โรงแรมจะอยู่ที่ ST2 ขากลับรอขึ้นรถบัสตรงข้ามกับจุดที่ลงเพื่อกลับ Zagreb เรากลัวจะมีปัญหาเหมือนตอนเช้าที่มีการขายตั๋วเกินคือกลัวไม่มีที่นั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีปัญหาเพราะเค้าให้ขึ้นรถเฉพาะคนมีตั๋วและดูเหมือนว่ามีการเช็คจำนวนที่นั่งที่เหลือ คือการจัดการดีกว่าตอนเช้า หมดห่วงเรื่องตั๋วเกินหลังจาก Plivice พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปเมืองทะเลกัน ไข่มุกแห่งเอเดรียติก Dubrovnik

        การเดินทางไป Dubrovnik เราใช้การบินภายในเอา ใช้เวลา 50 นาทีจาก Zagreb แต่สามารถนั่งรถบัสไปก็ได้ โดย Dubrovnik อยู่ใต้สุดของ โครเอเชียติดกับประเทศมอนเตเนโกรและสโลวีเนีย แต่ถ้าเดินทางโดยรถบัสต้องใช้เวลา 12 ชม. เลยคิดว่านั่งเครื่องดีกว่า ค่าเครื่องบินภายในประมาณ 3000 บาท ไปกลับ ออกเดินทางตอนบ่าย 14.20 น. คือไฟลท์ที่เร็วที่สุดแล้ว การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองก็มี Shuttle bus อีกเหมือนเดิม  70 kuna ไปกลับ สะดวกและปลอดภัย ออกตามเวลาเครื่องขึ้นลง ประมาณทุกๆครึ่ง ชม. ใช้เวลาเดินทางเข้าเมือง Dubrovnik  ประมาณ 30 นาที

        เมื่อไปถึง Dubrovnik old town ตอนแรกเราจองที่พักใน Old town แต่มีความอยากเห็นมุมวิวสูง เลยเปลี่ยนที่พัก ขยับขึ้นไปอีกนิดเพื่อให้เห็นมุมสูง  ปรากฏว่าหาที่พักไม่เจอ เดินวน แล้วขึ้นบันได คือทั้งเมืองมีแต่การขึ้นบันไดจร้าาา เราต้องลากกระเป๋าหนัก 15 kg. ขึ้นบันได เดินตัวปล่าวขึ้นบันไดสูงๆว่าเหนื่อยแล้ว ต้องลากกระเป๋าอีก ตายแพร่บ ลักษณะที่พักก็เป็นบ้านคน แต่ส่วนใหญ่มาทำเป็นโรงแรม ให้เช่า กว่าจะหาเจอคือใกล้มาก พอหลงก็ขึ้นลงบันไดกันไป สรุปก็หาเจอคร้าาา ที่พักก็สวยดี แต่ถ้าใครจะไป Dubrovnik แบกเป้ไปเถอะค่ะ สบายกว่าเยอะ

      

      ภายใน old town เป็นลักษณะเมืองโบราณริมทะเลมีบ้านปลูกบนหินขึ้นไปบนหน้าผา และมีกำแพงเมืองและป้อมล้อมรอบ การเดินชมเมือง Dubrovnik สามารถทำได้หลายวิธี แต่ถ้าให้สวยงามชมวิวมุมสูงก็จะมีเคเบิลคาร์ให้ขึ้น แต่เราไม่ได้ขึ้น เพราะเคยอ่านรีวิวของคนที่เคยไปบอกว่า สายของเคเบิลคาร์จะบังวิว ประกอบกับประหยัดเงินและอยากเดินเที่ยว เราเลยเดินชมเมืองมองหาที่สูงคร้า ก็ได้วิวสูงพอสมควรก็ได้ภาพออกมา เป็นที่พอใจ
     
               
     และการเดินชมเมืองโดยเดินรอบ Dubrovnik wall ซึ่งต้องซื้อตั๋ว 150 kuna สามารถใช้ได้ทั้งภายใน old town และป้อมใกล้ๆ ถ้าใครไปแนะนำให้เดินที่เมืองในตอนเช้า เพราะเปิดเวลา 9.00-17.00 น. บน dubrovnik wall ถ่ายรูปแสงสวยตอนเที่ยง และป้อมข้างๆ แสงสวยตอนบ่ายส่องลงมาเห็น ตัว old town แต่ไม่เห็นครอบคลุมทั้งหมดเหมือน cable car รอบๆ wall มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งแต่ต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ถ้าซื้อ Dubrovnik card ชนิด 1 วันสามารถเข้าฟรีและสามารถนั่งรถเมล์ฟรีด้วย เรามาเห็นการ์ดทีหลังเลยไม่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์