ถามคนที่ไม่คิดจะกลับมาอยู่เมืองไทย , เมืองไทยต้องปรับเปลี่ยนแบบไหน ถึงอยากจะกลับมาอยู่เมืองไทย

มี อะไร บ้าง ครับ ที่จะทำให้คนที่คิดอยากอยู่เมืองนอก ตลอดไป เปลี่ยนใจ กลับมาอยู่เมืองไทย ได้อย่างมีความสุข
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
เห็นด้วยกับ คห.8...

ผมอายุ 23 เห็นโลกไม่มาก เคยไปเรียนหนังสือแค่ 2 ปีที่ USA. ไปอยู่นู่นแล้วไม่อยากกลับมาครับ... หลักๆคือผู้คน"ส่วนใหญ่"ของประเทศไทยอำนาจนิยม และประเทศไทยบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล...

ที่นู่นผู้คนวางใจกับการบังคับใช้กฎหมาย สามารถพึ่งพิงอำนาจรัฐได้ ไม่มีใครมายุ่งกับใครหากไม่ได้รุกล้ำสิทธิของผู้อื่น... แต่ที่ประเทศไทยผู้คนนับถืออำนาจ กฎหมายจะใช้ได้ผลต้องดูด้วยว่าใครใหญ่กว่าใคร!!! ผู้คนส่วนใหญ่พร้อมที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่นทั้งที่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ตนเอง เพราะแค่"รู้สึกอิจฉา เลยหมั่นไส้"เท่านั้นเอง!!!...

อยู่ประเทศไทยต้องทำตัวกลืนๆไปกับ"คนส่วนใหญ่"ทำนองเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม และ"ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" แล้วผู้คนส่วนใหญ่ประมาท+ไร้ระเบียบ... เอาง่ายๆเลยเช่น ขับรถออกไปนอกบ้านทุกครั้งจะต้องเจอกับผู้คนที่พร้อมจะทำผิดกฎจราจร ขับช้าแช่เลนขวา ขับเร็วหวาดเสียว ขับแซงที่คับขัน(เส้นทึบ) หรือสุดโต่งอีกด้านนึงคือตัวเองขับช้า แต่พยายาม"กันท่า"ไม่ให้คันอื่นแซง, ทั้งที่เรี่องบนถนนนี่เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะมันสามารถถึงแก่ชีวิตแค่วิบตาเดียว!!!...

หากใครเกิดเรื่องกับใครที่ประเทศไทย คำถามแรกของคนที่เกี่ยวข้องมักถามว่า"มันเป็นใคร"... แต่หากเป็นที่นู่นคำถามแรกมักถามว่าเรียก 911 แล้วยัง...

"ความรู้สึก"แบบนี้มันเป็นนามธรรมครับ ใครไม่เคยใช้ชิวิตอีกแบบนึงจะไม่รู้สึก ทำนองเดียวกับปลาอยู่ในน้ำไม่เคยรู้ว่ามีน้ำล้อมรอบตนเอง เพราะ"ชินกับมัน"... จนกว่าจะเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมจึงรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปครับ...
ความคิดเห็นที่ 31
เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ถามจริงๆปัญหาอยู่ที่ใคร?

จำเรื่องป้าอารีย์มะพร้าวอ่อนได้ไหม ป้าแก่ๆปลูกมะพร้าวอ่อนขาย ถูกขโมยหลายครั้งจนต้องไปแจ้งความ
ผู้ต้องหาที่ขโมยเป็นชายฉกรรจ์ร่างกายสมบูรณ์แต่เป็นคนจนเขาว่างั้น
ขโมยมะพร้าวไปให้เมียท้องกินและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขโมย แล้วไงต่อ ........
สังคมมีปฏิกิริยาต่อ เจ้าของสวน และ ตำรวจ ในเรื่องนี้อย่างไร  
ชัดเจนครับ ป้าอารีย์เจ้าของสวนโดนถล่มด่าจนไม่มีที่ยืนในสังคม กลายเป็นคนชั่วคนเลวในพริบตา ตำรวจที่ทำคดีก็ไม่ต่างกัน
อัดคลิปด่าเตลิดเปิดเปิงคนแชร์มากมาย จะตามหาบ้านที่อำเภอทุ่งสง จะตามไปด่าถึงที่บ้าน น่ากลัวมากๆ

เคสนี้เป็นเคสที่ทำให้ผมตาสว่างต่อประเทศนี้ หลังจากโทษนั่นโทษนี่ตลอดเวลา
โทษนักการเมือง โทษข้าราการ โทษคนรวย โทษชนชั้นทางสังคม โทษกฎหมาย ฯลฯ
มันตาสว่างแล้วว่าไอที่โทษๆกันนะไม่เกี่ยวเลย และรู้แล้วว่าสิ่งที่เราต้องโทษแต่ข้ามไปตลอด คือ การโทษตัวเอง
ถ้าเมื่อไหร่คนไทยโทษตังเองเมื่อเวลาทำผิดจนเลยครับ ทุกอย่างจบเลย นอร์เวย์ก็นอร์เวย์ เจริญสู้ไทยไม่ได้แน่นอน

ที่ล้าหลังคือความคิดความอ่านของประชากกรในประเทศ คุณภาพประชากรโดยรวมของเรามันต่ำ ใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล
โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง

ถ้าใครคิดว่ามันเวอร์ไป ลองไปหาอ่านข่าว สาวลูก7คน ขโมยปลาดูสิครับ เมื่อวันสองวันก่อน แล้วดูท๊อปคอมเม้นต์ว่าเป็นอย่างไร
ด่าตำรวจที่ตามจับล้วนๆครับ นี่เหรอครับสังคมที่อย่างให้มีการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ขำเสมอเมื่อเจอเรื่องแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 8
ความเคยชิน    อยู่นี้มีความเป็นส่วนตัวสูงดี   ถ้าเราไม่ได้ทำผิดกฏระเบียบอะไรจะไม่มีคนมายุ่งกับเราเลย  เเล้วกฏระเบียบชัดเจน
เมืองไทยไม่รู้สินะมองไปทางไหนก็เห็นคนทำผิดกฏหมาย มั่วไปหมด   การจราจร   การพนัน  ขายของ  ซ่อง บาร์ บ่อน  
เเล้วเมืองไทยเเย่มาก คือถ้าคุณมีข้อพิพาทกับใครก็ต้องดูว่าฝ่ายไหนจะวิ่งเต้นหรือมีเส้นสายดีกว่า    เหตุผลหลักฐานเป็นเรื่องรอง  
ทำให้มีความรู้สึกไม่มีความมั่นใจความปลอดภัย   ผมว่าคนไทยก็เป็นคนดีนะเเต่การปฏิบัติหน้าที่ของคนคุมกฏหมายมันเอื้ออำนวย
คนรวย  คนมีอำนาจ   ให้ไม่เกรงกลัวกฏหมาย   ถ้าบังคับให้ทุกคนกลัวการทำผิดเหมือนกันหมดก็คงดีมากๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็นที่ 1
จริงๆเปลี่ยนเป็นแค่ ปชต คงไม่พอ คงต้องล้างระบบไดโนเสาร์เก่าๆไปด้วย อำนาจเก่าค้ำหัวอยู่คงไม่กลับกันง่ายๆ
ความคิดเห็นที่ 12
ผมว่าไม่ต้องไปถามคนเหล่านั้นหรอกครับ. เพราะมันมีน้อยที่ไม่อยากกลับประเทศ ด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศไทยไม่น่าอยู่

        ฉนั้นอย่าไปคิดปรับอะไรเพื่อคนเหล่านั้นเลยครับ แต่จงคิดปรับเพื่อคนที่อยู่ในประเทศดีกว่าครับ ปรับเพื่อให้เขามี ความสุขมากขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่