HAPPY BIRTHDAY AYUKAWA MADOKA , MAY 25 💝
รักนะตะเอง ถึงไม่ค่อยจะอัพเพจแต่ไม่เคยลืมรักตัวแม้แต่วันเดียว จะ 48 ขวบรึจะแซยิดก็ยังคงรักเหมือนเดิม
----------------------------------------------------------------------
รีวิว Kimi No Ka Wa Café
รีวิว Kimi No Ka Wa Café ที่อากิบะนี้ ผมไม่ได้ไปเองนะ รอบนี้แฟนไปคนเดียวและได้เจอร้านด้วยความบังเอิญในตอนที่จะกำลังไป Sailor Moon Café เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีการ์ตูนเรื่องนี้แต่หาไม่เจอกลับกลายเป็นว่าโดนดักด้วย Kimi No Ka Wa Café ที่ห้างปาร์โก้แทน ด้วยความที่ก่อนไปผมขอของฝากเป็นของสะสมอะไรก็ได้ของ Orange Road กับ Kimi No Ka Wa ก็เลยเข้าทางเลย อิอิ
คุณแฟนเล่าว่าตอนแรกๆ ที่ไปอากิบะรอบแรกวันก่อนหน้านี้กับอิเคบุคุโร่ไม่เจอสินค้าอะไรที่เป็นของ Kimi No Ka Wa เลยสักชิ้นเดียว หายากอย่างที่เค้าร่ำลือจริงๆ แล้วก็เตรียมใจมาเซย์ซอรี่กับผมแล้ว แต่ด้วยความโชคดีของผม (และโชคร้ายของแฟน) ที่เดินมั่วๆ มาเจอคาเฟ่ต์นี้ช่วง 2 ทุ่มกว่าๆ (ปิด 3 ทุ่ม) ในวันก่อนปิดอีเว้นท์แค่วันเดียว (วันสุดท้ายคือ 24 พฤษภาคม 6 โมงเย็น แต่หลังจากนี้ไม่รู้จะไปเปิดที่ไหนต่อหรือเปล่านะ) สรุปแล้วคุณเธอก็ขอเข้าไปลุยที่นี่แทนก็แล้วกัน
สำหรับบรรยากาศร้านนั้นผมคงไม่พูดถึงนะเพราะเคยมีเพื่อนๆ เคยรีวิวไว้ในพันทิปแล้ว 2-3 กระทู้ลองเข้าไปอ่านได้ที่
https://ppantip.com/topic/36272931 กับ
https://ppantip.com/topic/36082806 (ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ทั้งสองท่านด้วยนะครับ) เพราะมันจัดร้านคล้ายๆ กันทุกที่แหละ สรุปว่าผมจะเขียนในสิ่งที่คุณแฟนถ่ายรูปและสินค้าที่ซื้อมานะครับ เข้าใจตรงกันเนอะ ^_^
- บรรยากาศรวมๆ ในร้าน คุณแฟนบอกว่าเค้าจำกัดเวลาให้นั่งได้ไม่เกินคนละ 1 ชั่วโมงครับเพื่อเป็นการแบ่งปันให้แฟนๆ คนอื่นได้นั่งบ้าง
- เมนูในร้านมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือเลียนแบบอาหารที่ปรากฏในเรื่องและมาจากจินตนาการฉากต่างๆ
- ป้ายแจ้งชัดเจนว่าจัดเฉพาะกิจแค่เดือนเดียว จบแล้วจบกัน (แต่อาจจะไปเปิดต่อที่อื่น ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เปิดที่โอซาก้า, นาโกย่า, ฯลฯ วนไปมาแล้ว)
- 2 เมนูแนะนำนี้แฟนผมสั่งมาแดร๊กส์หมดเลย แบบว่าเวลามันกระชั้นไม่อยากเลือกมาก
- เมนูอื่นๆ ในรูปนี้ไม่ได้สั่งเลยสักอย่าง ถ่ายมาแต่รูป
- แผ่นนี้ก็เช่นกัน
- อาหารเซ็ต
- คนมาต่อแถวสั่งลายาวน่าดู
- เปิดมิวสิควีดีโอแกล้มอาหารไปด้วย (ขออภัยที่รูปไม่ชัด คนมันเยอะอ่ะ)
- แก้วนี้ได้ใจมาก สั่งมากินเอง เป็นสายไหมที่ต้องเทนมลงไปด้วย พอสายไหมละลายป้ายอาโฮ่ก็จะโผล่มาด่า 555
- ข้าวกล่องที่คุณแฟนสั่งมาทาน เค้าจะมีผ้าห่อมาให้ด้วยเหมือนในเรื่อง ซึ่งผ้าห่อกล่องข้าวเนี่ยเค้าจะเอาของใหม่ในถุงมาให้ตอนคิดเงินครับ ส่วนที่ห่อมาเสิร์ฟก็เก็บคืน (ส่วนรสชาติแฟนบอกว่างั้นๆ มาก)
- ห่อแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้แหละ
- วันนี้คนเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานทั้งนั้น ก็ดึกแล้วอ่ะนะ 2 ทุ่มกว่าๆ แล้ว
- แอบถ่ายโต๊ะชาวบ้าน โต๊ะนี้มาคนเดียวแต่สั่ง 3 แก้วเพื่อเอาที่รองแก้ว (มั้ง)
- ตู้โชว์ของเรียกกิเลส ทุกชิ้นเป็นสินค้าลิมิเต็ด และมีเยอะมากจนซื้อหมดไม่ไหวแน่ๆ แค่แก้วมัคก็ใบละ 2000 เยนแล้ว
- ไม่มีอะไร ภาพโชว์โปสเตอร์ฉากไคลแม็กซ์
- อีกมุมโชว์หลอกขายของ
- กาจาปอง คุณแฟนบอกว่าเหลือแค่ครึ่งตู้เนี่ยแหละ นอกนั้นหมดเกลี้ยง
---------------------------------------------------------------------
อยากได้ก็จัดให้...
คุณแฟนจัดให้ชุดใหญ่ไฟกระพริบ (ในงบที่มี) ให้เต็มที่ครับงานนี้เพราะเค้ารู้ว่าผมพลาดของพรีเมียมหลายๆ อย่างที่แจกในไทยโดยสำนักพิมพ์และค่ายหนัง เนื่องจากผมอยู่ต่างจังหวัด อะไรต่อมิอะไรก็มาไม่ถึง ของที่ได้มาก็มีทั้งแบบแถมมากับชุดอาหารและแบบที่ซื้อเอา
- ถ่ายรูปหมู่กันก่อน
- ชุดแฟ้มใสครับ แผ่นละ 300 เยน คุณแฟนบอกว่าหลายๆ แบบหมดแล้ว ก็เลยได้มาแค่ 6 แบบนี้
- ผ้าห่อข้าวกล่องครับ เป็นผืนที่เค้าห่อมาให้ถึงโต๊ะ แต่ตอนเช็คบิลเค้าจะให้ผืนใหม่แบบนี้มา สวยดีผมชอบมาก
- แผ่นรองแก้ว สั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว สุ่มได้ 1 ใบ ทั้งหมด 8 แบบ ใครใคร่กินจนครบก็ตามสบายเน้อ
- อันนี้ก็สวย สแตนดี้อะครีลิคไว้วางมือถือ ชอบรูปนี้มาก เป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องเลย
- อันนี้ไม่เกี่ยวแต่เคยเปรยๆ ว่าอยากได้ด๋อยอุมารุ ชีบอกหาไม่เจอเลยเอาตัวนี้มาให้แทน
- แผ่นรองจานที่มีให้เฉพาะในร้านเท่านั้น เป็นกระดาษอาร์ทมันขนาด A3 ได้มา 2 แผ่น
- กาจาปองที่เหลือแค่ตู้เดียว ได้ 2 ตัวนี้มา ยังดีที่ได้จี้มิตสึฮะมาอัน (แต่ข้างในร่างนั้นเป็นทาคินะ 555)
- ตบท้ายด้วยของฝาก Orange Road ที่คุณเธอบอกว่าหาอะไรให้ไม่ได้เลย ก็เลยสอยมังงะมาให้อีกชุด เออ.. ง่ายดีแต่ก็ชอบนะ ถึงจะมีอยู่แล้วชุดนึงก็เหอะ
25 พ.ค. HBD อายูคาวะ มาโดกะ + รีวิวล่าสุด Kimi No Ka Wa Café ที่อากิบะ (รูปเยอะเนื้อหาแยะ)
รีวิว Kimi No Ka Wa Café ที่อากิบะนี้ ผมไม่ได้ไปเองนะ รอบนี้แฟนไปคนเดียวและได้เจอร้านด้วยความบังเอิญในตอนที่จะกำลังไป Sailor Moon Café เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีการ์ตูนเรื่องนี้แต่หาไม่เจอกลับกลายเป็นว่าโดนดักด้วย Kimi No Ka Wa Café ที่ห้างปาร์โก้แทน ด้วยความที่ก่อนไปผมขอของฝากเป็นของสะสมอะไรก็ได้ของ Orange Road กับ Kimi No Ka Wa ก็เลยเข้าทางเลย อิอิ
คุณแฟนเล่าว่าตอนแรกๆ ที่ไปอากิบะรอบแรกวันก่อนหน้านี้กับอิเคบุคุโร่ไม่เจอสินค้าอะไรที่เป็นของ Kimi No Ka Wa เลยสักชิ้นเดียว หายากอย่างที่เค้าร่ำลือจริงๆ แล้วก็เตรียมใจมาเซย์ซอรี่กับผมแล้ว แต่ด้วยความโชคดีของผม (และโชคร้ายของแฟน) ที่เดินมั่วๆ มาเจอคาเฟ่ต์นี้ช่วง 2 ทุ่มกว่าๆ (ปิด 3 ทุ่ม) ในวันก่อนปิดอีเว้นท์แค่วันเดียว (วันสุดท้ายคือ 24 พฤษภาคม 6 โมงเย็น แต่หลังจากนี้ไม่รู้จะไปเปิดที่ไหนต่อหรือเปล่านะ) สรุปแล้วคุณเธอก็ขอเข้าไปลุยที่นี่แทนก็แล้วกัน
สำหรับบรรยากาศร้านนั้นผมคงไม่พูดถึงนะเพราะเคยมีเพื่อนๆ เคยรีวิวไว้ในพันทิปแล้ว 2-3 กระทู้ลองเข้าไปอ่านได้ที่ https://ppantip.com/topic/36272931 กับ https://ppantip.com/topic/36082806 (ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ทั้งสองท่านด้วยนะครับ) เพราะมันจัดร้านคล้ายๆ กันทุกที่แหละ สรุปว่าผมจะเขียนในสิ่งที่คุณแฟนถ่ายรูปและสินค้าที่ซื้อมานะครับ เข้าใจตรงกันเนอะ ^_^
- บรรยากาศรวมๆ ในร้าน คุณแฟนบอกว่าเค้าจำกัดเวลาให้นั่งได้ไม่เกินคนละ 1 ชั่วโมงครับเพื่อเป็นการแบ่งปันให้แฟนๆ คนอื่นได้นั่งบ้าง
- เมนูในร้านมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือเลียนแบบอาหารที่ปรากฏในเรื่องและมาจากจินตนาการฉากต่างๆ
- ป้ายแจ้งชัดเจนว่าจัดเฉพาะกิจแค่เดือนเดียว จบแล้วจบกัน (แต่อาจจะไปเปิดต่อที่อื่น ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เปิดที่โอซาก้า, นาโกย่า, ฯลฯ วนไปมาแล้ว)
- 2 เมนูแนะนำนี้แฟนผมสั่งมาแดร๊กส์หมดเลย แบบว่าเวลามันกระชั้นไม่อยากเลือกมาก
- เมนูอื่นๆ ในรูปนี้ไม่ได้สั่งเลยสักอย่าง ถ่ายมาแต่รูป
- แผ่นนี้ก็เช่นกัน
- อาหารเซ็ต
- คนมาต่อแถวสั่งลายาวน่าดู
- เปิดมิวสิควีดีโอแกล้มอาหารไปด้วย (ขออภัยที่รูปไม่ชัด คนมันเยอะอ่ะ)
- แก้วนี้ได้ใจมาก สั่งมากินเอง เป็นสายไหมที่ต้องเทนมลงไปด้วย พอสายไหมละลายป้ายอาโฮ่ก็จะโผล่มาด่า 555
- ข้าวกล่องที่คุณแฟนสั่งมาทาน เค้าจะมีผ้าห่อมาให้ด้วยเหมือนในเรื่อง ซึ่งผ้าห่อกล่องข้าวเนี่ยเค้าจะเอาของใหม่ในถุงมาให้ตอนคิดเงินครับ ส่วนที่ห่อมาเสิร์ฟก็เก็บคืน (ส่วนรสชาติแฟนบอกว่างั้นๆ มาก)
- ห่อแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้แหละ
- วันนี้คนเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานทั้งนั้น ก็ดึกแล้วอ่ะนะ 2 ทุ่มกว่าๆ แล้ว
- แอบถ่ายโต๊ะชาวบ้าน โต๊ะนี้มาคนเดียวแต่สั่ง 3 แก้วเพื่อเอาที่รองแก้ว (มั้ง)
- ตู้โชว์ของเรียกกิเลส ทุกชิ้นเป็นสินค้าลิมิเต็ด และมีเยอะมากจนซื้อหมดไม่ไหวแน่ๆ แค่แก้วมัคก็ใบละ 2000 เยนแล้ว
- ไม่มีอะไร ภาพโชว์โปสเตอร์ฉากไคลแม็กซ์
- อีกมุมโชว์หลอกขายของ
- กาจาปอง คุณแฟนบอกว่าเหลือแค่ครึ่งตู้เนี่ยแหละ นอกนั้นหมดเกลี้ยง
คุณแฟนจัดให้ชุดใหญ่ไฟกระพริบ (ในงบที่มี) ให้เต็มที่ครับงานนี้เพราะเค้ารู้ว่าผมพลาดของพรีเมียมหลายๆ อย่างที่แจกในไทยโดยสำนักพิมพ์และค่ายหนัง เนื่องจากผมอยู่ต่างจังหวัด อะไรต่อมิอะไรก็มาไม่ถึง ของที่ได้มาก็มีทั้งแบบแถมมากับชุดอาหารและแบบที่ซื้อเอา
- ถ่ายรูปหมู่กันก่อน
- ชุดแฟ้มใสครับ แผ่นละ 300 เยน คุณแฟนบอกว่าหลายๆ แบบหมดแล้ว ก็เลยได้มาแค่ 6 แบบนี้
- ผ้าห่อข้าวกล่องครับ เป็นผืนที่เค้าห่อมาให้ถึงโต๊ะ แต่ตอนเช็คบิลเค้าจะให้ผืนใหม่แบบนี้มา สวยดีผมชอบมาก
- แผ่นรองแก้ว สั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว สุ่มได้ 1 ใบ ทั้งหมด 8 แบบ ใครใคร่กินจนครบก็ตามสบายเน้อ
- อันนี้ก็สวย สแตนดี้อะครีลิคไว้วางมือถือ ชอบรูปนี้มาก เป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องเลย
- อันนี้ไม่เกี่ยวแต่เคยเปรยๆ ว่าอยากได้ด๋อยอุมารุ ชีบอกหาไม่เจอเลยเอาตัวนี้มาให้แทน
- แผ่นรองจานที่มีให้เฉพาะในร้านเท่านั้น เป็นกระดาษอาร์ทมันขนาด A3 ได้มา 2 แผ่น
- กาจาปองที่เหลือแค่ตู้เดียว ได้ 2 ตัวนี้มา ยังดีที่ได้จี้มิตสึฮะมาอัน (แต่ข้างในร่างนั้นเป็นทาคินะ 555)
- ตบท้ายด้วยของฝาก Orange Road ที่คุณเธอบอกว่าหาอะไรให้ไม่ได้เลย ก็เลยสอยมังงะมาให้อีกชุด เออ.. ง่ายดีแต่ก็ชอบนะ ถึงจะมีอยู่แล้วชุดนึงก็เหอะ