หลายๆคนที่ได้ก้าวเข้ามาในอาณาจักรของผลิตโชคแล้วไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาแบบตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ...หรือแม้จะหลงเข้าแบบไม่รู้ตัวก็ตาม เชื่อว่าหลายคนคงจะมีอาการเดียวกันคือ ..หาทางออกไม่เจอ.. ( หรือที่หาทางออกไม่ได้เป็นเพราะเจ้าของเค้าบอกว่า เค้าล็อคประตูขังเอาไว้เพื่อทรมาน..อันนี้ก็ไม่แน่ใจจริงๆ ) ผลิตโชคเองเค้าก็เข้าใจหาพื้นที่ในอาณาจักรของเค้าให้ทุกๆคนได้เข้าจับจองหรือสิงสถิตตามลักษณะนิสัยและบุคลิกของแต่ละคน เค้าไม่สร้างกรอบหรือวางกฎเกณฑ์ใดๆเลย เอาตามที่สบายใจอยากทำอะไรก็ทำ สบายๆตามผลิตสไตล์ นั่นจึงเป็ที่มาของ
สังคมโลกโซเชียลของเป๊กผลิตโชค ที่เค้ามักจะโปรโมตให้กับบรรดาแฟนคลับในทุกที่ๆเค้าไป รู้สึกนี้จะเป็นสิ่งเดียวจริงๆที่ผลิตโชค Tie -in กับแฟนคลับของเค้า แต่ก็นั่นแหละมันเป็นสินค้าที่ผลิตโชคไม่ได้เงินสักบาทจากการขาย สิ่งที่เค้าต้องการจากการขายมีเพียงอย่างเดียวเลยคือ อยากได้จำนวนความรักจากแฟนเพลงให้มันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะดุเป็นพ่อค้าที่คิดพิลึกๆสักหน่อย แต่ก็นะเผอิญพ่อค้าคนนี้เค้ามีฐานะดีอยู่แล้ว ( ฮึๆ..ฟังดูน่าหมั่นไส้ไปอี๊ก )
มาต่อกันกับเรื่องสังคมโลกโซเชียลของเป็กผลิตโชค ทุกคนที่ได้ปวารณาเป็น PFC คงทราบดีว่ามีอะไรบ้าง เพราะก็เคยเห็นผ่านตาจากกระทู้ก่อนๆที่ได้ความรู้ทางวิชาการมากจากกระทู้นั้น ( ได้ประโยชน์มากๆสำหรับ PFC ทีม PR )
สังคมโลกโซเชียลของเป๊กผลิตโชค จะแบ่งเป็น 3 ช่องทางหลัก หรือเรียกว่า 3 แอฟ จุดประสงค์หลักๆเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับของเค้าเองโดยผ่านจากตัวเค้าเองแบบ 100 %
1. Facebook ที่นี้ดูเหมือนแหล่งรวมขุมทรัพย์พลังงานลึกลับบางอย่างที่เป็นตัวดูดวิญญานทุกคนจากทุกสารทิศให้เข้ามาวงจรผลิตโชค คือเรียกว่า 99.99 % ของทุกคนที่เข้ามาแล้วทำให้ระบบการกลับไปใช้ชีวิตปกติที่เคยเป็นมาพังพินาศไปในพริบตา ลืมตาตื่นขึ้นทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตไม่ปกติแล้ว 55555.... และมีหลายเคสที่หลงเข้าด้วยเหตุผลต่างๆกันไป ไม่ว่าจะเข้ามาเพราะความสงสัย อยากรู้ พิสูจน์ความจริงบางอย่าง ( หรือเรียกง่ายว่า ..เผือก.. นั่นเอง ) แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆมันก็ได้นำพาพวกเราต้องมาเจอวิบากกรรมอันใหญ่หลวงที่ต้องชดใช้กรรมกันต่อไปเรื่อยๆอย่างมีความสุข
2. Instragram ที่นี้ถือว่าเป็นแหล่งรวมภาพความทรงจำที่ดีและหายากสำหรับคนที่เพิ่งมาติดกับดักของผลิตเลยละ ความทรงจำหลายอย่างที่สื่อถึงความรู้สึกในเวลานั้นๆที่มาในรูปแบบภาพถ่ายของผลิตมักจะอยู่ที่นี้เป็นหลัก เรียกได้ว่า facebook ทำให้รู้จักตัวตน แต่ instragram ทำให้รู้จักความรู้สึกของผลิตโชค
ส่วนล่าสุด 3. Twitter ( ทาร์ วิท์ เด่อร์ ผลิตสไตล์ ) ทุกคนจะพบกับภาษา palitian ได้ที่นี้แบบครบหลักสูตร และดูเหมือนที่นี้จะเป็นแหล่งรวมการแสดงตัวตนในฐานะเมียของผลิตโชคเอาไว้มากที่สุด มันมีความเรียลที่กล้าแสดงจุดยืนและตัวตนในที่นี้ที่เดียวด้วยซ้ำ นั่นเป็นที่มาของ #เป๊กผลิตโชค แบบ 24 ชม.
ที่นี้ดูอาจจะเป็นการสื่อสารที่มีข้อจำกัดหลายอย่างในการเล่น ดูเล่นยาก ตั้งมีสกิลการย่อข้อความที่มีสั้นแต่ต้องได้ใจความ พอพิมพ์ผิดชีวิตก็เปลี่ยนได้ทันที แต่ในข้อจำกัดมันดันทำให้ความอิสระบางอย่างในทวิตที่เราไม่สามารถทำได้ในที่อื่นแต่ทำได้ในทวิต นั่นแหละตัวตนของทุกคนอาจจะบังเกิดจากที่นี้ก็ได้ ส่วนในความยากทั้งหมดในทวิตผลิตโชคเองก็ได้สอนประสบการณ์และบทเรียนฮาๆที่กลุ่มแฟนคลับมือใหม่ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับผลิตไปด้วย ( ถ้าผลิตเล่นได้เราก็น่าจะเล่นได้ ) เพียงแต่ต้องใช้วิจารณาเอาเองว่าควรทำตามหรือไม่ 55555 แต่ทุกอย่างมันดันทำให้มีเสน่ห์มากกว่า 2 แอฟที่กล่าวมา มันมีความสนิทสนมในการสื่อสาร มันมีความเป็นตัวตนที่ลึกซึ้งแบบจับต้องได้ สุดท้ายมันมีความทันสถานการณ์ในการสื่อสารกับศิลปินยิ่งกว่าการใช้วอ.1 เรียก วอ.2 ซะอีก
หลายคนเล่น twitter ครั้งแรกเพราะผลิตโชคซึ่งเราก็คือหนึ่งในนั้น ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตามเทรนด์มาเล่นอะไรแบบนี้จริงๆ เมื่อก่อนคิดมาตลอดว่าเล่นทวิตทำไมในเมื่อมีเฟสบุคแล้วก็น่าจะเพียงพอสำหรับโลกออนไลน์เพื่อจะใช้สื่อสาร หรือถ้าอยากลงภาพสวยๆก็มีอินสตราแกรมเพิ่มนิดหน่อยก็น่าจะแล้ว เล่นทวิตแล้วได้อะไร คิดมาตลอดว่าทวิตมีไว้สำหรับเด็กวัยรุ่นที่ก้าวตามเทรนด์โลกแบบที่เราคงตามไม่ทัน
แต่ที่คิดมาทั้งหมดมันไม่ใช่เลย ทุกสิ่งมันมี 2 ด้านเสมอ ถ้าเราเลือกใช้ให้มันมีคุณค่ากับตัวเราเองมันก็จะสร้างประโยชน์เราไม่มากก็น้อย
สังคมทวิตที่คุณผลิตได้ไปกวาดต้อนมาไว้ในอาณาจักรของตัวเองไว้มันใหญ่มากจริงๆ ภายนอกมันอาจเป็นสังคมแห่งการพร่ำเพรือพรรณาความรักของบรรดาเมียๆของคุณผลิต มีความบอกรักแบบหวานซึ้งกินใจ การจีบศิลปินของเค้าจนถึงความตลกโปกฮาแบบที่ต้องหลุดหัวเราะคนเดียวแบบคนบ้า #เป๊กผลิตโชค ที่เค้าเลื่องลือว่าตื่นตัวตลอดเวลา 24 ชม. มันไม่ได้มาง่ายๆนะคะ ( ถ้าใครเป็นโรคซึมเศร้าแนะนำให้เข้าแท็กนี้มันเยียวยาคุณได้ )
แต่นอกจากจากความตลกสนุกสนานของทวิตPFC ที่พวกเค้ามีนั่นมันได้กลายเป็นคาร์เเรคเตอร์อันโดดเด่นของแอฟนี้ไปแล้ว แต่เค้าไม่ได้สร้างคาแรคเตอร์นี้เพื่อตัวเค้าเอง เค้าแค่อยากพูดและสื่อสารกับศิลปินของเค้าให้มีความสุขและสนุกในทุกนาทีที่พิมพ์ #เป๊กผลิตโชค แค่นั้นเอง เพราะหลายๆครั้งถ้าอะไรที่เกิดดราม่าพวกเค้าจะพยายามสกัดดราม่าเหล่านั้นไม่ให้กระทบศิลปินของพวกเค้า เค้าแคร์และรักศิลปินของเค้ามากกว่าความไม่สบายใจที่จะเกิดกับตัวเพวกเค้าเอง กลุ่มคนเหล่านี้เค้ามาไกลจนเกินกว่าคำว่าแฟนคลับกับศิลปินไปแล้ว
ซึ่งในทุกๆวันจะเห็นการสื่อสารบนทวิต PFC หลายอารมณ์หลากหลายกันไป แต่ในนั้นมันจะการสื่อสารช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นหลัก ไม่ว่าจะช่วยปลอบใจทางจิตใจกันเอง การช่วยเหลือทางด้านพยาบาล การช่วยหาของหาย การช่วยเหลือประสานงานหรือสื่อสารที่จะซัพพอร์ทผลิตตามงานต่างๆ
และทวิตมันช่วยได้ผลอย่างเห็นได้ชัดมากจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นความร่วมมือใน 3 แอฟทั้งหมดอย่างเป็นระบบจริงๆ
แต่วันนี้ที่เราได้รับแรงบันดาลใจจากข้อคิดเตือนใจหลักมาจากทวิตที่เราคิดว่ามันมีประโยชน์จริงๆ กลุ่มคนในทวิต PFC มาจากหลายกลุ่มๆอายุหลายๆอาชีพ หลายๆทัศนคติ แต่มันเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สามารถเอาทัศนคติที่ดีหลายๆอย่างมาใช้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันมีต้นแบบที่ทุกคนอยากทำได้และทำตามเพื่อให้เป็นคนที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นคือไอดอลของเค้า... เป๊กผลิตโชค...
แรงบันดาลใจข้อคิคที่ได้จากทวิต PFC ในวันนี้ซึ่งเราเลือกอยากเอามาตั้งกระทู้ในพันทิปในห้องนี้เพราะเราคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์บ้างเพราะที่นี้มันเป็นสังคมที่ใช้ภาษาเขียนเพื่อแชร์ความคิดกันแบบ 100% ข้อคิดนี้มันอาจจะทำให้ลดการเข้าใจผิดของการใช้ภาษาเขียนได้ดี
ข้อคิดนี้คือ เราสามารถชื่นชมคนของเราได้โดยสามารถเลี่ยงการเปรียบเทียบแบบที่เราไม่ได้ตั้งใจได้ เช่น
" ไม่มีศิลปินคนไหนดีเท่านี้แล้ว ".... เราอาจลองใช้ว่า... ศิลปินของเราดีจริงๆ....
" ไม่เคยเห็นใครทำห้างแตกแบบนี้มาก่อนเลย " ...เราลองเปลี่ยนมาเป็น.. ศิลปินของเราทำห้างแตกได้เพราะแฟนคลับมาให้กำลังใจเยอะเนอะ
" คนอื่นยังไม่ฮอตเท่านี้เลย " ....ลองใช้....ศิลปินเราฮอตมากเลย .....
เราสามารถให้กำลังใจและชื่นชมศิลปินของโดยไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นเพราะสิ่งที่เราไม่เคยเห็น ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยเกิดขึ้น
ซึ่งข้อคิดนี้ทั้งหมดเราคิดว่า...เออ.มันก็จริงนะ เพราะบางครั้งเรายอมรับว่าเคยใช้คำพูดแบบนั้นจริงและก็ติดการพูดแบบเปรียบเทียบโดยไม่ได้ตั้งใจหรือคิดอะไรเลย แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันอาจจะไปกระทบใจคนอื่นหรือเปล่า แค่เราสื่อสารออกไปให้ตรงกับใจที่เราคิดแบบที่ไม่ทำร้ายใครมันน่าจะมีความสุขและทำให้เรารู้สึกว่าเราจะเป็นคนที่ดีขึ้นในโลกที่มันไม่ได้เป็นสีชมพู แต่ใจเราเป็นสีชมพูได้ถ้าเราเริ่มต้นทำก่อน.....ใช้ชีวิตคิดบวกแบบผลิตสไตล์....สบายใจจัง
ปล. ถ้าแชร์เรื่องนี้ซ้ำแล้ว ขอโทษด้วยค่ะ เพราะใช้เวลาพิมพ์นานมากเลยยังไม่ได้อัพเดตว่ามีใครแชร์เรื่องดีๆแบบนี้บ้างหรือยัง และขอบคุณเครดิตข้อคิดดีจากสักคนในทวิตเตอร์ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อคิดนี้ ดีดี๊....
แรงบันดาลใจเล็กๆที่อยากเป็นคนที่ดีขึ้นจากสังคมโลกโซเชียลที่เรียกว่า ทาร์ วิท์ เดอร์ ( Twitter ) ของเป๊กผลิตโชค
สังคมโลกโซเชียลของเป๊กผลิตโชค ที่เค้ามักจะโปรโมตให้กับบรรดาแฟนคลับในทุกที่ๆเค้าไป รู้สึกนี้จะเป็นสิ่งเดียวจริงๆที่ผลิตโชค Tie -in กับแฟนคลับของเค้า แต่ก็นั่นแหละมันเป็นสินค้าที่ผลิตโชคไม่ได้เงินสักบาทจากการขาย สิ่งที่เค้าต้องการจากการขายมีเพียงอย่างเดียวเลยคือ อยากได้จำนวนความรักจากแฟนเพลงให้มันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะดุเป็นพ่อค้าที่คิดพิลึกๆสักหน่อย แต่ก็นะเผอิญพ่อค้าคนนี้เค้ามีฐานะดีอยู่แล้ว ( ฮึๆ..ฟังดูน่าหมั่นไส้ไปอี๊ก )
มาต่อกันกับเรื่องสังคมโลกโซเชียลของเป็กผลิตโชค ทุกคนที่ได้ปวารณาเป็น PFC คงทราบดีว่ามีอะไรบ้าง เพราะก็เคยเห็นผ่านตาจากกระทู้ก่อนๆที่ได้ความรู้ทางวิชาการมากจากกระทู้นั้น ( ได้ประโยชน์มากๆสำหรับ PFC ทีม PR )
สังคมโลกโซเชียลของเป๊กผลิตโชค จะแบ่งเป็น 3 ช่องทางหลัก หรือเรียกว่า 3 แอฟ จุดประสงค์หลักๆเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับของเค้าเองโดยผ่านจากตัวเค้าเองแบบ 100 %
1. Facebook ที่นี้ดูเหมือนแหล่งรวมขุมทรัพย์พลังงานลึกลับบางอย่างที่เป็นตัวดูดวิญญานทุกคนจากทุกสารทิศให้เข้ามาวงจรผลิตโชค คือเรียกว่า 99.99 % ของทุกคนที่เข้ามาแล้วทำให้ระบบการกลับไปใช้ชีวิตปกติที่เคยเป็นมาพังพินาศไปในพริบตา ลืมตาตื่นขึ้นทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตไม่ปกติแล้ว 55555.... และมีหลายเคสที่หลงเข้าด้วยเหตุผลต่างๆกันไป ไม่ว่าจะเข้ามาเพราะความสงสัย อยากรู้ พิสูจน์ความจริงบางอย่าง ( หรือเรียกง่ายว่า ..เผือก.. นั่นเอง ) แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆมันก็ได้นำพาพวกเราต้องมาเจอวิบากกรรมอันใหญ่หลวงที่ต้องชดใช้กรรมกันต่อไปเรื่อยๆอย่างมีความสุข
2. Instragram ที่นี้ถือว่าเป็นแหล่งรวมภาพความทรงจำที่ดีและหายากสำหรับคนที่เพิ่งมาติดกับดักของผลิตเลยละ ความทรงจำหลายอย่างที่สื่อถึงความรู้สึกในเวลานั้นๆที่มาในรูปแบบภาพถ่ายของผลิตมักจะอยู่ที่นี้เป็นหลัก เรียกได้ว่า facebook ทำให้รู้จักตัวตน แต่ instragram ทำให้รู้จักความรู้สึกของผลิตโชค
ส่วนล่าสุด 3. Twitter ( ทาร์ วิท์ เด่อร์ ผลิตสไตล์ ) ทุกคนจะพบกับภาษา palitian ได้ที่นี้แบบครบหลักสูตร และดูเหมือนที่นี้จะเป็นแหล่งรวมการแสดงตัวตนในฐานะเมียของผลิตโชคเอาไว้มากที่สุด มันมีความเรียลที่กล้าแสดงจุดยืนและตัวตนในที่นี้ที่เดียวด้วยซ้ำ นั่นเป็นที่มาของ #เป๊กผลิตโชค แบบ 24 ชม.
ที่นี้ดูอาจจะเป็นการสื่อสารที่มีข้อจำกัดหลายอย่างในการเล่น ดูเล่นยาก ตั้งมีสกิลการย่อข้อความที่มีสั้นแต่ต้องได้ใจความ พอพิมพ์ผิดชีวิตก็เปลี่ยนได้ทันที แต่ในข้อจำกัดมันดันทำให้ความอิสระบางอย่างในทวิตที่เราไม่สามารถทำได้ในที่อื่นแต่ทำได้ในทวิต นั่นแหละตัวตนของทุกคนอาจจะบังเกิดจากที่นี้ก็ได้ ส่วนในความยากทั้งหมดในทวิตผลิตโชคเองก็ได้สอนประสบการณ์และบทเรียนฮาๆที่กลุ่มแฟนคลับมือใหม่ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับผลิตไปด้วย ( ถ้าผลิตเล่นได้เราก็น่าจะเล่นได้ ) เพียงแต่ต้องใช้วิจารณาเอาเองว่าควรทำตามหรือไม่ 55555 แต่ทุกอย่างมันดันทำให้มีเสน่ห์มากกว่า 2 แอฟที่กล่าวมา มันมีความสนิทสนมในการสื่อสาร มันมีความเป็นตัวตนที่ลึกซึ้งแบบจับต้องได้ สุดท้ายมันมีความทันสถานการณ์ในการสื่อสารกับศิลปินยิ่งกว่าการใช้วอ.1 เรียก วอ.2 ซะอีก
หลายคนเล่น twitter ครั้งแรกเพราะผลิตโชคซึ่งเราก็คือหนึ่งในนั้น ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตามเทรนด์มาเล่นอะไรแบบนี้จริงๆ เมื่อก่อนคิดมาตลอดว่าเล่นทวิตทำไมในเมื่อมีเฟสบุคแล้วก็น่าจะเพียงพอสำหรับโลกออนไลน์เพื่อจะใช้สื่อสาร หรือถ้าอยากลงภาพสวยๆก็มีอินสตราแกรมเพิ่มนิดหน่อยก็น่าจะแล้ว เล่นทวิตแล้วได้อะไร คิดมาตลอดว่าทวิตมีไว้สำหรับเด็กวัยรุ่นที่ก้าวตามเทรนด์โลกแบบที่เราคงตามไม่ทัน
แต่ที่คิดมาทั้งหมดมันไม่ใช่เลย ทุกสิ่งมันมี 2 ด้านเสมอ ถ้าเราเลือกใช้ให้มันมีคุณค่ากับตัวเราเองมันก็จะสร้างประโยชน์เราไม่มากก็น้อย
สังคมทวิตที่คุณผลิตได้ไปกวาดต้อนมาไว้ในอาณาจักรของตัวเองไว้มันใหญ่มากจริงๆ ภายนอกมันอาจเป็นสังคมแห่งการพร่ำเพรือพรรณาความรักของบรรดาเมียๆของคุณผลิต มีความบอกรักแบบหวานซึ้งกินใจ การจีบศิลปินของเค้าจนถึงความตลกโปกฮาแบบที่ต้องหลุดหัวเราะคนเดียวแบบคนบ้า #เป๊กผลิตโชค ที่เค้าเลื่องลือว่าตื่นตัวตลอดเวลา 24 ชม. มันไม่ได้มาง่ายๆนะคะ ( ถ้าใครเป็นโรคซึมเศร้าแนะนำให้เข้าแท็กนี้มันเยียวยาคุณได้ )
แต่นอกจากจากความตลกสนุกสนานของทวิตPFC ที่พวกเค้ามีนั่นมันได้กลายเป็นคาร์เเรคเตอร์อันโดดเด่นของแอฟนี้ไปแล้ว แต่เค้าไม่ได้สร้างคาแรคเตอร์นี้เพื่อตัวเค้าเอง เค้าแค่อยากพูดและสื่อสารกับศิลปินของเค้าให้มีความสุขและสนุกในทุกนาทีที่พิมพ์ #เป๊กผลิตโชค แค่นั้นเอง เพราะหลายๆครั้งถ้าอะไรที่เกิดดราม่าพวกเค้าจะพยายามสกัดดราม่าเหล่านั้นไม่ให้กระทบศิลปินของพวกเค้า เค้าแคร์และรักศิลปินของเค้ามากกว่าความไม่สบายใจที่จะเกิดกับตัวเพวกเค้าเอง กลุ่มคนเหล่านี้เค้ามาไกลจนเกินกว่าคำว่าแฟนคลับกับศิลปินไปแล้ว
ซึ่งในทุกๆวันจะเห็นการสื่อสารบนทวิต PFC หลายอารมณ์หลากหลายกันไป แต่ในนั้นมันจะการสื่อสารช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นหลัก ไม่ว่าจะช่วยปลอบใจทางจิตใจกันเอง การช่วยเหลือทางด้านพยาบาล การช่วยหาของหาย การช่วยเหลือประสานงานหรือสื่อสารที่จะซัพพอร์ทผลิตตามงานต่างๆ
และทวิตมันช่วยได้ผลอย่างเห็นได้ชัดมากจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นความร่วมมือใน 3 แอฟทั้งหมดอย่างเป็นระบบจริงๆ
แต่วันนี้ที่เราได้รับแรงบันดาลใจจากข้อคิดเตือนใจหลักมาจากทวิตที่เราคิดว่ามันมีประโยชน์จริงๆ กลุ่มคนในทวิต PFC มาจากหลายกลุ่มๆอายุหลายๆอาชีพ หลายๆทัศนคติ แต่มันเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สามารถเอาทัศนคติที่ดีหลายๆอย่างมาใช้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันมีต้นแบบที่ทุกคนอยากทำได้และทำตามเพื่อให้เป็นคนที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นคือไอดอลของเค้า... เป๊กผลิตโชค...
แรงบันดาลใจข้อคิคที่ได้จากทวิต PFC ในวันนี้ซึ่งเราเลือกอยากเอามาตั้งกระทู้ในพันทิปในห้องนี้เพราะเราคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์บ้างเพราะที่นี้มันเป็นสังคมที่ใช้ภาษาเขียนเพื่อแชร์ความคิดกันแบบ 100% ข้อคิดนี้มันอาจจะทำให้ลดการเข้าใจผิดของการใช้ภาษาเขียนได้ดี
ข้อคิดนี้คือ เราสามารถชื่นชมคนของเราได้โดยสามารถเลี่ยงการเปรียบเทียบแบบที่เราไม่ได้ตั้งใจได้ เช่น
" ไม่มีศิลปินคนไหนดีเท่านี้แล้ว ".... เราอาจลองใช้ว่า... ศิลปินของเราดีจริงๆ....
" ไม่เคยเห็นใครทำห้างแตกแบบนี้มาก่อนเลย " ...เราลองเปลี่ยนมาเป็น.. ศิลปินของเราทำห้างแตกได้เพราะแฟนคลับมาให้กำลังใจเยอะเนอะ
" คนอื่นยังไม่ฮอตเท่านี้เลย " ....ลองใช้....ศิลปินเราฮอตมากเลย .....
เราสามารถให้กำลังใจและชื่นชมศิลปินของโดยไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นเพราะสิ่งที่เราไม่เคยเห็น ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยเกิดขึ้น
ซึ่งข้อคิดนี้ทั้งหมดเราคิดว่า...เออ.มันก็จริงนะ เพราะบางครั้งเรายอมรับว่าเคยใช้คำพูดแบบนั้นจริงและก็ติดการพูดแบบเปรียบเทียบโดยไม่ได้ตั้งใจหรือคิดอะไรเลย แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันอาจจะไปกระทบใจคนอื่นหรือเปล่า แค่เราสื่อสารออกไปให้ตรงกับใจที่เราคิดแบบที่ไม่ทำร้ายใครมันน่าจะมีความสุขและทำให้เรารู้สึกว่าเราจะเป็นคนที่ดีขึ้นในโลกที่มันไม่ได้เป็นสีชมพู แต่ใจเราเป็นสีชมพูได้ถ้าเราเริ่มต้นทำก่อน.....ใช้ชีวิตคิดบวกแบบผลิตสไตล์....สบายใจจัง
ปล. ถ้าแชร์เรื่องนี้ซ้ำแล้ว ขอโทษด้วยค่ะ เพราะใช้เวลาพิมพ์นานมากเลยยังไม่ได้อัพเดตว่ามีใครแชร์เรื่องดีๆแบบนี้บ้างหรือยัง และขอบคุณเครดิตข้อคิดดีจากสักคนในทวิตเตอร์ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อคิดนี้ ดีดี๊....