เข้าหน้าฝนแล้ว เลยต้องมาเดินหาครีมบำรุงผิวเสียหน่อย
หลังจากผ่านช่วงหน้าร้อนกันเหงื่อไหลไคลย้อยกันมาหมาดๆ ก็เข้าสู่หน้าฝนแบบเรียกว่าตกทุกวัน เลยต้องครีมบำรุงดีๆ กันเสียหน่อย แน่นอนผมก็มีโอกาสได้ใช้กันมาบ้างแล้วก็ถือโอกาสรีวิวกันเสียหน่อย สำหรับแบรนด์ Dermadict ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ว่าใครก็ซื้อได้
มาดูตัวแรกกัน
Dermadict Natural Moisturizer Complex
บำรุงผิวสวยสุขภาพดีให้มีชีวิตชีวาดูกระจ่างใส แถมหน้าใสด้วยวิตามินบี 3 และแอลกลูต้า
ขนาด 15 กรัม ราคา 149 บาท (120 บาท ในวัตสัน)
วิธีใช้: ลูบไล้ทั่วใบหน้าเป็นประจำ และเกลี่ยครีมบางๆ ทุกเช้าและเย็น
ครีมบำรุงผิวมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็คงต้องพกติดกระเป๋ากันไว้ สำหรับในการดูแลผิว เพื่อความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า กับสรรพคุณข้างกล่องก็มีคุณสมบัติดังนี้
• ช่วยควบคุมความมันที่เกิดจากสิว
• ช่วยบำรุงผิวให้ให้สุขภาพดี สร้างอนุมูลอสิระกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
• ปกป้องความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำ
• เพื่อผิวหน้าดูเนียนใสและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
หลอดขนาดมินิไซส์ แต่ไม่เล็กตามขนาด เนื้อครีมขาวขุ่นจะคล้ายๆ กับเซรั่มเล็กน้อย มีกลิ่นหอมพอชื่นใจ เพราะดูแบรนด์ถ้าจะแอบใส่แอลกอฮอล์มานิดหน่อย พอเริ่มบีบครีมทาไปลง ก็ไม่ได้รู้สึกผิวหน้าที่หนักแต่อย่างใด การซึมซาบช่างรวดเร็วทันใจ อีกทั้งยังเป็นครีมที่จับมัดรวมระหว่าง Anti-Aging และ Whitening ได้อย่างลงตัว ถ้าเป็นคนผิวแห้งน่าประทับใจในครีมบำรุงผิวตัวนี้แน่นอน แต่ถ้าจะลุยแสงแดดตรงๆ ก็ไม่น่าจะเวิร์กเท่าไหร่ คุณควรจะพกพวกครีมกันแดดติดมือมาด้วยดีกว่า ส่วนใครมีรอยสิว รอยดำมานิดๆ หน่อยๆ ครีมตัวนี้ดูถ้าจะช่วยให้มันจางหายไปอย่างไร้ร่องรอย ยิ่งถ้าใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ก็น่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ตัวที่สอง
Dermadict Melasma Whitening Cream
หมดปัญหาฝ้า ผิวหมองคล้ำ ไม่กัดไม่แสบ รอยดำ ฝ้า กระ จงหายไป มีส่วนผสมสำคัญอย่างวิตามินบี 3 และ สารสกัดโคจิก (Kojic) รวมถึง แล็คติก เอซิด (Lactic acid)
ขนาด 50 กรัม ราคาข้างกล่องเขียนว่า 800 บาท ราคาขายเต็ม 530 บาท (390 บาท ในวัตสัน)
วิธีใช้: ลูบไล้ทั่วใบหน้าเป็นประจำ รวมถึงเกลี่ยครีมบางๆ ทั้งเช้าและเย็น
ครีมแก้ฝ้าแดด รอย คล้ำ ที่บรรจุในขนาดไซส์จุใจกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ไปเจอแสงแดดอยู่ประจำ เพราะส่วนผสมอย่างวิตามินบี 3 สามารถสร้างคอลลาเจนให้ผิวคุณเต่งตึง เด้งดึ่ง ราวกับผิวสาวแรกแย้ม รวมถึงการควบคุมความมันส่วนเกิน จะช่วยผิวรอดไปไดในทุกๆ วัน ส่วนตัวช่วยหลักๆ ของครีมบำรุงผิวชนิดนี้ คือ
• ช่วยบำรุงผิวให้ดูมีสุขภาพดีลดการสร้างอนุมุลอิสระกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
• ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ผลิตเซลส์ผิวและความหมองคล้ำเสีย ทั้งช่วยต้านแบคทีเรียได้ดี
ใครที่ชอบเนื้อครีมหนาๆ แต่แบบซึมเร็วคงถูกใจ กระปุกกดง่ายๆ ไม่ต้องกลัวสารปนเปื้อนที่จะเข้ามาในส่วนผสมในกระปุก แค่กดด้านบนตัวกระปุก ครีมก็จะออกมาจากรูตรงกลางง่ายดาย ส่วนเนื้อครีมก็จะมีสีขาวขุ่น พอเกลี่ยๆ ก็รู้สึกว่าซึมซาบได้เร็วไม่ค่อยเหมือนครีมชนิดอื่นๆ ในแบรนด์เดียวกัน ส่วนใครที่ไม่ได้เจอปัญหา ฝ้า กระ มากมายนัก อาจไม่ค่อยรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะคุณก็รู้ว่าแดดในประเทศไทยมันไม่ปราณีใคร
ยังไงในช่วงฤดูฝนก็มาหาครีมบำรุงผิวในราคาไม่โหดร้ายมากเกินไป ซึ่ง Dermadict น่าจะตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร ตามหาซื้อง่ายได้ใน Watson อาจจะได้เจอในราคาที่ถูกกว่านี้ถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่นอย่างเช่นเวลานี้ หรือแม้กระทั่งใน 7-11 ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวในแบบฉบับการใช้เงินให้คุ้มค่า ลองแล้วผมว่าคุณก็น่าจะโอเคกับมันไม่น้อยเลยทีเดียว
[CR] เข้าหน้าฝนแล้ว เลยต้องมาเดินหาครีมบำรุงผิวเสียหน่อย
หลังจากผ่านช่วงหน้าร้อนกันเหงื่อไหลไคลย้อยกันมาหมาดๆ ก็เข้าสู่หน้าฝนแบบเรียกว่าตกทุกวัน เลยต้องครีมบำรุงดีๆ กันเสียหน่อย แน่นอนผมก็มีโอกาสได้ใช้กันมาบ้างแล้วก็ถือโอกาสรีวิวกันเสียหน่อย สำหรับแบรนด์ Dermadict ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ว่าใครก็ซื้อได้
มาดูตัวแรกกัน
Dermadict Natural Moisturizer Complex
บำรุงผิวสวยสุขภาพดีให้มีชีวิตชีวาดูกระจ่างใส แถมหน้าใสด้วยวิตามินบี 3 และแอลกลูต้า
ขนาด 15 กรัม ราคา 149 บาท (120 บาท ในวัตสัน)
วิธีใช้: ลูบไล้ทั่วใบหน้าเป็นประจำ และเกลี่ยครีมบางๆ ทุกเช้าและเย็น
ครีมบำรุงผิวมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็คงต้องพกติดกระเป๋ากันไว้ สำหรับในการดูแลผิว เพื่อความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า กับสรรพคุณข้างกล่องก็มีคุณสมบัติดังนี้
• ช่วยควบคุมความมันที่เกิดจากสิว
• ช่วยบำรุงผิวให้ให้สุขภาพดี สร้างอนุมูลอสิระกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
• ปกป้องความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำ
• เพื่อผิวหน้าดูเนียนใสและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
หลอดขนาดมินิไซส์ แต่ไม่เล็กตามขนาด เนื้อครีมขาวขุ่นจะคล้ายๆ กับเซรั่มเล็กน้อย มีกลิ่นหอมพอชื่นใจ เพราะดูแบรนด์ถ้าจะแอบใส่แอลกอฮอล์มานิดหน่อย พอเริ่มบีบครีมทาไปลง ก็ไม่ได้รู้สึกผิวหน้าที่หนักแต่อย่างใด การซึมซาบช่างรวดเร็วทันใจ อีกทั้งยังเป็นครีมที่จับมัดรวมระหว่าง Anti-Aging และ Whitening ได้อย่างลงตัว ถ้าเป็นคนผิวแห้งน่าประทับใจในครีมบำรุงผิวตัวนี้แน่นอน แต่ถ้าจะลุยแสงแดดตรงๆ ก็ไม่น่าจะเวิร์กเท่าไหร่ คุณควรจะพกพวกครีมกันแดดติดมือมาด้วยดีกว่า ส่วนใครมีรอยสิว รอยดำมานิดๆ หน่อยๆ ครีมตัวนี้ดูถ้าจะช่วยให้มันจางหายไปอย่างไร้ร่องรอย ยิ่งถ้าใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ก็น่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ตัวที่สอง
Dermadict Melasma Whitening Cream
หมดปัญหาฝ้า ผิวหมองคล้ำ ไม่กัดไม่แสบ รอยดำ ฝ้า กระ จงหายไป มีส่วนผสมสำคัญอย่างวิตามินบี 3 และ สารสกัดโคจิก (Kojic) รวมถึง แล็คติก เอซิด (Lactic acid)
ขนาด 50 กรัม ราคาข้างกล่องเขียนว่า 800 บาท ราคาขายเต็ม 530 บาท (390 บาท ในวัตสัน)
วิธีใช้: ลูบไล้ทั่วใบหน้าเป็นประจำ รวมถึงเกลี่ยครีมบางๆ ทั้งเช้าและเย็น
ครีมแก้ฝ้าแดด รอย คล้ำ ที่บรรจุในขนาดไซส์จุใจกว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ไปเจอแสงแดดอยู่ประจำ เพราะส่วนผสมอย่างวิตามินบี 3 สามารถสร้างคอลลาเจนให้ผิวคุณเต่งตึง เด้งดึ่ง ราวกับผิวสาวแรกแย้ม รวมถึงการควบคุมความมันส่วนเกิน จะช่วยผิวรอดไปไดในทุกๆ วัน ส่วนตัวช่วยหลักๆ ของครีมบำรุงผิวชนิดนี้ คือ
• ช่วยบำรุงผิวให้ดูมีสุขภาพดีลดการสร้างอนุมุลอิสระกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
• ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ผลิตเซลส์ผิวและความหมองคล้ำเสีย ทั้งช่วยต้านแบคทีเรียได้ดี
ใครที่ชอบเนื้อครีมหนาๆ แต่แบบซึมเร็วคงถูกใจ กระปุกกดง่ายๆ ไม่ต้องกลัวสารปนเปื้อนที่จะเข้ามาในส่วนผสมในกระปุก แค่กดด้านบนตัวกระปุก ครีมก็จะออกมาจากรูตรงกลางง่ายดาย ส่วนเนื้อครีมก็จะมีสีขาวขุ่น พอเกลี่ยๆ ก็รู้สึกว่าซึมซาบได้เร็วไม่ค่อยเหมือนครีมชนิดอื่นๆ ในแบรนด์เดียวกัน ส่วนใครที่ไม่ได้เจอปัญหา ฝ้า กระ มากมายนัก อาจไม่ค่อยรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะคุณก็รู้ว่าแดดในประเทศไทยมันไม่ปราณีใคร
ยังไงในช่วงฤดูฝนก็มาหาครีมบำรุงผิวในราคาไม่โหดร้ายมากเกินไป ซึ่ง Dermadict น่าจะตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร ตามหาซื้อง่ายได้ใน Watson อาจจะได้เจอในราคาที่ถูกกว่านี้ถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่นอย่างเช่นเวลานี้ หรือแม้กระทั่งใน 7-11 ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวในแบบฉบับการใช้เงินให้คุ้มค่า ลองแล้วผมว่าคุณก็น่าจะโอเคกับมันไม่น้อยเลยทีเดียว