สติปัฎฐาน๔หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก กับ "สติปัฎฐาน๔ ก็คือ มรรค๘"

[เอกายนมรรค ทางปฏิบัติอันเดียว]
›››››สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร

(คัดจากเทปธรรมอบรมจิต ข้อความสมบูรณ์ ดีเยี่ยม
อณิศร โพธิทองคำ บรรณาธิการ)

บัดนี้ จักแสดงธรรมะเป็นเครื่องอบรมในการปฏิบัติอบรมจิต ในเบื้องต้นก็ขอให้ทุกๆท่านตั้งใจนอบน้อมนมัสการ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตั้งใจถึงพระองค์พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ ตั้งใจสำรวมกายวาจาใจให้เป็นศีล ทำสมาธิในการฟัง เพื่อให้ได้ปัญญาในธรรม
จะแสดงสรุปธรรมะที่บรรยายมาโดยลำดับ ตามแนวพระสูตรใหญ่ที่ตรัสแสดงสติปัฏฐาน อันได้ชื่อว่ามหาสติปัฏฐานสูตร อันได้ถือเป็นหลักในการปฏิบัติของผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไป พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงชี้ ทางปฏิบัติอันเดียว อันเรียกโดยชื่อว่า เอกายนมรรค ทางไปอันเดียว คือทางปฏิบัติอันเดียว เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงความโศก ความรัญจวนคร่ำครวญใจทั้งหลาย เพื่อดับทุกข์โทมนัสทั้งหลาย เพื่อบรรลุธรรมะอันถูกชอบที่พึงบรรลุ เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพานคือความดับกิเลสและกองทุกข์ทั้งสิ้น
ทางปฏิบัติอันเดียวนี้ก็คือสติปัฏฐานพิจารณากาย สติปัฏฐานพิจารณาเวทนา สติปัฏฐานพิจารณาจิต สติปัฏฐานพิจารณาธรรมะคือเรื่องในจิต

อุปการปฏิบัติ
และได้ทรงแสดงอุปการะปฏิบัติ คือข้อปฏิบัติที่เป็นอุปการะในการปฏิบัติสติปัฏฐานดังกล่าว คือ
๑ อาตาปี มีความเพียรปฏิบัติ
๒ สัมปชาโน  มีความรู้พร้อม คือมีความรู้ตัวเรียกอีกชื่อหนี่งว่า สัมปชัญญะ ที่แปลว่าความรู้ตัว
๓ สติมา  มีสติคือความระลึกได้ หรือความกำหนดพิจารณา
๔ วินัยโลเก อภิชา โทมนัสสัง  กำจัดความยินดีความยินร้ายในโลกเสีย ดั่งนี้..........................
.......................................................................................................................................
.....ฉะนั้นเมื่อละส่วนที่เศร้าหมอง รับเอาส่วนที่ดี ก็คือสติสมาธิญาณปัญญาเป็นต้นเหล่านี้เข้ามา ก็ทำให้จิตนี้เองผ่องใส ดูดดื่ม อิ่มเอิบ และก็มีความสุขความสงบทั้งทางกายทั้งทางใจ เมื่อเป็นดั่งนี้จิตก็ตั้งมั่นเป็นสมาธิมากขึ้น เป็นความตั้งมั่นสงบอยู่ในภายใน สงบอยู่ด้วยความรู้ เป็นความรู้ที่นิ่งสงบอยู่ในภายใน ไม่ออกไปในภายนอก อารมณ์อะไรผ่านเข้ามาก็ตกอยู่แค่ตา แค่หู แค่จมูก แค่ลิ้น แค่กาย แค่มนะคือใจ ไม่เข้าไปสู่จิต เพราะจิตตั้งสงบรู้อยู่ รู้อยู่ในภายในไม่ออกรับ อาการที่ตั้งสงบอยู่ในภายใน รู้อยู่ไม่ออกรับ ดั่งนี้คืออุเบกขา ก็เป็นโพชฌงค์ขึ้นมาสมบูรณ์

☆มรรค ๘☆
☆☆☆และเมื่อเป็นดั่งนี้ความรู้ที่เป็นสติ ที่เป็นสมาธิ ที่เป็นปัญญา ทุกอย่างก็ประมวลกันเข้าเป็น "มรรคมีองค์ ๘ " นำให้กำหนดรู้ทุกข์ รู้ทุกขสมุทัยเหตุเกิดทุกข์ ทุกขนิโรธความดับทุกข์ รู้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ เป็นญาณความหยั่งรู้ในสัจจะทั้ง ๔ ขึ้นไปโดยลำดับ ดั่งนี้ก็เป็นตั้งสติกำหนดธรรมอันเป็นข้อที่ครบ ๔☆☆☆


เพราะฉะนั้นจึงเป็นทางปฏิบัติอันเดียว พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงเอาไว้ถึงอานิสงส์ผลของผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน ว่าจะได้บรรลุอัญญาคือพระอรหัตผล หรือมิฉะนั้นก็ความเป็นอนาคามี........

    (ขอขอบคุณแหล่งที่มาที่ระบุไว้ข้างบนด้วยครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่