โครงการฝึกงานฝันสลายที่ประเทศญี่ปุ่น!!

ช่วงนี้จขกท. ค่อนข้างที่จะเห็นเพื่อนใน facebook แชร์บทความเกี่ยวกับการฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อยมาก
จนเราก็อดไม่ได้ที่จะคลิ๊กเข้าไปอ่าน รายละเอียดโครงการนี่ถือว่าเป็นโครงการที่ฟังดูดี น่าเชื่อถือ และเรียกได้ว่า
แทบจะมีสวัสดิการครบ เงินดี ดูมีอนาคต แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ...พออ่านๆไปสักพักความทรงจำบางอย่างก็เริ่มปรากฎ

เหมือนกับโครงการนี้มันบังเอิญไปคลับคล้ายคลับคลา กับบทความก่อนหน้าที่เพิ่งจะอ่านไป
และจขกท ขออนุญาติ คัดลอกเนื้อหาบทความบางประการมาแปะไว้เตือนเพื่อนๆหลายๆคนที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่



‘Technical Intern Training Program’ โครงการฝึกงานฝันสลายที่ดำเนินการโดยรัฐบาลญี่ปุ่น

"ด้วยความที่โตมาในภาคอีสานในยุคที่คนไทยออกไปขายแรงงานในต่างแดนมากมาย
ผมก็คุ้นชินกับเรื่องเล่าของแรงงานในประเทศตะวันออกกลางที่โดนหลอกใช้แรงงานผ่านทางสื่อต่างๆ ไม่น้อย
จนเรียกได้ว่าชิน แต่พอได้ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ก็พบว่ามีเรื่องถูกหลอกมาทำงานในญี่ปุ่นไม่น้อยเช่นกัน
ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นชาวไทยหลอกกันเอง (โดยมียากูซ่าอยู่เบื้องหลังอีกที)


แต่ใครจะคิดว่าปัจจุบันแรงงานต่างชาติหลายคนที่หวังมาทำงานตามคำเชื้อเชิญจากรัฐบาลญี่ปุ่น
กลับพบว่าปลายทางไม่ใช่ความฝันที่แสนหวาน แต่กลายเป็นการทำงานหนักแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน
ที่สภาพการทำงานเลวร้ายจนหลายคนประณามว่า “นี่คือการค้ามนุษย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐชัดๆ”


การเชื้อเชิญแรงงานที่ว่า มาในชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘Technical Intern Training Program’
แต่ถ้าแปลจากชื่อญี่ปุ่น 外国人研修制度 ก็จะแปลได้ว่า ‘โครงการฝึกงานชาวต่างชาติ’
ซึ่งฟังดูก็เหมือนจะดีจังเลย โอ๊ย ให้ชาวต่างชาติมาพัฒนาทักษะที่ญี่ปุ่น
สะสมประสบการณ์ แล้วกลับไปพัฒนาประเทศตัวเองต่อ ซึ่งดำเนินงานโดย JITCO
หรือ Japan International Training Cooperation Organization
ซึ่งก็อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงถึง 5 กระทรวงด้วยกัน เรียกได้ว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่แน่นอน


ก่อนอื่น ต้องย้อนไปดูสภาพสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบันซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหา ‘สภาวะสังคมสูงอายุแบบรุนแรง’
และจำนวนประชากรก็เริ่มหดตัวลงแล้วครับ เหตุเพราะ ในขณะที่คนชรามีอายุยืนยาว
แต่กลับมีอัตราการเกิดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน จนกลายเป็นว่า ไม่มีประชากรรุ่นใหม่เพียงพอที่จะเข้ามาเลี้ยงระบบ
ที่เคยรุ่งเรืองในยุคหลังสงครามโลก หลักฐานที่ชัดเจนคือ การปิดตัวของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ
เพราะไม่มีนักเรียนใหม่เข้ามาในระบบนั่นเอง ซึ่งก็ส่งผลให้ระดับการว่างงานของญี่ปุ่นจัดว่าต่ำมากในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว
นั่นคือ แค่ 3.0 ในปี 2016 ซึ่งก็เป็นจุดต่ำสุดในรอบหลายปี หลังจากอัตราการว่างงานลดลงมาเรื่อยๆ
ลองเทียบกับฝรั่งเศสที่อัตราการว่างงานสูงถึง 9.9 หรือ ของอเมริกาและอังกฤษที่ 4.8 สิครับ


ถึงจะมีปริมาณงานที่รอรับคนเข้าไปทำงานมากมาย แต่ชาวญี่ปุ่นก็มักจะหลีกเลี่ยงงานประเภทที่เรียกว่า 3K
หรืองานที่มีสามลักษณะนี้คือ ‘Kitsui ลำบาก’ ‘Kiken อันตราย’ และ ‘Kitanai สกปรก’
แม้งานประเภทนี้จะต้องการคนเข้าไปทำจำนวนมาก แต่ชาวญี่ปุ่นหลายคนก็ยังเลือกที่จะว่างงาน
แล้วหางานใหม่ไปเรื่อยๆ ดีกว่าจะต้องไปทำงาน 3K



แล้วใครจะเข้ามาทำงานตรงนี้ล่ะ?
คำตอบที่ดีที่สุดคือ ‘ชาวต่างชาติ’ นั่นเอง


ดังนั้น โครงการฝึกงานชาวต่างชาติ ที่ชื่อฟังดูแสนดี๊แสนดีนั้น ก็กลายเป็นช่องทางให้หลายต่อหลายองค์กร
ดึงเอาแรงงานต่างชาติไร้ทักษะเข้ามาทำงานตรงนี้ ครบปีก็ส่งกลับประเทศไป หาคนใหม่เข้ามาทำ
แล้วก็ส่งกลับประเทศไป วนเป็นลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เริ่มโครงการนี้มาในปี 1993 นั่นล่ะครับท่านผู้ชม


ที่ต้องอาศัยชื่อโครงการแบบนี้ เพราะหลักๆ แล้ว ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มีระบบการรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ
ไม่ได้มีประเภทวีซ่าเพื่อการนี้ จะเข้ามาทำงานก็ต้องวีซ่าธุรกิจเท่านั้น
แล้วถ้าจะเพิ่มรูปแบบวีซ่าทำงานเพื่อแรงงานไร้ทักษะก็คงจะดูไม่งาม เหมือนปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศ
แย่งงานคนญี่ปุ่น งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน ใช้ระบบฝึกงานให้ชาวต่างชาติ ฟังดูหรูหราดีจริง
แถมไม่ต้องไปแตะระบบเดิมที่มีมาอีก (เหมือนกะว่าถ้าสุดท้ายแล้วมีปัญหามากๆ ก็แค่ยกเลิกโครงการไป)


พอได้ยินคำหวาน ชาวต่างชาติหลายต่อหลายราย
โดยเฉพาะชาวจีน ก็มุ่งมาที่ญี่ปุ่น เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
ได้ทำงานที่ญี่ปุ่น ฝึกทักษะ
เป็นพอร์ตเอาไว้เวลากลับไปทำงานที่ประเทศตัวเองได้


แต่ความเป็นจริงน่ะเหรอครับ แรงงานชาวต่างชาติทั้งหลายต้องมาทำงานที่แทบไม่ต้องการทักษะอะไรเลย
ไม่ว่าจะเป็นงานเกษตรกรรม งานกรรมกรก่อสร้าง งานในโรงงาน บางคนก็ได้แค่แกะหอยนางรมไปวันๆ เท่านั้น แล้ว
นี่มันฝึกงานอะไรล่ะครับ


นอกจากงานที่ไม่ได้เพิ่มทักษะอะไรแล้ว สภาพการทำงานยังเลวร้ายสุดขีด หลายโรงงานจ่ายค่าแรง
ให้พนักงานแค่ชั่วโมงละ 300 เยน ทั้งๆ ที่ค่าแรงขั้นต่ำโดยเฉลี่ยของญี่ปุ่นอยู่ที่ 764 เยนต่อชั่วโมง
ซึ่งก็ยังดีกว่าบางที่ที่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้แรงงานต่างชาติเหล่านี้ด้วยซ้ำ
แค่ให้ที่ซุกหัวนอนและอาหารเท่านั้นเอง หนำซ้ำยังยึดหนังสือเดินทางและสมุดบัญชีไป


ยิ่งถ้าเป็นแรงงานหญิงสถานการณ์ยิ่งเลวร้าย บางคนถูกห้ามไม่ให้พบคนนอกบริษัท
และถูกขู่ส่งกลับประเทศหากเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา บางส่วนก็ต้องเจอกับการล่วงละเมิดทางเพศโดยผู้จ้างโดยไม่มีทางทำอะไรได้


นอกจากสภาพการทำงานที่เลวร้ายแล้ว ระยะเวลาของการทำงานยังจัดได้ว่าเลวร้ายเช่นกัน
แรงงานชาวต่างชาติบางคน ทำงานล่วงเวลารวมในแต่ละเดือนเกิน 100 ชั่วโมง
ทำจนตายเพราะทำงานหนักเกินไป (คะโรชิ) หลายต่อหลายราย
ซึ่งพอระบุสาเหตุการตายว่าเป็นเพราะอาการทางสมองหรือหัวใจ
ก็ทำให้ JITCO ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา อ้างว่าไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าตายเพราะทำงานหนัก"


ต้นฉบับ : https://thematter.co/thinkers/technical-intern-training-program/19908

จริงหรือเท็จยังไงลองพิจารณากันดูนะคะ เพราะถ้าเป็นจริง โครงการนี้ก็ดูท่าทางจะไม่ธรรมดาแล้วล่ะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่