คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องนี้โทษใครไม่ได้เลย นอกจากทั้งสองคนรบรู้กันอยู่แล้วมีลูกติด
เลือดเนื้อเชื่อไขคะ เท่าที่อ่านมา ลูกคุณไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขานี่คะ
ส่วนมาก คนส่วนหญ่เลย ซึ่งสามีคุณก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เลือกที่รัก มักที่ชัง
ต่างคนต่างมีฐิทิคะ ลูกใครใครก็รัก อันนี้เข้าใจคะ แต่ถ้ามีลูกติดมาทั้งคู่
อันนี้ควรจะคุยกันตั้งแต่แรกนะคะ อย่าเลือกปฎิบัติคะ
ถ้าเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน โดยที่รับรู้แล้วว่ามีลูกติดด้วยกันทั้งคู่
ต้องทำใจยอมรับคะ เด็กไม่ผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น
ถ้าไม่ปรับ สุดท้ายแล้วมีปมด้อยทั้ง 2 คนคะ
สงสารเด็ก
ลองหาวันไหนที่อารมณ์ดีทั้งค่ แล้วมานั่งคุยกันเรื่องนีเถอะคะ
เรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อน มีผลกับเด็กในระยะยาว
คุณก็อย่าไปคาดหวังมากคะ เพราะผู้ชายเปลี่ยนไม่ได้
นอกจากเขาจะยอมปรับตัว ถ้าเขารักคุณจริงๆ
ถ้าปรับ หรือแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ไม่ได้ คุณอาจจะต้องเลือกคนที่ยอมรับลูดคุณคะ
ที่สำคัญ ลดฐิทิลงมาอีกหน่อยคะ ทั้งคู่เลย
ส่วนตัว ไม่เคยมีปัญหาตรงนี้ แต่พอมองเห็นว่ามันจะเป็นยังไง
ขอให้ผ่านไปให้ได้นะคะ อยู่ข้างลูก คุยกับลูกบ่อยๆคะ
เลือดเนื้อเชื่อไขคะ เท่าที่อ่านมา ลูกคุณไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขานี่คะ
ส่วนมาก คนส่วนหญ่เลย ซึ่งสามีคุณก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เลือกที่รัก มักที่ชัง
ต่างคนต่างมีฐิทิคะ ลูกใครใครก็รัก อันนี้เข้าใจคะ แต่ถ้ามีลูกติดมาทั้งคู่
อันนี้ควรจะคุยกันตั้งแต่แรกนะคะ อย่าเลือกปฎิบัติคะ
ถ้าเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน โดยที่รับรู้แล้วว่ามีลูกติดด้วยกันทั้งคู่
ต้องทำใจยอมรับคะ เด็กไม่ผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น
ถ้าไม่ปรับ สุดท้ายแล้วมีปมด้อยทั้ง 2 คนคะ
สงสารเด็ก
ลองหาวันไหนที่อารมณ์ดีทั้งค่ แล้วมานั่งคุยกันเรื่องนีเถอะคะ
เรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อน มีผลกับเด็กในระยะยาว
คุณก็อย่าไปคาดหวังมากคะ เพราะผู้ชายเปลี่ยนไม่ได้
นอกจากเขาจะยอมปรับตัว ถ้าเขารักคุณจริงๆ
ถ้าปรับ หรือแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ไม่ได้ คุณอาจจะต้องเลือกคนที่ยอมรับลูดคุณคะ
ที่สำคัญ ลดฐิทิลงมาอีกหน่อยคะ ทั้งคู่เลย
ส่วนตัว ไม่เคยมีปัญหาตรงนี้ แต่พอมองเห็นว่ามันจะเป็นยังไง
ขอให้ผ่านไปให้ได้นะคะ อยู่ข้างลูก คุยกับลูกบ่อยๆคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
สามีดิฉันเค้าก็จะไม่พอใจ แล้วตอบกลับมาว่า"เรื่องแค่นี้เอง พูดไม่ได้เลยรึไง" แล้วก็ไม่ขอ
โทษ โกรธใส่อีกต่างหาก
__________________________________
ผมไม่ได้ยุให้รำตำให้รั่วนะ
ผมมีแม่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อผมแกเป็นคนเจ้าชู้
แต่แม่เลี้ยงคนนี้ เอาผมซึ่งไม่ใช่ลูกแท้ๆอยู่ และพ่อที่เจ้าชู้มากอยุ่อีกเหมือนกัน
คือเราสองคนพ่อลูก กลับทะเลาะกันเองเพราะเราสนิทกันมาก โดยมีแม่เลี้ยงกับน้องซึ่งเป็นลูกพ่อเดียวกันคอยห้าม
ถามว่า ถ้าแม่เลี้ยงผมไม่ใช่คนดี มีทัศนคติที่ดี และเป็นคนที่ผมและพ่อรู้สึกว่าความดีของเค้าเหนือกว่าเราทั้งคู่ เราจะยอมเค้าได้ยังไง
เด็กที่บ้านแตกสาแหรกขาดทุกคนมีปมอยู่ จะแสดงออกมากน้อยอีกเรื่อง การที่คุณรับผู้ชายคนนึงเข้ามาแล้วเอามาเป็นภาระให้จิตใจลูกคุณ
โดยที่ผู้ชายคนนั้นทัศนคติต่างๆแย่ นิสัยส่วนตัวบางอย่างแย่ เช่นชอบถากถาง ยุ่งเรื่องของคนอื่นแบบไม่รู้กาลเทศะ ชอบเสียดสีด้วยอคติแม้แต่กับเด็ก
และจะเป็นไปแบบนี้จนถึงเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เพราะนิสัยแย่แบบนี้ มันคือเรื่องหรือ"สันดาน"ส่วนตัว ขอโทษถ้าต้องพูดตรงๆ และ ตรงนี้มันคือระเบิดเวลา
มันไม่เกี่ยวกับลูกฉันลูกเธอ เพราะถ้าเกี่ยว ทุกครอบครัวแม้แต่ครอบครัวผมก็ต้องเป็นหมดสิ.....มันอยู่ที่ตัวคนนั้นๆ
ลูกคุณจะต้องอยู่บ้านเดียวกับคนๆนี้ ต้องคอยระแวดระวัง หลบหลีกสิ่งที่เค้าจะพูดแบบไม่มีความคิด ทั้งๆที่บ้านนี้คือที่ๆเค้าอยู่
วันนึงที่เค้าโตขึ้น ตัวคุณเองก็จะโดนผลักออกให้ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม เพราะคุณไม่สามารถปกป้องเค้าได้
และสิ่งที่เค้าเคยโดนกระทำหรือมีตัวอย่างแย่ๆ มันก็จะฝังรากลงไปเป็นปมเพิ่มไปอีก
แม่เลี้ยงผมไม่เคยเป็นแบบนี้ อารมณ์นี้ไม่เคยมี ผมรักเค้าแบบแม่แท้ๆเลย ทั้งๆที่แม่ตัวเองจริงๆก็มี
แล้วเพราะอะไรบ้านคุณจึงเป็นแบบนั้น คุณนั่นล่ะรู้ดีที่สุด
โทษ โกรธใส่อีกต่างหาก
__________________________________
ผมไม่ได้ยุให้รำตำให้รั่วนะ
ผมมีแม่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อผมแกเป็นคนเจ้าชู้
แต่แม่เลี้ยงคนนี้ เอาผมซึ่งไม่ใช่ลูกแท้ๆอยู่ และพ่อที่เจ้าชู้มากอยุ่อีกเหมือนกัน
คือเราสองคนพ่อลูก กลับทะเลาะกันเองเพราะเราสนิทกันมาก โดยมีแม่เลี้ยงกับน้องซึ่งเป็นลูกพ่อเดียวกันคอยห้าม
ถามว่า ถ้าแม่เลี้ยงผมไม่ใช่คนดี มีทัศนคติที่ดี และเป็นคนที่ผมและพ่อรู้สึกว่าความดีของเค้าเหนือกว่าเราทั้งคู่ เราจะยอมเค้าได้ยังไง
เด็กที่บ้านแตกสาแหรกขาดทุกคนมีปมอยู่ จะแสดงออกมากน้อยอีกเรื่อง การที่คุณรับผู้ชายคนนึงเข้ามาแล้วเอามาเป็นภาระให้จิตใจลูกคุณ
โดยที่ผู้ชายคนนั้นทัศนคติต่างๆแย่ นิสัยส่วนตัวบางอย่างแย่ เช่นชอบถากถาง ยุ่งเรื่องของคนอื่นแบบไม่รู้กาลเทศะ ชอบเสียดสีด้วยอคติแม้แต่กับเด็ก
และจะเป็นไปแบบนี้จนถึงเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เพราะนิสัยแย่แบบนี้ มันคือเรื่องหรือ"สันดาน"ส่วนตัว ขอโทษถ้าต้องพูดตรงๆ และ ตรงนี้มันคือระเบิดเวลา
มันไม่เกี่ยวกับลูกฉันลูกเธอ เพราะถ้าเกี่ยว ทุกครอบครัวแม้แต่ครอบครัวผมก็ต้องเป็นหมดสิ.....มันอยู่ที่ตัวคนนั้นๆ
ลูกคุณจะต้องอยู่บ้านเดียวกับคนๆนี้ ต้องคอยระแวดระวัง หลบหลีกสิ่งที่เค้าจะพูดแบบไม่มีความคิด ทั้งๆที่บ้านนี้คือที่ๆเค้าอยู่
วันนึงที่เค้าโตขึ้น ตัวคุณเองก็จะโดนผลักออกให้ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม เพราะคุณไม่สามารถปกป้องเค้าได้
และสิ่งที่เค้าเคยโดนกระทำหรือมีตัวอย่างแย่ๆ มันก็จะฝังรากลงไปเป็นปมเพิ่มไปอีก
แม่เลี้ยงผมไม่เคยเป็นแบบนี้ อารมณ์นี้ไม่เคยมี ผมรักเค้าแบบแม่แท้ๆเลย ทั้งๆที่แม่ตัวเองจริงๆก็มี
แล้วเพราะอะไรบ้านคุณจึงเป็นแบบนั้น คุณนั่นล่ะรู้ดีที่สุด
แสดงความคิดเห็น
สามีใหม่กับลูกเราเข้ากันไม่ค่อยได้ แก้ปัญหายังไงดีคะ?
งขั้นจะเลิกกับสามีเพื่อจะได้ไม่มีปัญหากันอีกเลยค่ะ
ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เป็นบ่อยๆนะคะ ลูกสาวดิฉันเป็นเด็กเจ้าเนื้อค่ะ ก็จะมีพุง กินเก่งค่ะ เวลานั่งกินข้าวกัน น้องเค้าก็จะแฮปปี้กับการกิน แต่สามีเราจะชอบปากไว แซวโน่น นี่ นั่น อยู่ตลอด ว่ากินมากอ้วนนะ นี่ก็อ้วนจะแย่อยู่ละ ครั้งเดียวพอว่าค่ะ แต่ก็มักจะมีครั้งสองเสมอ แซวต่ออีก จนน้องเสียเซลฟ์ ไม่กล้ากิน ก้มหน้า ร้องไห้ พอเราโอ๋ลูกเค้าก็ว่าเราตามใจ แต่ด้วยความเป็นแม่ค่ะ ดิฉันแยกแยะได้ค่ะว่าอะไรโอ๋ได้ อะไรไม่ควรโอ๋ อย่างกรณีเนี้ย ลูกดิฉันโดนล้อขณะกำลังกินอยู่ มันเหมือนมีคนมาล้อจี้ปมเค้าอยู่ พูดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เป็นเราก็โกรธค่ะ ดิฉันก็หันไปต่อว่าสามีว่า "พอแล้ว จะพูดทำไม ทำอย่างกับตัวเองไม่อ้วนอย่างนั้นแหละ เลิกล้อ เลิกแซวกันได้แล้ว ขอโทษเค้าเลย" สามีดิฉันเค้าก็จะไม่พอใจ แล้วตอบกลับมาว่า"เรื่องแค่นี้เอง พูดไม่ได้เลยรึไง" แล้วก็ไม่ขอ
โทษ โกรธใส่อีกต่างหาก
อีกกรณีนึงคือ ไปรับลูกสาวดิฉันที่โรงเรียนด้วยกันค่ะ น้องขึ้นรถมา ก็ยังปกติอยู่ กินขนมอยู่ดีๆ พอดีฝนกำลังจะตก มีลมแรงดิฉันเดินขึ้นรถมาก็เลยพูดว่า "ลมแรง พัดกลิ่นยังกับขยะมาน่ะ กลิ่นฟุ้งเลย เหม็นมาก" สามีก็ตอบ "อืม" ขับรถออกมาได้สักพักกลิ่นเริ่มจางจนไม่ได้กลิ่นแล้ว เค้าก็เริ่มทักขึ้นมาว่า "หืม กลิ่นอะไร ได้กลิ่นมะ เหม็นมากจะอ้วกเลยเนี่ย หรือว่าลูกถอดรองเท้าอีกแล้ว " แล้วก็หันไปมองที่น้อง " อื้อหือ ว่าละ " ดิฉันก็หันตามไปแล้วก็บอกว่า" เค้าไม่ได้ถอดรองเท้านี่ แล้วก็ไม่ได้กลิ่นอะไรด้วย" น้องพูดขึ้นมาว่า "หนูไม่ได้ถอดนะ กลิ่นไม่ได้มาจากหนู" เค้าก็สวนขึ้นมาว่า"ถ้าไม่ได้มาจากหนู แล้วมาจากไหนล่ะ เวลาหนูถอดรองเท้า ก็กลิ่นนี้เลย" น้องทำหน้าอึ้งไป แล้วก็ถอยกลับไปนั่งพิงเบาะด้านหลังหันหน้าออกกระจก ดิฉันหันไปดู กำลังร้องไห้ น้ำตาไหล ได้แต่พูดตัดปัญหาไปว่า "ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ลูก ไม่ต้องร้อง" ส่วนสามีดิฉันก็ทำหน้าเฉยๆ ไม่พูดอะไร ขับไปซักพัก เค้าก็พูดว่า "หรือว่าจะเป็นเพราะกลิ่นขยะเมื่อกี้มันเหม็นติดจมูกอยู่เลย ทำให้จะอ้วก" ดิฉันก็เลยบอกว่า "ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเค้า ก็หันไปขอโทษเค้าสิ ที่ว่าเค้าเมื่อกี้" สามีดิฉัน ตอบว่า " แยกแยะหน่อยนะ เรื่องกลิ่นเหม็น กับเรื่องถอดรองเท้า มันคนละเรื่องกัน " สรุปคือ ไม่ขอโทษค่ะ กลับถึงบ้าน ดิฉันขึ้นเลยค่ะ " เข้าบ้านไปเลย ต่างคนต่างอยู่ ห้องใครห้องมัน คนละมุมไปเลย อีกคนก็ขี้น้อยใจอะไรนักหนา อีกคนก็ยอมเด็กไม่ได้เลย " ตามนั้นเลยค่ะ
แต่เวลาสามีดิฉันอยู่กับลูกเค้า แล้วลูกเค้าทำผิด บางครั้งเค้าจะตีลูกเค้า (แต่ตีเพราะโมโหเราที่ว่าลูกเค้านะคะ ) แต่ตีแล้ว ภาพต่อมาที่จะเห็นคือ ลงไปนอนกอดลูกเค้า แล้วพูดกับลูกเค้าว่า "ป๊าขอโทษนะลูก ที่ตีหนู ทีหลังป๊าจะไม่ตีหนูอีกแล้ว" แล้วเด็กจะจำไหมคะ (อันนี้ไม่ได้อคตินะคะ จากความคิดของคนเป็นแม่ค่ะ )เพราะดิฉันเองเวลาทำโทษลูก ก็ไม่เคยมานั่งโอ๋นะคะ ปล่อยให้เค้าสำนึกเอง แล้วสุดท้ายเค้าจะเข้ามาหาเรา และยกมือไหว้ "หนูขอโทษค่ะ แม่ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว" เท่านี้คนเป็นแม่ก็สุขใจแล้วค่ะ ที่ลูกรู้จักอันไหนผิด อันไหนถูก เคยพาน้องไปปรึกษาแม่ชีค่ะ กลัวน้องมีปัญหาเหมือนกัน เค้าร้องไห้ออกมา แล้วบอกว่า "กลัวคุณลุง" แม่ชีท่านก็มาบอกสามีดิฉัน เค้าก็เก็บมาคุยกับดิฉันว่า "เป็นเพราะดิฉันดุลูกมากไป ทำให้ลูกไม่กล้าพูด" กลายเป็นโบ้ยปัญหามาที่ดิฉันอีก
จะแก้ปัญหานี้ยังไงดีคะ คิดไม่ตกค่ะ เกิดปัญหานี้อยู่ตลอดเลย ทำไมเค้ายอมอ่อนให้ลูกเค้า แต่กับลูกเราเค้ายอมให้ไม่ได้เลย ไม่เคยแม้แต่จะขอโทษสักครั้ง เราเป็นแม่บางครั้งพุดไม่ดี ทำไม่ดีกับลูก ยังรู้สึกผิด ต้องขอโทษลูกเลยค่ะ อย่าว่าแต่กับลูกเราเลยค่ะ กับดิฉันนี่ก็ยากมากที่จะได้ยินคำว่า "ขอโทษ" จากปากเค้า ดิฉันเริ่มรู้สึกน้อยใจ จนคิดว่าเค้าคงไม่ได้รักลูกเราด้วยหรือเปล่า สมาชิกท่านไหนมีประสบการณ์แบบนี้หรือคล้ายๆกัน ช่วยแชร์ความคิดเห็นให้หน่อยนะคะ หากมีทางออกได้ดิฉันก็พร้อมจะทำทุกทางค่ะ ขอบคุณค่ะ