-สิงคโปร์ ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวกันเยอะ ไปง่าย ไม่ต้องมีวีซ่า ใครๆก็ไปกัน ใครๆก้อรีวิวกันมากมาย เราเองก็ไปตามที่เขารีวิวกันนี่แหละ แล้วทำไมเราถึงไปล่ะ หลังจากที่เราไปมะละกา-กัวลาลัมเปอร์ เดือน ก.พ.60
https://ppantip.com/topic/36158362 มีน้องที่ทำงานถามว่า “ทริปหน้าพี่ไปไหนอีก” เท่านั้นแหละ ความอยากออกเที่ยวก็มาทันที จะไปเวียดนามก็เอ๊ะ! ปลายปีน่าจะดีกว่า จะไปอินโดก็เอ๊ะ! กลัวเจอฝนหนัก สุดท้ายมาปิ๊ง ที่สิงคโปร์นี่แหละ จริงๆก็อยากจะไปเห็นสิงโตพ่นน้ำตัวเป็นๆด้วยตาตัวเองสักครั้ง
รอบนี้เราคงไม่รีวิววิธีการเดินทางอะไรมากมาย เพราะมีหลายรีวิวทำกันมากมาย คงจะเป็นการเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวแบบคนงบน้อยแล้วกัน
-โฉมหน้าคณะทัวร์ซำเหมาของเรา น้องผู้เป็นจุดกำเนิดการมาสิงคโปร์
-หลังจากน้องตั้งคำถามมาเราก็เริ่มทันที การเดินทาง+ที่พักคราวนี้ เราจองผ่าน Expedia ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับของ air asia + ค่าโรงแรม 3 วัน 2 คืน ในราคา 21360.14 บาทหาร 3 แล้ว 7,120 บาท/คน (อาจไม่ใช่ราคาที่ถูกสักเท่าไหร่เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องของเวลาที่เราเลือกเดินทางด้วย) ส่วนโรงแรมที่เราเลือก คือ Santa grand Hotel Lai Chun Yuen อยู่แถว china town ส่วน pocket money เราไปแลกเงินที่ superrich คนละ 5000 บาท ได้เรท 1 SGD = 24.72 บาท ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเล้ยยยย
9 พ.ค. 60
-ตื่นมา ตี 2 อาบน้ำเตรียมตัวออกเดินทาง ตี 3 ด้วยรถตู้ของที่ทำงานอีกเช่นเคย (ประหยัดอีกแล้ว) ถึงสนามบินดอนเมือง 4.30 น. (ลพบุรี-กทม. แค่ชั่วโมงครึ่ง ความสามารถเฉพาะตัวของคนขับรถที่ทำงานกรุณาอย่าลอกเลียนแบบ
) ถึงสนามบินมีเวลา เหลือเฟือมากมายเพราะไฟล์ทเรา 07.05 น.
-07.05 น. คณะทัวร์ออกบิน วันนี้ท้องฟ้าเมืองไทยโปร่งมากแต่ สักพักเมฆมาตรึม
ขาวไปหมด
-ระหว่างทางเห็นรายการอาหารน่ากิน เลยสั่ง(Mango sticky rice crepe ) เครปข้าวเหนียวมะม่วงมากิน 65 บาท อร่อยดีนะให้ 7/10 เลย
-ระหว่างนั่งเครื่องคุณแอร์(น่ารัก)จะแจกใบ ตม. ก็กรอกใบ immigration ไปล่วงหน้า
-เข้าเขตสิงคโปร์แล้วนาจา ตื่นเต้นๆๆๆ
-10.30 น.ตามเวลาสิงคโปร์ ที่เร็วกว่าไทย 1 ช.ม. 2 ช.ม.บนเครื่องผ่านไปไวเหมือนโกหก (หลับตลอดเวลา) กัปตันก็ได้นำเรามาถึง Changi Singapore airport อย่างปลอดภัย
สิ่งที่ต้องเผชิญต่อก็ ต.ม. ที่เขาร่ำลือกันว่า ถามเยอะแยะนี่แหละ เรา 3 คน เลือกยืนเข้าแถวคนละช่อง น้องที่ไปด้วยกันมีความโชคดีมาก ไม่ถามซ้ากกกกกคำ ส่วนคณะที่เหลืออีก 2 หวั่นใจ เพราะเห็นอาม่าข้างหน้าที่มากะทัวร์ฟัง ตม.ไม่รู้เรื่องเลยโดนแยกตัวไปตามระเบียบ (โถ! อาม่าก็ไม่เว้น) และแล้วคณะทัวร์ก็ผ่านตม.ออกมาได้ โดนไปคนละ 3-4 คำถาม ด้วย skill การตอบคำถามภาษาอังกฤษระดับเทพต่อคำ (คือเอาภาษาอังกฤษมาต่อกัน
) งานนี้ verb ไม่ต้อง tense ไม่มี ก็เดินผ่านมาได้แบบ(เกือบ)สวยๆ
-ออกจากตม. เราแวะซื้อ Sim ที่เคาน์เตอร์ UOB เป็น tourist sim 15 SGD Net 4 GB ใช้ได้ 5 วันไป 3 คนหารแล้วคนละ 5 SGD แล้ว share hotspot เอา มันก็จะค่อนข้างคุ้ม
เสร็จแล้วเราเดินไปขึ้น sky train ไป terminal 2 เพื่อไปซื้อ Ez link (ขอบคุณข้อมูลจากรีวิวพันทิป) แล้วก็เดินตามป้ายไปเล้ยยยยยยยย
ถึง terminal 2 เดินตามป้าย MRT จะเจอ office MRT อยู่ข้างบันไดเลื่อน ขณะยืนต่อแถวคณะทัวร์เราก็มัวแต่คุยกัน อยู่ๆก็มีแรงลมอะไรซักอย่าง ผ่านด้านข้างไปอย่างรวดเร็ว หันมองตามไป อ้าว เฮ้ย!! แขก 2 คนแซงคิวไปหน้าตาเฉย อะไรแว๊
-ได้บัตรมาแล้ว ตรงตามข้อมูลที่หามา ด้วยค่าบัตร 12SGD แบ่งเป็นค่าบัตร 5 SGD เป็นค่าโดยสาร MRT 7 SGD และตามข้อมูลที่หามาได้อีกเช่นเคย Ez link สามารถใช้โดยสาร MRT รถบัส และซื้อของใน 7-11 ได้ เติมเงินขั้นต่ำ 10 SGD
-ได้เวลาออกจากสนามบินกันซักที ตามรีวิวเป๊ะ เราพักที่ Santa grand Hotel แถว china town นั่ง MRT มาลง Tanah Merah เปลี่ยนขบวนนั่งต่อ (ไม่ซิ ยืนตลอดสายต่างหากไม่มีที่นั่ง) ไปลงสถานี Outram Park เปลี่ยนเป็นสาย North East line (สายสีม่วง) ลงสถานี china town (ป.ล. ตอนนี้ เส้น Downtown line สีน้ำเงินเค้าสร้างเสร็จแล้ว ใครสะดวกลง Bugis แล้วเปลี่ยนมานั่ง Downtown line ลงสถานี china town ได้คือกันเด้อ)
-ถึง Chinatown ออกเดินทางออก A (มาสิงคโปร์บอกเลยเลือกทางเข้าออกผิด ลงบันไดผิด ชีวิตเปลี่ยน 5555 มันค่อนข้างมีความซับซ้อนของช่องทาง) เราก็โผล่มาเจอ ย่านของกิน ของฝากเต็มไปหมด รู้สึกดีใจเหมือนจะเราใกล้ถึงเส้นชัยล่ะ
ไปถึง 12.30 น. โรงแรมใจดีให้ check in ได้เลย น่าร้ากกกกก ที่สุด โรงแรมนี้ก็มีคนไทยมาพักเยอะอยู่ ตอนเดินเข้ามาอารมณ์เหมือนอยู่ในหอโคมแดง เดินเข้าเดินออกนี่นึกว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยายจีนความรักในหอแดงเลย ที่นี่มีน้ำร้อน ชา กาแฟ บริการฟรี๊ 24 ชั่วโมง
-พักผ่อนล้างหน้า ออกเดินกันหล่ะทีนี้ กองทัพเดินด้วยท้อง ตั้งใจจะไปกินข้าวมันไก่ในตำนาน ร้าน Tian Tian ที่ Maxwell (ก็บอกแล้วว่ามาตามรีวิว) ก่อนมา load app Map.Me มาเพราะเค้าว่าสามารถใช้ได้แม้ขณะ ออฟไลน์ เปิดเล้ยยยย ปรากฏว่า ซึ้งเลย Map.Me เนี่ย มันจะพาเราอ้อมไปสามโลก ทั้งๆที่ จุดหมายมันใกล้นิดเดียว เดินตาม Map.Me ไปโผล่นี่เลยจ้าตึก People’s Park center ขำแรง จะเดินย้อนกลับก็ไม่ไหวล่ะ เลยตัดสินใจหาอะไรกินที่ food cort ที่นี่เลยละกัน ยังไงก็จะมาซื้อบัตร USS ที่นี่อยู่แล้ว
-ไปกินข้าวมันไก่ที่ Maxwell ไม่ได้ก็ลองกินที่นี่ดู และนี่คือ Soy sauce chicken rice ราคา 3 SGD เยอะมว้ากกกก มีน้ำจิ้มหลายสไตล์ให้เลือก กินข้าวไปก็สังเกตเห็นว่าคนที่นี่เค้ากินข้าวกันจริงๆนะไม่เห็นมีใครซื้อน้ำ (ไม่ติดคอกันบ้างเหรอ) มีบ้างที่กินเป็นกาแฟร้อน เป็นบ้านเราสั่งข้าวแล้วต้องสั่งน้ำมากินด้วยเนอะ ส่วนคณะทัวร์เราก็ไม่สั่งเพราะหยิบมาจากโรงแรมคนละขวด
-กินอิ่มก็ขึ้นไปชั้น 3 ตามรีวิว ร้าน Sea Wheel เพื่อมาซื้อบัตรเข้า USS กับบัตรขึ้น OCBC sky walk เอาแค่ 2 อย่างนี่แหละที่เหลือไม่ว่าจะเป็น Flower Dome,cloud Forest, Singapore flyer, Sea Aquarium ก็มองๆเอาแต่ข้างนอกแล้วกัน เรามันทัวร์ชั้นประหยัด
-เสร็จจากซื้อบัตร ก็เริ่มท่องเที่ยว ทัวร์ที่ดีต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยมุ่งตรงไปวัดพระเขี้ยวแก้ว รอบนี้ app Map.me ปิดทิ้งเลยค่า เปิดแผนที่ที่หยิบมาจากโรงแรมเอา ปรากฏว่าเดินสบาย แป๊บเดียวถึง แล้วก็ซึ้งว่า Maxwell มันอยู่เลยที่พักเรานิ๊ดดดเดียวเอง 555 ถึงวัดไหว้พระชั้นล่างแล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 เดินขึ้นบันไดต่อไปชั้น 4บนสุด ไปหมุนวงล้อขอโชคลาภ ขอพร
-หมุนวงล้อเสร็จ เดินลงมาไหว้พระเขี้ยวแก้ว เป็นสิริมงคล (ตรงนี้เค้าห้ามถ่ายรูป)
-ออกจากวัดเดินข้ามถนน เดินเลาะบริเวณก่อสร้างไปมุ่งตรงไป Singapore city gallery มาเที่ยวบ้านเค้าก็มารู้จักบ้านเค้าสักหน่อยเนอะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าฟรี มีแอร์เย็นฉ่ำ
- Singapore city gallery เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวความเป็นมาของสิงคโปร์ การพัฒนาเมืองในอนาคต แอร์เย็นสบายจนนั่งหลับได้เลย
-16.30 น. ออกจาก Singapore city gallery ตั้งใจจะมุ่งตรงไป Suntec city ไปแตะน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง จากตรงนี้เดินไปขึ้น MRT ที่ Chinatown ขึ้นสายสีม่วงไปลงสถานี Dhoby ghaut แล้วเปลี่ยนเป็นสายสีส้ม (circle line) ลงสถานี Promenade ออกทางออก C โผล่มาจะเจอเลย
-ดูใน guide book เค้าบอกว่าเปิดให้ลงไปสัมผัสน้ำพุ ช่วง14.00-18.00 น. ปรากฏว่าพอไปถึงเค้าให้เข้าสัมผัสน้ำพุได้ 13.00-14.00 น. อีกที 18.00-19.50 น. เราไปถึงกัน 17.00 น. นั่งรอดูไปซิจ๊ะ อีก 1 ชั่วโมง มองหาร้านน้ำราคาถูกที่สุด อยู่ติดลานน้ำพุชื่อร้าน Tuk Tuk cha (ร้านคนไทยแน่นอน) นั่งพักรอเวลากันไป
-18.00 น.ได้เวลาไปแตะน้ำพุแล้ว
-ออกจากน้ำพุ ขึ้น MRT คราวนี้นั่งสายสีน้ำเงิน (downtown line) จาก Promenade ลง Bugis เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว (East west line) มาลง Raffles Place ออกทางออก H เดินเลาะริมน้ำ ผ่านโรงแรม Fullerton
แล้วเราก็มาถึง Merlion Park ในช่วงเวลาเกือบ 1 ทุ่ม ซึ่งมหาชนฝรั่งไทยจีนแขกมากมาย แวะถ่ายรูปกันแป๊บเดียว (เด๋วค่อยมาเก็บตกวันสุดท้ายอีกที) แป๊บเดียวเวลา ผ่านไปไวเหมือนโกหก 19.30น. เราตั้งใจจะไปดู การแสดง Light & Water ตรงลาน Promenade หน้า Marina Bay Sand ตอน 20.00 น. เดินข้ามฝั่งกันไปอย่างด่วนกลัวจะไม่ทัน
-ขนาด เวลาน้อยก็ขอแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
-ถึงลาน Promenade 19.55 น. เริ่มมีคนมานั่งรอดูกันเกือบเต็มลาน เค้าเริ่มเปิดเพลงแล้ว รีบๆหาที่นั่งเลยจ้า
จับจองที่นั่งเสร็จ นั่งรอ เริ่มรู่สึกเหนื่อยและเพลียมาก เวลาผ่านไป 20.15 น. การแสดงยังไม่เริ่ม คนเริ่มหันซ้ายหันขวา ซุบซิบกันเกิดไรหวา ไมไม่แสดงซักที และแล้วเราก็ได้เห็นภาพนี้
- No Light& Water show until June 2
555 รีบเดินมาเพื่อสิ่งนี้นี่เอ้งงงง ทำไมต้องเครื่องพังเอาวันที่ช้านนนนนมา
-หลังจากอกหักจากการแสดง คิดว่าจะเดินไปถ่ายรูปเล่นที่ Helix Bridge ดีไหม แต่กำลังขาเราเริ่มไม่ไหวกันแล้ว แล้วเราก็เพลียมาก เลยตัดสินใจกลับที่พักกันก่อนดีกว่า ท้องก็ร้องหิวมากแล้ว พี่จ๋านู๋หิวววว
เราขึ้น MRT สายสีน้ำเงิน จาก Bay Front นั่งรวดเดียวโผล่ Chinatown มื้อเย็นวันนี้ตัดสินใจฝากท้องไว้กับ 7-11
7-11 ที่นี่ เราต้องเวฟอาหารเองนาจา เวฟเสร็จถือกลับไปกินที่โรงแรม
อิ่มท้อง อาบน้ำ อัพ FB IG นอนเอาแรง
จบไป1วันอันแสนยาวนาน Good night Day 1
[CR] The journey of Tualek & Makham EP.2 เที่ยวสิงคโปร์ เดินเที่ยว กินประหยัด เรื่องเล่ากึ่งบันทึกการเดินทางวิถีทัวร์ซำเหมา
รอบนี้เราคงไม่รีวิววิธีการเดินทางอะไรมากมาย เพราะมีหลายรีวิวทำกันมากมาย คงจะเป็นการเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวแบบคนงบน้อยแล้วกัน
-โฉมหน้าคณะทัวร์ซำเหมาของเรา น้องผู้เป็นจุดกำเนิดการมาสิงคโปร์
-หลังจากน้องตั้งคำถามมาเราก็เริ่มทันที การเดินทาง+ที่พักคราวนี้ เราจองผ่าน Expedia ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับของ air asia + ค่าโรงแรม 3 วัน 2 คืน ในราคา 21360.14 บาทหาร 3 แล้ว 7,120 บาท/คน (อาจไม่ใช่ราคาที่ถูกสักเท่าไหร่เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องของเวลาที่เราเลือกเดินทางด้วย) ส่วนโรงแรมที่เราเลือก คือ Santa grand Hotel Lai Chun Yuen อยู่แถว china town ส่วน pocket money เราไปแลกเงินที่ superrich คนละ 5000 บาท ได้เรท 1 SGD = 24.72 บาท ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเล้ยยยย
9 พ.ค. 60
-ตื่นมา ตี 2 อาบน้ำเตรียมตัวออกเดินทาง ตี 3 ด้วยรถตู้ของที่ทำงานอีกเช่นเคย (ประหยัดอีกแล้ว) ถึงสนามบินดอนเมือง 4.30 น. (ลพบุรี-กทม. แค่ชั่วโมงครึ่ง ความสามารถเฉพาะตัวของคนขับรถที่ทำงานกรุณาอย่าลอกเลียนแบบ ) ถึงสนามบินมีเวลา เหลือเฟือมากมายเพราะไฟล์ทเรา 07.05 น.
-07.05 น. คณะทัวร์ออกบิน วันนี้ท้องฟ้าเมืองไทยโปร่งมากแต่ สักพักเมฆมาตรึม ขาวไปหมด
-ระหว่างทางเห็นรายการอาหารน่ากิน เลยสั่ง(Mango sticky rice crepe ) เครปข้าวเหนียวมะม่วงมากิน 65 บาท อร่อยดีนะให้ 7/10 เลย
-ระหว่างนั่งเครื่องคุณแอร์(น่ารัก)จะแจกใบ ตม. ก็กรอกใบ immigration ไปล่วงหน้า
-เข้าเขตสิงคโปร์แล้วนาจา ตื่นเต้นๆๆๆ
-10.30 น.ตามเวลาสิงคโปร์ ที่เร็วกว่าไทย 1 ช.ม. 2 ช.ม.บนเครื่องผ่านไปไวเหมือนโกหก (หลับตลอดเวลา) กัปตันก็ได้นำเรามาถึง Changi Singapore airport อย่างปลอดภัย
สิ่งที่ต้องเผชิญต่อก็ ต.ม. ที่เขาร่ำลือกันว่า ถามเยอะแยะนี่แหละ เรา 3 คน เลือกยืนเข้าแถวคนละช่อง น้องที่ไปด้วยกันมีความโชคดีมาก ไม่ถามซ้ากกกกกคำ ส่วนคณะที่เหลืออีก 2 หวั่นใจ เพราะเห็นอาม่าข้างหน้าที่มากะทัวร์ฟัง ตม.ไม่รู้เรื่องเลยโดนแยกตัวไปตามระเบียบ (โถ! อาม่าก็ไม่เว้น) และแล้วคณะทัวร์ก็ผ่านตม.ออกมาได้ โดนไปคนละ 3-4 คำถาม ด้วย skill การตอบคำถามภาษาอังกฤษระดับเทพต่อคำ (คือเอาภาษาอังกฤษมาต่อกัน ) งานนี้ verb ไม่ต้อง tense ไม่มี ก็เดินผ่านมาได้แบบ(เกือบ)สวยๆ
-ออกจากตม. เราแวะซื้อ Sim ที่เคาน์เตอร์ UOB เป็น tourist sim 15 SGD Net 4 GB ใช้ได้ 5 วันไป 3 คนหารแล้วคนละ 5 SGD แล้ว share hotspot เอา มันก็จะค่อนข้างคุ้ม
เสร็จแล้วเราเดินไปขึ้น sky train ไป terminal 2 เพื่อไปซื้อ Ez link (ขอบคุณข้อมูลจากรีวิวพันทิป) แล้วก็เดินตามป้ายไปเล้ยยยยยยยย
ถึง terminal 2 เดินตามป้าย MRT จะเจอ office MRT อยู่ข้างบันไดเลื่อน ขณะยืนต่อแถวคณะทัวร์เราก็มัวแต่คุยกัน อยู่ๆก็มีแรงลมอะไรซักอย่าง ผ่านด้านข้างไปอย่างรวดเร็ว หันมองตามไป อ้าว เฮ้ย!! แขก 2 คนแซงคิวไปหน้าตาเฉย อะไรแว๊
-ได้บัตรมาแล้ว ตรงตามข้อมูลที่หามา ด้วยค่าบัตร 12SGD แบ่งเป็นค่าบัตร 5 SGD เป็นค่าโดยสาร MRT 7 SGD และตามข้อมูลที่หามาได้อีกเช่นเคย Ez link สามารถใช้โดยสาร MRT รถบัส และซื้อของใน 7-11 ได้ เติมเงินขั้นต่ำ 10 SGD
-ได้เวลาออกจากสนามบินกันซักที ตามรีวิวเป๊ะ เราพักที่ Santa grand Hotel แถว china town นั่ง MRT มาลง Tanah Merah เปลี่ยนขบวนนั่งต่อ (ไม่ซิ ยืนตลอดสายต่างหากไม่มีที่นั่ง) ไปลงสถานี Outram Park เปลี่ยนเป็นสาย North East line (สายสีม่วง) ลงสถานี china town (ป.ล. ตอนนี้ เส้น Downtown line สีน้ำเงินเค้าสร้างเสร็จแล้ว ใครสะดวกลง Bugis แล้วเปลี่ยนมานั่ง Downtown line ลงสถานี china town ได้คือกันเด้อ)
-ถึง Chinatown ออกเดินทางออก A (มาสิงคโปร์บอกเลยเลือกทางเข้าออกผิด ลงบันไดผิด ชีวิตเปลี่ยน 5555 มันค่อนข้างมีความซับซ้อนของช่องทาง) เราก็โผล่มาเจอ ย่านของกิน ของฝากเต็มไปหมด รู้สึกดีใจเหมือนจะเราใกล้ถึงเส้นชัยล่ะ
ไปถึง 12.30 น. โรงแรมใจดีให้ check in ได้เลย น่าร้ากกกกก ที่สุด โรงแรมนี้ก็มีคนไทยมาพักเยอะอยู่ ตอนเดินเข้ามาอารมณ์เหมือนอยู่ในหอโคมแดง เดินเข้าเดินออกนี่นึกว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยายจีนความรักในหอแดงเลย ที่นี่มีน้ำร้อน ชา กาแฟ บริการฟรี๊ 24 ชั่วโมง
-พักผ่อนล้างหน้า ออกเดินกันหล่ะทีนี้ กองทัพเดินด้วยท้อง ตั้งใจจะไปกินข้าวมันไก่ในตำนาน ร้าน Tian Tian ที่ Maxwell (ก็บอกแล้วว่ามาตามรีวิว) ก่อนมา load app Map.Me มาเพราะเค้าว่าสามารถใช้ได้แม้ขณะ ออฟไลน์ เปิดเล้ยยยย ปรากฏว่า ซึ้งเลย Map.Me เนี่ย มันจะพาเราอ้อมไปสามโลก ทั้งๆที่ จุดหมายมันใกล้นิดเดียว เดินตาม Map.Me ไปโผล่นี่เลยจ้าตึก People’s Park center ขำแรง จะเดินย้อนกลับก็ไม่ไหวล่ะ เลยตัดสินใจหาอะไรกินที่ food cort ที่นี่เลยละกัน ยังไงก็จะมาซื้อบัตร USS ที่นี่อยู่แล้ว
-ไปกินข้าวมันไก่ที่ Maxwell ไม่ได้ก็ลองกินที่นี่ดู และนี่คือ Soy sauce chicken rice ราคา 3 SGD เยอะมว้ากกกก มีน้ำจิ้มหลายสไตล์ให้เลือก กินข้าวไปก็สังเกตเห็นว่าคนที่นี่เค้ากินข้าวกันจริงๆนะไม่เห็นมีใครซื้อน้ำ (ไม่ติดคอกันบ้างเหรอ) มีบ้างที่กินเป็นกาแฟร้อน เป็นบ้านเราสั่งข้าวแล้วต้องสั่งน้ำมากินด้วยเนอะ ส่วนคณะทัวร์เราก็ไม่สั่งเพราะหยิบมาจากโรงแรมคนละขวด
-กินอิ่มก็ขึ้นไปชั้น 3 ตามรีวิว ร้าน Sea Wheel เพื่อมาซื้อบัตรเข้า USS กับบัตรขึ้น OCBC sky walk เอาแค่ 2 อย่างนี่แหละที่เหลือไม่ว่าจะเป็น Flower Dome,cloud Forest, Singapore flyer, Sea Aquarium ก็มองๆเอาแต่ข้างนอกแล้วกัน เรามันทัวร์ชั้นประหยัด
-เสร็จจากซื้อบัตร ก็เริ่มท่องเที่ยว ทัวร์ที่ดีต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยมุ่งตรงไปวัดพระเขี้ยวแก้ว รอบนี้ app Map.me ปิดทิ้งเลยค่า เปิดแผนที่ที่หยิบมาจากโรงแรมเอา ปรากฏว่าเดินสบาย แป๊บเดียวถึง แล้วก็ซึ้งว่า Maxwell มันอยู่เลยที่พักเรานิ๊ดดดเดียวเอง 555 ถึงวัดไหว้พระชั้นล่างแล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 เดินขึ้นบันไดต่อไปชั้น 4บนสุด ไปหมุนวงล้อขอโชคลาภ ขอพร
-หมุนวงล้อเสร็จ เดินลงมาไหว้พระเขี้ยวแก้ว เป็นสิริมงคล (ตรงนี้เค้าห้ามถ่ายรูป)
-ออกจากวัดเดินข้ามถนน เดินเลาะบริเวณก่อสร้างไปมุ่งตรงไป Singapore city gallery มาเที่ยวบ้านเค้าก็มารู้จักบ้านเค้าสักหน่อยเนอะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าฟรี มีแอร์เย็นฉ่ำ
- Singapore city gallery เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวความเป็นมาของสิงคโปร์ การพัฒนาเมืองในอนาคต แอร์เย็นสบายจนนั่งหลับได้เลย
-16.30 น. ออกจาก Singapore city gallery ตั้งใจจะมุ่งตรงไป Suntec city ไปแตะน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง จากตรงนี้เดินไปขึ้น MRT ที่ Chinatown ขึ้นสายสีม่วงไปลงสถานี Dhoby ghaut แล้วเปลี่ยนเป็นสายสีส้ม (circle line) ลงสถานี Promenade ออกทางออก C โผล่มาจะเจอเลย
-ดูใน guide book เค้าบอกว่าเปิดให้ลงไปสัมผัสน้ำพุ ช่วง14.00-18.00 น. ปรากฏว่าพอไปถึงเค้าให้เข้าสัมผัสน้ำพุได้ 13.00-14.00 น. อีกที 18.00-19.50 น. เราไปถึงกัน 17.00 น. นั่งรอดูไปซิจ๊ะ อีก 1 ชั่วโมง มองหาร้านน้ำราคาถูกที่สุด อยู่ติดลานน้ำพุชื่อร้าน Tuk Tuk cha (ร้านคนไทยแน่นอน) นั่งพักรอเวลากันไป
-18.00 น.ได้เวลาไปแตะน้ำพุแล้ว
-ออกจากน้ำพุ ขึ้น MRT คราวนี้นั่งสายสีน้ำเงิน (downtown line) จาก Promenade ลง Bugis เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว (East west line) มาลง Raffles Place ออกทางออก H เดินเลาะริมน้ำ ผ่านโรงแรม Fullerton
แล้วเราก็มาถึง Merlion Park ในช่วงเวลาเกือบ 1 ทุ่ม ซึ่งมหาชนฝรั่งไทยจีนแขกมากมาย แวะถ่ายรูปกันแป๊บเดียว (เด๋วค่อยมาเก็บตกวันสุดท้ายอีกที) แป๊บเดียวเวลา ผ่านไปไวเหมือนโกหก 19.30น. เราตั้งใจจะไปดู การแสดง Light & Water ตรงลาน Promenade หน้า Marina Bay Sand ตอน 20.00 น. เดินข้ามฝั่งกันไปอย่างด่วนกลัวจะไม่ทัน
-ขนาด เวลาน้อยก็ขอแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
-ถึงลาน Promenade 19.55 น. เริ่มมีคนมานั่งรอดูกันเกือบเต็มลาน เค้าเริ่มเปิดเพลงแล้ว รีบๆหาที่นั่งเลยจ้า
จับจองที่นั่งเสร็จ นั่งรอ เริ่มรู่สึกเหนื่อยและเพลียมาก เวลาผ่านไป 20.15 น. การแสดงยังไม่เริ่ม คนเริ่มหันซ้ายหันขวา ซุบซิบกันเกิดไรหวา ไมไม่แสดงซักที และแล้วเราก็ได้เห็นภาพนี้
- No Light& Water show until June 2
555 รีบเดินมาเพื่อสิ่งนี้นี่เอ้งงงง ทำไมต้องเครื่องพังเอาวันที่ช้านนนนนมา
-หลังจากอกหักจากการแสดง คิดว่าจะเดินไปถ่ายรูปเล่นที่ Helix Bridge ดีไหม แต่กำลังขาเราเริ่มไม่ไหวกันแล้ว แล้วเราก็เพลียมาก เลยตัดสินใจกลับที่พักกันก่อนดีกว่า ท้องก็ร้องหิวมากแล้ว พี่จ๋านู๋หิวววว
เราขึ้น MRT สายสีน้ำเงิน จาก Bay Front นั่งรวดเดียวโผล่ Chinatown มื้อเย็นวันนี้ตัดสินใจฝากท้องไว้กับ 7-11
7-11 ที่นี่ เราต้องเวฟอาหารเองนาจา เวฟเสร็จถือกลับไปกินที่โรงแรม
อิ่มท้อง อาบน้ำ อัพ FB IG นอนเอาแรง
จบไป1วันอันแสนยาวนาน Good night Day 1