เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้จองตั๋วเครื่องบินของ ไชน่าอีสเทรินไป Sapporo ค่ะ
แล้วกฏของ ตม.ที่จีนก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนอยู่บ่อยๆจนเราไม่มั่นใจว่า แค่ไปทรานสิทต้องทำวีซ่าไหม
เราเลยหาข้อมูล ทั้งโทรถามสายการบิน สถานที่ทำวีซ่า และสอบถามจากคนที่เคยไปทรานสิทมาแล้ว
ได้ความว่า
1. ถ้าอยากสบายใจก็ทำไป
2. ไปทำทุกสิ่งที่ทรานสิทแอเรียเลย
คือถ้าเราต้องทำวีซ่าเพื่อทรานสิทจะต้องเสียทั้งขาไปและขากลับ ราคาประมาณ 2000-2500 บาท ราวๆนั้นจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ และต้องเสียเวลาลางานไปทำและไปรับด้วย เพราะทางนั้นไม่ส่งวีซ่ากลับมาให้เราทาง ปณ.
สรุปทุกคนตัดสินใจไปวัดดวงเอาที่ ตม. เซี่ยงไฮ้ค่ะ (สอบถามจากทางสนามบินที่ไทยแล้วเค้าบอกว่าไม่ได้ห้ามเราออกนอกประเทศถ้าไม่มีวีซ๋า แต่จะให้เซ็นต์เอกสารบางอย่างก่อนออกไป น่าจะเกี่ยวกับการไม่รับผิดชอบในกรณีโดนกักตัวหรือส่งตัวกลับ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ไม่ได้ถามอย่างละเอียด )
วันบินคือ 5 พค. ออกจากไทย 1 ทุ่ม 10 นาทีไปถึงเซี่ยงไฮ้ เที่ยงคืน 40 นาที
***** กรณีนี้ทางตม.จะนับว่าเราเดินทางข้ามคืนค่ะ จึงเป็นเหตุที่ต้องมีวีซ่า เพราะเราแวะทรานสิทประมาณ 7 ชม.กว่าๆ และกระเป๋าไม่ได้เช็คทรูค่ะ ต้องไปรับแล้วเช็คอินใหม่ ตรงนี้เราไม่จำเป็นต้องออกไปรับกระเป๋าก็ได้ค่ะ สิ่งที่จำเป็นอย่างมากคือ ตั๋ว E-ticket ที่แสดงจุดหมายปลายทางของประเทศที่เราจะไปต่อไม่ควรปริ๊นเป็นภาษาไทยไปนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยแล้วเช็คเอกสารระหว่างต่อแถวค่ะ กลุ่มเราเจอปัญหานิดหน่อยเพราะปริ๊นเป็นภาษาไทยไป แล้ววันเดือนปี มันดันไม่ใช่สากล เราเดินทาง 5/05/2560 ทางนั้นไม่รู้ค่ะว่า 2560 คือปีอ่ะไร ต้อง 2017 เท่านั้น ดีที่เรามีเอกสารยืนยันว่า 2560 คือ 2017 นะ ตรงนี้เลยผ่านไปได้ค่ะ พอถึงตม. เค้าไม่ได้ถามไรมากมาย แค่กรอกใบเข้าเมืองให้ถูกต้องก็จะปั๊มวีซ่าชั่วคราวมาให้แล้วค่ะ
***** ส่วนเรื่องกระเป๋า ก่อนบินออกจากไทย สายการบินจะติด Tag มาให้ที่ Passport เราค่ะ เราต้องเอา Tag นี้ไปยื่นให้ ตม. เค้าดู เพื่อจัดการเอากระเป๋าเราออกจากสายพานในกรณีที่เราจะขออยู่ที่ทรานสิทแอเรีย และไมไ่ด้ออกไปรับกระเป๋า เค้าจะ re tag ส่งกระเป๋าเราไปปลายทางให้ค่ะ
แต่พวกเราได้วีซ่าชั่วคราวเลยออกมาจากตรงนั้น เดินไปรับกระเป๋าแล้วตอนเช้าเข้าไปเช็คอินใหม่อีกรอบค่ะ
****ส่วนในกรณีที่เราเดินทางไม่ข้ามวัน เช่นขากลับเราออกจาก sapporo 13.30 ไปถึงเซี่ยงไฮ้ราวๆ 4 โมงเย็น (จำเวลาไม่ได้ชัวร์)แล้วใช้เวลาทรานสิทแค่ 3 ชั่วโมง ดังนั้นกรณีไม่จำเป็นต้องมีวีซ๋าค่ะ และกระเป๋าสามารถเช็คทรูไปถึงปลายทางได้เลย
ประสบการณ์นั่งเครื่องไชน่า ไม่ได้เลวร้ายค่ะ ไฟล์ทขาไปนั้นเงียบสงบมาก ส่วนขากลับมีเสียงเด็กนิดหน่อยซึ่งไม่รบกวนอะไรมาก
ส่วนอาหารเราว่าไม่ผ่านค่ะ (ไม่ผ่านอย่างแรง ถึงขนาดขากลับเราซื้อของขึ้นไปกินเลยค่ะ )
เบาะนั่งสบาย มีผ้าห่มให้ ส่วนแอร์จะหน้าบูดนิดหน่อยซึ่งเราไม่ซีเรียส
ในราคา 13500 เราุถือว่าก็ว่า ok นะคะ ติดตรงขาไปใช้เวลาทรานสิทนานไปหน่อย
กระทู้นี้เรามาเพื่อบอกข้อมูลสำหรับคนที่กำลังคิดว่าทำวีซ่าหรือไม่ทำดี เพื่อประกอบการติดสินใจค่ะ
เพราะตอนที่เราหาข้อมูลก่อนไปไม่มีใครสามารถยืนยันได้เลยว่าต้องทำหรือไม่ทำ
แต่ ตม. จีนไม่ค่อยมีอะไรแน่นอนก่อนจองตั๋วควรตรวจสอบเรื่องการทำวีซ่าให้ดีก่อนนะคะ
ข้อข้องใจว่า ถ้าไปทรานสิทต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ ไปประเทศที่สามต้องทำวีซ่าหรือไม่
แล้วกฏของ ตม.ที่จีนก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนอยู่บ่อยๆจนเราไม่มั่นใจว่า แค่ไปทรานสิทต้องทำวีซ่าไหม
เราเลยหาข้อมูล ทั้งโทรถามสายการบิน สถานที่ทำวีซ่า และสอบถามจากคนที่เคยไปทรานสิทมาแล้ว
ได้ความว่า
1. ถ้าอยากสบายใจก็ทำไป
2. ไปทำทุกสิ่งที่ทรานสิทแอเรียเลย
คือถ้าเราต้องทำวีซ่าเพื่อทรานสิทจะต้องเสียทั้งขาไปและขากลับ ราคาประมาณ 2000-2500 บาท ราวๆนั้นจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ และต้องเสียเวลาลางานไปทำและไปรับด้วย เพราะทางนั้นไม่ส่งวีซ่ากลับมาให้เราทาง ปณ.
สรุปทุกคนตัดสินใจไปวัดดวงเอาที่ ตม. เซี่ยงไฮ้ค่ะ (สอบถามจากทางสนามบินที่ไทยแล้วเค้าบอกว่าไม่ได้ห้ามเราออกนอกประเทศถ้าไม่มีวีซ๋า แต่จะให้เซ็นต์เอกสารบางอย่างก่อนออกไป น่าจะเกี่ยวกับการไม่รับผิดชอบในกรณีโดนกักตัวหรือส่งตัวกลับ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ไม่ได้ถามอย่างละเอียด )
วันบินคือ 5 พค. ออกจากไทย 1 ทุ่ม 10 นาทีไปถึงเซี่ยงไฮ้ เที่ยงคืน 40 นาที
***** กรณีนี้ทางตม.จะนับว่าเราเดินทางข้ามคืนค่ะ จึงเป็นเหตุที่ต้องมีวีซ่า เพราะเราแวะทรานสิทประมาณ 7 ชม.กว่าๆ และกระเป๋าไม่ได้เช็คทรูค่ะ ต้องไปรับแล้วเช็คอินใหม่ ตรงนี้เราไม่จำเป็นต้องออกไปรับกระเป๋าก็ได้ค่ะ สิ่งที่จำเป็นอย่างมากคือ ตั๋ว E-ticket ที่แสดงจุดหมายปลายทางของประเทศที่เราจะไปต่อไม่ควรปริ๊นเป็นภาษาไทยไปนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยแล้วเช็คเอกสารระหว่างต่อแถวค่ะ กลุ่มเราเจอปัญหานิดหน่อยเพราะปริ๊นเป็นภาษาไทยไป แล้ววันเดือนปี มันดันไม่ใช่สากล เราเดินทาง 5/05/2560 ทางนั้นไม่รู้ค่ะว่า 2560 คือปีอ่ะไร ต้อง 2017 เท่านั้น ดีที่เรามีเอกสารยืนยันว่า 2560 คือ 2017 นะ ตรงนี้เลยผ่านไปได้ค่ะ พอถึงตม. เค้าไม่ได้ถามไรมากมาย แค่กรอกใบเข้าเมืองให้ถูกต้องก็จะปั๊มวีซ่าชั่วคราวมาให้แล้วค่ะ
***** ส่วนเรื่องกระเป๋า ก่อนบินออกจากไทย สายการบินจะติด Tag มาให้ที่ Passport เราค่ะ เราต้องเอา Tag นี้ไปยื่นให้ ตม. เค้าดู เพื่อจัดการเอากระเป๋าเราออกจากสายพานในกรณีที่เราจะขออยู่ที่ทรานสิทแอเรีย และไมไ่ด้ออกไปรับกระเป๋า เค้าจะ re tag ส่งกระเป๋าเราไปปลายทางให้ค่ะ
แต่พวกเราได้วีซ่าชั่วคราวเลยออกมาจากตรงนั้น เดินไปรับกระเป๋าแล้วตอนเช้าเข้าไปเช็คอินใหม่อีกรอบค่ะ
****ส่วนในกรณีที่เราเดินทางไม่ข้ามวัน เช่นขากลับเราออกจาก sapporo 13.30 ไปถึงเซี่ยงไฮ้ราวๆ 4 โมงเย็น (จำเวลาไม่ได้ชัวร์)แล้วใช้เวลาทรานสิทแค่ 3 ชั่วโมง ดังนั้นกรณีไม่จำเป็นต้องมีวีซ๋าค่ะ และกระเป๋าสามารถเช็คทรูไปถึงปลายทางได้เลย
ประสบการณ์นั่งเครื่องไชน่า ไม่ได้เลวร้ายค่ะ ไฟล์ทขาไปนั้นเงียบสงบมาก ส่วนขากลับมีเสียงเด็กนิดหน่อยซึ่งไม่รบกวนอะไรมาก
ส่วนอาหารเราว่าไม่ผ่านค่ะ (ไม่ผ่านอย่างแรง ถึงขนาดขากลับเราซื้อของขึ้นไปกินเลยค่ะ )
เบาะนั่งสบาย มีผ้าห่มให้ ส่วนแอร์จะหน้าบูดนิดหน่อยซึ่งเราไม่ซีเรียส
ในราคา 13500 เราุถือว่าก็ว่า ok นะคะ ติดตรงขาไปใช้เวลาทรานสิทนานไปหน่อย
กระทู้นี้เรามาเพื่อบอกข้อมูลสำหรับคนที่กำลังคิดว่าทำวีซ่าหรือไม่ทำดี เพื่อประกอบการติดสินใจค่ะ
เพราะตอนที่เราหาข้อมูลก่อนไปไม่มีใครสามารถยืนยันได้เลยว่าต้องทำหรือไม่ทำ
แต่ ตม. จีนไม่ค่อยมีอะไรแน่นอนก่อนจองตั๋วควรตรวจสอบเรื่องการทำวีซ่าให้ดีก่อนนะคะ