ฮัลโหลวววว หลังจากที่จขกท.เขียนกระทู้แรกไปก็หายไปเลย 5555 ตอนนี้กลับมาแล้วค่าาาาาา พอดีเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเยอรมันกับโปแลนด์มา ต้องบอกก่อนเลยว่า เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือกับดูพวก Genocide Films มาก ด้วยความที่อ่านเยอะ ดูเยอะก็เลยอยากไปดูของจริง ประมาณปลายปีที่แล้วเลยแพลนว่าจะไป Auschwitz ที่โปแลนด์ แล้วบังเอิญอีกว่าที่โปแลนด์มีหลายเมืองที่เราอยากไป ซึ่งคราคูฟเป็น 1 ในนั้น ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้
ตอนแรกตั้งใจจะไปโปแลนด์อย่างเดียว แต่ด้วยเหตุบางประการ เราเลยต้องเปลี่ยนแพลนเล็กน้อยไปเยอรมันด้วย ทริปนี้เราเดินทางเองคนเดียว ออกเดินทางวันที่ 5 – 14 พฤษภาคม ไป 2 ประเทศ 5 เมือง คือเริ่มจาก Bkk – Berlin (Germany) – Zakopane (Poland) – Krakow (Poland) – Oswiecim (Poland) – Warsaw (Poland) – Bkk แต่เราจะขอลงเรื่องหลักๆเป็น เมือง Krakow กับ Oswiecim นะคะ แต่ถ้าใครสนใจเรื่องเมืองอื่นๆที่เราไปมาก็สอบถามได้ สวยทุกเมือง ประทับใจทุกเมืองค่ะ
เราขอเริ่มที่ Krakow ก่อนเลย เพราะว่า Oskar Schindler’s Enamel Factory อยู่ที่เมืองนี้ค่ะ ตอนแรกเราลืมโรงงานนี้ไปเลย แม้จะดู Schindler’s List มาหลายรอบแล้วก็ตาม ต้องยกความดีความชอบให้เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ที่เราไปพักเลยค่ะ (ใครสนใจบอกได้นะ ที่พักดีมากกกกกก สะดวกสบาย กว้างขวาง มีห้องน้ำ ห้องครัว ห้องสมุด ห้องนั่งเล่น ห้องนอน อยู่ใจกลางเมือง เดินออกมามองไปเป็น Galeria Krakowska Mall เราไปคนเดียว เดินจนห้างปิด กลับที่พักได้แบบไม่อันตรายเลย เสียดาย…เรามีโอกาสนอนที่นี่แค่คืนเดียว ดีขนาดที่เราให้เรทเค้าไป 10 เต็มเลยอ่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.booking.com/hotel/pl/meowmeow-apartment.en-gb.html?aid=357002;label=gog235jc-hotel-XX-pl-meowmeowNapartment-unspec-th-com-L%3Aen-O%3AwindowsS7-B%3Achrome-N%3AXX-S%3Abo-U%3AXX-H%3As;sid=0fd4a804f2822120ac18fbbdb8c4b356;dist=0&sb_price_type=total&type=total&
กลับมาที่โรงงานต่อ คุณ Pawel เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ถามเราว่าเรามีแพลนจะไปไหนใน Krakow รึยัง? จริงๆใจเรามีแพลนในใจแล้ว แต่ก็แบบ…เออ ฟังเค้าหน่อยเผื่อเค้ามีที่ที่คน local เค้ารู้กัน ซึ่งก็คิดไม่ผิดที่ฟัง Pawel แนะนำเรามาเยอะมาก ซึ่งบางที่ก็อยู่ในลิสท์เรา บางที่ก็ไม่ เค้าถึงขนาดเอาแผนที่มากางให้เราเลยว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เราเลยเปลี่ยนแพลนของเราบางส่วนไปตามเค้า ซึ่ง Oskar Schindler’s Enamel Factory ก็เลยเข้ามาอยู่ในแพลนของเราเรียบร้อย
ตามภาพข้างบนคือที่พักเราอยู่ในวงกลมสีแดง ส่วนตัวโรงงานอยู่ในวงสีเหลืองข้างล่าง เราคุยกับ Pawel ประมาณ 15 นาทีได้ เก็บของอะไรเรียบร้อยแล้วก็รีบออกเดินทาง ใช้ Google Map เลยค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องไปซื้อตั๋วจากเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติก่อน เราเลือกแบบ 24 hours ราคา 15 Zlotty คูณ 9 เลยค่ะ ประมาณ 130 กว่าบาท ใช้ได้ทั้งแทรมทั้งรถบัส เราเดินออกมาจากที่พักข้ามไปขึ้นแทรมตามที่กูเกิ้ลแมพบอก จำไม่ได้ว่าสายอะไร แล้วก็เดินๆๆๆๆๆๆ คือจริงๆมันมีรถไปถึงมั้ง? แต่เราอยากเดินชมวิวเมืองเค้า เราเลยเลือกลงสถานีที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจำชื่อไม่ได้ (โถถถถถ ยังอุตส่าห์จะมาบอก 55555) แล้วเดินเลียบแม่น้ำมาตาม map ตอนนั้นฝนตกปรอยๆ อากาศประมาณ 6 องศา มันช่างได้ฟีลยิ่งนัก เดินมาซักพักก็เจอป้ายนี้ แปลว่าใกล้ถึงแล้ว...เย้!!
เดินต่ออีกนิดนึงก็จะเจอโรงงานแล้วค่าาาาาาา ข้างหน้ามีคนยืนรออยู่บ้างประปราย เรารีบเดินไปถ่ายหน้าโรงงานพร้อมเช็คอินก่อนว่ามาถึงแล้ว
ดีใจมากกกกก แบบ...เฮ้ยยยย เราเห็นในหนังแล้วนี่ได้มาดูสถานที่จริง T^T ดีใจเหลือเกิน
เราเดินเข้าไปข้างในโรงงาน จ่ายค่าบัตรไป PLN 21 (180 กว่าบาท)
อ้อ...ลืมบอก รูปเราจะมาจากทั้งกล้องใหญ่และในมือถือนะคะ เนื่องจากว่า ถ่ายๆไปเมมเต็ม อีเมมสำรองก็อยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เลยต้องถ่ายไปลบรูปเก่าๆทิ้งไป ตอนไหนขี้เกียจก็ยกมือถือขึ้นมาถ่าย บื้อมากจริงๆ T_T เอาเป็นว่าดูเอาบรรยากาศไปละกันเนอะ 5555 จ่ายค่าบัตรเสร็จ เราก็เอาของมาเก็บเข้าล็อคเกอร์ ที่นี่ห้ามเอาของกิน เครื่องดื่มเข้ามิวเซียมค่ะ ตรงนั้นมีล็อคเกอร์อยู่ตรงข้ามกับที่เราซื้อตั๋วเลย เราเลยยัดทุกอย่างทั้งแจ๊คเก็ต กระเป๋าเข้าไปเลย เดินตัวปลิวกับมือถือ 1 เครื่องและกล้อง (ตัวที่เมมเต็มหลังจากถ่ายไปได้ซักพักนั่นแหละ T^T) พร้อมกุญแจล็อคเกอร์เข้าไป ตอนเราไปมีเด็กมาทัศนศึกษาด้วย (หน้าตาดีมากกกก ขอนอกเรื่อง 5555) เราก็จะเดินวนๆไปกับน้องๆกลุ่มนี้ พยายามตีเนียนไปกับเค้า แต่ไกด์ของน้องพูดภาษาโปลิช เราฟังไม่รู้เรื่องเลยแยกตัวออกมา 5555
แล้วก็อีกนิดนึง...ข้อมูลต่างๆบางส่วนที่เราใส่ลงไปในกระทู้นี้ เราแปลมาจากหนังสือที่เราซื้อมาจากมิวเซียมที่นี่อีกทีนะคะ พวกชื่อห้อง ปีค.ศ. รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆด้วยค่ะ เดี๋ยวจะลงรูปหนังสือให้ดูที่ท้ายกระทู้น้าาาาา
โอเค...เกริ่นมายาวมากกกก ได้เวลาไปชมมิวเซียมกันแล้วค่าาาาาาา
1.KRAKOW IN 1989 – 1939 AT THE PHOTOGRAPHER'S
ห้องแรกที่ไปถึงจะเป็นห้องที่เค้ารวบรวมภาพถ่ายเล็กๆน้อยช่วงก่อนสงครามตั้งแต่ปี 1918 - 1939 เป็นช่วงที่คริสเตียนกับชาวยิวยังอาศัยอยู่ด้วยกัน ในยุคนั้นเค้าบอกว่ามีชาวยิวประมาณ 25% ของประชากรในเมืองคราคูฟ สมัยนั้นทั้งคริสเตียนทั้งยิวอยู่ด้วยกันได้ดี มีการวางแผนพัฒนาเมืองด้วยกันมากมาย
2.STEROSCOPE
ห้องที่ 2 Steroscope ตามภาพที่เห็นคือจะมีเสากลมๆใหญ่ๆอยู่กลางห้อง แล้วมีกล้องเล็กๆรายรอบเสาอีกที ไอ้เจ้าเสานี้ก็คือ stereoscope เป็นเครื่องส่องดูภาพ ตอนส่องเข้าไปก็จะเจอกับรูปต่างๆช่วงก่อนสงคราม นอกจากเจ้า stereoscope แล้วรอบๆห้องก็จะมีภาพต่างๆให้ดูผ่านทั้ง Photo Album หรือไม่ว่าจะเป็นผ่านจอทีวี
แต่ทีเด็ดของห้องนี้ก็คือออออออ
"Stamp Press"
ในมิวเซียมนี้จะมีเจ้าเครื่อง Stamp Press อยู่ทั้งหมด 5 เครื่อง แต่ละเครื่องก็จะมีเครื่องหมายและวันเวลาต่างๆกัน เราสามารถหยิบการ์ดจากตรงเครื่องนี้แล้วประทับตราที่เครื่อง แล้วเอาการ์ดนี้กลับบ้านได้เลย เราประทับใจมากกกกก การ์ดจะเป็นแบบหน้าหลัง ข้างนึงเป็นภาษาอังกฤษ อีกข้างนึงเป็นภาษาโปลิช ปั๊มเสร็จต้องถือแบบระวังมาก ไม่งั้นจะเลอะแน่นอน ด้วยความที่เป็นเครื่องแรก เราเลยปั๊มมาทั้ง 2 ด้าน แต่คนละแผ่น แต่หมึกมันแห้งช้าไง ถือลำบาก ห้องต่อไปเลยปั๊มด้านภาษาอังกฤษอย่างเดียว
ในการ์ดจะเขียนว่า
"Krakow August 6, 1939"
"The last day of the 25th annual reunion of the soldiers of the Polish Legions is celebrated in Krakow; Marshall Edward Rydz 'Śmigły' takes part in the event"
เดินถัดมาอีกนิดนึงจะเป็นห้องฉายหนังช่วงก่อนสงคราม เราเดินเข้าไปนั่งดูได้ 10 นาทีแล้วออก เนื่องจากตอนเราเข้าไป หนังมันฉายมาได้พักใหญ่ๆแล้ว ดูไม่รู้เรื่อง เลยเปลี่ยนใจไปดูห้องอื่นต่อ
ขอไปต่อคอมเม้นท์ถัดไปนะค้าาาาา
[CR] พาบุกโรงงาน Oskar Schindler's Enamel Factory จากหนัง Schindler’s List
ฮัลโหลวววว หลังจากที่จขกท.เขียนกระทู้แรกไปก็หายไปเลย 5555 ตอนนี้กลับมาแล้วค่าาาาาา พอดีเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเยอรมันกับโปแลนด์มา ต้องบอกก่อนเลยว่า เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือกับดูพวก Genocide Films มาก ด้วยความที่อ่านเยอะ ดูเยอะก็เลยอยากไปดูของจริง ประมาณปลายปีที่แล้วเลยแพลนว่าจะไป Auschwitz ที่โปแลนด์ แล้วบังเอิญอีกว่าที่โปแลนด์มีหลายเมืองที่เราอยากไป ซึ่งคราคูฟเป็น 1 ในนั้น ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้
ตอนแรกตั้งใจจะไปโปแลนด์อย่างเดียว แต่ด้วยเหตุบางประการ เราเลยต้องเปลี่ยนแพลนเล็กน้อยไปเยอรมันด้วย ทริปนี้เราเดินทางเองคนเดียว ออกเดินทางวันที่ 5 – 14 พฤษภาคม ไป 2 ประเทศ 5 เมือง คือเริ่มจาก Bkk – Berlin (Germany) – Zakopane (Poland) – Krakow (Poland) – Oswiecim (Poland) – Warsaw (Poland) – Bkk แต่เราจะขอลงเรื่องหลักๆเป็น เมือง Krakow กับ Oswiecim นะคะ แต่ถ้าใครสนใจเรื่องเมืองอื่นๆที่เราไปมาก็สอบถามได้ สวยทุกเมือง ประทับใจทุกเมืองค่ะ
เราขอเริ่มที่ Krakow ก่อนเลย เพราะว่า Oskar Schindler’s Enamel Factory อยู่ที่เมืองนี้ค่ะ ตอนแรกเราลืมโรงงานนี้ไปเลย แม้จะดู Schindler’s List มาหลายรอบแล้วก็ตาม ต้องยกความดีความชอบให้เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ที่เราไปพักเลยค่ะ (ใครสนใจบอกได้นะ ที่พักดีมากกกกกก สะดวกสบาย กว้างขวาง มีห้องน้ำ ห้องครัว ห้องสมุด ห้องนั่งเล่น ห้องนอน อยู่ใจกลางเมือง เดินออกมามองไปเป็น Galeria Krakowska Mall เราไปคนเดียว เดินจนห้างปิด กลับที่พักได้แบบไม่อันตรายเลย เสียดาย…เรามีโอกาสนอนที่นี่แค่คืนเดียว ดีขนาดที่เราให้เรทเค้าไป 10 เต็มเลยอ่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กลับมาที่โรงงานต่อ คุณ Pawel เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ถามเราว่าเรามีแพลนจะไปไหนใน Krakow รึยัง? จริงๆใจเรามีแพลนในใจแล้ว แต่ก็แบบ…เออ ฟังเค้าหน่อยเผื่อเค้ามีที่ที่คน local เค้ารู้กัน ซึ่งก็คิดไม่ผิดที่ฟัง Pawel แนะนำเรามาเยอะมาก ซึ่งบางที่ก็อยู่ในลิสท์เรา บางที่ก็ไม่ เค้าถึงขนาดเอาแผนที่มากางให้เราเลยว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เราเลยเปลี่ยนแพลนของเราบางส่วนไปตามเค้า ซึ่ง Oskar Schindler’s Enamel Factory ก็เลยเข้ามาอยู่ในแพลนของเราเรียบร้อย
ตามภาพข้างบนคือที่พักเราอยู่ในวงกลมสีแดง ส่วนตัวโรงงานอยู่ในวงสีเหลืองข้างล่าง เราคุยกับ Pawel ประมาณ 15 นาทีได้ เก็บของอะไรเรียบร้อยแล้วก็รีบออกเดินทาง ใช้ Google Map เลยค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องไปซื้อตั๋วจากเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติก่อน เราเลือกแบบ 24 hours ราคา 15 Zlotty คูณ 9 เลยค่ะ ประมาณ 130 กว่าบาท ใช้ได้ทั้งแทรมทั้งรถบัส เราเดินออกมาจากที่พักข้ามไปขึ้นแทรมตามที่กูเกิ้ลแมพบอก จำไม่ได้ว่าสายอะไร แล้วก็เดินๆๆๆๆๆๆ คือจริงๆมันมีรถไปถึงมั้ง? แต่เราอยากเดินชมวิวเมืองเค้า เราเลยเลือกลงสถานีที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจำชื่อไม่ได้ (โถถถถถ ยังอุตส่าห์จะมาบอก 55555) แล้วเดินเลียบแม่น้ำมาตาม map ตอนนั้นฝนตกปรอยๆ อากาศประมาณ 6 องศา มันช่างได้ฟีลยิ่งนัก เดินมาซักพักก็เจอป้ายนี้ แปลว่าใกล้ถึงแล้ว...เย้!!
เดินต่ออีกนิดนึงก็จะเจอโรงงานแล้วค่าาาาาาา ข้างหน้ามีคนยืนรออยู่บ้างประปราย เรารีบเดินไปถ่ายหน้าโรงงานพร้อมเช็คอินก่อนว่ามาถึงแล้ว
เราเดินเข้าไปข้างในโรงงาน จ่ายค่าบัตรไป PLN 21 (180 กว่าบาท)
อ้อ...ลืมบอก รูปเราจะมาจากทั้งกล้องใหญ่และในมือถือนะคะ เนื่องจากว่า ถ่ายๆไปเมมเต็ม อีเมมสำรองก็อยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เลยต้องถ่ายไปลบรูปเก่าๆทิ้งไป ตอนไหนขี้เกียจก็ยกมือถือขึ้นมาถ่าย บื้อมากจริงๆ T_T เอาเป็นว่าดูเอาบรรยากาศไปละกันเนอะ 5555 จ่ายค่าบัตรเสร็จ เราก็เอาของมาเก็บเข้าล็อคเกอร์ ที่นี่ห้ามเอาของกิน เครื่องดื่มเข้ามิวเซียมค่ะ ตรงนั้นมีล็อคเกอร์อยู่ตรงข้ามกับที่เราซื้อตั๋วเลย เราเลยยัดทุกอย่างทั้งแจ๊คเก็ต กระเป๋าเข้าไปเลย เดินตัวปลิวกับมือถือ 1 เครื่องและกล้อง (ตัวที่เมมเต็มหลังจากถ่ายไปได้ซักพักนั่นแหละ T^T) พร้อมกุญแจล็อคเกอร์เข้าไป ตอนเราไปมีเด็กมาทัศนศึกษาด้วย (หน้าตาดีมากกกก ขอนอกเรื่อง 5555) เราก็จะเดินวนๆไปกับน้องๆกลุ่มนี้ พยายามตีเนียนไปกับเค้า แต่ไกด์ของน้องพูดภาษาโปลิช เราฟังไม่รู้เรื่องเลยแยกตัวออกมา 5555
แล้วก็อีกนิดนึง...ข้อมูลต่างๆบางส่วนที่เราใส่ลงไปในกระทู้นี้ เราแปลมาจากหนังสือที่เราซื้อมาจากมิวเซียมที่นี่อีกทีนะคะ พวกชื่อห้อง ปีค.ศ. รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆด้วยค่ะ เดี๋ยวจะลงรูปหนังสือให้ดูที่ท้ายกระทู้น้าาาาา
โอเค...เกริ่นมายาวมากกกก ได้เวลาไปชมมิวเซียมกันแล้วค่าาาาาาา
1.KRAKOW IN 1989 – 1939 AT THE PHOTOGRAPHER'S
ห้องแรกที่ไปถึงจะเป็นห้องที่เค้ารวบรวมภาพถ่ายเล็กๆน้อยช่วงก่อนสงครามตั้งแต่ปี 1918 - 1939 เป็นช่วงที่คริสเตียนกับชาวยิวยังอาศัยอยู่ด้วยกัน ในยุคนั้นเค้าบอกว่ามีชาวยิวประมาณ 25% ของประชากรในเมืองคราคูฟ สมัยนั้นทั้งคริสเตียนทั้งยิวอยู่ด้วยกันได้ดี มีการวางแผนพัฒนาเมืองด้วยกันมากมาย
2.STEROSCOPE
ห้องที่ 2 Steroscope ตามภาพที่เห็นคือจะมีเสากลมๆใหญ่ๆอยู่กลางห้อง แล้วมีกล้องเล็กๆรายรอบเสาอีกที ไอ้เจ้าเสานี้ก็คือ stereoscope เป็นเครื่องส่องดูภาพ ตอนส่องเข้าไปก็จะเจอกับรูปต่างๆช่วงก่อนสงคราม นอกจากเจ้า stereoscope แล้วรอบๆห้องก็จะมีภาพต่างๆให้ดูผ่านทั้ง Photo Album หรือไม่ว่าจะเป็นผ่านจอทีวี
แต่ทีเด็ดของห้องนี้ก็คือออออออ
"Stamp Press"
ในมิวเซียมนี้จะมีเจ้าเครื่อง Stamp Press อยู่ทั้งหมด 5 เครื่อง แต่ละเครื่องก็จะมีเครื่องหมายและวันเวลาต่างๆกัน เราสามารถหยิบการ์ดจากตรงเครื่องนี้แล้วประทับตราที่เครื่อง แล้วเอาการ์ดนี้กลับบ้านได้เลย เราประทับใจมากกกกก การ์ดจะเป็นแบบหน้าหลัง ข้างนึงเป็นภาษาอังกฤษ อีกข้างนึงเป็นภาษาโปลิช ปั๊มเสร็จต้องถือแบบระวังมาก ไม่งั้นจะเลอะแน่นอน ด้วยความที่เป็นเครื่องแรก เราเลยปั๊มมาทั้ง 2 ด้าน แต่คนละแผ่น แต่หมึกมันแห้งช้าไง ถือลำบาก ห้องต่อไปเลยปั๊มด้านภาษาอังกฤษอย่างเดียว
ในการ์ดจะเขียนว่า
เดินถัดมาอีกนิดนึงจะเป็นห้องฉายหนังช่วงก่อนสงคราม เราเดินเข้าไปนั่งดูได้ 10 นาทีแล้วออก เนื่องจากตอนเราเข้าไป หนังมันฉายมาได้พักใหญ่ๆแล้ว ดูไม่รู้เรื่อง เลยเปลี่ยนใจไปดูห้องอื่นต่อ
ขอไปต่อคอมเม้นท์ถัดไปนะค้าาาาา