อยู่ดีๆก็กลายเป็นstalkerตามติดชีวิตเธอ

เชื่อว่าใครหลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์แอบคิดไม่ซื่อกับเพื่อนมาแล้วที่ชอบเขามากๆอยากอยู่ใกล้เขาแต่กลับเลือกที่จะปลีกตัวออกห่างดีกว่าเพราะกลัวจะเสียความเป็นเพื่อนไป
วันนี้เนื่องจากเป็นกระทู้แรกของจขกท.เลยขอแชร์เรื่องราวโดยตรงที่แอบชอบเพื่อนคนนึงที่เพิ่งจะได้รู้จักและเราก็กลายเป็นstalkerโดยไม่รู้ตัวมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยเด้อ


          เราเป็นเด็กกิจกรรมของมหาลัย ซึ่งงานส่วนใหญ่เราจะคุมอยู่เบื้องหลังทำให้เราได้คลุกคลีกับผู้คนเยอะแยะเต็มไปหมด จนมีงานหนึ่งที่ทำให้เราได้รู้จักคนๆนึงที่ทำให้ช่วงเวลาก่อนปิดเทอม2เดือนนั้นมีค่ามากสำหรับเราเลยล่ะ เรื่องราวมันก็จะคล้ายๆกับหนังเรื่องสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักอาจจะบ้ากว่าก็ว่าได้5555555เราหยิบยกบางเหตุการณ์มาแล้วกันเน้อ เราเจอเขาที่งานประกวดความสามารถทางดนตรี มีทั้งเต้น ร้อง วงสตริง บลาๆๆ ซึ่งเขาก็ได้มาในฐานะผู้เข้าประกวดวงสตริง เรารับผิดชอบดูแลบริเวณข้างๆเวที ดูแลผู้เข้าประกวดที่ค่อนข้างจะเยอะและวุ่นวายแต่หล่อเราให้อภัย5555555 ก่อนที่จะเริ่มการแข่ง เพื่อนเราได้บอกว่ามีวงสตริงวงหนึ่งน่าสนใจนะ เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะเรามัวเหล่ผช.รอบงาน555555และพอถึงวงที่เพื่อนบอกได้ขึ้นไปแข่งบอกได้คำเดียวว่าวงนี้รวมๆแล้วงานดีจริมๆนะพี่บัวลอย เพื่อนเขาหล่อโฮก ขณะที่เรากำลังชื่นชมเพื่อนเขาอยู่นั้นเพื่อนได้มาสะกิดและบอกว่า “ดูนักร้องดิน่ารักเนอะ หลงเสียงอะ><” เราก็มองตามที่เพื่อนบอก คำแรกที่หลุดจากปากเราคือ “ทำไมขี้เหร่จังวะ5555555555”และก็โดนเพื่อนมองแรงเฉยเลย แต่เราก็ลองฟังเสียง“เขา”ร้องเพลงที่เพื่อนบอก....คือเพราะจริงๆๆและนั่นก็เป็นเสน่ห์ของนักร้องคนนั้นที่ทำให้เราสนใจในตัวเขาและพัฒนากลายเป็นชอบเขาขึ้นมานั่นเอง หลังจากที่เพื่อนบอกให้ดูนักร้องเราก็ดูจนนางแข่งจนจบ(ร้อง3เพลง)ถามอีกก็พูดได้คำเดียวคือชอบเสียงนางมากกกไม่รู้จะอธิบายเป็นตัวอักษรยังไง ผลการประกวดคือวงนางชนะจ้า นิยายมาโปรดแท้ๆ(คือม.เรามีหลายที่ จึงมีกติกาว่าหากชนะที่นี่แล้วต้องไปแข่งรวมใหญ่อีกที และคนที่รับผิดชอบพาทีมที่ชนะไปแข่งคือพวกฉันเองงง) พอถึงวันที่ต้องพาไปแข่งเราได้พักห้องเดียวกันกับผู้เข้าประกวด เราก็สังเกตว่าเขาดูเครียดๆตื่นเต้นๆเพราะวงเขาแข่งวงแรกนะสิ555555555(จริงๆอยากพูดให้กำลังให้เผื่อจะหายเครียดลงบ้างแต่...ไม่ดีกว่า) เวลาแข่งใกล้เข้ามา นางและเพื่อนก็ซ้อมกันในห้องพักนั้นแหละ เราก็นั่งเม้ามอยกับเพื่อนอย่างเมามันส์ต้องหยุดเพราะเสียงนางอะ หยุดแบบเหมือนกดสวิตช์ให้หันไปดูนางซ้อม คือเราเคลิ้มจริงจังบอกตรงๆ ไม่รู้ว่าทำไมชอบเสียงนางมากขนาดนี้ พอถึงเวลาแข่งทีมงานเราก็ไปนั่งหน้าติดเวทีเลยจ้าเป็นหน้าม้าเพราะไม่ค่อยมีคนมานั่งกัน ปกติเราไปดูคอนเสิร์ตหรืองานดนตรีสดเราจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายอัดเก็บไว้ แต่งานนี้เราไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลย เพราะอยู่ๆเราคิดว่าไม่อยากคลาดสายตาจากบนเวทีเลย คือนางมีเสน่ห์มากเวลาอยู่บนเวที เราเลยเลือกที่จะไม่ดูผ่านหน้าจอโทรศัพท์แต่เลือกที่จะเก็บทุกวินาทีที่นางร้องเพลงจากสายตาเราและเก็บคลิปนี้ไว้ในความทรงจำของเราแทน(เป็นไงบรรยายดูดีมะ55555555) และจะมีรางวัลป๊อปปูล่าโดยคิดคะแนนจากดอกไม้ในกำมือเธอ ถุ้ย ดอกไม้ที่เหล่าบรรดาแฟนคลับซื้อให้ดอกละ 1คะแนน 5คะแนน เราซื้อมา10ดอก ตอนแรกเรากะจะให้เพื่อนของนางทั้งหมด แต่พอเอาเข้าจริงอยู่ๆเราก็ทำการแบ่งดอกไม้ในกำมือออกเป็น2ส่วนซึ่งไม่เท่ากัน แน่นอนว่าให้นางมากกว่าทุกคนจ่ะ โคตรลำเอียง5555555 หลังจากที่แข่งเสร็จวงนางก็ลงมาข้างล่างเวทีรอดูวงต่อไปแข่ง และก็มีเพื่อนๆพวกนางมั่งทีมงานมั่งกรูเข้ามาถ่ายรูป และเรากับเพื่อนก็หาฤกษ์หายามหาจังหวะเข้าไปขอถ่ายด้วย และพอได้จังหวะเพื่อนบอกว่าไปเรียกนักร้องให้หน่อย หืมมมใช้ถูกคนแล้วเพื่อนเอ๋ย จะบ้าเรอะ! คือเอาจริงๆก็ไม่กล้าอะไม่รู้ทำไม แต่ก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดไปสะกิดแขนข้างซ้ายของนางประหนึ่งจิ้มขี้ “นี่ๆขอถ่ายรูปด้วยจิ” อารมณ์ตอนนั้นคือตื่นเต้นมากกกใจเต้นแรงมากจนจุกลิ้นปี่ และนางก็ทำหน้าเว๋อตอบกลับ(ทำไมต้องเว๋ออะตอบที55555ตูทำตัวไม่ถูกว้อย) เราเลยให้เพื่อนถ่ายให้ คือเพื่อนถ่ายได้hereมากบอกเลยนอยด์ขั้นสุด555555 คือเราถ่ายให้มันสวยมากอะเห้ย (เข้าใจอารมณ์นี้นะ55555) กะจะขอถ่ายใหม่ตูก็ไม่กล้าอีกโถ่ชีวิตนี้ T^T พอถึงเวลากลับม.ช่วงที่กำลังนั่งรถเราได้ทำภารกิจหาเฟสนางและก็เจอ โคตรพยายามอะ และพีคสุดคือนางรับเร็วมากกก ไม่เหลือเวลาให้ตื่นเต้นมั่งเลย (ใจเต้นแรงจนจุกลิ้นปี่รอบ2)
          กลับสู่โหมดหมดกิจกรรมและเข้าสู่โหมดช่วงเรียนอันแสนน่าเบื่อ แต่มันจะไม่เบื่อก็ตรงที่เราไปดอยตารางเรียนนางมาและทำการดูว่าเรียนตรงกันวันไหนบ้าง จะเจอวันไหนบ้าง เหตุผลที่ทำแบบนี้เป็นเพราะว่าเทอมหน้านางต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นตามหลักสูตรของคณะนี้ (เอาตรงๆเรื่องนี้เราอ่อนไหวมากนะ คือแซดมากที่นางต้องย้ายทั้งที่เพิ่งรู้จักได้ไม่กี่วัน เลยพยายามแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่ให้ได้เจอนางไม่ว่าวิธีจะจิตแค่ไหนก็ตาม-_-) ตามพลอตเรื่องของสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก แกล้งเนียนเดินผ่านหน้าห้องที่เขาเรียนอยู่ แกล้งเดินไปห้องน้ำที่ติดกับห้องเรียนเขาที่อยู่คนละทวีปที่ห้องเราเรียน เดินไปตึกเรียนที่เขาเรียนทั้งที่อยู่คนละตึกกับเราเรียน ทำเหมือนว่าบังเอิญเดินผ่านมาทางนี้นะจ๊ะพ่อหนุ่ม บอกแล้วว่าจิตแค่ไหนก็ทำ5555555
          ช่วงวันหยุดหลังสงกรานต์เรามาขึ้นรถที่คิวรถตู้เพื่อจะกลับม.ในใจเราก็นึกแหละว่าอาจจะเจอเขาที่นี่ก็ได้ แต่เปอร์เซ็นต์มันน้อยมากที่จะเจอเขาเพราะนศ.ไม่ค่อยมาขึ้นที่นี่กันแต่เราเลือกเพราะมันสะดวกเราที่สุดแล้ว เราก็ซื้อตั๋วและเดินไปขึ้นรถ ในจังหวะที่เราจัดการกับกระเป๋าอยู่ก็มีคนกำลังเปิดประตูเข้ามาประจวบเหมาะเหม็งที่เราเงยหน้ามองพอดี ตึ๊งง!!!!โลกหยุดหมุน108วิ เป็นเขาที่ขึ้นมาเว้ย ใช่เขาจริงๆใช่มั้ยยย เลยยิ้มและโบกมือให้ คือมารู้ทีหลังว่าเราก็มองเขานานพอสมควรพิจารณาอยู่ว่าใช่นักร้องคนนั้นจริงๆรึเปล่า คือคือคือออออบังเอิญจริงๆ วันนั้นเราฟินตลอดการเดินทาง ปกติจะพะอืดพะอมเพราะอาการเมารถ55555555 (ตอนที่เขาขึ้นมาที่นั่งข้างๆเราอะว่าง กะจะชวนมานั่งก็คิดว่าหน้าด้านไปไม่สมควร เลยแค่ทักทายปกติธรรมดาละกัน)
          เราบอกกับตัวเองว่าหากเจอนางจะลองทักดู แล้ววันนั้นเป็นวันเสาร์เรามากินข้าวที่โรงอาหารในม. ปกติจะกินนอกม.แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้อยากกินที่นี่ โป๊ะเช๊ะ! เจอนางจ้าาา นี่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจเด้อ บังเอิญจริงๆเราก็ทักทายแบบอึนๆของเราไป และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ในวันถัดมาและวันอื่นๆเราตั้งใจมาเวลานี้เพื่อมาเจอนาง แต่จนถึงปัจจุบันเราเจอนางที่โรงอาหารช่วงหวัดหยุดส.-อา.ได้แค่2วันเท่านั้น ครั้งสุดท้ายคือวันถัดจากที่เจอนั่นแหละ เราหวังว่ายังไงต้องเจอวะ และก็เจอจริงๆ แต่ครั้งนี้เราทักรุนแรงไปหน่อย เราเผลอเอาเสื้อคลุมไปฟาดที่แขนนางอะ แต่ไม่ได้ฟาดแรงนะว้อย555555 แต่หน้านางตกใจขั้นสุด(ตอนนี้ยังรู้สึกผิดอยู่เลย) คงบอกในใจว่านี่ทักอะไรของ -ึงเนี่ย สินะ ._.
         มีช่วงที่เอกของนางจัดกิจกรรมที่สนามฟุตซอล ประจวบเหมาะ(อีกแล้ว)ที่เราไปถ่ายภาพพอดี คือเราไม่รู้จริงๆว่าเป็นเอกของนาง กำลังหามุมสวยๆถ่ายภาพดันไปเจอนางเข้า หืออออคือไม่รู้ว่านางยืนตรงนี้นานแล้วและยืนใกล้เราด้วย นี่แทบเอาหัวทุบพื้นตาย คือเก็บอารมณ์แบบสุดขีดและสวรรค์เป็นใจเพื่อนเดินมาพอดี เลยแทคทีมให้แกล้งเดินผ่านสนามที่นางกำลังแข่งอยู่ ส่วนตัวอยากเข้าไปเชียร์ให้กำลังใจนางมากๆ แต่ทำไม่ได้อะ ไม่สิ ไม่เลือกทำแบบนั้นมากกว่า เลยเลือกที่จะไปสิงหลังต้นไม้ชะเง้อมองดูนางเตะบอล คืออนาจตัวเองอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้ลำบากลำบนขนาดนั้นนะทำด้วยความสมัครใจ5555555 นางเตะประมาณ2-3วันมั้ง เราไปดูทุกรอบเลยจ้าาา^O^ วันสุดท้ายเราดูเสร็จก็ไปนั่งดื่มกับเพื่อนหลังม.และก็ดูIG Storiesไปเรื่อย เลื่อนไปเจอนางอัพว่าเล่นดนตรีสดที่ร้านXX รอไรล่ะรับคว้ากุญแจและคอเพื่อนบึ่งรถไปร้านนั้นทันที พอถึงที่หมายก็หอบหืดไม่ใช่เพราะเหนื่อยแต่ตื่นเต้นที่จะได้เจอนางอีก เลยถามเพื่อนว่าที่เราทำแบบนี้มันมากเกินไปหรือป่าว สมควรทำมั้ย เพื่อนตอบกลับมาว่า“ทำไปเถอะ อยากเจอเขาอยากฟังเพลงที่เขาร้องไม่ใช่หรอ นี่ก็มาถึงที่แล้วจะกลับไปก็ไม่ใช่เรื่องแล้ว ทำไปเถอะอยากทำไรก็ทำไหนๆก็ไม่ได้เจอแล้ว” เราก็เข้าไปบังเอิญ(อีกละแหม)เจอโต๊ะเพื่อน มีพรรคพวกแล้วเว้ยยย อยู่ๆเพื่อนเลยลากไปสั่งเครื่องดื่ม แต่..โอ๊ะ จะด่าก็ด่าไม่ทัน มันไม่บอกว่านางนั่งอยู่เคาน์เตอร์ที่เรากำลังจะไปสั่ง เพื่อนเลยแกล้งทักนางก่อน และแปลว่าตูต้องทักด้วยสินังบ้า (เออจริงๆอยากให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว55555555)เราแค่ยิ้มให้และโบกมือตามเคย เราก็นั่งฟังเพลงที่นางเล่นและร้องไป เพลินจริงเพลินมาก และมีช่วงขอเพลงเพราะในร้านมันเงียบงันเหลือเกิน เพื่อนเลยสะกิดไปขอเพลงดิ หื้มมม ตูเนี่ยนะะะ เพื่อนบอกอีกเพลงแต่เราขออีกเพลง5555555 เราไปขอเพลงมันคงเป็นความรักของแสตมป์ หารู้ไม่เราขอเพลงนั้นให้นางนั่นแหละ เราเลยอัดคลิปนี้อัพลงไอจีสตอรี่และนางก็เข้ามาดูนะ ><
          และพอให้ถึงวันสอบเราเลยตัดสินใจให้ของแทนความรู้สึกเราไป เราไม่ได้ให้เองนะเราฝากเพื่อนไปให้ และไม่ได้มานึกย้อนเสียดายทีหลังว่าไม่ได้ให้เอง เพราะเราคิดเรื่องนี้มานานพอสมควรแล้ว สิ่งที่เรากลัวมากที่สุดไม่ได้กลัวว่าจะไม่ได้ให้กับมือตัวเอง แต่กลายเป็นเรากลัวความรู้สึกตัวเองมากที่สุดกลัวว่าจะชอบเขาไปมากกว่านี้แล้วจะทำใจไม่ได้ตอนเขาย้ายไปเรียนที่อื่น (แต่เราก็หนีความกลัวนั้นไม่พ้น ใช่ เราชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆมากจนไม่กล้าแตะต้องตัวเขาให้เขาอึดอัดหรือรำคาญแม้แต่นิดเดียว) เราอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เพื่อนเราเอาของไปให้นะ แต่นางไม่เห็นเราจริงๆT^T พอเพื่อนให้เสร็จเราก็รีบเดินออกจากที่ตรงนั้นไปเลย คืออยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาจากเขื่อนไหนไม่รู้ สะอื้นด้วย คงเป็นสัญญาณบอกว่าเราทำเต็มที่แล้วเก่งมาก เป็นสิ่งที่อัดอั้นตันใจมาตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าชอบเขา คือเราโล่งมากที่ทำให้เขาได้รู้ว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา ของที่เราให้เราพยายามไม่ให้ของที่สื่อความหมายมากเกินไปที่เพื่อนคนหนึ่งจะให้นะ
          ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาทำให้ชีวิตการเรียนเราดูน่าตื่นเต้นมาก ทำให้เราอยากมาเรียนอีกนอกจากโมเม้นตอนอยู่มัธยม แต่เป็นรูปแบบที่โตขึ้นมาจากเดิมมาก เราพยายามแข่งกับเวลาที่เหลือโคตรน้อยให้มีค่ามากที่สุด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราติดตามเขาอยู่ตลอด ดูว่าชอบอะไร ชอบถ่ายภาพแนวไหน(เพราะเราก็ชอบถ่ายภาพเหมือนกัน) หมาที่เลี้ยงพันธุ์อะไร ชอบเพลงแนวไหนชอบศิลปินคนไหนคือทุกอย่างล้วนเป็นเสน่ห์ในตัวเขาที่เราอยากค้นหามาก และการที่เราศึกษาเรื่องพวกนี้ของเขาทำให้เราได้ความรู้ใหม่ๆ ได้ฟังเพลงที่ไม่เคยฟังและได้กลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างเช่นเล่นดนตรี และที่อยากขอบคุณเขาคนนี้เลยก็คือขอบคุณที่ทำให้เรากลับมาเล่นกีตาร์อีกครั้งหลังจากที่เราไม่เคยคิดจะแตะมันอีกตอนที่เลิกเล่นไปเพราะเหตุผลบางอย่าง จนแม่เอ่ยปากว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่เห็นลูกตัวเองเล่นกีตาร์เนี่ย ทำให้เรากลับมาสนใจแวดวงดนตรีอีกครั้งซึ่งเป็นสิ่งที่เราเคยสนใจมากๆในตอนนั้นและกลัวที่จะกลับมาสนใจอีก ที่ทำแบบนี้เราไม่ได้ต้องการให้เขามาเป็นแฟนเราเพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่เราคาดหวังไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราแค่อยากทำความรู้จักคนๆนี้เท่านั้น(ซึ่งยิ่งรู้จักก็ยิ่งถลำลึกก็เถอะ55555) หากวันข้างหน้ายังมีโอกาสได้เจอกันอีกเราหวังว่าเขาคงยังไม่ลืมเรานะเรายังคงคุยทักทายกันได้ และต่อจากนี้เราก็จะคอยดูความสำเร็จของเขาอยู่แบบนี้ คอยดูวันที่เขาทำความฝันเขาเป็นจริงและหากวันหนึ่งเขาเจอคนที่ดีที่ใช่คนที่สามารถทำให้เขามีความสุข ทำให้เขายิ้มได้ทุกสถานการณ์เราก็ยังคงติดตามเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆเท่าที่คนๆนี้จะทำได้....ยินดีที่ได้รู้จักนะ^^

ขอบคุณที่อ่านจนจบน๊าา มีตรงไหนผิดพลาดติชมได้เด้อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่