เชื่อว่ามีหลายคนที่ชื่นชอบการออกเดินทางไปเจอสถานที่ใหม่ๆ หรือพูดให้ชัดคือ ชอบออกเดินทางท่องเที่ยว แต่การจะออกเดินทางไปที่ไหนแน่นอนเรื่องค่าใช้จ่ายก็นับว่ามีผลต่อการตัดสินใจสูง เพราะสำหรับเราเอาเข้าจริงการจะเดินทางไปยังจุดหมายที่เราต้องการมันสามารถเป็นไปได้ เพราะเราสามารถตัดสินใจและเลือกลักษณะการเดินทางได้ตามความต้องการของเราเอง ดังนั้นแล้วการเดินทางครั้งนี้ของเราเลยเริ่มต้นขึ้น ด้วยหนึ่งประโยคที่ผุดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว
'มานั่งรถไฟไปลาวกันเถอะ'
การเดินทางครั้งนี้ของเราเป็นการเดินทางที่ใช้เวลาวางแผนเพียงสองสามวัน โดยตั้งจุดหมายไว้ที่ลาว พาหนะที่ใช้โดยสารคือรถไฟ และงบประมาณที่ใช้ตลอดทั้งทริปคือ 3,000 บาท (ซึ่งแน่นอนว่าในบรรดาพวกเราทั้งหกคนบางคนอาจใช้เกินหรือน้อยกว่างบบ้างตามค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละวัน) กับระยะเวลาสั้นๆเพียง 5 วัน 4 คืน โดยเส้นทางคือเริ่มต้นจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กระโดดขึ้นรถไฟชั้น 3 ไปลงปลายทางที่สถานีหนองคาย นั่งรถโดยสารข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวต่อไปเข้าเวียงจันทร์ แล้วขึ้นรถบัสต่อไปนอนที่วังเวียน 1 คืน เที่ยวในวังเวียงแล้วนั่งรถบัสกลับลงมาที่เวียงจันทร์ นอนพัก 1 คืนในโฮสเทลใกล้ย่านแม่น้ำซอง ก่อนจะกลับลงมาขึ้นรถไฟที่สถานีหนองคายและเดินทางกลับสู่หัวลำโพง
ทริปนี้เป็นการเที่ยวแบบด้นสด พอไปถึงอยากไปที่ไหน ทานอะไรก็เดินหากันเองหรือไม่ก็ถามคนพื้นที่ คนลาวน่ารักและเป็นกันเองเสมอ ยิ่งกับนักท่องเที่ยวแล้วพวกเขามักยินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ ดังนั้นใครที่ไปลาวแล้วไหนๆ ภาษาแม้จะไม่เข้าใจได้อย่างถูกต้องแต่เราก็ยังสามารถคาดเดาและเข้าใจได้ ที่สำคัญคนลาวส่วนมากเข้าใจภาษาไทย ดังนั้นจะไม่เกิดกรณีอย่าง Lost in Translation แน่นอน (:
ในการเที่ยวครั้งนี้สิ่งที่ประทับใจนอกจากจะได้ไปเยือนสถานที่สวยๆ อย่างวังเวียง เมืองที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขาและธรรมชาติ , เวียงจันทร์ เมืองหลวงที่พลุพล่านไปด้วยย่านอาหารอร่อย และสถานที่น่าไปเยือนหลายแห่งแล้ว การเดินทางที่ช้าลงจากการนั่งรถไฟ การใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องเร่งรีบผ่านการเดิน ,ปั่นจักรยานเที่ยวรอบเมืองและแอบออกนอกเส้นทาง(พูดง่ายๆคือลองเดินหลง) ดูบ้าง จะทำให้พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจอยู่มากระหว่างการเดินทางไปถึงจุดหมาย
.
.
บันทึกการเดินทางครั้งนี้อาจไม่ได้ละเอียดและสมบูรณ์นัก แต่หวังว่าจากตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวการเดินทางและรูปภาพที่บอกเล่าภาพของประเทศเพื่อนบ้านของเราประเทศนี้ จะทำให้ใครหลายๆ คนอยากลุกขึ้นมาเก็บกระเป๋าและออกเดินทางแบบไม่วิถี Slow Life แต่เป็นวิถีของคนที่อยากออกเดินทางฉบับตามใจฉัน กล้าไม่รู้ กล้าลองเดินออกจากพื้นที่ปลอดภัย หลงออกนอกเส้นทาง และกล้าลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ บางทีเราอาจจะได้ประสบการณ์ของการเที่ยวที่คุ้มค่ามากที่สุดในชีวิตก็ได้
สุดท้ายก่อนจากกันขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเที่ยวนะคะ
เครดิตภาพโดย : Chth Tora & S Y N T H E S I S
[CR] C H A P T E R 1 : นั่งรถไฟไปหลง(รัก)ลาวด้วยงบ 3,000 บาท
'มานั่งรถไฟไปลาวกันเถอะ'
การเดินทางครั้งนี้ของเราเป็นการเดินทางที่ใช้เวลาวางแผนเพียงสองสามวัน โดยตั้งจุดหมายไว้ที่ลาว พาหนะที่ใช้โดยสารคือรถไฟ และงบประมาณที่ใช้ตลอดทั้งทริปคือ 3,000 บาท (ซึ่งแน่นอนว่าในบรรดาพวกเราทั้งหกคนบางคนอาจใช้เกินหรือน้อยกว่างบบ้างตามค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละวัน) กับระยะเวลาสั้นๆเพียง 5 วัน 4 คืน โดยเส้นทางคือเริ่มต้นจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กระโดดขึ้นรถไฟชั้น 3 ไปลงปลายทางที่สถานีหนองคาย นั่งรถโดยสารข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวต่อไปเข้าเวียงจันทร์ แล้วขึ้นรถบัสต่อไปนอนที่วังเวียน 1 คืน เที่ยวในวังเวียงแล้วนั่งรถบัสกลับลงมาที่เวียงจันทร์ นอนพัก 1 คืนในโฮสเทลใกล้ย่านแม่น้ำซอง ก่อนจะกลับลงมาขึ้นรถไฟที่สถานีหนองคายและเดินทางกลับสู่หัวลำโพง
ทริปนี้เป็นการเที่ยวแบบด้นสด พอไปถึงอยากไปที่ไหน ทานอะไรก็เดินหากันเองหรือไม่ก็ถามคนพื้นที่ คนลาวน่ารักและเป็นกันเองเสมอ ยิ่งกับนักท่องเที่ยวแล้วพวกเขามักยินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ ดังนั้นใครที่ไปลาวแล้วไหนๆ ภาษาแม้จะไม่เข้าใจได้อย่างถูกต้องแต่เราก็ยังสามารถคาดเดาและเข้าใจได้ ที่สำคัญคนลาวส่วนมากเข้าใจภาษาไทย ดังนั้นจะไม่เกิดกรณีอย่าง Lost in Translation แน่นอน (:
ในการเที่ยวครั้งนี้สิ่งที่ประทับใจนอกจากจะได้ไปเยือนสถานที่สวยๆ อย่างวังเวียง เมืองที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขาและธรรมชาติ , เวียงจันทร์ เมืองหลวงที่พลุพล่านไปด้วยย่านอาหารอร่อย และสถานที่น่าไปเยือนหลายแห่งแล้ว การเดินทางที่ช้าลงจากการนั่งรถไฟ การใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องเร่งรีบผ่านการเดิน ,ปั่นจักรยานเที่ยวรอบเมืองและแอบออกนอกเส้นทาง(พูดง่ายๆคือลองเดินหลง) ดูบ้าง จะทำให้พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจอยู่มากระหว่างการเดินทางไปถึงจุดหมาย
.
.
บันทึกการเดินทางครั้งนี้อาจไม่ได้ละเอียดและสมบูรณ์นัก แต่หวังว่าจากตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวการเดินทางและรูปภาพที่บอกเล่าภาพของประเทศเพื่อนบ้านของเราประเทศนี้ จะทำให้ใครหลายๆ คนอยากลุกขึ้นมาเก็บกระเป๋าและออกเดินทางแบบไม่วิถี Slow Life แต่เป็นวิถีของคนที่อยากออกเดินทางฉบับตามใจฉัน กล้าไม่รู้ กล้าลองเดินออกจากพื้นที่ปลอดภัย หลงออกนอกเส้นทาง และกล้าลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ บางทีเราอาจจะได้ประสบการณ์ของการเที่ยวที่คุ้มค่ามากที่สุดในชีวิตก็ได้
สุดท้ายก่อนจากกันขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเที่ยวนะคะ
เครดิตภาพโดย : Chth Tora & S Y N T H E S I S