มาถึงกึ่งกลางของซีรีส์กามเทพแล้ว
ก็มีทั้งความชอบและไม่ชอบปะปนกัน
และดำเนินมาเรื่องที่ 5 ซ่อนรักกามเทพ
ครั้งแรกกับละครช่อง 3 ของเชียร์ ฑิฆัมพร และเต้ย พงศกรในละครยุคปัจจุบันเต็มตัว
และทั้งสองคือคนที่คุณหน่อง อรุโณชาเลือกว่าต้องคู่กัน
ในพลอตที่ตั้งใจเพื่อทั้งสองคน ซึ่งเป็นตอนที่หวานสุด มุ๊งมิ๊งสุด
การเดิมพันที่ท้าทายทั้งคนดู คนสร้าง และผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ
เต้ย พงศกรกับ อังค์กูณฑ์หรืออัทธ์
เต้ย พงศกร ชื่อนี้คนก็คิดว่าพระเอกหน้าไทย เล่นแต่ละครย้อนยุค
จะมาเล่นแนวปัจจุบันจะอินไหม ตอนกำไลมาศลองแล้วยังไม่ลงตัว
แม้มาแจมในคิวปิดมาตั้งแต่ต้นเรื่องแต่ยังไม่เต็มตัว แล้วตอนตัวเองจะอินไหม
พอมาถึงบทในตอนตัวเอง เรียกว่าเป็นบทพระเอกที่จับต้องได้และมีเสน่ห์จริง ๆ
อัทธ์เป็นคนที่เข้าใจคนอื่นและเรียนรู้คนอื่นตลอดเวลา ทำให้อัทธ์มองโลกอย่างเป็นจริง
คือไม่ได้สุภาพบุรุษตลอดเวลา มีมุมกวน ๆ มีมุมตลก แต่เมื่อมุมสภาพบุรุษออกมาก็ใช้ได้เต็มที่
บทพระเอกที่แตกต่างและน่าจะดีที่สุดในซีรีส์ทั้งหมดคือ เขาและคนดูเริ่มหลงรักนางเอกพร้อมกัน
บางเรื่องตีกันแทบตายอยู่ ๆ ก็รักกันอย่างไม่เข้าใจ บางเรื่องก็ตั้งหน้าตั้งตารักและจีบอย่างเดียว
บางเรื่องก็ไม่ได้สนใจเลยกว่าจะรักกันก็ท้ายเรื่อง แต่เรื่องนี้พระเอกเริ่มรักนางเอกอย่างมีที่มาที่ไป
และคนดูก็คล้อยตามไปได้กับพระนางและเคมีของคนที่เล่น แต่คนที่เล่นคือเต้ย ทำได้ดีมาก
บทนี้เราได้เห็นเต้ยแสดงได้แตกต่างจากเดิม เต้ยมีความน่ารัก มุมตลกที่ไม่ค่อยเห็นมากในเรื่องอื่น ๆ
บทอัทธ์คงจะเป็นอีกบทหนึ่งที่น่าจดจำเวลาคิดถึงเต้ย นอกจากบักจ่อย สินหรือไอ้ทัพบางระจัน
เชียร์ ฑิฆัมพรกับนันทิสากับออย
เชียร์ ฑิฆัมพร คำแรกที่คนนึกถึงคือแก้วเจ้าจอม หรือใกล้หน่อยก็ตะเภาคมแฝก
การมาเล่นละครในฐานะอิสระแต่ก็เหมือนข้ามช่องครั้งแรกจะเป็นอย่างไรกับบทนี้
แม้การเข้ามาแจมในทุกตอนจะมีบทเชียร์อยู่ในนั้น แต่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้
ต้องมาพิสูจน์กันในตอนของตัวเอง ซึ่งบอกเลยมันคุ้มกับความเสี่ยงของเชียร์จริง ๆ
นันทิสาหรือออย สาวในบริษัทคิวปิดฮัท การอยู่กับแม่และยายทำให้เธอต้องเป็นที่พึ่งให้พวกเขา
แต่ไม่ได้ทำให้เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ จนกลายเป็นไข่ในหินเปลือกบ้าง และมองโลกในมุมของตัวเอง
มีความมโนเพ้อเจ้อปรุงแต่งตามโลกที่ตัวเองเข้าใจ เปิดใจกับโลกใบใหม่ค่อนข้างยาก
นันทิสาในฉบับละครไม่เหมือนในนิยายซึ่งอาจจะขัดใจกันไปบ้าง แต่เป้าหมายเหมือนกัน
ออยก็เป็นสาวน้อยที่บอบบางที่ต้องการใครสักคนปกป้องและดูแล
เรื่องนี้ส่งเชียร์กันอย่างสุด ๆ มีทั้งมุกตลก แปลงโฉมไปในรูปแบบต่าง ๆ แบบที่ไม่ค่อยเห็นมากนัก
ทั้งบทที่ทั้งฟินและตลกในเวลาเดียวกัน บทออยทำให้เชียร์ทำอะไรได้เต็มที่และได้เห็นเชียร์กว้างขึ้นจากบทของออย
เหมือนได้รู้จักเชียร์ผ่านตัวละครได้เต็มที่ เรื่องนี้ได้แม้กระทั่งเห็นสัดส่วนแม้กระทั่งยันแผ่นหลังของเธอ
ความเสี่ยงของผู้จัดก็เดินทางมาถึงคำตอบแล้วว่าผู้จัดคิดถูกที่เลือกสองคนมาซ่อน
และเปิดเผยให้คนดูได้เห็นเขาและเธอในมุมที่มากกว่าเดิม
การเลือกมาลงในตอนนี้ซึ่งเป็นตอนของนักเขียนที่ดังทั้ง 4 หัวใจและคุณชายจุฑาเทพ
ทั้งดวงใจอัคนีและคุณชายรัชชานนท์ กับการปรุงแต่งบทให้กันอย่างเต็มที่
ก็คงจะมีความความหวังกับเรื่องนี้และคู่นี้เหมือนกัน
บรอดคาซท์พาเต้ยมาในแนวละครที่ตัวเองถนัด การทำลายภาพจำเดิม ๆ เป็นสิ่งที่ยาก
แต่การสร้างภาพจำใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่ยากกว่า เต้ยมีความเหมาะสมกับละครพีเรียด
แต่บรอดคาซท์คงไม่สามารถส่งเต้ยได้เต็มกำลังกับแนวนี้
แต่สามารถสร้างเต้ยในแบบละครปัจจุบันได้อย่างที่สุดที่จะทำได้ และมันคงเป็นอีกภาพจำที่คนดูจะจดจำเขา
การตัดสินใจเลือกเชียร์มารับบทที่เหมือนไม่มีอะไร และเชียร์ก็ตอบรับเล่นเรื่องนี้
ความเสี่ยงที่ท้าทาย เพราะอย่างที่ทราบคุณหน่องรู้จักกับเชียร์อยู่แล้ว
บทออยที่ไม่ท้าทายความสามารถการแสดงแต่มันท้าทายคนดู
ว่าคุณจะยอมรับบทนี้ของเชียร์ได้ไหม บางคนก็ว่าบทนี้กินหมูเชียร์เล่นได้อยู่แล้ว
ไม่เห็นมีอะไรท้าทายเลย น่าจะรับละครแรง ๆ หน่อย แต่ผลตอบรับที่ได้ตอนนี้คงไม่ต้องบอกว่าเธอคิดถูก
และคงอยากให้คนดูมองเธอ เหมือนที่ออยมองโลกว่าโลกใบนี้มันกว้างกว่าที่คิด
บทออยที่ไม่มีอะไร แต่มันบทที่อัดแน่นด้วยเสน่ห์ของตัวละครและเสน่ห์ของนักแสดง ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
หวังว่าบทออยจะทำให้คนดูมองเชียร์ให้กว้างกับภาพเดิมที่เคยมองนอกเธอจากแก้วเจ้าจอมหรือตะเภาคมแฝก
มันคงเป็นคำตอบแล้วว่าทำไมเชียร์เล่นบทนี้
เพราะเธออาจบอกว่าคนดูว่าฉันโตแล้ว แต่ฉันก็คนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปขอแค่มองให้กว้างขึ้น
และเชียร์คงพอใจกับละครเรื่องนี้ และละครเรื่องนี้ก็เหมือนสัญญาที่เชียร์จะต้องกลับมาร่วมงานกับคุณหน่องแน่นอน
เมื่อพวกเขาคือนักแสดงที่ถูกซ่อนและมาคู่กัน ให้มาอยู่ในละครซ่อนรักกามเทพ
และได้เวลาเปิดเผยแล้วคงจะทำให้หลงรักคู่นี้ไม่มากก็น้อย และทำให้คนดูมีความสุขที่ได้ดูเรื่องนี้
เมื่อคุณหน่องได้ ซ่อน เชียร์และเต้ยเอาไว้ใน "ซ่อนรักกามเทพ" แล้วเปิดเผยออกมาได้งดงาม
ก็มีทั้งความชอบและไม่ชอบปะปนกัน
และดำเนินมาเรื่องที่ 5 ซ่อนรักกามเทพ
ครั้งแรกกับละครช่อง 3 ของเชียร์ ฑิฆัมพร และเต้ย พงศกรในละครยุคปัจจุบันเต็มตัว
และทั้งสองคือคนที่คุณหน่อง อรุโณชาเลือกว่าต้องคู่กัน
ในพลอตที่ตั้งใจเพื่อทั้งสองคน ซึ่งเป็นตอนที่หวานสุด มุ๊งมิ๊งสุด
การเดิมพันที่ท้าทายทั้งคนดู คนสร้าง และผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ
เต้ย พงศกรกับ อังค์กูณฑ์หรืออัทธ์
เต้ย พงศกร ชื่อนี้คนก็คิดว่าพระเอกหน้าไทย เล่นแต่ละครย้อนยุค
จะมาเล่นแนวปัจจุบันจะอินไหม ตอนกำไลมาศลองแล้วยังไม่ลงตัว
แม้มาแจมในคิวปิดมาตั้งแต่ต้นเรื่องแต่ยังไม่เต็มตัว แล้วตอนตัวเองจะอินไหม
พอมาถึงบทในตอนตัวเอง เรียกว่าเป็นบทพระเอกที่จับต้องได้และมีเสน่ห์จริง ๆ
อัทธ์เป็นคนที่เข้าใจคนอื่นและเรียนรู้คนอื่นตลอดเวลา ทำให้อัทธ์มองโลกอย่างเป็นจริง
คือไม่ได้สุภาพบุรุษตลอดเวลา มีมุมกวน ๆ มีมุมตลก แต่เมื่อมุมสภาพบุรุษออกมาก็ใช้ได้เต็มที่
บทพระเอกที่แตกต่างและน่าจะดีที่สุดในซีรีส์ทั้งหมดคือ เขาและคนดูเริ่มหลงรักนางเอกพร้อมกัน
บางเรื่องตีกันแทบตายอยู่ ๆ ก็รักกันอย่างไม่เข้าใจ บางเรื่องก็ตั้งหน้าตั้งตารักและจีบอย่างเดียว
บางเรื่องก็ไม่ได้สนใจเลยกว่าจะรักกันก็ท้ายเรื่อง แต่เรื่องนี้พระเอกเริ่มรักนางเอกอย่างมีที่มาที่ไป
และคนดูก็คล้อยตามไปได้กับพระนางและเคมีของคนที่เล่น แต่คนที่เล่นคือเต้ย ทำได้ดีมาก
บทนี้เราได้เห็นเต้ยแสดงได้แตกต่างจากเดิม เต้ยมีความน่ารัก มุมตลกที่ไม่ค่อยเห็นมากในเรื่องอื่น ๆ
บทอัทธ์คงจะเป็นอีกบทหนึ่งที่น่าจดจำเวลาคิดถึงเต้ย นอกจากบักจ่อย สินหรือไอ้ทัพบางระจัน
เชียร์ ฑิฆัมพรกับนันทิสากับออย
เชียร์ ฑิฆัมพร คำแรกที่คนนึกถึงคือแก้วเจ้าจอม หรือใกล้หน่อยก็ตะเภาคมแฝก
การมาเล่นละครในฐานะอิสระแต่ก็เหมือนข้ามช่องครั้งแรกจะเป็นอย่างไรกับบทนี้
แม้การเข้ามาแจมในทุกตอนจะมีบทเชียร์อยู่ในนั้น แต่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้
ต้องมาพิสูจน์กันในตอนของตัวเอง ซึ่งบอกเลยมันคุ้มกับความเสี่ยงของเชียร์จริง ๆ
นันทิสาหรือออย สาวในบริษัทคิวปิดฮัท การอยู่กับแม่และยายทำให้เธอต้องเป็นที่พึ่งให้พวกเขา
แต่ไม่ได้ทำให้เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ จนกลายเป็นไข่ในหินเปลือกบ้าง และมองโลกในมุมของตัวเอง
มีความมโนเพ้อเจ้อปรุงแต่งตามโลกที่ตัวเองเข้าใจ เปิดใจกับโลกใบใหม่ค่อนข้างยาก
นันทิสาในฉบับละครไม่เหมือนในนิยายซึ่งอาจจะขัดใจกันไปบ้าง แต่เป้าหมายเหมือนกัน
ออยก็เป็นสาวน้อยที่บอบบางที่ต้องการใครสักคนปกป้องและดูแล
เรื่องนี้ส่งเชียร์กันอย่างสุด ๆ มีทั้งมุกตลก แปลงโฉมไปในรูปแบบต่าง ๆ แบบที่ไม่ค่อยเห็นมากนัก
ทั้งบทที่ทั้งฟินและตลกในเวลาเดียวกัน บทออยทำให้เชียร์ทำอะไรได้เต็มที่และได้เห็นเชียร์กว้างขึ้นจากบทของออย
เหมือนได้รู้จักเชียร์ผ่านตัวละครได้เต็มที่ เรื่องนี้ได้แม้กระทั่งเห็นสัดส่วนแม้กระทั่งยันแผ่นหลังของเธอ
ความเสี่ยงของผู้จัดก็เดินทางมาถึงคำตอบแล้วว่าผู้จัดคิดถูกที่เลือกสองคนมาซ่อน
และเปิดเผยให้คนดูได้เห็นเขาและเธอในมุมที่มากกว่าเดิม
การเลือกมาลงในตอนนี้ซึ่งเป็นตอนของนักเขียนที่ดังทั้ง 4 หัวใจและคุณชายจุฑาเทพ
ทั้งดวงใจอัคนีและคุณชายรัชชานนท์ กับการปรุงแต่งบทให้กันอย่างเต็มที่
ก็คงจะมีความความหวังกับเรื่องนี้และคู่นี้เหมือนกัน
บรอดคาซท์พาเต้ยมาในแนวละครที่ตัวเองถนัด การทำลายภาพจำเดิม ๆ เป็นสิ่งที่ยาก
แต่การสร้างภาพจำใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่ยากกว่า เต้ยมีความเหมาะสมกับละครพีเรียด
แต่บรอดคาซท์คงไม่สามารถส่งเต้ยได้เต็มกำลังกับแนวนี้
แต่สามารถสร้างเต้ยในแบบละครปัจจุบันได้อย่างที่สุดที่จะทำได้ และมันคงเป็นอีกภาพจำที่คนดูจะจดจำเขา
การตัดสินใจเลือกเชียร์มารับบทที่เหมือนไม่มีอะไร และเชียร์ก็ตอบรับเล่นเรื่องนี้
ความเสี่ยงที่ท้าทาย เพราะอย่างที่ทราบคุณหน่องรู้จักกับเชียร์อยู่แล้ว
บทออยที่ไม่ท้าทายความสามารถการแสดงแต่มันท้าทายคนดู
ว่าคุณจะยอมรับบทนี้ของเชียร์ได้ไหม บางคนก็ว่าบทนี้กินหมูเชียร์เล่นได้อยู่แล้ว
ไม่เห็นมีอะไรท้าทายเลย น่าจะรับละครแรง ๆ หน่อย แต่ผลตอบรับที่ได้ตอนนี้คงไม่ต้องบอกว่าเธอคิดถูก
และคงอยากให้คนดูมองเธอ เหมือนที่ออยมองโลกว่าโลกใบนี้มันกว้างกว่าที่คิด
บทออยที่ไม่มีอะไร แต่มันบทที่อัดแน่นด้วยเสน่ห์ของตัวละครและเสน่ห์ของนักแสดง ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
หวังว่าบทออยจะทำให้คนดูมองเชียร์ให้กว้างกับภาพเดิมที่เคยมองนอกเธอจากแก้วเจ้าจอมหรือตะเภาคมแฝก
มันคงเป็นคำตอบแล้วว่าทำไมเชียร์เล่นบทนี้
เพราะเธออาจบอกว่าคนดูว่าฉันโตแล้ว แต่ฉันก็คนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปขอแค่มองให้กว้างขึ้น
และเชียร์คงพอใจกับละครเรื่องนี้ และละครเรื่องนี้ก็เหมือนสัญญาที่เชียร์จะต้องกลับมาร่วมงานกับคุณหน่องแน่นอน
เมื่อพวกเขาคือนักแสดงที่ถูกซ่อนและมาคู่กัน ให้มาอยู่ในละครซ่อนรักกามเทพ
และได้เวลาเปิดเผยแล้วคงจะทำให้หลงรักคู่นี้ไม่มากก็น้อย และทำให้คนดูมีความสุขที่ได้ดูเรื่องนี้