เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่แล้ว ขับรถไปได้สักระยะ รถดับที่สี่แยก
สตาร์ทขึ้นมาใหม่ ก็เลยขับไปอู่ที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที เพราะเคยเอารถมาซ่อมที่นี่
ช่างบอกปั้มติ๊ก เสียต้องเปลี่ยนใหม่ ค่าเปลี่ยนพร้อมค่าแรงและค่าเติมน้ำมัน 5,100 บาท แต่ช่วงที่เปลี่ยนไม่ได้อยู่ดู เพราะต้องทิ้งรถไว้
และกลับมาเอาในวันรุ่งขึ้น มีบิลเขียนไว้ให้ ว่า ค่าป็มติกใหม่ 3,800 บาท ที่เหลือค่าแรง บวกค่าน้ำมัน 300เป็น 5,100
ปรากฎว่าใช้รถมาถึงเมื่อวาน 19-05-2560 ยังไม่ถึง  2เดือน ไปธุระในตัวเมือง พอจะกลับ รถสตาร์ทไม่ติด
ก็มีอาการแบบที่เป็นคราวที่แล้ว คือ แบตเตอรี่มีไฟ แต่สตาร์ท ฉึง ฉึง ฉึงๆๆๆๆๆๆๆ และเครื่องยนต์ก็ไม่ติดขึ้นมา
นึกถึงอู่ที่ซ่อมก่อนเลย เพราะไว้ใจ เชื่อใจว่าเป็นอู่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด
อู่ส่งรถมาลาก มาถึงอู่ เย็นแล้ว ก็เลยต้องทิ้งรถไว้
บ่ายๆ อีกวันโทรไปถาม เจ้าของอู่บอกว่า ปั้มติ๊กพัง เพราะน้ำมันในถังหมด
เจ้าของอู่อธิบายว่า ถังรถเบนซ์รุ่นนี้  
มันมีถังน้ำมัน 2 ถัง ซ้ายขวา และเชื่อมด้วยท่อน้ำมัน ตัวปั้มติ๊ก อยู่ติดกับถังด้านขวา
เจ้าของอู่บอกว่า พอท่อเชื่อมแตก น้ำมันจากถังด้านซ้ายไม่มาที่ถังด้านขวา พอน้ำมันไม่มาปั้มติ๊กทำงานไปเรื่อยๆจนไหม้
หรือปั้มติ๊กทำงานจนอุปกรณ์ข้างในเสีย ผมฟังแล้วงงๆ เพราะถ้ารถเบนซ์ทุกคัน
น้ำมันหมดในระหว่างที่ขับ ปั้มติ๊กก็ต้องพัง เป็นแบบนี้ทุกคันหรือครับ
เพราะในกรณีผมก็คล้ายกับน้ำมันหมด คือน้ำมันจากถังซ้ายมาถังขวาไม่ได้ ปั้มติ๊กจึงพัง
ขอให้ท่านผู้รู้ เพื่อๆพี่ๆน้องๆ มาช่วยกันไขข้อข้องใจหน่อยครับ
เพราะวันจันทร์ 22-05-2017 ไปรับรถจะได้มีข้อไปโต้แย้ง เพราะเพิ่งเปลี่ยนปั้มมาได้ไม่ถึง 2 เดือนครับ
หมายเหตุ รถคันนี้เป็น BENZ C-180 year 1993
ขอขอบพระคุณมากสำหรับคำตอบครับ