ถูกบริษัทtrueเลิกจ้างไม่ให้ลาออก โดยอ้างว่ามีความผิดเรื่องการทำงาน ทำให้ไม่ได้รับสิทธิเงินช่วยเหลือ30%หรือ50%กรณีว่างงาน

ผมเคยเป็นพนักงานtrue แผนกขายอินเตอร์เน็ทบ้าน แต่ถูกบริษัทtrueเลิกจ้างโดยไม่ให้เขียนใบลาออก โดยอ้างว่ามีความผิดเรื่องการทำงาน โดยกล่าวหาว่าผมใช้เอกสารปลอมและแจ้งข้อมูลเท็จในการใช้โปรแกรมบริษัท
เพราะผมต้องรับเอกสารสำเนาบัตรประชาชนของคนสมัครแนบใบคำขอใช้บริการอินเตอร์เน็ทและคีย์ออร์เดอร์เพื่อนัดติดตั้งผ่านโปรแกรมของบริษัทเข้าฐานข้อมูล ซึ่งกรณีนี้ ลูกค้าที่สมัครใช้บริการมีแบล็คลิสต์ค้างชำระ ลูกค้าจึงเอาสำเนาบัตรประชาชนบุคคลอื่นมาสมัครแทน โดยบริษัทอ้างว่ามีลูกค้าร้องเรียนว่าถูกแอบอ้างเอาชื่อของตนเองมาสมัครใช้บริการ โดยบริษัทtrueตั้งกรรมการเรียกผมสอบสวนและเลิกจ้างแบบมีความผิดตาม พรบ. คอมพิวเตอร์และใช้เอกสารปลอม โดยไม่ให้เขียนใบลาออก ทำให้ไม่ได้รับสิทธิเงินช่วยเหลือ30%หรือ50%ของเงินเดือน...กรณีว่างงานหรือถูกเลิกจ้างแบบไม่มีความผิด ...**ผมขอความเห็นหรือคำแนะนำด้วยครับ ว่ากรณีนี้ผมถูกกลั่นแกล้งทำให้ไม่ได้รับสิทธิประกันสังคม ใหม??**

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
"ผมต้องรับเอกสารสำเนาบัตรประชาชนของคนสมัครแนบใบคำขอใช้บริการอินเตอร์เน็ทและคีย์ออร์เดอร์เพื่อนัดติดตั้งผ่านโปรแกรมของบริษัทเข้าฐานข้อมูล ซึ่งกรณีนี้ ลูกค้าที่สมัครใช้บริการมีแบล็คลิสต์ค้างชำระ "   ->   คุณเป็นคนคีย์ข้อมูลเข้าระบบ  และระบบแจ้งว่าลูกค้าคนนี้เป็น black list

"ลูกค้าจึงเอาสำเนาบัตรประชาชนบุคคลอื่นมาสมัครแทน"  ->  แสดงว่าคุณรู้อยู่ว่าลูกค้ามีปัญหา  กลับไปเอาเอกสารคนอื่นมาสมัครแทน  แทนที่จะบอกลูกค้าไปว่าสมัครไม่ได้

"บริษัทอ้างว่ามีลูกค้าร้องเรียนว่าถูกแอบอ้างเอาชื่อของตนเองมาสมัครใช้บริการ"   ->  แสดงว่าไปเอาบัตรประชาชนใครมาสวมโดยที่เจ้าตัวเค้าไม่รู้เรืองด้วย   ถ้าลูกค้าคนที่ติด black list เป็นคนไปหาเพื่อนหรือญาติ  มาสมัครแทนเองโดยเจ้าตัวยินยอม  มันคงไม่เกิดกรณีแบบนี้  

ลองคิดดูครับว่าคุณทำผิด  หรือไม่ผิด  ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่