บริษัทของดิฉันได้ยื่นคำร้องขอคืนภาษีนิติบุคคลของปี 2556 (รอบบัญชีบริษัทคือ กรกฎาคม 2556 - มิถุนายน 2557) โดยบัญชีได้ยื่นคำร้องเมื่อ 14 ตุลาคม 2557 จำนวนเงินที่ขอคืนคือ 3แสนกว่าบาท และต่อมา 18 ธันวาคม 2557 เจ้าหน้าที่สรรพากร 3คนได้เดินทางมาตรวจบริษัท และบริษัทเข้าใจและมีการพูดคุยมาตลอดว่าเป็นการตรวจเพราะเราขอคืนภาษี บัญชีคนเก่าที่พูดคุยกับสรรพากรก็ยืนยันว่ามาตรวจเพราะเพราะขอคืนภาษี และสรรพากรขอเอกสารบัญชีย้อนหลัง 3ปี (2555, 2556, 2557) การพูดคุยต่อเนื่องและมีการขอเอกสารเพิ่มเติมมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้เราจ่ายค่าปรับที่ บริษัทลืมยื่นภงด 51 เมื่อตอนเปิดบริษัทแรกๆ รวมดอกเบี้ยคูณจำนวนเดือนผ่านมาหลายปีและอื่นรวมเป็นค่าปรับ 190,000 บาท ดิฉันได้สอบถามถึงเงินที่ขอคืนไว้ว่าหักกันไปได้ไหม ทางเจ้าหน้าที่บอกมันคนละส่วนกันและให้จ่ายค่าปรับไปก่อน ดิฉันจึงทำการจ่ายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ในระหว่างนั้นก็ให้บัญชีคอยติดตามเงินคืนภาษี และจากต้นปี 2558 ถึงปัจจุบันบริษัทก็ได้เปลี่ยนบัญชีไปหลายคนค่ะ
จนกระทั่งปีนี้ บริษัทเตรียมการจะย้ายออฟฟิศ จึงได้สอบถามข้อมูลทางบัญชีพบว่าเรายังไม่ได้เงินภาษีคืน ดิฉันจึงส่ง email ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เคยมาตรวจและเก็บค่าปรับเราไปว่าเราจะได้เงินคืนภาษีเมื่อใดเพราะผ่านมาเกือบ 3ปีแล้ว แต่เจ้าหน้ากลับตอบมาเพียงว่าขณะนี้เขาไม่ได้ดูบริษัทดิฉันแล้ว หากจะขอภาษีคืนให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านใหม่พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ ดิฉันโทรหาเจ้าหน้าท่านใหม่ก็แจ้งว่าท่านไม่เคยทราบเรื่องของบริษัทดิฉันมาก่อน แต่หากเจ้าหน้าเก่าเคยไปตรวจมาแล้วก็ควรจะให้คนเก่าเป็นคนทำคืนภาษีให้ พร้อมทั้งถามถึงวันที่ยื่นฎีกาคืนภาษีเพื่อที่เจ้าหน้าที่ท่านใหม่จะสอบถามให้ ดิฉันจึงถามไปที่เจ้าหน้าที่คนเก่าว่าได้ยื่นฎีกาขอคืนภาษีไปหรือยังและโอนงานให้เจ้าหน้าคนใหม่ไปเมื่อไร แต่ เจ้าหน้าที่เก่ากลับตอบมา อย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือว่า เขาไม่เคยตรวจปีที่เราขอคืนภาษี เขาตรวจแค่ 1ปี และไม่ได้ตรวจเรื่องการขอคืนภาษีมาตรวจสภาพกิจการเท่านั้น ดิฉันจึงเถียงไปว่าดิฉันอยู่ในเหตุการณ์ตลอด 3 เดือนในปี 2557-2558 ตลอดเวลาทางเจ้าหน้าที่ขอเอกสารเกี่ยวข้องกับที่เราขอคืนภาษี (ขอเอกสาร 2555 2556 2557 = 3ปี) และใน 3 ปีที่ผ่านมาดิฉันก็มีการโทรตามเงินคืนภาษีเป็นระยะ แต่ไม่กดดันเพราะให้เกียรติเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด หากสรรพากรไม่ได้มาในเรื่องที่เราขอคืนภาษีทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เราทวงเงินคืนภาษี และดิฉันก็ยืนยันว่าส่งเอกสารให้ถึงปี 2557 เมื่อดิฉันเริ่มท้าวความถึงข้อมูลในอดีต ทางเจ้าหน้าคนเก่านี้เริ่มไม่พอใจและตะโกนมาว่า เขาไม่ได้ตรวจปี 2557 และกระแทกหูโทรศัพท์ไป ดิฉันโทรกลับสรรพากรทันที พบว่าท่านอื่นรับสาย พอขอให้โอนไปที่คนนี้ก็บอกว่าเจ้าหน้าท่านนี้ไม่ว่างคุยสาย ถ้าไม่ใช่บริษัทในไลน์เขาๆก็จะไม่คุย
ในวันเดียวกันกับที่เขากระแทกโทรศัพท์ ดิฉันได้ส่ง email หลักฐานที่ได้พูดคุยตอนมาตรวจบริษัทและตอนที่ส่งเอกสารให้ทาง email ซึ่งมีระบุชัดเจนว่าเป็นการส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขอคืนภาษี ส่งหลักฐานไปเป็น email 3ฉบับ ยังไม่มีการตอบกลับใดๆจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว
ดิฉันจึงต้องมาตั้งคำถามในPantip นี้ เพื่อขอความรู้จากท่านผู้รู้ค่ะ ว่าดิฉันควรต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องร้องเรียนที่ไหน ดิฉันต้องส่งเอกสารให้ตรวจใหม่หรือไม่ในเมื่อได้เคยส่งเอกสารให้สรรพากรตรวจสอบไปนานแล้ว ดิฉันค้นข้อมูลใน Pantip พบว่าเคยมีคนมาถามในเรื่องนี้และบริษัทสามารถคิดดอกเบี้ยตามมาตรา 4 ทศ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับ 161 ที่ให้ดอกเบี้ยผู้ขอคืนภาษีในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือเท่ากับปีละ 12% ได้ คำถามคือดิฉันจะต้องคิดดอกเบี้ยตั้งแต่เมื่อไรคะ ขั้นตอนเป็นอย่างไร ดิฉันควรต้องติดต่อเจ้าหน้าคนเก่า หรือคนใหม่
ขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับทุกๆคำตอบค่ะ หากท่านใดมีประสบการณ์ดำเนินคดีในเรื่องนี้ หรือเป็นสำนักงานกฏหมายสามารถติดต่อและคิดค่าใช้จ่ายมาได้ค่ะ
สอบถามและคำแนะนำการขอคืนภาษีนิติบุคคล กรณีขอคืนมาเกือบ 3ปีต่อมาเจ้าหน้าที่กลับคำพูดว่าไม่เคยตรวจ และโอนงานให้คนอื่นค่ะ
จนกระทั่งปีนี้ บริษัทเตรียมการจะย้ายออฟฟิศ จึงได้สอบถามข้อมูลทางบัญชีพบว่าเรายังไม่ได้เงินภาษีคืน ดิฉันจึงส่ง email ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เคยมาตรวจและเก็บค่าปรับเราไปว่าเราจะได้เงินคืนภาษีเมื่อใดเพราะผ่านมาเกือบ 3ปีแล้ว แต่เจ้าหน้ากลับตอบมาเพียงว่าขณะนี้เขาไม่ได้ดูบริษัทดิฉันแล้ว หากจะขอภาษีคืนให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านใหม่พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ ดิฉันโทรหาเจ้าหน้าท่านใหม่ก็แจ้งว่าท่านไม่เคยทราบเรื่องของบริษัทดิฉันมาก่อน แต่หากเจ้าหน้าเก่าเคยไปตรวจมาแล้วก็ควรจะให้คนเก่าเป็นคนทำคืนภาษีให้ พร้อมทั้งถามถึงวันที่ยื่นฎีกาคืนภาษีเพื่อที่เจ้าหน้าที่ท่านใหม่จะสอบถามให้ ดิฉันจึงถามไปที่เจ้าหน้าที่คนเก่าว่าได้ยื่นฎีกาขอคืนภาษีไปหรือยังและโอนงานให้เจ้าหน้าคนใหม่ไปเมื่อไร แต่ เจ้าหน้าที่เก่ากลับตอบมา อย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือว่า เขาไม่เคยตรวจปีที่เราขอคืนภาษี เขาตรวจแค่ 1ปี และไม่ได้ตรวจเรื่องการขอคืนภาษีมาตรวจสภาพกิจการเท่านั้น ดิฉันจึงเถียงไปว่าดิฉันอยู่ในเหตุการณ์ตลอด 3 เดือนในปี 2557-2558 ตลอดเวลาทางเจ้าหน้าที่ขอเอกสารเกี่ยวข้องกับที่เราขอคืนภาษี (ขอเอกสาร 2555 2556 2557 = 3ปี) และใน 3 ปีที่ผ่านมาดิฉันก็มีการโทรตามเงินคืนภาษีเป็นระยะ แต่ไม่กดดันเพราะให้เกียรติเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด หากสรรพากรไม่ได้มาในเรื่องที่เราขอคืนภาษีทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เราทวงเงินคืนภาษี และดิฉันก็ยืนยันว่าส่งเอกสารให้ถึงปี 2557 เมื่อดิฉันเริ่มท้าวความถึงข้อมูลในอดีต ทางเจ้าหน้าคนเก่านี้เริ่มไม่พอใจและตะโกนมาว่า เขาไม่ได้ตรวจปี 2557 และกระแทกหูโทรศัพท์ไป ดิฉันโทรกลับสรรพากรทันที พบว่าท่านอื่นรับสาย พอขอให้โอนไปที่คนนี้ก็บอกว่าเจ้าหน้าท่านนี้ไม่ว่างคุยสาย ถ้าไม่ใช่บริษัทในไลน์เขาๆก็จะไม่คุย
ในวันเดียวกันกับที่เขากระแทกโทรศัพท์ ดิฉันได้ส่ง email หลักฐานที่ได้พูดคุยตอนมาตรวจบริษัทและตอนที่ส่งเอกสารให้ทาง email ซึ่งมีระบุชัดเจนว่าเป็นการส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขอคืนภาษี ส่งหลักฐานไปเป็น email 3ฉบับ ยังไม่มีการตอบกลับใดๆจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว
ดิฉันจึงต้องมาตั้งคำถามในPantip นี้ เพื่อขอความรู้จากท่านผู้รู้ค่ะ ว่าดิฉันควรต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องร้องเรียนที่ไหน ดิฉันต้องส่งเอกสารให้ตรวจใหม่หรือไม่ในเมื่อได้เคยส่งเอกสารให้สรรพากรตรวจสอบไปนานแล้ว ดิฉันค้นข้อมูลใน Pantip พบว่าเคยมีคนมาถามในเรื่องนี้และบริษัทสามารถคิดดอกเบี้ยตามมาตรา 4 ทศ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับ 161 ที่ให้ดอกเบี้ยผู้ขอคืนภาษีในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือเท่ากับปีละ 12% ได้ คำถามคือดิฉันจะต้องคิดดอกเบี้ยตั้งแต่เมื่อไรคะ ขั้นตอนเป็นอย่างไร ดิฉันควรต้องติดต่อเจ้าหน้าคนเก่า หรือคนใหม่
ขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับทุกๆคำตอบค่ะ หากท่านใดมีประสบการณ์ดำเนินคดีในเรื่องนี้ หรือเป็นสำนักงานกฏหมายสามารถติดต่อและคิดค่าใช้จ่ายมาได้ค่ะ