การเตรียมตัวสำหรับไปเที่ยว Universal Studio
1.ตื่นแต่เช้าไปให้ทันตอนเปิด 10.00-19.00น. ตื่นสาย ไปช้า คนแน่นมาก รอเล่นนาน เครื่องเล่นบางอันต้องรอ 30 นาทีถึง 1 ชม.เดี๋ยวจะเล่นไม่ครบทุกอัน
2.พกขวดน้ำพลาสติกขนาดเล็กไปด้วย มีก๊อกเติมน้ำดื่มทั่วทุกจุดใน Universal Studio อย่าพกขวดใหญ่ หนัก อย่าลืมว่าเราต้องแบกทั้งวัน
3.เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย สำหรับเครื่องเล่นที่ต้องเปียกน้ำ เช่น Waterworld และ Jurassic Park Rapids Adventure เพราะซื้อที่นี่แพงมากตัวละ 125 บาท หรือ $5 **จริง ๆ แล้วไม่เปียกมากเท่าไร แค่ชุ่ม ส่วน waterworld สามารถเลือกที่นั่งได้ เช่น เก้าอี้สีฟ้าอาจจะโดนน้ำนิดหน่อย ส่วนเก้าอี้สีเขียวไม่โดนน้ำ ขึ้นอยู่กับการเอนเตอร์เทนของคนเล่น**
4.เตรียมร่มพับได้ติดกระเป๋าไว้ เผื่อฝนตก เพราะอากาศที่นี่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวตก ฝนตกแดดออกก็บ่อย
5.รองเท้า เสื้อผ้า ต้องพร้อมสำหรับการเดินเที่ยวทั้งวัน ใส่ชุดสบาย ๆ ไม่ลุ่มล่าม
6.Food center มีอยู่ทั่วไป ต้องหาช่วงเวลาที่คนไม่เยอะมาก
7.หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวในวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะคนจะเยอะมาก
8.เตรียมเงินไปให้พร้อม ใหญ่ที่สุดขอให้เป็นแค่แบงก์ $100 เพราะบางคนแลกมาจากไทยได้แบงก์ $1,000 มา ขอบอกก่อนว่าร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่เค้าไม่รับกันนะคะ เพราะมันทอนยาก ขนาดไปแลกที่ Money Exchange เค้ายังไม่มีให้แลกเลย
การเดินทาง
ให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงหรือสีเหลือง แล้วไปลงสุดสถานี Habourfront เดินเข้าไปยังห้าง Vivocity จากนั้นขึ้นไปชั้น 3 หากใครไม่ได้ใช้บัตร EZ-Link ในการเดินทาง ต้องไปซื้อตั๋วเข้าเกาะก่อน คนละ $4 หรือ 100 บาท เดินทางโดยรถไฟฟ้า ส่วนใครที่ใช้บัตรโดยสาร EZ-Link ก็สามารถแตะบัตรเข้าไปได้เลยจ้า จากนั้นให้เราลงสถานีแรก คือ Waterfront Station เดินลงไปก็จะเป็นกลุ่มคนเดินไปทางเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็ไป Universal กันทั้งนั้นแหล่ะจ้า เดินไปนิดเดียวก็จะเจอกับเจ้าลูกโลกยักษ์ อย่าเสียเวลาถ่ายรูปนาน ให้รีบต่อแถวเข้าไปเลย
เล่นอะไรใน Universal Studio Singapore
ใครที่ตั้งใจมาเที่ยวสิงคโปร์แล้วต้องไม่พลาดที่จะไปเล่นเครื่องเล่นที่ Universal Studio สวนสนุกระดับโลก สำหรับการซื้อบัตรเข้าชมนั้น ให้เดินทางไปซื้อที่ Sea wheel ในย่าน Chinatown ราคาจะถูกกว่าซื้อหน้างาน ล่าสุดที่ไปซื้อคือ ผู้ใหญ่ *$64 เด็ก *$45 จากราคาปกติถ้าซื้อที่ Universal จะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ $74 เด็ก $54 ซึ่งถือว่าถูกกว่ามาก ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี
*พนักงานแจ้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาในเร็ว ๆ นี้
ปล.เดี๋ยวมาแปะลิงก์การเดินทางไป Seawheel ให้ด้านล่างนะคะ
Madagascar โซนการ์ตูนจากมาดากาสการ์
1. Madagascar: A Crate Adventure หรือนั่งเรือชมตัวการ์ตูนมากมายจาก Madagascar ใครมีลูกต้องไม่พลาด รับรองเด็ก ๆ ชอบทุกคนและไม่น่ากลัวด้วย (เด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 80 เซนติเมตร เล่นได้นะจ๊ะ)
2. King Julien's Beach Party-Go-Round ก็คือ ม้าหมุนสำหรับเด็ก ๆ มีสัตว์จากการ์ตูน Madagascar มากมายให้เด็ก ๆ ได้เลือกนั่ง อย่าลืมคาดเข็มขัดด้วย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ หากใครใส่กระโปรงไปเล่นก็ต้องนั่งค่อมนะ ไม่อย่างนั้นเค้าไม่อนุญาตให้นั่ง
Far Far Away โซนการ์ตูนแอนนิเมชั่น Shrek และเจ้าหญิง Fiona
1. Enchanted Airways (จำกัดความสูงของเด็กที่ 92 เซนติเมตรขึ้นไป) เป็น Roller coaster ขนาดเล็ก เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี
2. Shrek 4D Adventure ที่จะพาเราไปสัมผัสกับฉากในการ์ตูนที่น่าตื่นเต้น เหมือนจริงจากแว่นตา 4D เก้าอี้ที่โยกได้ น้ำที่กระเด็นใส่ตัวเราจริงๆ สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
3. Puss In Boot's Giant Journey (เด็กที่มีความสูง 100 เซนติเมตรขึ้นไปเล่นได้) เป็นอีกหนึ่ง Roller coaster ที่ไม่ควรพลาด เสมือนเรานั่งในกระเช้าที่จะพาเราไปตามเถาว์ของต้นถั่วยักษ์ เพื่อตามล่าหาห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ รับรองสนุกและเด็ก ๆ ต้องอยากกลับไปเล่นรอบ 2 แน่นนอน เพราะนั่งไม่ถึง 3 นาที แต่รอ 30 นาทีนี่สิ ไม่ไหวนะ ต้องไปให้เร็ว หรือเลี่ยงช่วงคนเยอะ ประมาณเที่ยงไปถึงบ่าย
The Lost World โซนไดโนเสาร์
1. WaterWorld การแสดงโชว์ของสตั๊นแมน ที่พูดได้เลยว่าทุกคนเก่งมาก ทั้งปีน กระโดน ต่อสู้ หลบระเบิด ขี่เจ็ทสกีในน้ำ(สถานที่แคบแต่ขี่กันเก่งมาก) เอฟเฟคเสียงระเบิด ปืน ไฟ เหมือนดูในหนังเลย โซนนี้ถ้าอยากดูใกล้ๆ ตรงที่นั่งสีฟ้าอาจจะเปียกนิดนึง ถ้ากลัวเปียกก็เลือกที่นั่งสีเขียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับนักแสดง เพราะช่วงก่อนการแสดงเริ่ม จะมีการเอนเตอร์เทนคนดู โดยการใช้กระบอกฉีดน้ำหรือสาดน้ำใส่คนดู เพื่อเรียกเสียงฮา การแสดงจะมี 2 ช่วง เค้าจะตั้งป้ายให้เรารู้ว่ามีเวลาไหนบ้าง
2. Canopy Flyer เครื่องล่อนไดโนเสาร์นกยักษ์ (เด็กสูง 92 เซนติเมตรขึ้นไป) เป็นที่นั่งเดี่ยว แบ่งเป็นฝั่งละ 2 คนหันหลังชนกัน ใน 1 เครื่องล่อนจะมี 4 ที่นั่ง เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่คนต่อแถวค่อนข้างเยอะ ใช้เวลาอย่างน้อย 30นาที ถึง 1 ชม. ในช่วงที่คนเยอะๆ
3. Dino-Soarin เด็ก ๆ ชอบแน่นอน เพราะเราจะขึ้นไปนั่งในนกยักษ์และบินเป็นวงกลม อย่าลืมกดปุ่มให้บินด้วยนะ บางคนเห็นคนอื่นบิน ก็บ่นว่าทำไมของตัวเองไม่บินเลย มันต้องกดปุ่มแล้วค้างไว้ กดแล้วปล่อยมันก็ล่อนลง
4. Jurassic Park Rapids Adventure (เด็กสูง 107 เซนติเมตรขึ้นไป) ต้องบอกว่าห้ามพลาดการล่องเก่งดูไดโนเสาร์ มีความหวาดเสียวตอนท้ายๆ ด้วย แต่ไม่บอกว่าคืออะไร ต้องไปเล่นกันเอาเอง เครื่องเล่นนี้จะเปียกนิด ๆแต่ไม่มาก ใครกลัวเปียกให้ใส่เสื้อกันฝนด้วย
5. Amber Rock Climb ปีนหน้าผาโครงกระดูกไดโนเสาร์ ใครชอบก็ไปลองเล่นกันได้เลยจ้า
Ancient Egypt โซนอียิปต์
1. Revenge of the Mummy (เด็กสูง 122 เซนติเมตร ขึ้นไป) เป็นอีกหนึ่ง Roller coaster ที่ห้ามพลาด มีทั้งไต่ระดับความสูง เอียงซ้ายขวา ตกแบบเฉียบพลันและถอยหลัง นอกจากนั้นยังมีฉากการถูกมัมมี่ไล่ล่าเหมือนในหนังเลย มีคำเตือนบอกผู้เล่นต้องมีสุขภาพพร้อม ใครกลัวมาก ๆ ก็อย่าเข้าไปเลยนะจ๊ะ
2. Treasure Hunters เป็นการขับรถจิ๊บโบราณไปตามรางที่เค้ากำหนดให้ แต่ต้องขับเอง เด็ก ๆ ชอบแน่นอนค่ะ
Sci-Fi-City โซนรถไฟเหาะตีลังกา ห้ามพลาดเด็ดขาด
1. Battlestar Galactica : Human (Red Track) (เด็กสูง 125 เซนติเมตรขึ้นไป) Roller coaster สีแดงที่สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้เล่นไม่น้อย ถ้าไปวันธรรมดาคนไม่เยอะ ต่อแถวไม่นาน ประมาณ 20-25 นาที ก่อนเล่นต้องฝากกระเป๋าและสัมภาระในตู้ Locker ก่อน ตู้จะอยู่ใต้เครื่องเล่น ฝากฟรี 65 นาที จากนั้นจะคิดตามราคาตู้ มีตั้งแต่ $2 ขึ้นไป งานนี้ไม่มีใครเล่นกันเราเลย โชว์เดี่ยว ไม่น่ากลัวเนื่องจากมีพื้นให้เราเหยียบเลยไม่ค่อยหวาดเสียว
2. Battlestar Galactica : Cylon (Grey Track) (เด็กสูง 125 เซนติเมตรขึ้นไป) เป็น Roller coaster ที่หวาดเสียวมากกว่าสีแดง เนื่องจากเท้าเราจะลอยกลางอากาศ ไม่มีพื้นวางเท้า ทำให้เห็นพื้นเวลาเล่น นอกจากนั้นยังหมุน เอียง ตีลังกา บิดเกลียว พูดแล้วอาจไม่เห็นภาพ ต้องไปลองกันเอาเอง บอกเลยสนุกมาก
3. Transformers The Ride : The Ultimate 3D Battle (เด็กสูง 102 เซนติเมตรขึ้นไป) บอกได้คำเดียวว่าสนุกมากและห้ามพลาด ชอบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถ้าพาลูกไปพูด 3 วันก็ไม่จบ
New York โซนนิวยอร์ค
1. Sesame Street Spaghetti Space Chase (เด็กสูง 92 เซนติเมตรขึ้นไป) ว่ากันว่าเป็น Sesame Street แห่งแรกแห่งเดียวในโลกที่เพิ่งเปิดให้บริการ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการความหวือหวา หวาดเสียว เป็นการนั่งรถพจญภัยในห้วงอวกาศ มีดวงดาวระยิบระยับ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้คือเครื่องเล่นที่ห้ามพลาด หากใครพาเด็ก ๆ ไปอาจจะต้องตามใจกันบ้าง บางอย่างก็ต้องต่อคิวและเล่นกับเค้า แม้ว่าผู้ใหญ่อาจจะไม่อยากเล่น ส่วนของผู้ใหญ่เอง หลายเครื่องเล่นเด็ก ๆ ก็ขึ้นไม่ได้ ดังนั้นต้องวางแผนกันดี ๆ ว่าจะเล่นอะไรบ้าง คิดคร่าว ๆ ถ้าเราต้องเล่นทั้ง 16 เครื่องเล่นนี้ ใช้เวลาในการต่อแถว 30 นาทีโดยเฉลี่ย เราจะต้องใช้เวลาทั้งหมด 8 ชม. ดังนั้นให้ไปแต่เช้า เพื่อที่จะได้มีเวลาเล่นและถ่ายรูปให้จุใจนะคะ
ปล.เรายังเล่นไม่ครบและมีอีกหลายอย่างที่อยากกลับไปเล่นอีก ต้องรอติดตามว่าจะได้กลับไปอีกเมื่อไหร
[CR] ไป Universal Studio Singapore ต้องเตรียมตัวอย่างไร ซื้อตั๋วถูกที่ไหนและต้องเล่นอะไรบ้าง???
1.ตื่นแต่เช้าไปให้ทันตอนเปิด 10.00-19.00น. ตื่นสาย ไปช้า คนแน่นมาก รอเล่นนาน เครื่องเล่นบางอันต้องรอ 30 นาทีถึง 1 ชม.เดี๋ยวจะเล่นไม่ครบทุกอัน
2.พกขวดน้ำพลาสติกขนาดเล็กไปด้วย มีก๊อกเติมน้ำดื่มทั่วทุกจุดใน Universal Studio อย่าพกขวดใหญ่ หนัก อย่าลืมว่าเราต้องแบกทั้งวัน
3.เตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย สำหรับเครื่องเล่นที่ต้องเปียกน้ำ เช่น Waterworld และ Jurassic Park Rapids Adventure เพราะซื้อที่นี่แพงมากตัวละ 125 บาท หรือ $5 **จริง ๆ แล้วไม่เปียกมากเท่าไร แค่ชุ่ม ส่วน waterworld สามารถเลือกที่นั่งได้ เช่น เก้าอี้สีฟ้าอาจจะโดนน้ำนิดหน่อย ส่วนเก้าอี้สีเขียวไม่โดนน้ำ ขึ้นอยู่กับการเอนเตอร์เทนของคนเล่น**
4.เตรียมร่มพับได้ติดกระเป๋าไว้ เผื่อฝนตก เพราะอากาศที่นี่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวตก ฝนตกแดดออกก็บ่อย
5.รองเท้า เสื้อผ้า ต้องพร้อมสำหรับการเดินเที่ยวทั้งวัน ใส่ชุดสบาย ๆ ไม่ลุ่มล่าม
6.Food center มีอยู่ทั่วไป ต้องหาช่วงเวลาที่คนไม่เยอะมาก
7.หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวในวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะคนจะเยอะมาก
8.เตรียมเงินไปให้พร้อม ใหญ่ที่สุดขอให้เป็นแค่แบงก์ $100 เพราะบางคนแลกมาจากไทยได้แบงก์ $1,000 มา ขอบอกก่อนว่าร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่เค้าไม่รับกันนะคะ เพราะมันทอนยาก ขนาดไปแลกที่ Money Exchange เค้ายังไม่มีให้แลกเลย
การเดินทาง
ให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงหรือสีเหลือง แล้วไปลงสุดสถานี Habourfront เดินเข้าไปยังห้าง Vivocity จากนั้นขึ้นไปชั้น 3 หากใครไม่ได้ใช้บัตร EZ-Link ในการเดินทาง ต้องไปซื้อตั๋วเข้าเกาะก่อน คนละ $4 หรือ 100 บาท เดินทางโดยรถไฟฟ้า ส่วนใครที่ใช้บัตรโดยสาร EZ-Link ก็สามารถแตะบัตรเข้าไปได้เลยจ้า จากนั้นให้เราลงสถานีแรก คือ Waterfront Station เดินลงไปก็จะเป็นกลุ่มคนเดินไปทางเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็ไป Universal กันทั้งนั้นแหล่ะจ้า เดินไปนิดเดียวก็จะเจอกับเจ้าลูกโลกยักษ์ อย่าเสียเวลาถ่ายรูปนาน ให้รีบต่อแถวเข้าไปเลย
เล่นอะไรใน Universal Studio Singapore
ใครที่ตั้งใจมาเที่ยวสิงคโปร์แล้วต้องไม่พลาดที่จะไปเล่นเครื่องเล่นที่ Universal Studio สวนสนุกระดับโลก สำหรับการซื้อบัตรเข้าชมนั้น ให้เดินทางไปซื้อที่ Sea wheel ในย่าน Chinatown ราคาจะถูกกว่าซื้อหน้างาน ล่าสุดที่ไปซื้อคือ ผู้ใหญ่ *$64 เด็ก *$45 จากราคาปกติถ้าซื้อที่ Universal จะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ $74 เด็ก $54 ซึ่งถือว่าถูกกว่ามาก ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี
*พนักงานแจ้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาในเร็ว ๆ นี้
ปล.เดี๋ยวมาแปะลิงก์การเดินทางไป Seawheel ให้ด้านล่างนะคะ
Madagascar โซนการ์ตูนจากมาดากาสการ์
1. Madagascar: A Crate Adventure หรือนั่งเรือชมตัวการ์ตูนมากมายจาก Madagascar ใครมีลูกต้องไม่พลาด รับรองเด็ก ๆ ชอบทุกคนและไม่น่ากลัวด้วย (เด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 80 เซนติเมตร เล่นได้นะจ๊ะ)
2. King Julien's Beach Party-Go-Round ก็คือ ม้าหมุนสำหรับเด็ก ๆ มีสัตว์จากการ์ตูน Madagascar มากมายให้เด็ก ๆ ได้เลือกนั่ง อย่าลืมคาดเข็มขัดด้วย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ หากใครใส่กระโปรงไปเล่นก็ต้องนั่งค่อมนะ ไม่อย่างนั้นเค้าไม่อนุญาตให้นั่ง
Far Far Away โซนการ์ตูนแอนนิเมชั่น Shrek และเจ้าหญิง Fiona
1. Enchanted Airways (จำกัดความสูงของเด็กที่ 92 เซนติเมตรขึ้นไป) เป็น Roller coaster ขนาดเล็ก เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี
2. Shrek 4D Adventure ที่จะพาเราไปสัมผัสกับฉากในการ์ตูนที่น่าตื่นเต้น เหมือนจริงจากแว่นตา 4D เก้าอี้ที่โยกได้ น้ำที่กระเด็นใส่ตัวเราจริงๆ สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
3. Puss In Boot's Giant Journey (เด็กที่มีความสูง 100 เซนติเมตรขึ้นไปเล่นได้) เป็นอีกหนึ่ง Roller coaster ที่ไม่ควรพลาด เสมือนเรานั่งในกระเช้าที่จะพาเราไปตามเถาว์ของต้นถั่วยักษ์ เพื่อตามล่าหาห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ รับรองสนุกและเด็ก ๆ ต้องอยากกลับไปเล่นรอบ 2 แน่นนอน เพราะนั่งไม่ถึง 3 นาที แต่รอ 30 นาทีนี่สิ ไม่ไหวนะ ต้องไปให้เร็ว หรือเลี่ยงช่วงคนเยอะ ประมาณเที่ยงไปถึงบ่าย
The Lost World โซนไดโนเสาร์
1. WaterWorld การแสดงโชว์ของสตั๊นแมน ที่พูดได้เลยว่าทุกคนเก่งมาก ทั้งปีน กระโดน ต่อสู้ หลบระเบิด ขี่เจ็ทสกีในน้ำ(สถานที่แคบแต่ขี่กันเก่งมาก) เอฟเฟคเสียงระเบิด ปืน ไฟ เหมือนดูในหนังเลย โซนนี้ถ้าอยากดูใกล้ๆ ตรงที่นั่งสีฟ้าอาจจะเปียกนิดนึง ถ้ากลัวเปียกก็เลือกที่นั่งสีเขียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับนักแสดง เพราะช่วงก่อนการแสดงเริ่ม จะมีการเอนเตอร์เทนคนดู โดยการใช้กระบอกฉีดน้ำหรือสาดน้ำใส่คนดู เพื่อเรียกเสียงฮา การแสดงจะมี 2 ช่วง เค้าจะตั้งป้ายให้เรารู้ว่ามีเวลาไหนบ้าง
2. Canopy Flyer เครื่องล่อนไดโนเสาร์นกยักษ์ (เด็กสูง 92 เซนติเมตรขึ้นไป) เป็นที่นั่งเดี่ยว แบ่งเป็นฝั่งละ 2 คนหันหลังชนกัน ใน 1 เครื่องล่อนจะมี 4 ที่นั่ง เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่คนต่อแถวค่อนข้างเยอะ ใช้เวลาอย่างน้อย 30นาที ถึง 1 ชม. ในช่วงที่คนเยอะๆ
3. Dino-Soarin เด็ก ๆ ชอบแน่นอน เพราะเราจะขึ้นไปนั่งในนกยักษ์และบินเป็นวงกลม อย่าลืมกดปุ่มให้บินด้วยนะ บางคนเห็นคนอื่นบิน ก็บ่นว่าทำไมของตัวเองไม่บินเลย มันต้องกดปุ่มแล้วค้างไว้ กดแล้วปล่อยมันก็ล่อนลง
4. Jurassic Park Rapids Adventure (เด็กสูง 107 เซนติเมตรขึ้นไป) ต้องบอกว่าห้ามพลาดการล่องเก่งดูไดโนเสาร์ มีความหวาดเสียวตอนท้ายๆ ด้วย แต่ไม่บอกว่าคืออะไร ต้องไปเล่นกันเอาเอง เครื่องเล่นนี้จะเปียกนิด ๆแต่ไม่มาก ใครกลัวเปียกให้ใส่เสื้อกันฝนด้วย
5. Amber Rock Climb ปีนหน้าผาโครงกระดูกไดโนเสาร์ ใครชอบก็ไปลองเล่นกันได้เลยจ้า
Ancient Egypt โซนอียิปต์
1. Revenge of the Mummy (เด็กสูง 122 เซนติเมตร ขึ้นไป) เป็นอีกหนึ่ง Roller coaster ที่ห้ามพลาด มีทั้งไต่ระดับความสูง เอียงซ้ายขวา ตกแบบเฉียบพลันและถอยหลัง นอกจากนั้นยังมีฉากการถูกมัมมี่ไล่ล่าเหมือนในหนังเลย มีคำเตือนบอกผู้เล่นต้องมีสุขภาพพร้อม ใครกลัวมาก ๆ ก็อย่าเข้าไปเลยนะจ๊ะ
2. Treasure Hunters เป็นการขับรถจิ๊บโบราณไปตามรางที่เค้ากำหนดให้ แต่ต้องขับเอง เด็ก ๆ ชอบแน่นอนค่ะ
Sci-Fi-City โซนรถไฟเหาะตีลังกา ห้ามพลาดเด็ดขาด
1. Battlestar Galactica : Human (Red Track) (เด็กสูง 125 เซนติเมตรขึ้นไป) Roller coaster สีแดงที่สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้เล่นไม่น้อย ถ้าไปวันธรรมดาคนไม่เยอะ ต่อแถวไม่นาน ประมาณ 20-25 นาที ก่อนเล่นต้องฝากกระเป๋าและสัมภาระในตู้ Locker ก่อน ตู้จะอยู่ใต้เครื่องเล่น ฝากฟรี 65 นาที จากนั้นจะคิดตามราคาตู้ มีตั้งแต่ $2 ขึ้นไป งานนี้ไม่มีใครเล่นกันเราเลย โชว์เดี่ยว ไม่น่ากลัวเนื่องจากมีพื้นให้เราเหยียบเลยไม่ค่อยหวาดเสียว
2. Battlestar Galactica : Cylon (Grey Track) (เด็กสูง 125 เซนติเมตรขึ้นไป) เป็น Roller coaster ที่หวาดเสียวมากกว่าสีแดง เนื่องจากเท้าเราจะลอยกลางอากาศ ไม่มีพื้นวางเท้า ทำให้เห็นพื้นเวลาเล่น นอกจากนั้นยังหมุน เอียง ตีลังกา บิดเกลียว พูดแล้วอาจไม่เห็นภาพ ต้องไปลองกันเอาเอง บอกเลยสนุกมาก
3. Transformers The Ride : The Ultimate 3D Battle (เด็กสูง 102 เซนติเมตรขึ้นไป) บอกได้คำเดียวว่าสนุกมากและห้ามพลาด ชอบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถ้าพาลูกไปพูด 3 วันก็ไม่จบ
New York โซนนิวยอร์ค
1. Sesame Street Spaghetti Space Chase (เด็กสูง 92 เซนติเมตรขึ้นไป) ว่ากันว่าเป็น Sesame Street แห่งแรกแห่งเดียวในโลกที่เพิ่งเปิดให้บริการ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการความหวือหวา หวาดเสียว เป็นการนั่งรถพจญภัยในห้วงอวกาศ มีดวงดาวระยิบระยับ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้คือเครื่องเล่นที่ห้ามพลาด หากใครพาเด็ก ๆ ไปอาจจะต้องตามใจกันบ้าง บางอย่างก็ต้องต่อคิวและเล่นกับเค้า แม้ว่าผู้ใหญ่อาจจะไม่อยากเล่น ส่วนของผู้ใหญ่เอง หลายเครื่องเล่นเด็ก ๆ ก็ขึ้นไม่ได้ ดังนั้นต้องวางแผนกันดี ๆ ว่าจะเล่นอะไรบ้าง คิดคร่าว ๆ ถ้าเราต้องเล่นทั้ง 16 เครื่องเล่นนี้ ใช้เวลาในการต่อแถว 30 นาทีโดยเฉลี่ย เราจะต้องใช้เวลาทั้งหมด 8 ชม. ดังนั้นให้ไปแต่เช้า เพื่อที่จะได้มีเวลาเล่นและถ่ายรูปให้จุใจนะคะ
ปล.เรายังเล่นไม่ครบและมีอีกหลายอย่างที่อยากกลับไปเล่นอีก ต้องรอติดตามว่าจะได้กลับไปอีกเมื่อไหร