คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 54
สวัสดีค่ะ ขอโทษที่มาตอบช้า คอมที่บ้านเสีย เรามาร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อตอบให้นะค่ะ
คือ 1. อายุน้อง3ขวบ และจะ4ขวบในอีกไม่กี่เดือน คือแม่สับสนตอนใช้พิมในมือถือ น้องอยู่อนุบาล1ค่ะ 3ขวบ
2. นาฬิกา kidz watch
3.วันนี้ไปส่งน้องเลยเปิดใจกับครูโรงเรียนใหม่ จริงๆไม่โกรธที่ใหม่เลยนะค่ะ แต่แค่งงๆ ว่าทั้งๆที่รู้ทำไมขึ้นเสียง
เรา:สวัสดีค่ะ ขอเวลาคุณครูสักครู่นะค่ะ
ครู:คะคุณแม่
เรา:คือคุณครูทราบใช่มั้ยคะว่านาฬิกาน้องฟังเสียงได้
ครู:ค่ะทราบ
เรา: คือเมื่อวานแม่ดักฟังได้ยินครูพูดว่ารู้ว่าฟังเลยพูดแบบนั้น คือแม่กลัวครูไม่สบายใจ จริงๆแม่ได้ไม่อยากจับผิดคุณครูนะคะ แต่อยากรู้พฤติกรรมของลูกและอยากฟังว่าเค้าโอเคมั้ย แต่ถ้าน้องทำผิด คุณครูดุได้เลยนะคะ แม่ทราบว่าการตักเตือนจะทำให้เด็กมีระเบียบวินัยขึ้น
ครู:อ่อครูแซวเล่นคะคุณแม่
เรา:อ่อค่ะ แต่ว่าถ้าน้องดื้อครูดุได้นะคะ แม่ไม่อยากให้ครูไม่สบายใจ
จากนั้นก็จากกันด้วยรอยยิ้ม เราไม่รู้ว่าเค้าจะรู้สึกเกลียดเราไหม แต่ที่เราไปบอกเพราะเราว่าการคุยกันตรงๆน่าจะดีกว่า ทำให้มันขุ่นมัว
ขอบคุณคำแนะนำดีๆของทุกคนนะคะ เราจะพยามฟังให้น้อยลง และวันนี้ จะไม่ฟังสักครั้งจะฝึกตัวเองไว้ใจครู
ขอบคุณค่ะ
คือ 1. อายุน้อง3ขวบ และจะ4ขวบในอีกไม่กี่เดือน คือแม่สับสนตอนใช้พิมในมือถือ น้องอยู่อนุบาล1ค่ะ 3ขวบ
2. นาฬิกา kidz watch
3.วันนี้ไปส่งน้องเลยเปิดใจกับครูโรงเรียนใหม่ จริงๆไม่โกรธที่ใหม่เลยนะค่ะ แต่แค่งงๆ ว่าทั้งๆที่รู้ทำไมขึ้นเสียง
เรา:สวัสดีค่ะ ขอเวลาคุณครูสักครู่นะค่ะ
ครู:คะคุณแม่
เรา:คือคุณครูทราบใช่มั้ยคะว่านาฬิกาน้องฟังเสียงได้
ครู:ค่ะทราบ
เรา: คือเมื่อวานแม่ดักฟังได้ยินครูพูดว่ารู้ว่าฟังเลยพูดแบบนั้น คือแม่กลัวครูไม่สบายใจ จริงๆแม่ได้ไม่อยากจับผิดคุณครูนะคะ แต่อยากรู้พฤติกรรมของลูกและอยากฟังว่าเค้าโอเคมั้ย แต่ถ้าน้องทำผิด คุณครูดุได้เลยนะคะ แม่ทราบว่าการตักเตือนจะทำให้เด็กมีระเบียบวินัยขึ้น
ครู:อ่อครูแซวเล่นคะคุณแม่
เรา:อ่อค่ะ แต่ว่าถ้าน้องดื้อครูดุได้นะคะ แม่ไม่อยากให้ครูไม่สบายใจ
จากนั้นก็จากกันด้วยรอยยิ้ม เราไม่รู้ว่าเค้าจะรู้สึกเกลียดเราไหม แต่ที่เราไปบอกเพราะเราว่าการคุยกันตรงๆน่าจะดีกว่า ทำให้มันขุ่นมัว
ขอบคุณคำแนะนำดีๆของทุกคนนะคะ เราจะพยามฟังให้น้อยลง และวันนี้ จะไม่ฟังสักครั้งจะฝึกตัวเองไว้ใจครู
ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
ผมคิดว่า พ่อแม่ทุกคนก็อยากทราบความเป็นอยู่ของลูก และปัญหาที่คุณแม่เจออยู่น่าจะทำให้ลำบากใจไม่น้อย แต่คุณแม่ลองพิจรณาดูก่อนว่า หากตัวเราเองถูกหัวหน้าเฝ้าดูการทำงานตลอด หรือเราเป็นเจ้าของกิจการแล้วถูกลูกค้า เฝ้าดูกระบวนการผลิตตลอด ดูจะมากเกินไป และเราเองก้คงอึดอัดใช่มั้ยครับ เช่นเดียวกันกับคุณครู ผมขอเสนอวิธีแก้แบบนี้ครับ คุณแม่ลองถอดนาฬิกาลูกไว้ที่บ้าน เปลี่ยนจากการดักฟัง เป็นการรับฟัง พูดคุยกับลูกแทน ฝึกให้ลูกได้อธิบายปัญญาที่เจอเพิ่มการสื่อสารระหว่างแม่กับลูก และเวลาคุณแม่ไปรับลูก ก้ลองเข้าไปคุยกับคุณครูอย่างเป็นมิตร เหมือนเป็นคนที่มีพระคุณ ช่วยเลี้ยง อบรมลูกเรา รับฟังปัญหาของลูกเราจากคุณครู ก็คงทำให้เราได้ทราบปัญหาลูกในสังคมจริงๆมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้คุณครูได้รับรู้ว่าเราจะคอยช่วยกันจริงๆ จะส่งผลให้คุณครูมีแรงในการสอนลูกเราอีกด้วย
ความคิดเห็นที่ 17
คุณแม่อย่าคล้อยตามคนที่บอกว่า ผู้ปกครองเยอะไปนะคะ ลูกเรา เงินเรา
ส่งไปให้เค้าดูแล เค้าก็ต้องทำให้ดี
อาจจะไม่ต้องระดับปั้นเด็กอัจฉริยะ
แต่อย่าทำอะไรร้าย ๆ ที่ส่งผลกับจิตใจเด็กก็พอ
ทำต่อไปเถอะค่ะ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง
บาดแผลในใจเด็ก ถ้าเกิดแล้วอาจจะติดอยู่ตลอดไปก็ได้นะคะ
แต่ในเมื่อเกิดกรณีครูมีพฤติกรรมแย่ลงเมื่อรู้ว่าผู้ปกครองติดตามตลอดแบบนี้
แนะนำให้ย้ายโรงเรียนค่ะ
ครูบางคนไม่คิดว่าตัวเองผิดที่ร้ายกับเด็ก
แต่คิดว่าผู้ปกครองผิดที่อยากรู้เอง
แก้ไม่ได้ค่ะ ย้ายหนี ดีที่สุด
ส่งไปให้เค้าดูแล เค้าก็ต้องทำให้ดี
อาจจะไม่ต้องระดับปั้นเด็กอัจฉริยะ
แต่อย่าทำอะไรร้าย ๆ ที่ส่งผลกับจิตใจเด็กก็พอ
ทำต่อไปเถอะค่ะ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง
บาดแผลในใจเด็ก ถ้าเกิดแล้วอาจจะติดอยู่ตลอดไปก็ได้นะคะ
แต่ในเมื่อเกิดกรณีครูมีพฤติกรรมแย่ลงเมื่อรู้ว่าผู้ปกครองติดตามตลอดแบบนี้
แนะนำให้ย้ายโรงเรียนค่ะ
ครูบางคนไม่คิดว่าตัวเองผิดที่ร้ายกับเด็ก
แต่คิดว่าผู้ปกครองผิดที่อยากรู้เอง
แก้ไม่ได้ค่ะ ย้ายหนี ดีที่สุด
ความคิดเห็นที่ 20
ผมพูดในฐานะที่เป็นทั้งครูอนุบาล และก็มีลูกเล็กนะครับ ผมเตือนภรรยาเสมอว่าส่งลูกที่เนิร์สเซอร์รี่แล้ว ไม่ต้องไปนั่งเฝ้าอะไร ปล่อยให้เขาเผชิญโลกของเขาด้วยตัวเขาเอง การที่ไปเฝ้าจับผิดรั้งแต่จะทำให้ขุ่นมัวใจเปล่าๆ เพราะว่าร้อยทั้งร้อย ถ้าไปมัวนั่งเฝ้า ยังไงคุณก็ต้องเจอเรื่องที่ไม่พอใจอยู่ดี
ครูอนุบาลก็ปุถุชนธรรมดานี่แหละครับ บางเวลาใจดี บางเวลาก็อาจจะมีอารมณ์บ้าง ถ้ามันไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายแบบทารุณกรรม ก็ไม่ควรจะเก็บมาใส่ใจครับ ดูที่การให้การศึกษาและผลประโยชน์ที่เด็กจะได้เป็นหลักดีกว่า
ครูอนุบาลก็ปุถุชนธรรมดานี่แหละครับ บางเวลาใจดี บางเวลาก็อาจจะมีอารมณ์บ้าง ถ้ามันไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายแบบทารุณกรรม ก็ไม่ควรจะเก็บมาใส่ใจครับ ดูที่การให้การศึกษาและผลประโยชน์ที่เด็กจะได้เป็นหลักดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 26
ก็เห็นใจคุณครูทั้งประเทศนะคะ
เข้าใจว่าคุณครูทุกคนก็คือปุถุชนคนธรรมดานั่นแหละ
มีทั้งอารมณ์ดีไม่ดี หัวร้อนบ้างอะไรบ้าง
แต่กรุณาอย่ามาลงที่เด็กลงค่ะ
ใช้จรรยาบรรณหรือจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ทั่วๆ ไปก็ได้
หัวร้อนปุ้บ ก็หายใจลึกๆ ตั้งสติไว้ หรือไม่ก็ขอเวลานอกกับเด็กๆ ถ้ามีครูผู้ช่วยยิ่งดีค่ะ บอกขอเวลานอกสัก 5-10 นาทีไปสงบสติอารมณ์ ไม่น่าเหนือบ่าฝ่าแรงจนเกินไป
อย่าใช้คำว่าปถุชนคนธรรมดามาอ้างเลยค่ะ เพราะมันเป็น "หน้าที่" ของคุณครูอนุบาล
เปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆ ที่เป็นปถุชนคนธรรมดาเช่นกัน
ถ้าเค้าทำผิดต่อหน้าที่ หรือทำงานพลาด ก็ต้องมีการตักเตือน มีการลงโทษ และปรังปรุงตัวค่ะ
เพราะครอบครัวแต่ละคนเลี้ยงดูเด็กมาต่างกัน บางครอบครัวพยายามแทบตายที่จะไม่ให้ลูกพฤติกรรมรุนแรงกร้าวร้าว
แต่ลูกกลับได้รับมาจากที่โรงเรียนที่ผู้ปกครองไว้ใจ
เด็กวัยอนุบาลยังไม่สามารถแยกแยะได้ทั้งหมดนะคะ ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี เด็กจะซึมซับมาจากสิ่งที่เค้าเห็นและสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนนั่นแหละค่ะ
ถ้าคุณครูคนไหนได้อ่านข้อความนี้ก็อยากจะขอร้องให้เข้าใจพ่อแม่เด็กด้วยค่ะ
เข้าใจว่าคุณครูทุกคนก็คือปุถุชนคนธรรมดานั่นแหละ
มีทั้งอารมณ์ดีไม่ดี หัวร้อนบ้างอะไรบ้าง
แต่กรุณาอย่ามาลงที่เด็กลงค่ะ
ใช้จรรยาบรรณหรือจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ทั่วๆ ไปก็ได้
หัวร้อนปุ้บ ก็หายใจลึกๆ ตั้งสติไว้ หรือไม่ก็ขอเวลานอกกับเด็กๆ ถ้ามีครูผู้ช่วยยิ่งดีค่ะ บอกขอเวลานอกสัก 5-10 นาทีไปสงบสติอารมณ์ ไม่น่าเหนือบ่าฝ่าแรงจนเกินไป
อย่าใช้คำว่าปถุชนคนธรรมดามาอ้างเลยค่ะ เพราะมันเป็น "หน้าที่" ของคุณครูอนุบาล
เปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆ ที่เป็นปถุชนคนธรรมดาเช่นกัน
ถ้าเค้าทำผิดต่อหน้าที่ หรือทำงานพลาด ก็ต้องมีการตักเตือน มีการลงโทษ และปรังปรุงตัวค่ะ
เพราะครอบครัวแต่ละคนเลี้ยงดูเด็กมาต่างกัน บางครอบครัวพยายามแทบตายที่จะไม่ให้ลูกพฤติกรรมรุนแรงกร้าวร้าว
แต่ลูกกลับได้รับมาจากที่โรงเรียนที่ผู้ปกครองไว้ใจ
เด็กวัยอนุบาลยังไม่สามารถแยกแยะได้ทั้งหมดนะคะ ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี เด็กจะซึมซับมาจากสิ่งที่เค้าเห็นและสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนนั่นแหละค่ะ
ถ้าคุณครูคนไหนได้อ่านข้อความนี้ก็อยากจะขอร้องให้เข้าใจพ่อแม่เด็กด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ใส่นาฬิกาติดตามตัวให้ลูกไปเรียนแล้วมีปัญหา
และมนุษย์แม่มีหรือจะไม่อยากรู้ว่าลูกๆเป็นไงบ้างเมื่ออยู่โรงเรียน
ดักฟังวันที่1 ดีงามมาก ครูใจดี +แม่นั่งเฝ้าข้างห้องเลย "วันแรกทำใจไม่ได้"
ฟังทุกวันจนมาถึงวะนเกิดเหตุ
ครูพูดว่า "ใส่มาทำไมเนี่ยนาฬิกา เดี่ยวถ้าหายจะสมน้ำหน้าให้" ช็อค !
จากนั้นก็มีมาเรื่อยๆ"ที่บ้านมีตังเยอะไหม เอามาให้ครู_บ้างสิ". "ตะโกนว๊ากเด็ก"
นอกจากนั้นยังมีเรื่องอื่นคือ ลูกสาวเข้าห้องน้ำเองได้แต่ล้างแบบที่กดฉีดก้นไม่ไหวมันแข็ง
ตะโกนเรียกครูอยู่นานมาก. ไม่มีเสียงอะไร. พอตอนไปรับ ลูกเดินมากางเกงเปียกแฉะ
เรา:ถามทำไมเป็นแบบนี้
ลูก:น้องไปฉี่เอง
วันต่อมา เราอัดคลิปลูกสาวลงเพจ คือปกติเรามัเพจลูกไว้ลงทุกอย่างของเขา
เรื่องของเรื่องคือในโทรศัพท์ไม่มีที่เก็บบรรดารูป วิดีโอ (ข้ามไปเรื่องเพจ)
เราลงคลิปลูก คือเราถามลูกวันนี้เป็นไงบ้าง น้องบอกว่าครูตีน้องที่หัวเข่า พร้อมทำท่าประกอบ
เราถามว่าตีทำไม น้องบอกครูรำคาญน้อง แล้วครูอ้วนๆก็พาไปล้างหน้า ในคลิปเราบอกไปว่าก็น้องดื้อรึปล่าวครูถึงตี สอนเค้าว่าอย่าดื้อนะ
ลงคลิปไป ในคลิปไม่มีแท๊กโรงเรียนใดๆ. แต่ในเพจน้องมีแท็กเวลาลงรูป
วันรุ่งขึ้นโดนเชิญไปโรงเรียนพร้อมบอกว่าจะฟ้องเราเพราะทำให้โรงเรียนเสียชื่อ
เราบอกความจริงไปว่าเราได้ยินทุกอย่างที่ครูพูด เขาตอบมาว่ารู้ทุกอย่างแล้วสบายใจไหม?
เหอะๆ แลเบอกว่าในคลิปมันเป็นคำพูดของเด็ก ซึ่งเด็ก3ขวบ (พิมผิดนะค่ะที่บอกว่า1ขวบ แม่สับสนอนุบาล1กับ1ขวบ)จะโกหกเป็นเรื่องราวแบบนั้นเลยหรอ
ครูเลยเชิญครูพี่เลี้ยงคนที่น้องเอ่ยชื่อในคลิปมา เขา ปฏิเสธ และบอกว่าน้องน่ารักมาก ไม่งี่เง่า ไม่เคยตี
อยากให้ทุกคนเห็นกิริยาการถลึงตาของครูท่านนี้มาก ถึงขั้นครูวิชาการต้องมาเตือนว่าอย่าทำกิริยาแบบนี้กับผู้ปกครอง
เห่อๆ สุดท้ายจบที่ลูกโดนเชิญออก และคืนค่าเทอมครึ่งนึง. เนื่องจากกลัวว่าจะมีเหตุการแบบนี้อีกครั้ง
พอย้ายไปที่ใหม่ โรงเรียนดีงามพระรามแปด คือครูน่ารักสุด แอบฟังเหมือนเดิม น้ำเสียงครูน่ารักกับเด็กๆมาก
แต่...ฝันร้ายยังไม่จบ. เข้าวันที่4 ได้ยินครูกำลังดุเด็กคนนึง ซึ่งไม่ใช่ชื่อลูกเรา แต่เขาพูดว่า รู้ว่าดักฟังเสียงไงเลยพูดแบบนี้ ผ่ามๆๆ!
ที่ดุเพราะรู้ว่าดักฟัง? มาพูดใกล้ๆ (เสียงใกล้ขึ้น) เลยคิดในแง่ดีว่าสงสัยมีคนอื่นใส่ด้วยมั้ง
พอไปรับก็มีแต่ลูกเราที่ใส่. เอ่อออ หรือรู้ทุกเรื่องมันไม่ดีจริงๆ หรือควรเลิกดักฟัง. มีใครเจอปัญหาแบบนี้ไหม แก้ยังไงนอกจากทำใจคะ
"พิมผิดพิมพลาดขอโทษนะคะมองไม่ค่อยเห็น"