แชร์ประสบการณ์”ครั้งนึงเราเคยติดห้องเย็นที่เกาหลี....แต่...แต่ เราเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รอดออกมาได้จ้าาาาา”

สวัสดีค่า ช่วงนี้เราเห็นข่าวเรื่องคนไทยติดห้องเย็นที่เกาหลีแล้วถูก ตม.ส่งตัวกลับจำนวนมาก ตามข่าวเค้าบอกกันว่าห้องเย็นของเกาหลีเป็นห้องที่เข้าไปแล้วมีโอกาสน้อยมากๆที่จะได้ออกมา แต่....แต่... เราอาจจะเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยมากๆที่ได้ออกมาค่ะ เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตอนนั้นของเรา

ปล. เราอาจจะเล่าแบบไม่ซีเรียสมากเพราะสุดท้ายแล้วเราก็ออกมาได้ แต่ตอนเจอเหตุการณ์จริงๆนี่ขำไม่ออกนะคะ เครียดมากจริงๆ

เมื่อปลายเดือน กพ. 2559(ปีที่แล้ว) เรากับน้องสาวเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ด้วยสายการบินแอร์เอเชียค่ะ(ไม่ได้ไปกับพ่อแม่ งบเลยน้อย555) ซึ่งเรากับน้องสาวเคยไปเกาหลีแล้วคนละ 1 ครั้ง ของเราไปเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว สมัยซีรี่เรื่อง full house กำลังดัง ตอนนั้นเราไปกับทัวร์ไปตามรอยซีรี่ค่ะ(ไปถ่ายรูปคู่ตู้เย็นสีแดงของ full house มาแล้ว 55555) ส่วนน้องสาวเราเพิ่งไปเที่ยวกับเพื่อนช่วงกลางปี 2558

เมื่อต้นปี 2559 (ปีที่แล้ว)ข่าวเรื่องคนไทยถูก ตม. เกาหลีส่งตัวกลับมีเยอะมากและมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงก่อนที่เราจะเดินทางพอดี ซึ่งในวันเดินทางเราใส่เสื้อยืดแขนยาว กางเกงขายาวตัวโคร่งๆ เพราะปกติเวลาเราขึ้นเครื่องเราแต่งตัวแบบนี้อยู่แล้วค่ะ เพื่อความสบายตอนนั่งเครื่องซึ่งน้องเราได้เตือนแล้วว่าให้แต่งตัวให้ดีๆหน่อย แต่เราไม่เชื่อค่ะ ก็ไม่ได้เห็นว่ามันจะไม่ดีตรงไหน 5555555

เมื่อเดินทางไปถึงเราและน้องสาวได้ต่อแถว ตม. คนละแถว ซึ่งแถวเรามีคนไทยที่อยู่คิวก่อนหน้าเรา 3 คนถูกส่งเข้าห้องเย็นไป 2 คนแต่เราก็เฉยๆค่ะ เพราะเราคิดว่าเราเดินทางมาเยอะพอสมควร หลักฐานการจองโรงแรมและตั๋วกลับเราก็มี เราเลยคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ผ่านค่ะ

ตอนนั้นใครที่จะถูกส่งเข้าห้องเย็น ตม.เค้าจะยกมือขึ้นแล้วจะมีผู้ชายเดินมาพาเราเข้าไปห้องเย็น จริงๆตอนนั้นเราเห็นเค้ายกมือกันพรึ่บพรั่บเลย คนไม่ผ่านนี่เยอะจริงๆ

พอถึงคิวเรา เราก็ยื่นพาสปอร์ตตามปกติ เค้าสแกนพาสปอร์ตเราซักพัก ก็ถามเราว่าเราเคยเปลี่ยนชื่อมาก่อนรึป่าว แต่เราไม่เคยค่ะ เราเลยตอบไปว่า “never” เค้าก็มองๆแล้วถามเราอีกครั้งเราก็ตอบเหมือนเดิม เค้าถามเราว่านามสกุลอะเคยเปลี่ยนมั๊ย เราเริ่มเซงเบาๆ แต่เราก็ตอบไปเหมือนเดิมค่ะว่าไม่เคย ต่อจากนั้นเค้าก็ให้เราแสกนนิ้วตามปกติ เราก็นึกว่าเค้าจะให้เราผ่านแล้ว แต่ไม่ค่ะ.....เราเห็นเค้ายกมือ แล้ว...ผู้ชายคนนึงก็มาพาตัวเราไปห้องนั้น คืองงมากค่ะ งงมากจริงๆน้องสาวเราที่ผ่านตม.ไปแล้วยืนมองเราแบบ จะทำยังไงดีๆ

เค้าพาเรามาห้องเย็นค่ะซึ่งมันอยู่ใกล้ๆ ตม. เลยเปิดประตูเข้ามามีคนอยู่น่าจะ 30 คนได้ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนไทย(เราแอบเห็นมีพาสปอร์ตของมาเลเซียอยู่คนเดียวที่เหลือก็น่าจะเป็นของคนไทยทั้งหมด) เข้ามาถึง เจ้าหน้าที่จะเอาพาสปอร์ตเราไปเรียงตามคิวเพื่อเรียกตัวมาสัมภาษณ์ทีละคน หลังจากเราเข้ามาแล้วมีคนตามเข้ามาอีกเยอะนะคะเพราะเราไปต่อแถวตม.เร็ว ในห้องแออัดพอสมควรค่ะ ที่นั่งเต็มเราก็ยืนเอา

ตอนรอสัมภาษณ์อยู่เราก็เริ่มแสกนหน้าแต่ละคนที่อาจจะสัมภาษณ์ๆไปแล้วหรือรอสัมภาษณ์อยู่ เราแบ่งได้คร่าวๆตามนี้ค่ะ
-    ผู้หญิงและผู้ชายคนไทยแบบดูก็รู้ว่าแอบมาทำงานแน่ๆ (จุดนี้บรรยายไม่ถูกว่ารู้ได้ยังไง แต่รู้ค่ะ)
-    ผู้หญิงที่อาจจะตั้งใจมาเที่ยวจริงๆ แต่แต่งตัวสีฉูดฉาด เช่น หมวกไหมพรมสีแดง เสื้อโค้ทชมพูบานเย็น ปากสีแดง รองเท้าบูทส้นสูงๆ อะไรประมาณนี้
-    ส่วน จขกท เป็นคนโง่ๆที่จำข้อมูลของตัวเองไม่ได้ 555555555

หลังจากที่เรามองไปรอบๆแล้วยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่มากขึ้นไปอีกค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นมันเยอะมากว่าเราจะได้กลับออกไปมั๊ย ถ้าโดนส่งตัวกลับจะทำยังไง น้องสาวเราหล่ะ บลาๆ ตอนนั้นเราเห็นคนหลายๆคนกรอกเอกสารอะไรซักอย่าง เราเดาว่าเค้าอาจจะสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่านเลยต้องกรอกเอกสารเพื่อกลับไทยรึป่าว หลอนไปอีกค่ะ เพราะคนเยอะมากที่กำลังกรอกเอกสารนั้น เรายืนอยู่อย่างนั้นรอคิวแบบไม่คุยกับใครเลยประมาณ 10 กว่านาที ก็มีเจ้าหน้าที่เรียกชื่อเรา

จริงๆระหว่างที่เรารอสัมภาษณ์เราก็คิดถึงแต่เรื่องที่เค้าถามว่าเราเคยเปลี่ยนชื่อมั๊ย คิดไปคิดมาเริ่มนึกออกว่าเราไม่เคยเปลี่ยนชื่อนามสกุลเลย แต่......... พาสปอร์ตเล่มเก่าที่เราเคยมาเกาหลีตั้งแต่รอบแรกเมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้วกับเล่มปัจจุบันเราอาจจะตัดตัวอักษรภาษาอังกฤษบางตัวออกไปเพราะนามสกุลเรายาวมาก แต่เอาจริงๆเราก็ไม่แน่ใจ เพราะมันก็นานมากแล้วจริงๆ

ตอนนั้นเรารู้สึกว่าถ้าเราอยากจะออกไปได้เราต้องทำตัวแตกต่างจากคนอื่นค่ะ 555555555 เช่นเราต้องหน้าเหวี่ยงนิดนึง(แค่นิดเดียว)เพื่อให้เค้าคิดว่าเราไม่พอใจมากๆที่เรามาอยู่ห้องนี้ และเราต้องพูดภาษาอังกฤษให้ลื่นที่สุดซึ่งเราไม่ได้มีปัญหากับการสื่อสารภาษาอังกฤษแต่เราไม่ได้ fluent ขนาดนั้น เรารู้สึกว่าต้องพูดให้ลื่นเพื่อสร้างภาษีให้กับตัวเอง

ในห้องมีโต๊ะสัมภาษณ์อยู่ 2-3 ตัวคนที่สัมภาษณ์เราเป็นผู้ชาย 2 คนค่ะ เรานั่งปุ๊ปก็เริ่มหยิบเอกสารพวกตั๋วเครื่องบิน การจอง hostel และแพลนการเที่ยว(ซึ่งเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะน้องสาวเราแพลนทั้งหมด) ส่วนเงินติดตัวก็ไม่ได้มีมาก อาจจะแค่ประมาณ 10000 บาทไทยเพราะเราแบ่งกับพกกับน้องค่ะ

นี่เป็นคำถามและคำตอบของเราแบบไม่ได้ครบทุกคำนะคะเพราะมันนานพอสมควรแล้ว จริงๆมันเยอะกว่านี้มากอยู่
ตม:คุณเคยเปลี่ยนชื่อมาก่อนรึเปล่า
เรา:ไม่แน่ใจ อาจจะเป็นไปได้ว่าพาสปอร์ตเล่มเดิมที่เรามาเกาหลีครั้งที่แล้วกับเล่มนี้ นามสกุลเราสะกดไม่เหมือนกัน เราตัด alphabet บางตัวออกไปเพราะนามสกุลเรามันยาวมาก
ตม: แล้วคุณตัดตัวไหนออกไปบ้าง
เรา:เราไม่แน่ใจ เพราะมันนานมากแล้วเกือบ 10 ปี แล้วตัวที่เราตัดออก เช่น kae เราตัด a ออกเหลือ ke ในภาษาไทยมันอ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้บอกว่าตัวไหนบ้างนี่เราอาจจะบอกไม่ได้ทุกตัวเพราะนานมากแล้วจริงๆ
ตม:แล้วคุณเดินทางมากับใครบ้าง
เรา: เรามากับน้องสาวซึ่งตอนนี้น้องเราผ่าน ตม ออกไปแล้ว กำลังรออยู่ข้างนอก
ตม: มีเอกสารอะไรบ้างมั๊ย
เรา: มีค่ะ นี่เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินของเรา กลับวันที่.... ที่พักของเราชื่อ....
ตม: เริ่มมองหน้าเราแบบนัวๆ มึนๆ เรารู้สึกว่า เจ้าหน้าที่กำลังงงเราต้องปล่อยหมัดรัวๆ5555555
เรา:จริงๆแล้วเราไม่ใช่คนที่ควรจะมาอยู่ในห้องนี้(มั่นมาก555555) ลองดูพาสปอร์ตเรา เราเดินทางมาหลายประเทศ วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาเราก็มี บลาๆๆ (พร่ำเพ้ออีกหลายอย่าง)
ตม: อ่อ ครับ แล้วเค้าก็เอาตัวปั๊มเข้าเมืองมาปั๊มบนพาสปอร์ตเราแล้วก็ให้ผู้ชายคนนึงมาพาเราออกไป

สรุปแล้วคือเราก็ออกมาได้ค่ะ บอกไม่ถูกว่าดีใจมากแค่ไหน ถ้าถูกส่งกลับประเทศเราคงไม่ได้มาที่นี่อีก หลังจากนั้นเราก็ไปเกาหลีอีก 2 ครั้งบิน เค้าถามเรื่องนามสกุลเราครั้งนึงซึ่งเป็นครั้งที่เราไปแอร์เอเชีย เราเลยตอบไปว่า เราตัดตัวอักษรบางตัวออก เราก็ผ่านปกตินะคะ ส่วนอีกครั้งเราบิน korean air ก็ไม่ได้ถามอะไรค่ะ ที่เรามาแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้เพราะเราเชื่อว่าถ้าคุณมีเจตนาที่ดี เตรียมตัวดี ก็ไม่น่ามีปัญหากับการเข้าประเทศนะคะ เราเห็นเพื่อนเราไปกันเต็มเลย เกือบทั้งหมดไปเที่ยวเองก็ไม่เคยเห็นใครมีปัญหานะคะ (ถ้าไม่ซวย+โง่ๆแบบเรา)แต่ช่วงนี้เราไม่รู้ว่าการปฏิเสธคนไทยหนักแค่ไหน แต่มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ใครมีประสบการณ์มาแชร์ได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่