เรื่องคือ ในตอน 21.00 น. กลับมาถึงบ้าน บ้านของเพื่อนบ้านไฟดับ จึงแจ้ง กฟภ. เมื่อ จนท.มาถึง แจ้งให้บ้านของเรา ปิดไฟ ด้วย เพื่อซ่อมไฟบนเสาไฟดังกล่าว

ขอยอมรับความจริงว่าเมื่อคืนกลับมาก็เพลียมากแล้ว สมองก็เบลอๆ และได้ยินเพียง จนท.แจ้งว่า ให้ ปิดไฟ ก็จึงทำการเพียงปิดไฟ ดึงปลั๊กทุกตัวออกเท่านั้น แต่ ไม่ได้นำคัตเอ้าส์ลงค่ะ

หลังจากนั้น เมื่อ จนท. แจ้งว่าซ่อมบนเสาไฟเสร็จแล้ว จึงเปิดไฟปกติ และได้กลิ่นเหม็นไหม้แบบจางๆ ในใจก็คิดว่า คงเป็นกลิ่นจากเทียนที่จุดตอนที่ดับไฟ
จากนั้นผ่านไป 2 ชั่วโมง ต้องการพักผ่อน จึงเข้าห้องนอน ปรากฎว่า กลิ่นไหม้ฉุนแรงมาก จึงพยายามหาว่าเกิดจากสาเหตุใดและตรงไหน กระทั่งเปิดแอร์ เปิดจากรีโมทก็ไม่ได้ เปิดโดยจากตัวเครื่องแอร์ ก็เปิดไม่ได้ จึงโทรไปแจ้ง กฟภ. อีกครั้ง ว่าเกิดจากอะไร

จากนั้น จนท. กฟภ. ชุดเดิม มาตอนเวลา 02.00 น. และเข้ามาดูตรงเซฟทีคัท ตรงคัตเอ้าส์ แจ้งว่าไม่เกี่ยวกับการซ่อมแซมบนเสาไฟดังกล่าว และก็ไม่ได้เป็นอะไร กระแสไฟเข้าตามปกติ แต่ไม่เข้าแอร์ในห้องนอน ส่วนแอร์ห้องอื่นๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติ และให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นที่ช่างที่มาติดตั้งแอร์ เขาวางยาหรือทำไม่ดีเอาไว้หรือเปล่า เราจึงแจ้งกลับไปว่า ซื้อบ้านและติดตั้งแอร์โดยทันที มานับเป็นเวลาร่วม 10 ปี ถ้าเกิดจากที่ จนท.กล่าวจริง คงไม่สามารถใช้งานมาได้ยาวนานขนาดนี้ และเพิ่งจะใช้แอร์แบบแทบทุกวันในช่วงปีนี้ ที่สภาพอากาศร้อนมาก เพราะเราป่วยด้วยค่ะ ต้องรักษาอุณหภูมิในร่างกายโดยตลอด ส่วนการบำรุงรักษาก็บำรุงรักษาจากช่างแอร์มาโดยตลอดเช่นเดียวกัน

ที่ต้องการสอบถามและปรึกษาจากผู้ทราบข้อมูล คือ เป็นความประมาทของเราเองจากการไม่ได้นำคัทเอ้าส์ลง ด้วยความเบลอ และเสื่องที่ จนท.บอกให้ปิดไฟก็ทำเพียงแค่การปิดไฟ แล้วพอปล่อยไฟมา ทำให้ไฟกระชาก เกิดความเสียหายกับตัวเครื่องแอร์หรือไม่  หรือ เป็นจากการซ่อมเสาไฟฟ้าของ กฟภ. หรือเป็นจากอายุการใช้งานตลอดจนการใช้งาน ที่ทำให้แอร์เกิดเสีย พัง ไหม้ เป็นความประจวบเหมาะกันพอดีกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากสายไฟใหญ่ของ กฟภ. พอดีกัน รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ