ถึงจุดนี้ ช่อง 3 (BEC) ถือว่าคิดผิดหรือเปล่าที่แย่งประมูลทีวีดิจิตอลมา 3 ช่อง

คือถ้าจะให้เดาความคิดของฝ่ายวางกลยุทธ์และผู้บริหาร BEC ก็น่าจะเดาว่า ในเมื่อตอนนั้นมีประมูลกันหลายช่องมาก และช่อง 3 ก็มีผู้จัดในสังกัดมากมาย ดาราก็เยอะ ก็น่าจะวางเป้าไว้คร่าวๆ ประมาณนี้

1) มีช่องเยอะ ก็ออกอากาศได้มากขึ้น จากเดิมมี 24 ชม. เป็นไพรม์ไทม์ 6 ชม. ก็มีเพิ่มเป็น 72 ชม. ไพรม์ไทม์ 18 ชม. หาเงินได้มากขึ้น
2) มีเวลาให้พวกผู้จัดมากขึ้น จัดสรรปันส่วนได้ดีขึ้น เพราะมีทั้งผู้จัดรายเดิมๆ ที่ทำอยู่แล้ว รวมถึงดารารุ่นใหญ่ รุ่นกลางที่เริ่มผันตัวเองไปเป็นผู้จัด เช่น นกสินจัย แอน ทองประสม ที่มาเพิ่มเติมจากเจ้าเดิมที่มีเยอะอยู่แล้ว ทั้งหน่อง อรุโนชา และใครต่อใครอีกมากมาย (รู้สึกว่าหลังๆ การเป็นผู้จัดมันง่ายกว่าเดิมเยอะ)
3) ตัดคู่แข่ง เพราะจากเดิมมีคู่แข่งมากขึ้น ถ้าประมูลมาไว้ 3 ใบ ก็น่าจะตัดคู่แข่งที่จะเข้ามาในตลาดไปอีก 2 ราย

แต่ปรากฏว่า ทีวีดิจิตอลมันมีช่องเยอะไป แม้ว่าช่อง 3 จะเหมามาถึง 3 ใบ และผู้ชมก็แทบแยกไม่ออกว่า ช่อง 3HD, 3SD และ 3Family มันมีเนื้อหาแตกต่างกันอย่างไรบ้าง แต่ผลลัพธ์มันคือ

1) เป็นค่ายที่แบกต้นทุนแพงสุด เพราะประมูลมา 3 ใบ
2) การบริหารทั้ง 3 ช่อง หรือ 72 ชม. ต่อวัน กลายเป็นภาระหนักอึ้ง เพราะ content ที่คิดว่าน่าจะมีเยอะ ดันออกไปทำช่องของตัวเองซะงั้น อีกสองช่องลูกเมียน้อยที่ตัวเองต้องทำขนานไปด้วย เลยต้องเอาละครมารีรันฉายวนไป หรือเอารายการสดช่องหลักมารีรันเป็นเทปอีกครั้ง ซึ่งคนมันดูย้อนหลังทางยูทู้ปได้ ไม่ต้องประมูลมาช่องนึงเพื่อมาฉายทางทีวีหรอก
3) ไม่โฟกัส กลายเป็นว่าช่อง 3 ไม่มีอัตลักษณ์อะไร ต่างจากคู่แข่งที่ชัดว่า ช่องตนคือช่องวาไรตี้บันเทิง อีกช่องนึงเป็นข่าว อีกช่องนึงเป็นไลฟ์สไตล์ ส่วนช่อง 3 วางตัวเองเป็นอะไร ก็ไม่ชัด

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ช่อง 3 ดันมาเจอมรสุมอีก
1) สรยุทธ์ต้องยุติบทบาทหน้าจอ
2) Facebook เริ่มทำ live สดได้ พวกที่ทำ content ยิ่งมีทางเลือกมากขึ้นไปอีก ไม่ต้องพึ่งทีวีดิจิตอลแล้ว อย่างสรยุทธ์เองก็ทำ live สดเกือบทุกวัน
3) Platform online ถือกำเนิดและเริ่มเปิดตัวในไทยเพียบ ทั้ง Netflix, iflix, AIS Playbox, Primetime ฯลฯ อยากดูอะไรก็ได้ดู นี่ไม่ต้องนับ Youtube ที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่ากระเทือนวงการทีวีขนาดไหน



เพราะฉะนั้น เมื่อวิเคราะห์ถึงจุดนี้แล้ว จะมองว่าช่อง 3 ก้าวพลาดอย่างใหญ่หลวงได้ไหมครับ เพราะหุ้น BEC เองก็ราคาลดลง market cap. หายไปแบบฮวบฮาบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่