สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
เกิดความสงสัยว่า ระหว่าง Volt กับ amp ที่เพิ่มขึ้น อย่างไหนทำให้ชาร์จมือถือได้เร็วกว่ากันครับ
จริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 แบบนี้มันแปรผันตรงกันครับ อธิบายได้ 2 กรณี
1. หาก Charger ตัวนั้น สามารถจ่ายแอมป์ได้มากอยู่แล้ว เช่น มากเกินกว่าที่มือถือ ดึงไปชาร์จ
การเพิ่ม Volts ก็จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น เนื่องจากเมื่อ V input เพิ่ม แอมป์ที่วิ่งเข้าไปในมือถือก็จะเพิ่มตาม
2. หาก Charger ตัวนั้นมีขนาดแอมป์ที่มากขึ้น (หรือความสามารถในการจ่ายแอมป์มากขึ้น)
เช่น เพิ่มจาก 5V 2.1A ไปเป็น 5V 4A การชาร์จก็จะไม่เร็วขึ้นเลย เพราะมือถือจะดึงกระแสเข้าชาร์จเท่าเดิม
เนื่องจาก V ไม่เพิ่ม (ยัง 5V เท่าเดิม) ครับ
หรือเราสามารถเทียบได้ไหมว่า ถ้า volt เพิ่มเท่านี้ จะได้ Amp ที่เพิ่มมาประมาณนี้
กรณี Load เป็นมือถือ มันคือ active load ซึ่งการกินไฟอาจจะไม่เป็นเชิงเส้นก็ได้ครับ
ดังนั้น เมื่อไม่เป็นเชิงเส้นก็จะไม่เป็นไปตามสูตรง่าย ๆ แบบ I = V/R ดังนั้นจะระบุไม่ได้เลยครับ
ถ้ามือถือเรารับได้ทุกรูปแบบ ควรเอาแบบไหนดีกว่า เพราะอะไรครับ
หากรับได้แบบนั้นจริง ควรเพิ่ม Volts ครับ เพราะการเพิ่ม V จะมีผลให้กระแสไหลเข้า
มือถือได้มากขึ้น (อ่านต่อข้างล่างครับ)
หมายเหตุ
ใน Smartphone ทุกรุ่นในปัจจุบัน ข้างในจะมี Chip ที่เรียกว่า Power management
มันจะทำหน้าที่ส่วนหนึ่งคือ ควบคุมการชาร์จ ครับ โดยมันจะมีวงจรชาร์จแบตลิเธียม
ที่จะคุมกระแสให้มากในตอนต้น และค่อย ๆ ผ่อนน้อยลงในช่วงต่อไป ซึ่งวงจรแบบนี้
เป็นลักษณะของวงจรที่เรียกว่า Constant current โดยมันจะคุมกระแสที่จ่ายเข้าชาร์จแบต
ให้คงที่ แม้ว่า V input จะเพิ่มมากขึ้นไปเท่าใดก็ตามครับ เช่น หาก V เข้าชาร์จ = 5V
มันก็จะชาร์จด้วยกระแส 0.7A (สมมุติ) แต่หาก V มากขึ้นเป็น 8V .... วงจรนี้ก็ยังคุม
กระแสเข้าชาร์จแบต = 0.7A เหมือนเดิม
ดังนั้น ที่จขกท.สมมุติว่าหากเพิ่ม Vinput เข้าไป Smartphone ก็จะชาร์จได้เร็วเท่าเดิมครับ
ยกเว้นรุ่นที่มีการชาร์จแบบเร็ว ผมไม่แน่ใจว่าวงจร หรือ concept จะเป็นแบบใหน
จริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 แบบนี้มันแปรผันตรงกันครับ อธิบายได้ 2 กรณี
1. หาก Charger ตัวนั้น สามารถจ่ายแอมป์ได้มากอยู่แล้ว เช่น มากเกินกว่าที่มือถือ ดึงไปชาร์จ
การเพิ่ม Volts ก็จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น เนื่องจากเมื่อ V input เพิ่ม แอมป์ที่วิ่งเข้าไปในมือถือก็จะเพิ่มตาม
2. หาก Charger ตัวนั้นมีขนาดแอมป์ที่มากขึ้น (หรือความสามารถในการจ่ายแอมป์มากขึ้น)
เช่น เพิ่มจาก 5V 2.1A ไปเป็น 5V 4A การชาร์จก็จะไม่เร็วขึ้นเลย เพราะมือถือจะดึงกระแสเข้าชาร์จเท่าเดิม
เนื่องจาก V ไม่เพิ่ม (ยัง 5V เท่าเดิม) ครับ
หรือเราสามารถเทียบได้ไหมว่า ถ้า volt เพิ่มเท่านี้ จะได้ Amp ที่เพิ่มมาประมาณนี้
กรณี Load เป็นมือถือ มันคือ active load ซึ่งการกินไฟอาจจะไม่เป็นเชิงเส้นก็ได้ครับ
ดังนั้น เมื่อไม่เป็นเชิงเส้นก็จะไม่เป็นไปตามสูตรง่าย ๆ แบบ I = V/R ดังนั้นจะระบุไม่ได้เลยครับ
ถ้ามือถือเรารับได้ทุกรูปแบบ ควรเอาแบบไหนดีกว่า เพราะอะไรครับ
หากรับได้แบบนั้นจริง ควรเพิ่ม Volts ครับ เพราะการเพิ่ม V จะมีผลให้กระแสไหลเข้า
มือถือได้มากขึ้น (อ่านต่อข้างล่างครับ)
หมายเหตุ
ใน Smartphone ทุกรุ่นในปัจจุบัน ข้างในจะมี Chip ที่เรียกว่า Power management
มันจะทำหน้าที่ส่วนหนึ่งคือ ควบคุมการชาร์จ ครับ โดยมันจะมีวงจรชาร์จแบตลิเธียม
ที่จะคุมกระแสให้มากในตอนต้น และค่อย ๆ ผ่อนน้อยลงในช่วงต่อไป ซึ่งวงจรแบบนี้
เป็นลักษณะของวงจรที่เรียกว่า Constant current โดยมันจะคุมกระแสที่จ่ายเข้าชาร์จแบต
ให้คงที่ แม้ว่า V input จะเพิ่มมากขึ้นไปเท่าใดก็ตามครับ เช่น หาก V เข้าชาร์จ = 5V
มันก็จะชาร์จด้วยกระแส 0.7A (สมมุติ) แต่หาก V มากขึ้นเป็น 8V .... วงจรนี้ก็ยังคุม
กระแสเข้าชาร์จแบต = 0.7A เหมือนเดิม
ดังนั้น ที่จขกท.สมมุติว่าหากเพิ่ม Vinput เข้าไป Smartphone ก็จะชาร์จได้เร็วเท่าเดิมครับ
ยกเว้นรุ่นที่มีการชาร์จแบบเร็ว ผมไม่แน่ใจว่าวงจร หรือ concept จะเป็นแบบใหน
แสดงความคิดเห็น
ระหว่าง Volt กับ amp ที่เพิ่มขึ้น อย่างไหนทำให้ชาร์จมือถือได้เร็วกว่ากันครับ
แต่อุปกรณ์ที่ใช้ชาร์จ ก็ระบุไว้หลายแบบ
เช่น 9.0 V-1.67 A, 5.0V-2.0A เป็นต้น
เลยเกิดความสงสัยว่า ระหว่าง Volt กับ amp ที่เพิ่มขึ้น อย่างไหนทำให้ชาร์จมือถือได้เร็วกว่ากันครับ
หรือเราสามารถเทียบได้ไหมว่า ถ้า volt เพิ่มเท่านี้ จะได้ Amp ที่เพิ่มมาประมาณนี้
ถ้ามือถือเรารับได้ทุกรูปแบบ ควรเอาแบบไหนดีกว่า เพราะอะไรครับ