ประสบการณ์น่าตื่นเต้น เมื่อจะไปดูคอนเสิร์ตที่เกาหลี แต่โดนตม.กักตัว TT

อันยองงงง ^^  ต้องบอกก่อนเลยว่า เราไปเที่ยวเกาหลีใต้เพราะจะไปดูคอนเสิร์ตและไปเที่ยวค่ะ (เราเป็นติ่งเกาหลีที่ไปเกาหลีครั้งแรกและติดตม.แต่รอดมาได้ไม่ใช่เพราะเป็นติ่ง แต่เพราะมีหลักฐานไปครบ) เราไปดูคอนมาเมื่อปีที่แล้ว คอนมี 2 วัน และแฟนมีตติ้งของอีกวงนึงอีก 1 วัน  ไปกับพี่สาวอีกสองคนรวมเราด้วยเป็นสาม (ทริปนี้ไปสามคน) ก่อนไปเนี่ยศึกษาการติดตม.ค่ะ เพราะไปครั้งแรก หน้าพาสเป็นสีขาวกลัวและกังวลมากเลยกลัวว่าจะต้องไปติดตม.และถ้าไปติดจะทำไงดี แพลนการท่องเที่ยวของเราไม่ได้วางไว้ค่ะ (เพราะพี่บอกว่าวางแพลนทีไรล่มตลอด เลยไม่มีแพลน แต่เราเป็นติ่งหนิ เราก็เลยรู้ว่าที่เกาที่ไหนมีที่เที่ยวเกร๋ๆบ้าง) วันที่ไปเป็นไฟท์บินตอน 1.55 ค่ะ ไปถึงที่นู้นก็ประมาณเก้าโมงกว่าๆ เดินไปเข้าเที่ยวเข้าตม.ด้วยใจเต้นรัวมาก กลัวมากเลยจุดนั้น สรุปเราได้ไปเจอตม.ก่อนค่ะ พอไปถึงเคาน์เตอร์ (เจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิง) เอาพาสยื่นให้ สักพักให้เอานิ้วแสกนและถ่ายรูป และเริ่มถาม นางถามเป็นอิ้ง ซึ่งทุกคนน่าจะเข้าใจว่าอิ้งสำเนียงเกาฟังยากแค่ไหน คำถามแรกเราฟังไม่ออกเลยบอกนางไปว่า “ I’m sorry I didn’t hear what you said. Could you say it again please? “ นางไม่พูดอีกรอบแต่ลุกยืนแล้วเรียกเจ้าหน้าที่อีกคนมาพาเราไปที่สำนักงาน (ซึ่งยังเป็นแค่ห้องสำนักงานธรรมดาไม่ใช่ห้องเย็น ห้องเย็นจะต้องเดินเข้าไปอีกหากตอบคำถามตรงสำนักงานไม่ได้)  เราก็แบบเอาแล้วมึ๊งงง จะรอดมั้ยเนี่ย แต่ก้ยังคงทำหน้าปกติไม่ตื่นกลัวใดๆ (แต่ใจนี่ไปหมดแล้วค่ะ จะร้อง   ) พอไปถึงสนง.จนท.ผู้ชายยื่นแบบสอบถามที่เป็นภาษาไทยมาให้และบอกว่าอย่าเพิ่งเขียนนั่งรอก่อน เรายังไม่ทันจะนั่งจนท.อีกคนก็มาเชิญให้เราไปนั่งที่เคาน์เตอร์และขอพาสอีกรอบ เราก็ยื่นให้ไป สักพักเค้าก็ถามว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เราก็ตอบกลับไปว่าได้นิดหน่อย แล้วก็บอกงั้นรอแปบบนึง เค้าหายไปแปบนึงไปตามเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่หน้าตาใจดีหน่อยมาคุยกับเราเป็นภาษาไทย เค้าถามเราว่ามากี่วัน เราบอกว่ามา 7 วันค่ะ แล้วก็ถามต่อว่ามากับใคร เราบอกว่ามากับพี่สาวสองคน แล้วเค้าก็ถามอีกว่าพี่สาวตอนนี้อยู่ที่ไหน เราก็บอกรออยู่ข้างนอกค่ะ (ตอนนั้นมั่นใจว่าพี่สองคนผ่านแน่นอนเพราะว่าพี่คนโตเคยมาหลายรอบแล้ว ส่วนพี่อีกคนเป็นนักศึกษามีบัตรนักศึกษา นางต้องรอเราอยู่ข้างนอกแน่นอน) แล้วเค้าก็ถามว่าทำงานอะไร เราก็บอกว่าทำงานในหน่วยงานราชการและบอกตำแหน่งงาน เค้าเลยถามว่ามีบัตรพนักงานมั้ย เราบอกว่ายังไม่ได้ (ตอนนั้นเพิ่งเข้าทำงาน) แต่มีหนังสือรับรองการทำงานมา เลยหยิบออกมาแล้วยื่นให้เค้า เค้าเอาไปอ่านแล้วหันไปพูดกับจนท.ที่ดูเคสเราเป็นภาษาเกาหลีซึ่งเราพอฟังออก เค้าพูดกันประมาณว่า อ่าไม่เป็นไร เค้ามีเอกสารบรองการทำงานมาด้วย แล้วเค้าก้ดูพาสเราอีกที จากนั้นแกก็เดินออกไปจากสนง. (เรามารู้ทีหลังว่าเค้าถือพาสออกไปถามพี่เราที่รออยู่ข้างนอกว่ารู้จักกันมั้ย) สักพักก็กลับเข้ามา ให้เราสแกนนิ้วถ่ายรูป และพาเดินออกมาส่ง เจ้าหน้าที่เดินมาส่งที่ประตูและพูดว่า โชคดี เราก็ขอบคุณค่า (ใจนี่โล่งมากกกกกก แทบจะก้มลงกราบลุงเค้าเลย) พอเจอหน้าพี่นี่ขำกร๊ากเลย ไอ้สิ่งที่กลัวนี่เป็นจิงทุกอย่างอ่ะ แต่พอเข้าไปแล้วก็แบบ เออถ้าเรามีหลักฐานการทำงานไป ตอบคำถามที่เป็นความจริงทุกอย่างก็รอดมาได้อ่ะ นี่แอบคิดนะว่าถ้าสุดท้ายไม่ผ่านจะเอาตั๋วคอนที่จองผ่านออนไลนืที่ปริ๊นซ์ไปด้วยเนี่ยให้เค้าดูแล้วล่ะ ในจะบรรดากล้องถ่ายรูปสามสี่ตัวในกระเป๋าอีก แต่สุดท้ายก็ใช้แค่หลักฐานการทำงาน คำพูดที่เป็นความจริงแค่นี้ก็ผ่านตม.ฉลุยแบบไม่ต้องไปแนะนำตัวกับเค้าว่าเราเป็นติ่งเลย

//ยาวไปหน่อยขอโทษด้วยนะคะ
//ฝากไว้สำหรับคนที่มีแพลนจะไปเกาหลีและจะไปเป็นครั้งแรกค่ะ เตรียมข้อมูลส่วนตัวและหลักฐานให้พร้อม เช่น ตั๋วเครื่องบินค่ากลับ หลักฐานการจองที่พัก แพลนการท่องเที่ยวในแต่ล่ะวัน (ถ้ามีแพลนจะต้องศึกษาสถานท่องเที่ยวแต่ละที่ให้เข้าใจด้วย เผื่อตม.ถาม)เงินที่แลกไปแล้ว ภาษาอังกฤษไม่ต้องถึงกับเก่งแค่งูๆปลาๆก็ได้ ที่นั่นมีเจ้าหน้าที่ที่พูดไทยได้บ้าง ตม.เกาหลีไม่ได้น่ากลัวแบบที่คุณคิด แต่น่ากลัวกว่าที่คุณคิด ผ่างผ่างผ่างงงงง (เค้าล้อเล่นนนนน๊าาาา)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่