สวัสดีครับทุกท่าน :')
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่านี่คือตัวจริงของผมและเป็น ID ของผมเอง ไม่ได้ยืมใครมาทั้งสิ้นนะครับ
ผมเชื่อว่ามีใครหลายคนที่คิดสงสัยว่าประชาชนทั่วไปอย่างเรา ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ข้าราชการ สามารถหาซื้ออาวุธปืนมาใช้เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินหรือใช้เพื่อการกีฬา สันทนาการ ได้หรือไม่ ผมในฐานะประชาชนธรรมดาก็เคยสงสัยเช่นนั้นครับ จนกระทั่งศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองบ้าง ถามผู้รู้บ้าง และสุดท้ายได้ลองดำเนินการขออนุญาตเพื่อซื้ออาวุธปืนด้วยตัวเอง พบว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะครับ
อาวุธปืนในประเทศไทย (ที่มีทะเบียน ถูกต้องตามกฎหมาย) สำหรับผมถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่า ขายต่อได้ราคา รุ่นยอดนิยมบางครั้งขายต่อได้กำไรเสียด้วยซ้ำ สามารถส่งต่อเป็นมรดกล้ำค่าให้แก่บุตรหลานจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งอาวุธปืนเหล่านี้ยังมีความสวยงามปราณีตในเชิงวิศวกรรม ต่อให้ไม่ได้เอาไปใช้งาน เก็บไว้เฉยๆ หยิบมาขัดถูดูเล่นก็มีความสุขได้ ดังนั้น ผมจึงถือว่าอาวุธปืนคือ 'ทรัพย์สิน' (Asset) ชนิดหนึ่ง
ผมขอแบ่งปันประสบการณ์การขอใบอนุญาตในการซื้ออาวุธปืนสำหรับประชาชนทั่วไปครับ (สำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาใน กรุงเทพฯ นะ)
---
การจะเริ่มคิดที่จะครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกกฎหมายนั้น คุณต้องมีสองสิ่งครับ
สิ่งแรกที่คุณจะต้องมี คือ "ทรัพย์สมบัติ" ครับ
ทรัพย์สมบัติ ในความหมายแคบๆ หมายถึง เงินสด ทองคำ ที่ดิน สวนไร่นา ปศุสัตว์ คลังสินค้า หรืออะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่มีมูลค่าที่สามารถถูกแย่งเอาไปได้
ทรัพย์สมบัติ ในความหมายกว้าง หมายถึง หน้าที่การงานที่มั่นคง ครับ ไม่ว่าจะ Self-employed หรือ Salary ก็แล้วแต่
สิ่งที่สองที่คุณจะต้องมีต่อจากทรัพย์สมบัติก็คือ "ความดี" ครับ
คุณต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมบันทึกอยู่ใน Database ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในสายตาของเจ้าหน้าที่ออกใบอนุญาต ถ้าผลตรวจลายนิ้วมือของคุณไม่พบประวัติอาชญากรรม เจ้าหน้าที่จะถือว่าท่านเป็นคนดีครับ
หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณมั่นใจว่าคุณมีทั้งทรัพย์สมบัติและความดี เรื่องการขออนุญาตซื้อปืนจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ครับ
---
สิ่งที่คุณต้องเตรียมเพื่อขออนุญาตซื้อปืนนั้น มีดังนี้ครับ
- บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้านกรุงเทพฯ ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 6 เดือน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- หลักฐานการประกอบอาชีพ อาทิเช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้านหากเป็นลูกจ้างหรือรับจ้างต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่หน้าที่ เงินเดือน จากผู้ที่มีอำนาจจัดการของกิจการนั้นหรือเจ้าของแล้วแต่กรณีหากมิได้มีอาชีพรับจ้างต้องมีเอกสารประกอบตามที่อ้างอิง อาทิเช่น ทำสวน ติดต่อค้าขายที่ หรือค้าขายย่อย หรือเร่ขาย โดยไม่ได้จดทะเบียน ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดินเงินฝากธนาคาร (Statement) หรือหลักฐานอื่นเพื่อประกอบการพิจารณา
*** ในข้อนี้ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานประจำ รับเงินเดือนจากนายจ้าง สิ่งที่ผมเตรียมไปคือ 'หนังสือรับรองเงินเดือน' ฉบับจริงที่ขอจากฝ่ายบุคคล และ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ของบัญชีเงินเดือนครับ ***
- หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตจากข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป
*** ในข้อนี้ ส่วนตัวผมถือว่าเป็นข้อที่ยากที่สุดสำหรับการขออนุญาตซื้ออาวุธปืน เพราะไม่ใช่มนุษย์ทุกคนจะมีเพื่อนหรือญาติ ที่เป็นข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป แต่ดีที่พี่ที่ทำงานผมคนนึงท่านเคยรับราชการ และรบกวนให้ท่านรับรองความประพฤติให้ครับ ส่วนแบบฟอร์มนั้น โหลดได้ตาม Link นี้ครับ ***
https://www.dopa.go.th/app_form/download/46
- พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ และสืบสวนความประพฤติ
- หนังสือรับรองการผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- ถ้าขอเพื่อการกีฬา ต้องมีใบรับรองจากสนามยิงปืนว่าเป็นสมาชิกหรือเป็นนักกีฬาจริง
---
การทำเรื่องซื้ออาวุธปืน สำหรับผม เหมือนการทำ Quest ในเกม RPG น่ะครับ คือต้องไล่เก็บไอเท็มแต่ละชิ้นๆ สะสมจนครบแล้วถึงจะผ่านด่านได้
เริ่มต้นเลย ผมติดต่อทางฝ่ายบุคคลเพื่อขอหนังสือรับรองเงินเดือนมาเตรียมไว้ก่อน และเดินไปที่ธนาคารที่เงินเดือนเข้า ไปขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือนรอไว้ แล้วเริ่มมองหาสนามยิงปืนที่สามารถเข้าไปเป็นสมาชิกครับ โดยที่สนามยิงปืนก็มีหลากหลายในกรุงเทพฯ ผมเลือกสนามยิงปืนที่เดินทางสะดวก เจ้าหน้าที่ครบครัน และนายสนามสามารถออกใบรับรองให้ได้
หลังจากได้สนามยิงปืนที่ถูกใจแล้ว ผมก็ลงสมัครคอร์สอบรมสั้นๆ เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของสนามยิงปืนนั้น สนามที่ผมไปสมัครอบรมนั้นดีมาก เพราะผู้สมัครอบรมทุกคนจะ Qualified เป็นสมาชิกวิสามัญของสนามยิงปืนทันที นั่นหมายความว่า ต่อไปในอนาคต ในฐานะสมาชิก ผมสามารถซื้อเครื่องกระสุน ใช้สนามยิงปืน หรือขอใบรับรองจากสนามได้ เรียกได้ว่ายิงนกนัดเดียวได้ปืนสองตัว (ฮา) เหล่านี้นี่คือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมจะแนะนำครับ
การเข้าอบรมการใช้อาวุธปืนนั้น ส่วนตัวผมถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับสำหรับคนที่คิดจะมีปืน เพราะท่านจะได้รับการเทรนเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งความปลอดภัย มารยาทการยิงปืน การ Operate อาวุธปืนแบบต่างๆ (ปืนสั้นลูกโม่ ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ปืนลูกซอง ปืนยาว ฯลฯ) หลักการยิงปืน ท่าทางการยิง ฯลฯ นอกจากนี้ ท่านจะได้พบกับผู้คนหลากหลายอาชีพ หลากหลายช่วงอายุ ได้มีโอกาสเจอสังคมใหม่ๆ สร้าง Connection ไปในตัวครับ
พยายามเลือกสนามที่อบรมวันเดียวจบและได้รับ Certificate ในเย็นวันนั้นเลย ได้บัตรสมาชิกด้วยยิ่งดีครับ ขอย้ำนะครับ "Certificate ที่บอกว่าเราผ่านการอบรมการใช้อาวุธปืน และ บัตรสมาชิกสนามยิงปืน" นั้น สำคัญมาก ไปอบรมความรู้ที่ได้นี่จำเป็นก็จริง แต่ใบ Cert. นี่สำคัญกว่าครับ ในการขอซื้ออาวุธปืน
เมื่อได้รับ หนังสือรับรองเงินเดือนพร้อม Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ใบ Cert. ผ่านการอบรมยิงปืนและบัตรสมาชิกมากอดแนบกาย ไอเท็มถัดไปคือหนังสือรับรองความประพฤติครับ
ผมเองโชคดีที่มีพี่ที่ทำงานท่านนึงเคยรับราชการตำแหน่งเทียบเท่า C6 เลยไหว้วานให้ท่านรับรองความประพฤติให้ ผมตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง แถวที่ทำงานเป็นการตอบแทนครับ
ได้ครบดังนี้แล้ว Quest นี้ใกล้สำเร็จแล้วครับ
---
หลังจากได้ไอเท็มครบ ผมก็ไปที่ศูนย์บริการประชาชน กรมการปกครอง (วังไชยา) ครับ ถ้าใครนึกไม่ออก ก็บอกแท็กซี่ว่าไปสนามม้านางเลิ้ง ลงแถวแล้วถามคนแถวนั้น ตอบได้ทุกคนครับ ก่อนออกจากบ้าน Re-check เอกสารในซองอีกทีว่าตรงตามที่กำหนดมั้ย บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ตัวจริงต้องติดมาด้วยนะครับ ส่วนใครที่ลืมถ่ายเอกสาร ที่วังไชยามีบริการครับ แต่โคตรแพง ใบละสองบาท ผมแนะนำว่าถ่ายเอกสารให้เรียบร้อยมาจากที่บ้านจะดีที่สุดครับ
สำนักงานที่วังไชยาจะเล็กๆ ครับ ตอนที่ผมไปมีการปรับปรุงพื้นที่ เสียงดังน่าดู เดินเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่หน้ากองเอกสารข้างตู้กดน้ำ เดินเข้าไปบอก จนท. ท่านนั้นว่ามาทำใบ ป.3
จนท. จะถามท่านคร่าวๆ ว่าทำมาหากินอะไร? เตรียมเอกสารอะไรมาบ้าง? รู้มั้ยต้องทำอย่างไร? ท่านก็แค่ตอบๆ ไป หลังจากนั้น จนท. ท่านนั้นจะยื่นแบบ ป.1 มาให้ท่านกรอกครับ
แบบ ป.1 คือใบคำร้องธรรมดาๆ นี่เองครับ มันจะถูกเย็บติดกับเอกสารคำให้การด้วย วิธีการกรอกไม่ยากครับ มีตัวอย่างติดอยู่บนโต๊ะทุกโต๊ะเลยครับ ดูตามและกรอกตามได้เลย ไม่ยากครับ
ขั้นตอนต่อไปคือการพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมครับ จนท. ก็จะนำนิ้วของท่านทั้งสิบไปกดๆ บนหมึกดำๆ แล้วไปกดบนกระดาษครับ นิ้วเปื้อนไปตามๆ กัน
อีกขั้นตอนหนึ่งการสอบสวนครับ ที่วังไชยาคือช่อง 8 จะมีโต๊ะ จนท. อยุ่สองสามโต๊ะ ถ้าห้องว่าง ไม่มีลูกค้าอยู่ ก็เดินเข้าไปเลย ส่วนตัวผมว่า จนท. ทุกท่านใจดีหมดครับ พอเข้าไปนั่งแล้ว ท่านก็ยื่นเอกสารที่ได้จากการทำ Quest ของท่านให้กับ จนท. ถ้าเอกสารครบตามที่ผมแจ้งไว้ข้างต้นและท่านไม่เคยมีคดีติดตัว ผมเชื่อว่าได้ใบ ป.3 ทุกคนครับ
ตอนผมไปนั่งห้องสอบสวนช่อง 8 จนท. แอบแซวว่า ทำไมตัวจริงหน้าไม่เหมือนในบัตรประชาชน ทำเอาผมเสีย Self ไปพักนึงเลยครับ
เมื่อ จนท. ตรวจเอกสารเสร็จหมดแล้ว เค้าจะพิมพ์ใบสรุปออกมาให้ท่าน Check อีกรอบ ว่าชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ชนิด ขนาด อาวุธปืน ถูกต้องหรือไม่ พร้อมกับยื่นไปรษณียบัตร มาให้ท่านกรอกที่อยู่บ้านของท่านครับ
กระบวนการสุดท้ายคือการจ่ายค่าธรรมเนียม ใบ ป.3 ครับ ค่าเสียหายอยู่ที่ 6 บาท (หกบาทถ้วน) ครับ ขอย้ำนะครับ 6 บาท เท่านั้น !!!!
เสร็จแล้ว เดินตัวปลิวออกจากวังไชยา แวะกินต้มเลือดหมูข้างเซเว่นฯ แถวนั้นก่อนกลับบ้านไปนับวันรอใบ ป.3 ครับ
สำหรับท่านที่ให้ร้านปืนบริการทำ ใบ ป. 3 ให้แล้วต้องจ่าย 3,000 - 5,000 นั้น ... ส่วนตัวผมว่ายื่นเองเหอะครับ เอกสารที่ท่านต้องให้ร้านก็เหมือนกับที่ท่านต้องให้กับวังไชยา ดังนั้น ไม่มีอะไรต่างครับ ประหยัดไปตั้งมากโข
*** ถ้าท่านขอปืนขนาดทั่วๆ ไป เช่น .38, 9mm, 12G, .22 ไม่ว่าจะปืนสั้นหรือปืนยาว แนบแค่ใบ Cert. ผ่านการอบรมการใช้อวป. ครับ เพียงพอแล้ว ระบุในใบคำร้องว่า "เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน" ได้เลยครับ
*** ถ้าท่านเป็นคนบ้าพลังแม็กนั่ม และ มีเงินถุงเงินถัง อยากได้อาวุธปืนขนาดใหญ่ๆ เช่น .357 Magnum, .44 Magnum, .45 ผมแนะนำว่าให้ท่านแนบใบรับรองจากสนามยิงปืนที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่ที่ระบุว่าท่านต้องใช้ปืนขนาด .357/.44/.45 ฯลฯ ในการแข่งขัน พร้อมระบุในใบคำร้องว่า "เพื่อการกีฬา" ครับ
มีข่าวลือมากมายบอกว่าประชาชนทั่วไปขอ .357, .44, .45 ไม่ได้ นั้น ..."ไม่ใช่เรื่องจริง" นะครับ ขอได้ครับ กทม. หรือ ตจว. ก็ขอได้หมดครับ เพียงแต่ว่าต้องมีใบรับรองจากสนามยิงปืนและขอเพื่อการกีฬาครับ
---
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ผมก็ได้ไปรษณีย์บัตรมาส่งให้ถึงบ้าน ให้ไปรับ ใบ ป.3 ที่วังไชยาครับ
หลังจากนี้คือความสนุกแล้วครับ :')
[CR] [CR] - Review การขอใบอนุญาตในการซื้ออาวุธปืนสำหรับประชาชนทั่วไป
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่านี่คือตัวจริงของผมและเป็น ID ของผมเอง ไม่ได้ยืมใครมาทั้งสิ้นนะครับ
ผมเชื่อว่ามีใครหลายคนที่คิดสงสัยว่าประชาชนทั่วไปอย่างเรา ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ข้าราชการ สามารถหาซื้ออาวุธปืนมาใช้เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินหรือใช้เพื่อการกีฬา สันทนาการ ได้หรือไม่ ผมในฐานะประชาชนธรรมดาก็เคยสงสัยเช่นนั้นครับ จนกระทั่งศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองบ้าง ถามผู้รู้บ้าง และสุดท้ายได้ลองดำเนินการขออนุญาตเพื่อซื้ออาวุธปืนด้วยตัวเอง พบว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะครับ
อาวุธปืนในประเทศไทย (ที่มีทะเบียน ถูกต้องตามกฎหมาย) สำหรับผมถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่า ขายต่อได้ราคา รุ่นยอดนิยมบางครั้งขายต่อได้กำไรเสียด้วยซ้ำ สามารถส่งต่อเป็นมรดกล้ำค่าให้แก่บุตรหลานจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งอาวุธปืนเหล่านี้ยังมีความสวยงามปราณีตในเชิงวิศวกรรม ต่อให้ไม่ได้เอาไปใช้งาน เก็บไว้เฉยๆ หยิบมาขัดถูดูเล่นก็มีความสุขได้ ดังนั้น ผมจึงถือว่าอาวุธปืนคือ 'ทรัพย์สิน' (Asset) ชนิดหนึ่ง
ผมขอแบ่งปันประสบการณ์การขอใบอนุญาตในการซื้ออาวุธปืนสำหรับประชาชนทั่วไปครับ (สำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาใน กรุงเทพฯ นะ)
---
การจะเริ่มคิดที่จะครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกกฎหมายนั้น คุณต้องมีสองสิ่งครับ
สิ่งแรกที่คุณจะต้องมี คือ "ทรัพย์สมบัติ" ครับ
ทรัพย์สมบัติ ในความหมายแคบๆ หมายถึง เงินสด ทองคำ ที่ดิน สวนไร่นา ปศุสัตว์ คลังสินค้า หรืออะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่มีมูลค่าที่สามารถถูกแย่งเอาไปได้
ทรัพย์สมบัติ ในความหมายกว้าง หมายถึง หน้าที่การงานที่มั่นคง ครับ ไม่ว่าจะ Self-employed หรือ Salary ก็แล้วแต่
สิ่งที่สองที่คุณจะต้องมีต่อจากทรัพย์สมบัติก็คือ "ความดี" ครับ
คุณต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมบันทึกอยู่ใน Database ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในสายตาของเจ้าหน้าที่ออกใบอนุญาต ถ้าผลตรวจลายนิ้วมือของคุณไม่พบประวัติอาชญากรรม เจ้าหน้าที่จะถือว่าท่านเป็นคนดีครับ
หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณมั่นใจว่าคุณมีทั้งทรัพย์สมบัติและความดี เรื่องการขออนุญาตซื้อปืนจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ครับ
---
สิ่งที่คุณต้องเตรียมเพื่อขออนุญาตซื้อปืนนั้น มีดังนี้ครับ
- บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้านกรุงเทพฯ ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 6 เดือน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- หลักฐานการประกอบอาชีพ อาทิเช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้านหากเป็นลูกจ้างหรือรับจ้างต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่หน้าที่ เงินเดือน จากผู้ที่มีอำนาจจัดการของกิจการนั้นหรือเจ้าของแล้วแต่กรณีหากมิได้มีอาชีพรับจ้างต้องมีเอกสารประกอบตามที่อ้างอิง อาทิเช่น ทำสวน ติดต่อค้าขายที่ หรือค้าขายย่อย หรือเร่ขาย โดยไม่ได้จดทะเบียน ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดินเงินฝากธนาคาร (Statement) หรือหลักฐานอื่นเพื่อประกอบการพิจารณา
*** ในข้อนี้ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานประจำ รับเงินเดือนจากนายจ้าง สิ่งที่ผมเตรียมไปคือ 'หนังสือรับรองเงินเดือน' ฉบับจริงที่ขอจากฝ่ายบุคคล และ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ของบัญชีเงินเดือนครับ ***
- หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตจากข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป
*** ในข้อนี้ ส่วนตัวผมถือว่าเป็นข้อที่ยากที่สุดสำหรับการขออนุญาตซื้ออาวุธปืน เพราะไม่ใช่มนุษย์ทุกคนจะมีเพื่อนหรือญาติ ที่เป็นข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป แต่ดีที่พี่ที่ทำงานผมคนนึงท่านเคยรับราชการ และรบกวนให้ท่านรับรองความประพฤติให้ครับ ส่วนแบบฟอร์มนั้น โหลดได้ตาม Link นี้ครับ ***
https://www.dopa.go.th/app_form/download/46
- พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ และสืบสวนความประพฤติ
- หนังสือรับรองการผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- ถ้าขอเพื่อการกีฬา ต้องมีใบรับรองจากสนามยิงปืนว่าเป็นสมาชิกหรือเป็นนักกีฬาจริง
---
การทำเรื่องซื้ออาวุธปืน สำหรับผม เหมือนการทำ Quest ในเกม RPG น่ะครับ คือต้องไล่เก็บไอเท็มแต่ละชิ้นๆ สะสมจนครบแล้วถึงจะผ่านด่านได้
เริ่มต้นเลย ผมติดต่อทางฝ่ายบุคคลเพื่อขอหนังสือรับรองเงินเดือนมาเตรียมไว้ก่อน และเดินไปที่ธนาคารที่เงินเดือนเข้า ไปขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือนรอไว้ แล้วเริ่มมองหาสนามยิงปืนที่สามารถเข้าไปเป็นสมาชิกครับ โดยที่สนามยิงปืนก็มีหลากหลายในกรุงเทพฯ ผมเลือกสนามยิงปืนที่เดินทางสะดวก เจ้าหน้าที่ครบครัน และนายสนามสามารถออกใบรับรองให้ได้
หลังจากได้สนามยิงปืนที่ถูกใจแล้ว ผมก็ลงสมัครคอร์สอบรมสั้นๆ เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของสนามยิงปืนนั้น สนามที่ผมไปสมัครอบรมนั้นดีมาก เพราะผู้สมัครอบรมทุกคนจะ Qualified เป็นสมาชิกวิสามัญของสนามยิงปืนทันที นั่นหมายความว่า ต่อไปในอนาคต ในฐานะสมาชิก ผมสามารถซื้อเครื่องกระสุน ใช้สนามยิงปืน หรือขอใบรับรองจากสนามได้ เรียกได้ว่ายิงนกนัดเดียวได้ปืนสองตัว (ฮา) เหล่านี้นี่คือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมจะแนะนำครับ
การเข้าอบรมการใช้อาวุธปืนนั้น ส่วนตัวผมถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับสำหรับคนที่คิดจะมีปืน เพราะท่านจะได้รับการเทรนเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งความปลอดภัย มารยาทการยิงปืน การ Operate อาวุธปืนแบบต่างๆ (ปืนสั้นลูกโม่ ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ปืนลูกซอง ปืนยาว ฯลฯ) หลักการยิงปืน ท่าทางการยิง ฯลฯ นอกจากนี้ ท่านจะได้พบกับผู้คนหลากหลายอาชีพ หลากหลายช่วงอายุ ได้มีโอกาสเจอสังคมใหม่ๆ สร้าง Connection ไปในตัวครับ
พยายามเลือกสนามที่อบรมวันเดียวจบและได้รับ Certificate ในเย็นวันนั้นเลย ได้บัตรสมาชิกด้วยยิ่งดีครับ ขอย้ำนะครับ "Certificate ที่บอกว่าเราผ่านการอบรมการใช้อาวุธปืน และ บัตรสมาชิกสนามยิงปืน" นั้น สำคัญมาก ไปอบรมความรู้ที่ได้นี่จำเป็นก็จริง แต่ใบ Cert. นี่สำคัญกว่าครับ ในการขอซื้ออาวุธปืน
เมื่อได้รับ หนังสือรับรองเงินเดือนพร้อม Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ใบ Cert. ผ่านการอบรมยิงปืนและบัตรสมาชิกมากอดแนบกาย ไอเท็มถัดไปคือหนังสือรับรองความประพฤติครับ
ผมเองโชคดีที่มีพี่ที่ทำงานท่านนึงเคยรับราชการตำแหน่งเทียบเท่า C6 เลยไหว้วานให้ท่านรับรองความประพฤติให้ ผมตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง แถวที่ทำงานเป็นการตอบแทนครับ
ได้ครบดังนี้แล้ว Quest นี้ใกล้สำเร็จแล้วครับ
---
หลังจากได้ไอเท็มครบ ผมก็ไปที่ศูนย์บริการประชาชน กรมการปกครอง (วังไชยา) ครับ ถ้าใครนึกไม่ออก ก็บอกแท็กซี่ว่าไปสนามม้านางเลิ้ง ลงแถวแล้วถามคนแถวนั้น ตอบได้ทุกคนครับ ก่อนออกจากบ้าน Re-check เอกสารในซองอีกทีว่าตรงตามที่กำหนดมั้ย บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ตัวจริงต้องติดมาด้วยนะครับ ส่วนใครที่ลืมถ่ายเอกสาร ที่วังไชยามีบริการครับ แต่โคตรแพง ใบละสองบาท ผมแนะนำว่าถ่ายเอกสารให้เรียบร้อยมาจากที่บ้านจะดีที่สุดครับ
สำนักงานที่วังไชยาจะเล็กๆ ครับ ตอนที่ผมไปมีการปรับปรุงพื้นที่ เสียงดังน่าดู เดินเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่หน้ากองเอกสารข้างตู้กดน้ำ เดินเข้าไปบอก จนท. ท่านนั้นว่ามาทำใบ ป.3
จนท. จะถามท่านคร่าวๆ ว่าทำมาหากินอะไร? เตรียมเอกสารอะไรมาบ้าง? รู้มั้ยต้องทำอย่างไร? ท่านก็แค่ตอบๆ ไป หลังจากนั้น จนท. ท่านนั้นจะยื่นแบบ ป.1 มาให้ท่านกรอกครับ
แบบ ป.1 คือใบคำร้องธรรมดาๆ นี่เองครับ มันจะถูกเย็บติดกับเอกสารคำให้การด้วย วิธีการกรอกไม่ยากครับ มีตัวอย่างติดอยู่บนโต๊ะทุกโต๊ะเลยครับ ดูตามและกรอกตามได้เลย ไม่ยากครับ
ขั้นตอนต่อไปคือการพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมครับ จนท. ก็จะนำนิ้วของท่านทั้งสิบไปกดๆ บนหมึกดำๆ แล้วไปกดบนกระดาษครับ นิ้วเปื้อนไปตามๆ กัน
อีกขั้นตอนหนึ่งการสอบสวนครับ ที่วังไชยาคือช่อง 8 จะมีโต๊ะ จนท. อยุ่สองสามโต๊ะ ถ้าห้องว่าง ไม่มีลูกค้าอยู่ ก็เดินเข้าไปเลย ส่วนตัวผมว่า จนท. ทุกท่านใจดีหมดครับ พอเข้าไปนั่งแล้ว ท่านก็ยื่นเอกสารที่ได้จากการทำ Quest ของท่านให้กับ จนท. ถ้าเอกสารครบตามที่ผมแจ้งไว้ข้างต้นและท่านไม่เคยมีคดีติดตัว ผมเชื่อว่าได้ใบ ป.3 ทุกคนครับ
ตอนผมไปนั่งห้องสอบสวนช่อง 8 จนท. แอบแซวว่า ทำไมตัวจริงหน้าไม่เหมือนในบัตรประชาชน ทำเอาผมเสีย Self ไปพักนึงเลยครับ
เมื่อ จนท. ตรวจเอกสารเสร็จหมดแล้ว เค้าจะพิมพ์ใบสรุปออกมาให้ท่าน Check อีกรอบ ว่าชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ชนิด ขนาด อาวุธปืน ถูกต้องหรือไม่ พร้อมกับยื่นไปรษณียบัตร มาให้ท่านกรอกที่อยู่บ้านของท่านครับ
กระบวนการสุดท้ายคือการจ่ายค่าธรรมเนียม ใบ ป.3 ครับ ค่าเสียหายอยู่ที่ 6 บาท (หกบาทถ้วน) ครับ ขอย้ำนะครับ 6 บาท เท่านั้น !!!!
เสร็จแล้ว เดินตัวปลิวออกจากวังไชยา แวะกินต้มเลือดหมูข้างเซเว่นฯ แถวนั้นก่อนกลับบ้านไปนับวันรอใบ ป.3 ครับ
สำหรับท่านที่ให้ร้านปืนบริการทำ ใบ ป. 3 ให้แล้วต้องจ่าย 3,000 - 5,000 นั้น ... ส่วนตัวผมว่ายื่นเองเหอะครับ เอกสารที่ท่านต้องให้ร้านก็เหมือนกับที่ท่านต้องให้กับวังไชยา ดังนั้น ไม่มีอะไรต่างครับ ประหยัดไปตั้งมากโข
*** ถ้าท่านขอปืนขนาดทั่วๆ ไป เช่น .38, 9mm, 12G, .22 ไม่ว่าจะปืนสั้นหรือปืนยาว แนบแค่ใบ Cert. ผ่านการอบรมการใช้อวป. ครับ เพียงพอแล้ว ระบุในใบคำร้องว่า "เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน" ได้เลยครับ
*** ถ้าท่านเป็นคนบ้าพลังแม็กนั่ม และ มีเงินถุงเงินถัง อยากได้อาวุธปืนขนาดใหญ่ๆ เช่น .357 Magnum, .44 Magnum, .45 ผมแนะนำว่าให้ท่านแนบใบรับรองจากสนามยิงปืนที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่ที่ระบุว่าท่านต้องใช้ปืนขนาด .357/.44/.45 ฯลฯ ในการแข่งขัน พร้อมระบุในใบคำร้องว่า "เพื่อการกีฬา" ครับ
มีข่าวลือมากมายบอกว่าประชาชนทั่วไปขอ .357, .44, .45 ไม่ได้ นั้น ..."ไม่ใช่เรื่องจริง" นะครับ ขอได้ครับ กทม. หรือ ตจว. ก็ขอได้หมดครับ เพียงแต่ว่าต้องมีใบรับรองจากสนามยิงปืนและขอเพื่อการกีฬาครับ
---
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ผมก็ได้ไปรษณีย์บัตรมาส่งให้ถึงบ้าน ให้ไปรับ ใบ ป.3 ที่วังไชยาครับ
หลังจากนี้คือความสนุกแล้วครับ :')
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น