ตามหัวข้อเรื่องเลยค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนคบกันมานาน5ปี. แฟนเราเป็นคนเกาหลี คบกันมาตั้งแต่อายุ20จนถึงปัจจุบันและมีแพลนจะแต่งงานกันปีสองปีนี้
ซึ่งตามธรรมเนียมของคนเกาหลีแล้วเมื่ออายุถึงเกณฑ์จะต้องไปเกณฑ์ทหาร  เป็นระยะเวลา2ปี  ซึ่งเขาก็ต้องดรอปเรียนเพื่อไปทำหน้าที่
ส่วนเราก็เรียนต่อจนจบตามวาระ แล้วเขาถึงกลับมาเรียนใหม่
(อธิบายนิดนึงว่าเราเรียนกันที่ต่างประเทศไม่ใช่ที่ไทยหรือเกาหลี)

ปัจจุบันแฟนกลับมาเพื่อเรียนต่อจนจบส่วนเราก็ทำงาน และอาศัยอยู่ด้วยกัน(ในต่างประเทศ)


นอกจากช่วงปรับตัวตอนคบกันใหม่ๆ เราทะเลาะกันน้อยยยยยมากเลยค่ะ เรียกได้ว่าแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ   ถึงพวกเราอายุจะยังไม่มากนัก
แต่ก็เป็นคนที่นิสัยค่อนข้างผู้ใหญ่กันทั้งคู่. เลยไม่ค่อยมุมิงุ้งงิ้งกันเว่อร์วังอะไรเท่าไหร่

ปัญหาคือ แฟนเราไปดื่มกับเพื่อนของนาง แล้วดูเหมือนเพื่อนเขาจะพูดอะไรบางอย่างจนนางเก็บมาคิด.
พอกลับถึงบ้านก็ดึกประมาณหนึ่งซึ่งเราก็กึ่งหลับกึ่งตื่น.  อารมณ์แบบตื่นแล้วล่ะแต่ง่วงเลยยังหลับตาอยู่
แฟนคิดว่าเราหลับแล้ว นางก็เลยพูดความในใจออกมาทั้งหมดถึงเรื่องที่ได้ยินมา รวมถึงพูดว่า
ผมรักคุณนะ แต่คงแต่งงานกับคุณไม่ได้แล้วล่ะ

เราเกือบจะลืมตาแล้วโพล่งถามออกไปแล้วว่า นี่มีเรื่องอะไรกัน!?

เขาพูดถึงเหตุการณ์ที่เขาคิดว่าเรานอกใจ ว่า
1 เขาเคยอ่านข้อความแชทของเรากับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง  ในนั้นมีคำว่าคิดถึงน้าา ทำไรอยู่  ที่รักกก
2 ก่อนหน้าที่จะไปเกณฑ์ทหาร  เราไม่เคยโกนขนส่วนลับเลย พอกลับมาทำไมถึงโกน เพราะเราไปมีอะไรกับคนอื่นนั่นเอง
3 เพื่อนของเขาบอกว่าเจอเราในผับ ซึ่งคนๆนั้นเป็นรุ่นพี่ของเขาเอง เพื่อนนางรู้มาว่าเราแอบติดต่อกันหลังผับเลิกแล้วไปต่อด้วยกัน

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่แฟนไปเกณฑ์ทหาร 2ปี และเขาคิดมาตลอดว่าเราโกหก

ในส่วนของเรา เรารู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่และกล้าพูดสาบานได้เลยว่าเราไม่เคยมีอะไรกับครเลยแม้แต่เวลาที่เขาไม่อยู่ เวลาที่เราห่างกัน2ปี
ในข้อที่1 ผู้ชายที่คุยด้วยเป็นเพื่อนของเรา เพื่อนแบบเพื่อนจริงๆสนิทเพราะไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ และทุกครั้งที่ไปก็จะมีเพื่อนสาวและเพื่อนเก้งของเรา
ไปด้วยทุกครั้ง  ไม่มีนอกมีในใดๆทั้งสิ้น คุยด้วยความบริสุทธิ์ใจ  ไม่เคยเจอกันในที่ลับ ไม่เคยพามาที่คอนโดหรือไปที่คอนโดเขาก็ไม่เคย  เพราะงั้นตอนที่แฟนเอาโทรศัพท์เราไปอ่านเราถึงไม่ลบไม่ซ่อน ปล่อยให้เขาอ่านเพราะรู้ว่ามันไม่มีอะไร.  แต่ดูเหมือนจะคิดผิดเพราะเขาเข้าใจไปแล้วว่าเราเฟลิตกัน

ข้อ2 ที่เราโกนขนในที่ลับเหตุผลนี้เอาตรงๆเราค่อนข้างอายที่จะบอกแฟน เราบอกเขาไปว่าเพราะมันสะอาดและไความสะอาดง่ายในช่วงที่มีประจำเดือน
ความจริงคือเราค่อนข้างจะเสพติดการมาสเตอเบชั่นหน่อยๆ(การช่วยตัวเอง).  เนื่องด้วยเราเป็นคนที่ถึงจุดสุดยอดยาก  เพราะงั้นเวลามีอะไรกันเรามักจะปล่อยให้แฟนเสร็จ ส่วนเราก็เสร็จบ้างไม่เสร็จบ้างไม่ซีเรียสอะไร เวลาอยู่คนเดียวชอบแอบเปิดหนังโป๊บ้าง พวกโดจินทะลึ่งบ้าง. พวกเว็บสายหื่นส่วนใหญ่ก็เข้าไปท่องเที่ยวมาเกือบหมดแล้ว การโกนขนส่วนนั้นมันทำให้รสสัมผัสเวลาช่วยตัวเองค่อนข้างจะฟินกว่าสำหรับเรา และช่วงที่แฟนไม่อยู่ เราก็ช่วยตัวเองเพลินเกือบทุกคืน ผ่อนคลายตัวเองไปด้วยประมาณนั้น. ด้วยเหตุผลนี้ ที่เราไม่ได้บอกแฟน นางก็คิดว่าเราโกนเพราะไปมีอะไรกับคนอื่น

ข้อ3 อันนี้น่าหนักใจมากสำหรับเราและคิดว่าแย้งไปเขาก็ไม่น่าจะเชื่อคำพูดเราหรอกเพราะเพื่อนเขามานั่งเล่ายืนยันขนาดนั้น.  คือในช่วงที่แฟนเราไปเกณฑ์ทหาร. เราไปเที่ยวผับค่อนข้างบ่อย. ไปกับแก๊งเพื่อนสาวทั้งนั้น. คือเป็นกลุ่มที่ดูแรงดูแรด. แต่จะดูแลป้องกันกันอย่างดีเวลาที่มีใครเพลี่ยงพล้ำ  ในกลุ่มก็จะมีสาวนักล่าแต้ม ซึ่งก็จะรู้กันว่าเออถ้าหายไปห้องน้ำนานเกิน1ชั่วโมง คือนางได้ของนางละ. ไม่ต้องห่วง เราจะเป็นสายแดนซ์.  On the floor  ซึ่งปกติในผับกลุ่มผูหญิงค่อนข้างล่อเป้าอยู่แล้ว ยิ่งเวลาเต้นจะถูกรุม. อารมณ์ว่าชั้นสวยมากกกก เชิดๆสวยๆกลับไปนอนแบบนี้
ซึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่ว่านี้ก็เข้ามาด้วยจุดประสงค์อยากจะเคลมเรา ไอ้เราที่เที่ยวบ่อยก็ดูออกอยู่แล้วล่ะ แถมว่ามากับเพื่อนของแฟนเราด้วยจำหน้ากันได้
เราเลยไม่ค่อยสนใจยิ้มอ่อยๆสะบัดบ๊อบหนี  แต่หนุ่มเกาหลีแบ๊ดๆคงถูกจริตแม่สาวล่าแต้มเพื่อนเรา
นางอยากจะเคลม. แต่เข้าหาไม่ได้  เราเลยเป็นสื่อกลางให้ แถมให้ใช้ห้องเราอีก. เพราะเราไม่ถือเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
เราเข้าข้างเพื่อนเรา เรื่องของเพื่อนเราไม่พูดอยู่แล้ว  อะไรควรพูดไม่ควรพูดรู้ๆกันอยู่ ความสุขเขารสนิยมเรา ไม่ยุ่ง ไม่เคยเอาไปพูดต่อ
แต่ค่อนข้างจะเสียความรู้สึกกับเพื่อนแฟนคนนี้นิดหน่อยเพราะรู้ทั้งรู้ว่าเราแฟนเพื่อนมัน ก็ยังสนตะพายรุ่นพี่มาให้

ไม่รู้ผู้ชายในวงเหล้าเขาคุยอะไรยังไง. ดัดแปลงคำพูดไปถึงไหนต่อไหน กลายเป็นว่าตอนนี้งานเข้าเราเต็มๆ!!


ตอนนี้เราค่อนข้างเฟล แฟนเราพูดเสร็จก็หลับไปด้วยเพราะดื่มมาด้วย.  แต่เรานี่ตาสว่างโร่  จุกในอกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
สำหรับเราเลิกได้นะ แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะไม่เคยเป็นฝ่ายเทผู้ชายมาก่อน แต่เรารู้สึกว่า ถ้าความรู้สึกมันเปลี่ยนอธิบายไปมันก็เหมือนตะกอนขุ่นๆในใจ
เชื่อ แต่ไม่เต็มร้อย. เราสงสารทั้งเขาแล้วก็สงสารตัวเองด้วย  

แต่เชื่อไหม ถึงจะบอกว่าเลิกได้ แต่ก็โหวงแหว่งไปเยอะเชียวล่ะ คบกันมาตั้งแต่วัยรุ่นสู่วัยทำงาน จนแพลนอยากจะแต่งงานกัน
พ่อแม่เราเขาก็มานั่งกินข้าวด้วยกันยินดีปรีดา  ถ้าเลิกกันจริงๆก็ไม่รู้จะบอกแม่ว่ายังไงเหมือนกัน


จบแล้วค่ะ. ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้  เราไม่ได้หวังอะไรจากคุณหรือจากสังคมเลย
เพียงแต่เรานอนไม่หลับหลังจากโดนหย่อนระเบิดตอนตีสอง จะทักเพื่อนก็หลับกันหมดแล้ว555
หวังว่าเราจะเจอทางออกที่ดีที่สุด ทั้งนัวเราและตัวเขา