กลับมารีวิวสายการบินอีกครั้งค่ะ เมื่อเดือน มีนาคม 8-13 มีนาคม 2560 เพื่อนชวนไป USJ ชวนนานข้ามปีแล้ว แต่จขกท.เพิ่งจะตัดสินใจไปตอนปลายพ.ย. 59 จะจองSQ ไปแต่ไม่ทันอ่ะ ตอนนั่นลดราคาเหลือ 15,xxx บาท ราคาดีมากๆ แต่เพื่อนไม่บอกรายละเอียดสักทีเลยไม่ได้จอง เลยรอ รอจนมีโปรของANA ออกมา ราคาแพงกว่าเจ้าแรก2พันบาท โอเคพอรับได้ เพราะบินตรงเจ้าป้าเราเดือนมีนาคม ราคาแรงมากๆ เลยตัดสินใจจองผ่านเว็ป ANA ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดไว้ จองง่ายมากๆ กรอกๆรายละเอียด แปีบเดียว
ข้ามมาถึงวันเดินทางวันที่ 7 มีนาคม 2560 ไปเช็คอินที่สุวรรณภูมิก่อนเวลาเหมือนทุกเคย จะได้ Boarding Pass มา 2 ใบ เช็คอินเสร็จเข้าไปเดินเล่นรอในนั่น แล้วไปนั่งในเลาจ์ คิงพาวเวอร์ รอเรียกขึ้นเครื่อง ไฟลท์ที่จขกท.ไปคือ NH850 เครื่องออกจากสุวรรณภูมิเวลา 22:55 น. ถึงฮาเนะดะ 6:30 น. ต่อเครื่องไปสนามบินคันไซ 9:10 น.
ที่นั่งกว้างอยุ่คนตัวสูงนั่งสบาย แต่ไม่ควรนั่งตรงริมหน้าต่างจริงๆ เพราะถ้าคุณไม่ได้ไปกับเพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก แล้วไปนั่งที่ตรงที่มีคนญี่ปุ่นนั่ง้วย รับรองว่าไม่ได้ลุกออกจากที่นั่งแน่ๆถ้าคนญี่ปุ่นไม่ลุกให้จขกท.เจอมาแล้ว คนญี่ปุ่นที่นั่งกลางพยายามช่วยปลุกคนริมสุดให้แต่ดูท่าทางแล้วไม่ยอมตื่นง่ายๆ นี้ก็นั่งดูหนังไปจนถึงฮาเนะดะสิค่ะ แล้วพอเครื่องเทียบจอดปุ๊ปรีบออกไปเข้าห้องน้ำเลยเพราะไม่ไหว
เครื่องที่ใช้บินคือ Boing 787
หูฟัง ชั้นประหยัด
อาหารเช้าบนฟ้าของ ANA จากครัวการบินไทย
วิวพระอาทิตย์ขึ้นก่อนเครื่อง Landing
ถึงสนามบินแล้วใครที่ไม่ต้องต่อเครื่องก็รับกระเป๋าออกไปเข้าเมืองได้เลย ส่วนใครที่จะต่อเครื่องไปที่อื่นๆของญี่ปุ่น
ออกจากศุกลกากรมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายมาสุดอาคารจะเจอกับเคาน์เตอร์ของ ANA กับ JAL ให้ทำการโหลดกระเป๋าที่รับมาที่นี้แล้วก็ผ่านการตรวจลงไปนั่งรอนั่งบัสไปอาคารภายในประเทศอีกฝั่งได้เลย เราจะได้เป็นบัตรสีเหลืองมีชื่อเรา ไฟลท์ที่จะบินมา 1 ใบ หน้าตาแบบด้านล่างนี้ค่ะ
เข้าไปนั่งรอแบบว่านึกว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วซะอีก รอไจนใกล้เวลาเครื่องมาก็มีเจ้าหน้าที่คนญี่ปุ่นเดินมาหาจขกท.และบอกว่า คุณไม่ได้ไปต่อค่ะ
เพราะกระเป๋ามันมาไม่ทัน เนื่องจาก ศุลกากรขอเปิดดูกระเป๋าอีกรอบทำให้ล้าช้า เป็นความผิดของเขา เขาขอเปลี่ยนไฟลท์ให้เราเป็น ไฟลท์ 12:05 น. แทนจากเดิมต้องออกจากที่นี้ 9:10 น. คุณพระฟังแล้วแทบช็อค แต่ไม่เท่ากับการหาทางกลับไปที่ drop กระเป๋าที่อาคารเดิมอ่ะ เล่นเอาเหนื่อยและหนาวเลย ดีได้เจ้าหน้าที่สนามบิน พาเดินไปส่งที่รถเวียน แล้วบอกคนขับรถที่จำหน้าจขกท.ได้ว่ามาแล้ว 1รอบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ T2 ให้ไป T1 T1 ให้มา T2 วนจนเจอเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดสีแดงที่ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวเลยเข้าไปถามเขาก็อยุ่พักใหญ่ๆ จนพาไปส่งรถบัสเวียนอย่างที่บอกไป
พอไปถึงจุดdrop กระเป๋าที่เดิม เจ้าหน้าที่ANA รัวญี่ปุ่นใส่ใหญ่ พูดอังปนญี่ปุ่น จขกท.ระหว่างทางก็คุยกับพี่ที่รู้จักมาตลอด จนมาถึงนี้ เอาว่ะ ตัดสินใจถ้าคุยไม่รู้เรื่องให้พี่เราคุยภาษาญี่ปุ่นและให้แปลเป็นไทยให้เราฟังอีกทีดีกว่าไม่งั้นได้วนกลับไปมาสนุกแน่ๆ
พี่เราคุยช่วยถามช่วยคุยแล้วแปลไทยให้ ได้ความว่ากระเป๋าโหลดแล้วไปติดศุลกากรเหมือนเค้าขอเป็นดูกระเป๋าเพิ่มเติม เค้าไม่แน่ใจ เพราะตอนที่เราออกมาทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรไม่ได้ขอเปิดดู หลังจากคุยเสร็จทางเจ้าหน้าที่ ANA ออก Boarding Pass ใหม่หน้าตาแบบนี้
ก่อนไปก็โค้งขอบคุณเจ้าหน้าที่เค้าไปมาส่งถึงจุดตรวจ เสร็จกลับมาที่ T2 รอเวลาไปค่ะ หาอะไรกินรองท้องก่อนหิวข้าวมากมาย
กินเสร้จหาที่นั่งหลับรอไปจนได้บิน หลับๆตื่นๆ จนได้เวลาบิน ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกบัตรโดยสารชั้นพิเศษต่างๆก่อน แล้วค่อยเรียกชั้นปกติ
เจ้าหน้าที่จะ สแกน boarding pass เราอีกรอบแล้วเราจะได้บัตรสีชมพูมาด้วย
แล้วลุ้นว่ากระเป๋ามาไหมเมื่อถึงสนามบินคันไซ ปรากฎมาอ่ะ กราบงามๆเลยค่ะ คือถ้าเป็นที่บ้านเรากระเป๋าคงไม่มาแน่ๆ เพราะแท็กกระเป๋ายังมีสติ๊กเกอร์เดิมติดอยู่
ตัดภาพมาที่ขากลับเลย
ไม่มีปัญหาอะไรเลย
เช็คอินที่สนามบินคันไซ เค้าให้ Boarding pass มา2 ใบเหมือนเดิมพร้อมกับอีกใบหน้าตาแบบนี้
ถ้าจะเปลี่ยนที่นั่งระหว่างประเทศ(กลับไทย) ก็ต้องไปเปลี่ยนที่สนามบินฮาเนะดะ
ผ่านจุดตรวจได้บัตรสีเหลืองมาเหมือนเดิมเข้าไปนั่งรอในเกท
ถึงสนามบินฮาเนะดะ คนที่จะต่อเครื่องก็เดินตามป้ายนี้เลยไม่หลงค่ะ แล้วนั่งรถบัสของANAมาที่อาคารระหว่างประเทศ เดินอีกนิดนึงก็ถึงเคาน์เตอร์
ส่วนใครจะเปลี่ยนที่นั่งให้เดินหาเคาน์เตอร์ของANA ก่อนนะแล้วค่อยเข้าไปตรวจตม. และไปรอในเกท
ตัดผ่านมาด้านใน นั่งรอเครื่องออก 00:05 น.
ผ่านทางชั้นธุรกิจ ถ่ายมาได้ 1 รูปค่ะ
โชคดีที่เปลี่ยนที่นั่งเป็นริมทางเดินถึงแม้จะเกือบท้ายเครื่อง เพราะไม่มีคนมานั่งข้างๆได้นอนยาวเลยจร้า ฟินสุดๆ
สักพักจะมีstaffเดินดูความเรียบร้อย มาถามโน้นนี้ พอแอร์รู้ว่าเราเป็นคนไทยก็จะมีstaff ไทยเดินตรงแถวเรา ขอบคุณแอร์คนนั่นมากๆนะคะ สำหรับการบริการที่ดี ทำให้อุ่นใจมากๆ เพราะขามาคุยกับแอร์ไม่รู้เรื่อง ใบศุลกากรได้มาเป็นภาษาญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นก็พยายามช่วยแต่แอร์เดินเร็วมาก จขกท.หันไปขอบคุณคนญีปุ่นที่นั่งตรงกลางหลายรอบมากๆ ขากลับเลยไม่นั่งแล้วริมหน้าตา ขอนั่งสบายๆดีกว่า แล้วก็ได้ความประทับใจและสบาย ฟินจริงๆ
เครื่องขึ้นได้สักพักแบบว่ามีถุงขนมมาแจกด้วย มีเสิร์ฟน้ำด้วย ขอน้ำขอไวน์เต็มทีแล้วนอนจร้า
อยากจะบอกว่า ขนมของANA แจกอร่อยมากทั้งขาไปและขากลับ
นั่งดูนอนดูนั่งสบายๆ ได้เข้าห้องน้ำ นอนหลับไปตื่มาอีกทีกินข้าวเช้าเลย
มีการเดินแจกรายการอาหารก่อนด้วยนะ
หน้าตาอาหารที่จขกท.เลือกเป็นแบบนี้ค่ะ
ถ้ามีโอกาสจะใช้บริการอีก จะชวนพี่ ครอบครัว เพื่อนไปใช้บริการค่ะ
ขอบคุณ staff ANA คนญี่ปุ่นทุกคนตั้งแต่เราถึงที่นั่นจนกลับ ช่วยเราเต็มที่ ขอบคุณรุ่นพี่ พี่นานะด้วยนะคะ ที่ช่วยคุยให้ ขอบคุณ staff ที่สนามบินฮาเนะดะที่เข้าหาเปลี่ยนที่นั่งให้ ขอบคุณจริงๆค่ะ
ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็เข้าไปถามได้ในเพจได้นะคะ ไม่ค่อยได้เข้ามา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/TheFirstJugket/
[CR] เหินฟ้าไปญี่ปุ่นด้วยสายการบิน ANA ครั้งแรกกับประสบการณ์ที่ประทับใจจนต้องบอกต่อ
ข้ามมาถึงวันเดินทางวันที่ 7 มีนาคม 2560 ไปเช็คอินที่สุวรรณภูมิก่อนเวลาเหมือนทุกเคย จะได้ Boarding Pass มา 2 ใบ เช็คอินเสร็จเข้าไปเดินเล่นรอในนั่น แล้วไปนั่งในเลาจ์ คิงพาวเวอร์ รอเรียกขึ้นเครื่อง ไฟลท์ที่จขกท.ไปคือ NH850 เครื่องออกจากสุวรรณภูมิเวลา 22:55 น. ถึงฮาเนะดะ 6:30 น. ต่อเครื่องไปสนามบินคันไซ 9:10 น.
ที่นั่งกว้างอยุ่คนตัวสูงนั่งสบาย แต่ไม่ควรนั่งตรงริมหน้าต่างจริงๆ เพราะถ้าคุณไม่ได้ไปกับเพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก แล้วไปนั่งที่ตรงที่มีคนญี่ปุ่นนั่ง้วย รับรองว่าไม่ได้ลุกออกจากที่นั่งแน่ๆถ้าคนญี่ปุ่นไม่ลุกให้จขกท.เจอมาแล้ว คนญี่ปุ่นที่นั่งกลางพยายามช่วยปลุกคนริมสุดให้แต่ดูท่าทางแล้วไม่ยอมตื่นง่ายๆ นี้ก็นั่งดูหนังไปจนถึงฮาเนะดะสิค่ะ แล้วพอเครื่องเทียบจอดปุ๊ปรีบออกไปเข้าห้องน้ำเลยเพราะไม่ไหว
เครื่องที่ใช้บินคือ Boing 787
หูฟัง ชั้นประหยัด
อาหารเช้าบนฟ้าของ ANA จากครัวการบินไทย
วิวพระอาทิตย์ขึ้นก่อนเครื่อง Landing
ถึงสนามบินแล้วใครที่ไม่ต้องต่อเครื่องก็รับกระเป๋าออกไปเข้าเมืองได้เลย ส่วนใครที่จะต่อเครื่องไปที่อื่นๆของญี่ปุ่น
ออกจากศุกลกากรมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายมาสุดอาคารจะเจอกับเคาน์เตอร์ของ ANA กับ JAL ให้ทำการโหลดกระเป๋าที่รับมาที่นี้แล้วก็ผ่านการตรวจลงไปนั่งรอนั่งบัสไปอาคารภายในประเทศอีกฝั่งได้เลย เราจะได้เป็นบัตรสีเหลืองมีชื่อเรา ไฟลท์ที่จะบินมา 1 ใบ หน้าตาแบบด้านล่างนี้ค่ะ
เข้าไปนั่งรอแบบว่านึกว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วซะอีก รอไจนใกล้เวลาเครื่องมาก็มีเจ้าหน้าที่คนญี่ปุ่นเดินมาหาจขกท.และบอกว่า คุณไม่ได้ไปต่อค่ะ เพราะกระเป๋ามันมาไม่ทัน เนื่องจาก ศุลกากรขอเปิดดูกระเป๋าอีกรอบทำให้ล้าช้า เป็นความผิดของเขา เขาขอเปลี่ยนไฟลท์ให้เราเป็น ไฟลท์ 12:05 น. แทนจากเดิมต้องออกจากที่นี้ 9:10 น. คุณพระฟังแล้วแทบช็อค แต่ไม่เท่ากับการหาทางกลับไปที่ drop กระเป๋าที่อาคารเดิมอ่ะ เล่นเอาเหนื่อยและหนาวเลย ดีได้เจ้าหน้าที่สนามบิน พาเดินไปส่งที่รถเวียน แล้วบอกคนขับรถที่จำหน้าจขกท.ได้ว่ามาแล้ว 1รอบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ T2 ให้ไป T1 T1 ให้มา T2 วนจนเจอเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดสีแดงที่ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวเลยเข้าไปถามเขาก็อยุ่พักใหญ่ๆ จนพาไปส่งรถบัสเวียนอย่างที่บอกไป
พอไปถึงจุดdrop กระเป๋าที่เดิม เจ้าหน้าที่ANA รัวญี่ปุ่นใส่ใหญ่ พูดอังปนญี่ปุ่น จขกท.ระหว่างทางก็คุยกับพี่ที่รู้จักมาตลอด จนมาถึงนี้ เอาว่ะ ตัดสินใจถ้าคุยไม่รู้เรื่องให้พี่เราคุยภาษาญี่ปุ่นและให้แปลเป็นไทยให้เราฟังอีกทีดีกว่าไม่งั้นได้วนกลับไปมาสนุกแน่ๆ
พี่เราคุยช่วยถามช่วยคุยแล้วแปลไทยให้ ได้ความว่ากระเป๋าโหลดแล้วไปติดศุลกากรเหมือนเค้าขอเป็นดูกระเป๋าเพิ่มเติม เค้าไม่แน่ใจ เพราะตอนที่เราออกมาทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรไม่ได้ขอเปิดดู หลังจากคุยเสร็จทางเจ้าหน้าที่ ANA ออก Boarding Pass ใหม่หน้าตาแบบนี้
ก่อนไปก็โค้งขอบคุณเจ้าหน้าที่เค้าไปมาส่งถึงจุดตรวจ เสร็จกลับมาที่ T2 รอเวลาไปค่ะ หาอะไรกินรองท้องก่อนหิวข้าวมากมาย
กินเสร้จหาที่นั่งหลับรอไปจนได้บิน หลับๆตื่นๆ จนได้เวลาบิน ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกบัตรโดยสารชั้นพิเศษต่างๆก่อน แล้วค่อยเรียกชั้นปกติ
เจ้าหน้าที่จะ สแกน boarding pass เราอีกรอบแล้วเราจะได้บัตรสีชมพูมาด้วย
แล้วลุ้นว่ากระเป๋ามาไหมเมื่อถึงสนามบินคันไซ ปรากฎมาอ่ะ กราบงามๆเลยค่ะ คือถ้าเป็นที่บ้านเรากระเป๋าคงไม่มาแน่ๆ เพราะแท็กกระเป๋ายังมีสติ๊กเกอร์เดิมติดอยู่
ตัดภาพมาที่ขากลับเลย
ไม่มีปัญหาอะไรเลย
เช็คอินที่สนามบินคันไซ เค้าให้ Boarding pass มา2 ใบเหมือนเดิมพร้อมกับอีกใบหน้าตาแบบนี้
ถ้าจะเปลี่ยนที่นั่งระหว่างประเทศ(กลับไทย) ก็ต้องไปเปลี่ยนที่สนามบินฮาเนะดะ
ผ่านจุดตรวจได้บัตรสีเหลืองมาเหมือนเดิมเข้าไปนั่งรอในเกท
ถึงสนามบินฮาเนะดะ คนที่จะต่อเครื่องก็เดินตามป้ายนี้เลยไม่หลงค่ะ แล้วนั่งรถบัสของANAมาที่อาคารระหว่างประเทศ เดินอีกนิดนึงก็ถึงเคาน์เตอร์
ส่วนใครจะเปลี่ยนที่นั่งให้เดินหาเคาน์เตอร์ของANA ก่อนนะแล้วค่อยเข้าไปตรวจตม. และไปรอในเกท
ตัดผ่านมาด้านใน นั่งรอเครื่องออก 00:05 น.
ผ่านทางชั้นธุรกิจ ถ่ายมาได้ 1 รูปค่ะ
โชคดีที่เปลี่ยนที่นั่งเป็นริมทางเดินถึงแม้จะเกือบท้ายเครื่อง เพราะไม่มีคนมานั่งข้างๆได้นอนยาวเลยจร้า ฟินสุดๆ
สักพักจะมีstaffเดินดูความเรียบร้อย มาถามโน้นนี้ พอแอร์รู้ว่าเราเป็นคนไทยก็จะมีstaff ไทยเดินตรงแถวเรา ขอบคุณแอร์คนนั่นมากๆนะคะ สำหรับการบริการที่ดี ทำให้อุ่นใจมากๆ เพราะขามาคุยกับแอร์ไม่รู้เรื่อง ใบศุลกากรได้มาเป็นภาษาญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นก็พยายามช่วยแต่แอร์เดินเร็วมาก จขกท.หันไปขอบคุณคนญีปุ่นที่นั่งตรงกลางหลายรอบมากๆ ขากลับเลยไม่นั่งแล้วริมหน้าตา ขอนั่งสบายๆดีกว่า แล้วก็ได้ความประทับใจและสบาย ฟินจริงๆ
เครื่องขึ้นได้สักพักแบบว่ามีถุงขนมมาแจกด้วย มีเสิร์ฟน้ำด้วย ขอน้ำขอไวน์เต็มทีแล้วนอนจร้า
อยากจะบอกว่า ขนมของANA แจกอร่อยมากทั้งขาไปและขากลับ
นั่งดูนอนดูนั่งสบายๆ ได้เข้าห้องน้ำ นอนหลับไปตื่มาอีกทีกินข้าวเช้าเลย
มีการเดินแจกรายการอาหารก่อนด้วยนะ
หน้าตาอาหารที่จขกท.เลือกเป็นแบบนี้ค่ะ
ถ้ามีโอกาสจะใช้บริการอีก จะชวนพี่ ครอบครัว เพื่อนไปใช้บริการค่ะ
ขอบคุณ staff ANA คนญี่ปุ่นทุกคนตั้งแต่เราถึงที่นั่นจนกลับ ช่วยเราเต็มที่ ขอบคุณรุ่นพี่ พี่นานะด้วยนะคะ ที่ช่วยคุยให้ ขอบคุณ staff ที่สนามบินฮาเนะดะที่เข้าหาเปลี่ยนที่นั่งให้ ขอบคุณจริงๆค่ะ
ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็เข้าไปถามได้ในเพจได้นะคะ ไม่ค่อยได้เข้ามา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้