สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนชื่อ ติ๊ด อายุ 25 ปี ค่ะ 😁😁
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกถ้าผิดพลาดประการใดก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คือเมื่อวันที่6-8 พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมาติ๊ดได้ไปเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง 3วัน2คืน โดยไปแบบbackpackเที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ พอกลับมาไทยเพื่อนๆที่รู้จักหลายคนมาถามว่า เที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกงเป็นยังไง เดินทาง อาหาร ที่เที่ยว เตรียมตัวยังไงบ้าง จึงตัดสินใจเขียนรีวิวทริปนี้เผื่อคนอื่นๆที่กำลังจะไปมาเก๊า-ฮ่องกงจะได้ลองเอาไปเป็นข้อมูลค่ะ ขอเตือนว่ากระทู้นี้จะยาวนะคะและรูปเยอะเพราะจะรีวิวละเอียดจริงๆ 55555
ทริปนี้เดินทางทั้งหมด3วัน2คืนโดยจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมผ่านแอร์เอเชียโก ตอนนั้นมีโปรจองโรงแรมแล้วบินฟรี ก็จัดเลยค่าาา 😜
เครื่องบิน : Airasia
โรงแรม : Rocks Hotel
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
1.แลกเงิน ที่มาเก๊าสามารถใช้เงินของมาเก๊าเองหรือของฮ่องกงก็ได้ แต่ที่ฮ่องกงจะสามารถใช้ได้แค่เงินฮ่องกงเท่านั้นค่ะ แนะนำให้แลกเป็นเงินฮ่องกงซัก3ใน4ของเงินที่แลกทั้งหมด และอีก1ส่วนค่อยแลกเป็นเงินมาเก๊า เพราะในไทยไม่ค่อยรับแลกเงินมาเก๊ากลับเป็นเงินไทยค่ะ
2.ปลั๊กไฟ ทั้งมาเก๊าและฮ่องกงจะใช้ปลั๊กไฟแบบสามขาแบน อย่าลืมเอาหัวแปลงไฟกับปล๊กสามตาไปด้วย จะได้ไม่ต้องแย่งกันค่ะ
3.อากาศ ติ๊ดไปวันที่6-8พค อากาศไม่ร้อนอยู่ที่ประมาณ 26 องศา มาเก๊าเป็นที่ที่มีหมอกเยอะมากกกตอนเครื่องลงใกล้จะแตะลานบินแล้วแต่ก็ยังมองตึกใกล้ๆไม่ชัดเลยเพราะหมอกเยอะมากๆ และอากาศมีความชื้นสูงโดยเฉพาะตอนเช้าๆ หนีบผมไดร์ผมมาสวยๆก็ฟูค่ะ
4.อาหาร เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะจากที่ไปมา3วันทั้งมาเก๊าและฮ่องกงอาหารจืดมากกกกกก ขนาดติ๊ดเป็นคนไม่กินรสจัดยังรู้สึกเลยว่าจืดจริงๆ ยิ่งใครกินรสจัดนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย แนะนำให้เตรียมพริก/น้ำจิ้มที่ชอบไปด้วย
5.ทิชชู่ ร้านอาหารโดยเฉพาะในมาเก๊าไม่ค่อยมีทิชชู่ ไม่รู้ทำไมเอาไปเองชัวที่สุดค่ะ
6.เอกสารในการเดินทาง พาสปอร์ต เอกสารยืนยันการจองโรงแรม/จองเที่ยวบิน บัตรพนักงาน/บัตรนักศึกษา(โดยเฉพาะผู้หญิง)
7.การเดินทางในมาเก๊า-ฮ่องกง
มาเก๊า ส่วนใหญ่สามารถขึ้นรถบัสฟรีของโรงแรมต่างๆได้ เขาจะมีวิ่งไปหลายๆสถานที่สำคัญ ลองหาเส้นทางดูในเน็ตค่ะ นอกจากรถบัสฟรีก็จะมีรถเมล์ที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่ โดยจะมีบัตร Macau Pass เป็นบัตรเติมเงินไว้แปะๆตอนขึ้นรถเมล์ บัตรราคา130เหรียญ มีเงินในบัตร100เหรียญ แต่ถ้าใช้ไม่หมดเราไม่สามารถเอาเงินคืนได้ค่ะ ติ๊ดไม่ได้ใช้บัตรนี้เพราะลองคำนวณดูแล้วใช้ไม่หมดแน่นอน จึงจ่ายเงินสดแทนค่ะ ซึ่งค่ารถเมล์ในมาเก๊าเท่าที่ขึ้นจะอยู่ที่ 3.2-4.2เหรียญ ต้องเตรียมเงินให้พอดีเพราะไม่มีการทอนค่ะ ไม่งั้นก็ต้องให้เกินไป แนะนำให้แลกเหรียญกับร้านค้าที่เราซื้อของไว้เรื่อยๆค่ะ
ฮ่องกง ส่วนใหญ่ใช้รถไฟMTR ซึ่งจะมีบัตร Octopus เป็นบัตรเติมเงินไว้แปะขึ้นรถหรือซื้อของก็ได้ ราคาบัตรใบละ 150 เหรียญมีเงินให้ในบัตร 100 เหรียญ อีก 50 เหรียญเป็นค่ามัดจำบัตร ที่สำคัญคือเมื่อใช้เสร็จสามารถคืนเงินในบัตรพร้อมค่ามัดจำบัตรได้ โดยจะถูกคิดค่าทำเนียม 9 เหรียญเท่านั้น สะดวกสุดๆบัตรนี้ต้องมีในการเที่ยวฮ่องกงค่ะ
8.ทำใจ ที่ติ๊ดบอกให้ทำใจคือเรื่องมารยาทของคนค่ะ คนมาเก๊าจะฉ่งเช้งแบบคนจีนปกติค่ะและที่ทำให้ติ๊ดตกใจตอนไปแรกๆก็คือวิธีการทอนเงินของพนักงานตามร้านต่างๆ คือเขาจะไม่ยื่นให้เราดีๆ เขาจะโยนเงินไปที่โต๊ะหรือเคาเตอร์แล้วให้เราเก็บเองค่ะ โยนแบบเอาไปซิ!! ซึ่งคนไทยจะรู้สึกว่าไร้มารยาทมากๆแต่คงเป็นปกติของที่นั้น เพราะฉะนั้นต้องทำใจกับการเจอเรื่องเหล่านี้ค่ะ 55555
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเลยยย
Day1 : กรุงเทพ-มาเก๊า
The venetian - โรงแรม - Senado square - Saint Dominic's Church - Grand Lisboa - Wynn
เดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปลงที่สนามบินมาเก๊าถึงประมาณ 10.00 โดยเวลาที่มาเก๊าจะเร็วกว่าไทยอยู่1 ชั่วโมงค่ะ
ไปถึงผ่านตรวจคนเข้าเมืองแวะเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกไปนอกอาคาร ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆจะเจอกับลานจอดรถบัสของโรงแรมต่างๆ ติ๊ดจะขึ้นรถบัตรของvenetianคันสีน้ำเงินๆนี้ค่ะ
จัดแจงเอากระเป๋าเดินทางใส่ใต้ท้องรถกำลังจะขึ้นรถก็รู้สึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ!กระเป๋าเป้หายไปไหน เห้ยยยย ลืมไว้ในห้องน้ำ!!! วิ่งค่ะติ๊ดวิ่งงงงหน้าตั้งกลับเข้าไปในอาคารตรงดิ่งไปประชาสัมพันธ์บอกว่าลืมกระเป๋าไว้ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ให้รอตรงนี้แล้วก็โทรเข้าไปข้างใน สักพักมีเจ้าหน้าที่อีกคนมาพาเดินไปที่ห้องรปภ.แล้วถามว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่บ้างให้อธิบายลักษณะกระเป๋า แล้วเขาก็ถามว่าใช้ใบนี้หรือเปล่า ใช่ค่าาา น้ำตาจะไหล เพราะทั้งเงินและเอกสารอยู่ในกระเป๋าหมด ประเดิมการมาถึงมาเก๊าด้วยเรื่องตื่นเต้นกันเลยหล่ะ
เมื่อได้กระเป๋าคืนก็กลับไปที่ลานจอดรถบัสจะได้ไปเที่ยวกันซักทีค่ะ นั่งรถบัสมาถึงvenetianใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น รถจะมาส่งที่ประตูฝั่งMain lobby
เดินเข้าไปข้างในก็ต้องว้าวกับความสวยงามอลังการภายใน ทั้งการตกแต่งภาพวาดต่างๆมันสวยมากๆๆๆๆๆ ติ๊ดไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงดิ่งเข้าไปถ่ายรูปรัวๆค่ะ
พอสบายใจแล้วก็จะเอากระเป๋าไปฝาก โดยที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ทางด้านขวาหลังจากเดินเข้าไปในตัวอาคาร ค่าฝากกระเป๋า10เหรียญ/1ใบ เราสามารถบอกให้เขาเอากระเป๋าไปไว้ที่ประตูฝั่งWest lobbyได้ค่ะ ซึ่งจะเป็นประตูที่เราจะนั่งรถบัสต่อไปฝั่งมาเก๊า หลังจากกระเป๋าเสร็จก็จะไปกินข้าวกันค่ะ จากจุดฝากกระเป๋าเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆจะเจอกับคาสิโน เจ้าหน้าที่จะขอตรวจพาสปอร์ตเพื่อดูว่าเราอายุถึงเกณฑ์หรือเปล่า ใครที่หน้าเกินอายุก็จะไม่ถูกตรวจค่ะ5555 เดินทะลุคาสิโนเข้าไปจะเจอกับบันไดโค้งๆขึ้นไปชั้นบน
ขึ้นไปแล้วเดินตามป้ายรูปจานข้าวก็จะเจอกับฟุตคอร์ดค่ะ ที่นี่เขาวาดเพดานให้เหมือนกับท้องฟ้าจริงๆค่ะ สวยมากๆๆๆๆ
มื้อนี้กินของขึ้นชื่อของมาเก๊า Pork chop bun ราคา55เหรียญ
ในความรู้สึกก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้นค่ะ5555 มันแล้วแต่คนชอบเนอะแต่มาแล้วก็ต้องลองค่าาา กินอิ่มแล้วลงไปเซอร์เวย์ดูคาสิโนกันหน่อย คนเยอะคึกคักมากค่ะโดยเฉพาะโต๊ะรูเล็ต ยืนดูสักพักก็เกิดกิเลสอยากลองเล่นบ้าง เอาว่ะมาทั้งทีเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงมาเก๊าเล่นแบบงงๆไปๆมาๆตาสุดท้ายได้มา400บาท 5555 เก็บชิพมา1อันเป็นที่ระลึกค่ะ
เวลายังเหลือก่อนข้ามไปฝั่งมาเก๊าก็เลยออกไปเดินรอบๆหามุมสวยๆถ่ายรูป
ได้เวลาอันสมควรแล้วก็ไปขึ้นรถข้ามไปฝั่งมาเก๊ากันเลยยย เราไปเอากระเป๋าที่ประตูฝั่งWest lobbyแล้วก็ขึ้นรถของvenetianเหมือนเดิมเพื่อไปลงที่ท่าเรือ Macau Ferry ค่ะ นั่งรถไม่นานประมาณ30นาทีก็มาถึงท่าเรือแล้ว ก่อนต่อรถไปโรงแรมแวะเข้าไปซื้อตั๋วเรือFerryเพื่อข้ามไปฮ่องกงในวันพรุ่งนี้ค่ะ เสาร์อาทิตย์คนจะเยอะเพราะงั้นซื้อไว้ก่อนดีกว่า ตั๋วจะมีหลายราคาตามเวลาและเกรดที่นั่งค่ะ ของติ๊ดตั๋วไปกลับราคาประมาณ350เหรียญค่ะ
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยเราก็ไปขึ้นรถบัสของโรงแรมที่เราพักกัน รถของโรงแรมต่างๆจะจอดอยู่ที่เดียวกันกับที่รถจากvenetianมาส่งเราค่ะ มาถึงโรงแรมแล้ว โรงแรม Rocks Hotel อยู่ติดริมทะเลบรรยากาศดีมากกกกก
ภายในโรงแรมตกแต่งสไตล์อังกฤษสวยงามหรูหราสุดๆๆ
ห้องพักก็เช่นกันตอนแรกไม่กล้านอนเลยเพราะมันสวยมาก5555
นั่งพักซักแป๊บให้หายเหนื่อยแล้วก็ออกไปตะลุยกันต่อที่ Senado Square เป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องมาค่ะ จากโรงแรมก็เดินทางไม่ยากขึ้นรถเมล์มาได้เลย วิธีดูสายรถเมล์ก็ใช้ Google Maps ปักหมุดสถานที่ที่เราจะไปแล้วขึ้นรถเมล์ตามสายที่เขาแนะนำได้เลยค่ะ
สถานที่เที่ยวใกล้Senadoก็จะมีซากโบสถ์ จุดชมวิว วัด และแหล่งช๊อปปิ้งค่ะ นี้คือ Saint Dominic's Church
แต่วันนี้เนื่องจากเย็นแล้วก็เลยจะเดินเล่นๆดูบรรยากาศดูของขายแล้วหาของกินกันค่ะ ร้านที่เราจะกินชื่อว่า Wong chi kei อยู่เลยน้ำพุไปข้างในหน่อยเดียวค่ะ ร้านนี้อาหารเด็ดจะเป็นบะหมี่เกี๊ยวสั่งกันทุกโต๊ะเลยค่ะ ยกเว้นโต๊ะติ๊ด5555 ตอนนั้นอยากกินข้าวเลยสั่งข้าวผัดมา และอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าอาหารที่มาเก๊าจืดมากกก เห็นสีเข้มๆแต่ก็จืดค่ะ
ต่อด้วยขนมซักหน่อย ทาร์ตไข่จากร้าน Koi Kei อยู่ใกล้ๆกับน้ำพุ Senado Square ค่าาา
กินอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นดูคาสิโนแถวนั้น มีทั้งGrand Lisboa, Wynn และอีกมากมาย
ที่พลาดไม่ได้คือการแสดงโชว์ของ Wynn มี3อย่างค่ะ 1.น้ำพุเต้นระบำ อยู่ที่ลานน้ำพุหน้ารร. 2.ต้นไม้แห่งความมั่งคั่ง 3.มังกรอะไรซักอย่าง 5555 ทั้ง2อันนี้อยู่ในรร.ตรงทางเข้าคาสิโน ถามรปภ.ข้างในได้ค่ะ ดูโชว์ที่1เสร็จให้เดินเข้าไปข้างในโรงแรมเพื่อดูโชว์ที2และ3ต่อ โดยโชว์ที่2และ3จะเล่นสลับกันไปทุกๆครึ่งชั่วโมง รูปด้านล่างคือลานน้ำพุหน้าโรงแรม Wynn ค่ะ
จะไม่สปอยการแสดงนะคะ ให้ไปดูกันเอง อิอิ ดูโชว์เสร็จก็เป็นเวลา4ทุ่มกว่า ติ๊ดก็กลับโรงแรมไปชาร์ตพลังสำหรับเที่ยวพรุ่งนี้ โดยนั่งรถเมล์ไปลงตรงข้ามซอยโรงแรมค่ะ จบไปแแล้วสำหรับวันแรก สำหรับวันพรุ่งนี้ติ๊ดจะไปฮ่องกงค่ะ ติดตามต่อในคอมเม้นนะคะ
[CR] เที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง 3วัน2คืน!! รีวิวแบบละเอียดๆไปเลย (2017)
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกถ้าผิดพลาดประการใดก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คือเมื่อวันที่6-8 พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมาติ๊ดได้ไปเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง 3วัน2คืน โดยไปแบบbackpackเที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ พอกลับมาไทยเพื่อนๆที่รู้จักหลายคนมาถามว่า เที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกงเป็นยังไง เดินทาง อาหาร ที่เที่ยว เตรียมตัวยังไงบ้าง จึงตัดสินใจเขียนรีวิวทริปนี้เผื่อคนอื่นๆที่กำลังจะไปมาเก๊า-ฮ่องกงจะได้ลองเอาไปเป็นข้อมูลค่ะ ขอเตือนว่ากระทู้นี้จะยาวนะคะและรูปเยอะเพราะจะรีวิวละเอียดจริงๆ 55555
ทริปนี้เดินทางทั้งหมด3วัน2คืนโดยจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมผ่านแอร์เอเชียโก ตอนนั้นมีโปรจองโรงแรมแล้วบินฟรี ก็จัดเลยค่าาา 😜
เครื่องบิน : Airasia
โรงแรม : Rocks Hotel
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
1.แลกเงิน ที่มาเก๊าสามารถใช้เงินของมาเก๊าเองหรือของฮ่องกงก็ได้ แต่ที่ฮ่องกงจะสามารถใช้ได้แค่เงินฮ่องกงเท่านั้นค่ะ แนะนำให้แลกเป็นเงินฮ่องกงซัก3ใน4ของเงินที่แลกทั้งหมด และอีก1ส่วนค่อยแลกเป็นเงินมาเก๊า เพราะในไทยไม่ค่อยรับแลกเงินมาเก๊ากลับเป็นเงินไทยค่ะ
2.ปลั๊กไฟ ทั้งมาเก๊าและฮ่องกงจะใช้ปลั๊กไฟแบบสามขาแบน อย่าลืมเอาหัวแปลงไฟกับปล๊กสามตาไปด้วย จะได้ไม่ต้องแย่งกันค่ะ
3.อากาศ ติ๊ดไปวันที่6-8พค อากาศไม่ร้อนอยู่ที่ประมาณ 26 องศา มาเก๊าเป็นที่ที่มีหมอกเยอะมากกกตอนเครื่องลงใกล้จะแตะลานบินแล้วแต่ก็ยังมองตึกใกล้ๆไม่ชัดเลยเพราะหมอกเยอะมากๆ และอากาศมีความชื้นสูงโดยเฉพาะตอนเช้าๆ หนีบผมไดร์ผมมาสวยๆก็ฟูค่ะ
4.อาหาร เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะจากที่ไปมา3วันทั้งมาเก๊าและฮ่องกงอาหารจืดมากกกกกก ขนาดติ๊ดเป็นคนไม่กินรสจัดยังรู้สึกเลยว่าจืดจริงๆ ยิ่งใครกินรสจัดนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย แนะนำให้เตรียมพริก/น้ำจิ้มที่ชอบไปด้วย
5.ทิชชู่ ร้านอาหารโดยเฉพาะในมาเก๊าไม่ค่อยมีทิชชู่ ไม่รู้ทำไมเอาไปเองชัวที่สุดค่ะ
6.เอกสารในการเดินทาง พาสปอร์ต เอกสารยืนยันการจองโรงแรม/จองเที่ยวบิน บัตรพนักงาน/บัตรนักศึกษา(โดยเฉพาะผู้หญิง)
7.การเดินทางในมาเก๊า-ฮ่องกง
มาเก๊า ส่วนใหญ่สามารถขึ้นรถบัสฟรีของโรงแรมต่างๆได้ เขาจะมีวิ่งไปหลายๆสถานที่สำคัญ ลองหาเส้นทางดูในเน็ตค่ะ นอกจากรถบัสฟรีก็จะมีรถเมล์ที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่ โดยจะมีบัตร Macau Pass เป็นบัตรเติมเงินไว้แปะๆตอนขึ้นรถเมล์ บัตรราคา130เหรียญ มีเงินในบัตร100เหรียญ แต่ถ้าใช้ไม่หมดเราไม่สามารถเอาเงินคืนได้ค่ะ ติ๊ดไม่ได้ใช้บัตรนี้เพราะลองคำนวณดูแล้วใช้ไม่หมดแน่นอน จึงจ่ายเงินสดแทนค่ะ ซึ่งค่ารถเมล์ในมาเก๊าเท่าที่ขึ้นจะอยู่ที่ 3.2-4.2เหรียญ ต้องเตรียมเงินให้พอดีเพราะไม่มีการทอนค่ะ ไม่งั้นก็ต้องให้เกินไป แนะนำให้แลกเหรียญกับร้านค้าที่เราซื้อของไว้เรื่อยๆค่ะ
ฮ่องกง ส่วนใหญ่ใช้รถไฟMTR ซึ่งจะมีบัตร Octopus เป็นบัตรเติมเงินไว้แปะขึ้นรถหรือซื้อของก็ได้ ราคาบัตรใบละ 150 เหรียญมีเงินให้ในบัตร 100 เหรียญ อีก 50 เหรียญเป็นค่ามัดจำบัตร ที่สำคัญคือเมื่อใช้เสร็จสามารถคืนเงินในบัตรพร้อมค่ามัดจำบัตรได้ โดยจะถูกคิดค่าทำเนียม 9 เหรียญเท่านั้น สะดวกสุดๆบัตรนี้ต้องมีในการเที่ยวฮ่องกงค่ะ
8.ทำใจ ที่ติ๊ดบอกให้ทำใจคือเรื่องมารยาทของคนค่ะ คนมาเก๊าจะฉ่งเช้งแบบคนจีนปกติค่ะและที่ทำให้ติ๊ดตกใจตอนไปแรกๆก็คือวิธีการทอนเงินของพนักงานตามร้านต่างๆ คือเขาจะไม่ยื่นให้เราดีๆ เขาจะโยนเงินไปที่โต๊ะหรือเคาเตอร์แล้วให้เราเก็บเองค่ะ โยนแบบเอาไปซิ!! ซึ่งคนไทยจะรู้สึกว่าไร้มารยาทมากๆแต่คงเป็นปกติของที่นั้น เพราะฉะนั้นต้องทำใจกับการเจอเรื่องเหล่านี้ค่ะ 55555
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเลยยย
Day1 : กรุงเทพ-มาเก๊า
The venetian - โรงแรม - Senado square - Saint Dominic's Church - Grand Lisboa - Wynn
เดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปลงที่สนามบินมาเก๊าถึงประมาณ 10.00 โดยเวลาที่มาเก๊าจะเร็วกว่าไทยอยู่1 ชั่วโมงค่ะ
ไปถึงผ่านตรวจคนเข้าเมืองแวะเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกไปนอกอาคาร ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆจะเจอกับลานจอดรถบัสของโรงแรมต่างๆ ติ๊ดจะขึ้นรถบัตรของvenetianคันสีน้ำเงินๆนี้ค่ะ
จัดแจงเอากระเป๋าเดินทางใส่ใต้ท้องรถกำลังจะขึ้นรถก็รู้สึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ!กระเป๋าเป้หายไปไหน เห้ยยยย ลืมไว้ในห้องน้ำ!!! วิ่งค่ะติ๊ดวิ่งงงงหน้าตั้งกลับเข้าไปในอาคารตรงดิ่งไปประชาสัมพันธ์บอกว่าลืมกระเป๋าไว้ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ให้รอตรงนี้แล้วก็โทรเข้าไปข้างใน สักพักมีเจ้าหน้าที่อีกคนมาพาเดินไปที่ห้องรปภ.แล้วถามว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่บ้างให้อธิบายลักษณะกระเป๋า แล้วเขาก็ถามว่าใช้ใบนี้หรือเปล่า ใช่ค่าาา น้ำตาจะไหล เพราะทั้งเงินและเอกสารอยู่ในกระเป๋าหมด ประเดิมการมาถึงมาเก๊าด้วยเรื่องตื่นเต้นกันเลยหล่ะ
เดินเข้าไปข้างในก็ต้องว้าวกับความสวยงามอลังการภายใน ทั้งการตกแต่งภาพวาดต่างๆมันสวยมากๆๆๆๆๆ ติ๊ดไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงดิ่งเข้าไปถ่ายรูปรัวๆค่ะ
พอสบายใจแล้วก็จะเอากระเป๋าไปฝาก โดยที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ทางด้านขวาหลังจากเดินเข้าไปในตัวอาคาร ค่าฝากกระเป๋า10เหรียญ/1ใบ เราสามารถบอกให้เขาเอากระเป๋าไปไว้ที่ประตูฝั่งWest lobbyได้ค่ะ ซึ่งจะเป็นประตูที่เราจะนั่งรถบัสต่อไปฝั่งมาเก๊า หลังจากกระเป๋าเสร็จก็จะไปกินข้าวกันค่ะ จากจุดฝากกระเป๋าเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆจะเจอกับคาสิโน เจ้าหน้าที่จะขอตรวจพาสปอร์ตเพื่อดูว่าเราอายุถึงเกณฑ์หรือเปล่า ใครที่หน้าเกินอายุก็จะไม่ถูกตรวจค่ะ5555 เดินทะลุคาสิโนเข้าไปจะเจอกับบันไดโค้งๆขึ้นไปชั้นบน
ขึ้นไปแล้วเดินตามป้ายรูปจานข้าวก็จะเจอกับฟุตคอร์ดค่ะ ที่นี่เขาวาดเพดานให้เหมือนกับท้องฟ้าจริงๆค่ะ สวยมากๆๆๆๆ
มื้อนี้กินของขึ้นชื่อของมาเก๊า Pork chop bun ราคา55เหรียญ
ในความรู้สึกก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้นค่ะ5555 มันแล้วแต่คนชอบเนอะแต่มาแล้วก็ต้องลองค่าาา กินอิ่มแล้วลงไปเซอร์เวย์ดูคาสิโนกันหน่อย คนเยอะคึกคักมากค่ะโดยเฉพาะโต๊ะรูเล็ต ยืนดูสักพักก็เกิดกิเลสอยากลองเล่นบ้าง เอาว่ะมาทั้งทีเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงมาเก๊าเล่นแบบงงๆไปๆมาๆตาสุดท้ายได้มา400บาท 5555 เก็บชิพมา1อันเป็นที่ระลึกค่ะ
เวลายังเหลือก่อนข้ามไปฝั่งมาเก๊าก็เลยออกไปเดินรอบๆหามุมสวยๆถ่ายรูป
ได้เวลาอันสมควรแล้วก็ไปขึ้นรถข้ามไปฝั่งมาเก๊ากันเลยยย เราไปเอากระเป๋าที่ประตูฝั่งWest lobbyแล้วก็ขึ้นรถของvenetianเหมือนเดิมเพื่อไปลงที่ท่าเรือ Macau Ferry ค่ะ นั่งรถไม่นานประมาณ30นาทีก็มาถึงท่าเรือแล้ว ก่อนต่อรถไปโรงแรมแวะเข้าไปซื้อตั๋วเรือFerryเพื่อข้ามไปฮ่องกงในวันพรุ่งนี้ค่ะ เสาร์อาทิตย์คนจะเยอะเพราะงั้นซื้อไว้ก่อนดีกว่า ตั๋วจะมีหลายราคาตามเวลาและเกรดที่นั่งค่ะ ของติ๊ดตั๋วไปกลับราคาประมาณ350เหรียญค่ะ
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยเราก็ไปขึ้นรถบัสของโรงแรมที่เราพักกัน รถของโรงแรมต่างๆจะจอดอยู่ที่เดียวกันกับที่รถจากvenetianมาส่งเราค่ะ มาถึงโรงแรมแล้ว โรงแรม Rocks Hotel อยู่ติดริมทะเลบรรยากาศดีมากกกกก
ภายในโรงแรมตกแต่งสไตล์อังกฤษสวยงามหรูหราสุดๆๆ
ห้องพักก็เช่นกันตอนแรกไม่กล้านอนเลยเพราะมันสวยมาก5555
นั่งพักซักแป๊บให้หายเหนื่อยแล้วก็ออกไปตะลุยกันต่อที่ Senado Square เป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องมาค่ะ จากโรงแรมก็เดินทางไม่ยากขึ้นรถเมล์มาได้เลย วิธีดูสายรถเมล์ก็ใช้ Google Maps ปักหมุดสถานที่ที่เราจะไปแล้วขึ้นรถเมล์ตามสายที่เขาแนะนำได้เลยค่ะ
สถานที่เที่ยวใกล้Senadoก็จะมีซากโบสถ์ จุดชมวิว วัด และแหล่งช๊อปปิ้งค่ะ นี้คือ Saint Dominic's Church
แต่วันนี้เนื่องจากเย็นแล้วก็เลยจะเดินเล่นๆดูบรรยากาศดูของขายแล้วหาของกินกันค่ะ ร้านที่เราจะกินชื่อว่า Wong chi kei อยู่เลยน้ำพุไปข้างในหน่อยเดียวค่ะ ร้านนี้อาหารเด็ดจะเป็นบะหมี่เกี๊ยวสั่งกันทุกโต๊ะเลยค่ะ ยกเว้นโต๊ะติ๊ด5555 ตอนนั้นอยากกินข้าวเลยสั่งข้าวผัดมา และอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าอาหารที่มาเก๊าจืดมากกก เห็นสีเข้มๆแต่ก็จืดค่ะ
ต่อด้วยขนมซักหน่อย ทาร์ตไข่จากร้าน Koi Kei อยู่ใกล้ๆกับน้ำพุ Senado Square ค่าาา
กินอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นดูคาสิโนแถวนั้น มีทั้งGrand Lisboa, Wynn และอีกมากมาย
ที่พลาดไม่ได้คือการแสดงโชว์ของ Wynn มี3อย่างค่ะ 1.น้ำพุเต้นระบำ อยู่ที่ลานน้ำพุหน้ารร. 2.ต้นไม้แห่งความมั่งคั่ง 3.มังกรอะไรซักอย่าง 5555 ทั้ง2อันนี้อยู่ในรร.ตรงทางเข้าคาสิโน ถามรปภ.ข้างในได้ค่ะ ดูโชว์ที่1เสร็จให้เดินเข้าไปข้างในโรงแรมเพื่อดูโชว์ที2และ3ต่อ โดยโชว์ที่2และ3จะเล่นสลับกันไปทุกๆครึ่งชั่วโมง รูปด้านล่างคือลานน้ำพุหน้าโรงแรม Wynn ค่ะ
จะไม่สปอยการแสดงนะคะ ให้ไปดูกันเอง อิอิ ดูโชว์เสร็จก็เป็นเวลา4ทุ่มกว่า ติ๊ดก็กลับโรงแรมไปชาร์ตพลังสำหรับเที่ยวพรุ่งนี้ โดยนั่งรถเมล์ไปลงตรงข้ามซอยโรงแรมค่ะ จบไปแแล้วสำหรับวันแรก สำหรับวันพรุ่งนี้ติ๊ดจะไปฮ่องกงค่ะ ติดตามต่อในคอมเม้นนะคะ