รอบนี้ไปขอเชงเก้นวีซ่าไปนอร์เวย์ 10 วัน ก่อนอื่นเข้าไปที่เวปไซด์ VFS Global กรอกข้อมูลตามชนิดของวีซ่าที่เลือกไป กรณีเดินทางเป็นกลุ่มสามารถเลือกวีซ่าแบบกลุ่มได้ จะได้สะดวกในการนัดหมาย และใช้เอกสารชุดเดียว แต่ผมกับน้องที่ไปด้วย ว่างไม่ตรงกันเลยต่างคนต่างขอครับ พอกรอกข้อมูลเสร็จ ก็จ่ายเงินค่าวีซ่า 60 ยูโร ตัดผ่านบัตรเครดิตได้เลยครับ เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ก็จะสามารถนัดวัดที่จะไปยื่นเอกสาร จะมีตั้งแต่รอบเช้าถึงประมาณ บ่าย 3 โมง แต่ละรอบจะรับจำนวนคนได้ไม่มากนัก หลังจากนั้นจะมีอีเมล์มา ในอีเมล์จะให้เรา print เอกสาร 3 ชุดคือ Cover letter, Check list และ Questionnaire
ในการจัดเตรียมเอกสารให้จัดตามลำดับของ checklist ได้เลย ไม่จำเป็นต้องจัดเกินกว่านั้นซึ่ง Checklist ประกอบด้วย
-พาสปอร์ตตัวจริง ทั้งเล่มเก่าและเล่มใหม่ มีหน้าว่าง 2 หน้าขึ้นไป และยังมีอายุมากว่า 6 เดือน
-Cover letter ที่เขียนว่า UDI ตัวใหญ่ๆและมีชื่อทีอยู่เรา นั้นหละครับ พร้อมรูปถ่าย 2 นิ้ว ใช้แค่ใบเดียวเท่านั้น ยังไม่ต้องแปะไปนะครับ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จัดการให้เอง
- Questionnaire โหลดมาแล้วพิมพ์แก้ไขไปได้เลย ไม่ต้องเขียนเอง จะสวยงามกว่า
- ประกันการเดินทางที่มากกว่า 1500000 บาท
-ตั๋วเครื่องบิน กรณีผม ผมซื้อตั๋วเลย ซึ่งไม่ถูกต้องนัก แต่ถ้ามั่นใจก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้ดีก็ให้พวกเอเจนต์ออกให้จะดีกว่าครับ เค้าจะเริ่ม start Visa ในวันแรกที่เดินทางถึง ตามในตั๋วเครื่องบินครับ
-สำเนาพาสปอร์ต ใช้ 2 ชุดครับ
-สำเนาเชงเก้นวีซ่าที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ บางคนเห็นว่าสำเนาวีซ่าทุกอันเลย แต่ผมเลือกสำเนาเฉพาะเชงเก้นเท่านั้นซึ่งมีอยู่อันเดียว ส่วนอันอื่นที่ไม่ใช่เชงเก้น เช่นวีซ่าอเมริกา อังกฤษ หรืออื่นๆ ผมไม่ได้ส่งไปครับ
-ใบแสดงการสมรส (แปลเอกสารพร้อมสำเนาตัวจริงด้วยครับ)
-ใบหลักฐานการทำงาน เป็นภาษาอังกฤษ สำหรับเจ้าของกิจการ แสดงทะเบียนการค้าที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยสำเนาภาษาไทยแนบไปด้วยนะครับ ของผมใช้ทะเบียนการค้าของที่บ้าน(ผมทำงานกิจการที่บ้าน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของเอง) และให้ที่บ้านทำหนังสือรับรองมาให้แทน
-หลักฐานทางการเงิน ของผมใช้สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือนครับ
-หลักฐานการจองโรงแรมตลอดทั้งทริป จองให้ครบทุกเมืองที่จะไป ผมจอง booking.com ไปครับทุกวันครับ
-แผนการเดินทาง ทำคร่าวๆว่า วันนี้ เดินทางไปเที่ยวอะไร พักที่โรงแรมอะไร ใส่เบอร์โทรของโรงแรมไปด้วย ทำเป็นตารางง่ายๆครับ
-หลักฐานเพิ่มเติมนอกเหนือจากในเช็คลิส ผมเตรียมใบจองรถแนบไปด้วย พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน แต่เจ้าหน้าที่เอาใบจองรถไปอย่างเดียวครับ อย่างอื่นไม่ได้ใช้
เมื่อใกล้ถึงวันนัดหมาย จะมีอีเมล์มาเตือนเราอีกรอบนึงว่าใกล้ถึงวันแล้ว ซึ่งถ้าบังเอิญไม่สะดวก ยังสามารถเปลี่ยนแปลงวันยื่นวีซ่าได้
วันยื่นวีซ่า
เนื่องจากผมขอคิวไว้รอบ 11.45 น. เดินทางไปยื่นที่ VFS อยู่ตึก Trendy ซึ่งอยู่ซอยสุขุมวิท 13 ลงจากสถานีรถไฟฟ้านานา ออกที่ exit 3 เดินไปอีกเล็กน้อย ถึงซอย 13 เลี้ยวเข้าซอยไปสัก 70 เมตร เจอตึกอยู่ฝั่งขวา ที่นี่จะพบคนมาทำวีซ่ามากมายเพราะเป็นสถานที่ขอวีซ่าทั้ง อังกฤษ ออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ที่ชั้น 28 ส่วนของเรา อยู่ที่ชั้น 8 มีประเทศกลุ่มสแกนฯ ทั้งหมด นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ค ฟินแลนด์ ขอที่เดียวกันหมด ไปถึง ขึ้นลิฟต์ตัวซ้ายสุดที่จะจอดแค่ 3 ชั้นคือ G 8 และ 28 บางทีลิฟต์แน่นมากๆก็รอไป หรือสามารถขึ้นบันไดเลือนได้ถึงชั้น 5 แล้วเดินขึ้นบันได้ไปอีก 3 ชั้นก็ได้ครับ (ผมใช้ตอนขาลง คนต่อคิวเยอะ เลยเดินลงมาแทนครับ) ผมไปถึงตั้งแต่ 11 โมง ยังไม่ถึงเวลานัดหมาย แต่ก็ลองขึ้นไปดู ขึ้นไปที่ชั้น 8 ลิฟต์เปิดออกมาก็เจอประตู เจอเจ้าหน้าที่ทันที เค้าจะถามเราว่าจะมาทำอะไร ทำวีซ่าก็เข้าประตูไป ผ่านเครื่องแสกน จุดนี้ต้องปิดมือถือแล้ว ผ่านไปก็รับบัตรคิวแล้วเข้าไปนั่งรอ ผมไปก่อนเวลา เจ้าหน้าที่ก็จัดให้เข้าไปทำได้เลย ผมโชคดีไม่มีคิว ก็เลยได้ยื่นเอกสารผ่านเจ้าหน้าที่ได้ทันที เจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็วมาก ตรวจเช็คเอกสาร พบว่าของผมขาดหน้าสำเนาพาสปอร์ตเล่มเก่า เลยต้องไปถ่ายเพิ่ม ใบละ 3 บาท มีบริการอยู่ด้านนอกเลย ส่วนคนที่ลืมเอกสารแล้วให้คนส่งเมล์มาให้ ก็สามารถปริ๊นได้เช่นกัน คิดใบละ 25 บาทครับ ผมไปถ่ายเอกสารเพิ่มแล้วกลับมายื่น เจ้าหน้าที่เตรียมใบเสร็จของผมเรียบร้อย ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 660 บาทเป็นค่าบริการ + ค่า SMS แจ้งวันรับวีซ่า หลังจากนั้นก็ไปถ่ายรูปและเก็บลายนิ้วมือ ใช้เวลาแปปเดียวก็เสร็จเรียบร้อยครับ ก็จะได้ใบเสร็จและสำเนาพาสปอร์ต พร้อมข้อความอธิบายการมารับวีซ่า ซึ่งถ้าไม่สะดวกรับเองให้เตรียมเอกสารอะไรบ้าง มีอธิบายไว้
วันรับวีซ่า
หลังจากยื่นวีซ่าไปวันพุธ วันจันทร์ถัดมา มี SMS มาตั้งแต่ 10 โมงเช้าว่าให้มารับพาสปอร์ตคืนได้ ผมยังตกใจว่า แค่ 3 วันทำการ เจ้าหน้าที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกทีแรกว่าประมาณ 15 วัน แต่หลายคนก็บอกว่าบางที 3 วันก็ได้แล้ว ผมเลยไปรับพาสปอร์ตในวันอังคารแทน และต้องไปรับแทนเพื่อนที่ไปด้วยกันด้วย โดยเตรียมเอกสารคือ สำเนาบัตรประชาชนของผมและเพื่อน และให้เพื่อนเขียนลงในสำเนาพาสปอร์ตที่ได้รับคืนมาว่า ข้าพเจ้า นาย....ขอมอบอำนาจให้นาย...มารับพาสปอร์ต แทนข้าพเจ้า ลงชื่อ.... แต่ผมก็ยังเกรงว่าจะใช้ไม่ได้เลยเตรียมใบมอบอำนาจแบบเป็นทางการไว้เผื่อไปด้วย ซึ่งถ้ามีการรับแทน จะสามารถรับพาสปอร์ตได้หลัง 15.00 น.ไปแล้ว ผมไปถึง 14.30 น. ก็นั่งรอสักพัก เลยลองเข้าไปเลยตอน 14.50 เจ้าหน้าที่ก็ให้เข้าไปรับเลย แต่มีคิวรับประมาณ 8 คิว กว่าผมจะได้ก็ 15.05 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เก็บเอกสารอะไรเพิ่มเลย เอาแค่ใบรับที่เขียนมอบอำนาจลงในใบนั้นเลยก็พอครับ เอกสารอื่นไม่ได้ใช้เลย รับเสร็จ ก็รีบมาเปิดดู ปรากฏว่าได้วีซ่า Multiple มา 1 ปีครับ ยังตกใจเลย เพราะผมขอแบบ single ไป ไม่นึกว่าสถานฑูตจะใจดีให้มาปีนึง เพื่อนผมก็ได้เท่ากันเป๊ะเลยครับ ปีหน้าไปเที่ยวยุโรปได้อีกหลายที (รอบที่แล้วขอไปสวิส ได้มาแค่ single 21 วัน ส่วนเพื่อนเคยขอไปสวีเดน ได้มา 5 วันตามที่ระบุไว้แค่นั้น) ที่นี่ใจดีครับ หรือเป็นเพราะเราเตรียมเอกสารไปพร้อมก็ไม่รู้ครับ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขาดตกตรงไหน สอบถามได้ครับ ขอบคุณมากครับ
[CR] แชร์ประสบการณ์การขอวีซ่านอร์เวย์ครับ April 2017
ในการจัดเตรียมเอกสารให้จัดตามลำดับของ checklist ได้เลย ไม่จำเป็นต้องจัดเกินกว่านั้นซึ่ง Checklist ประกอบด้วย
-พาสปอร์ตตัวจริง ทั้งเล่มเก่าและเล่มใหม่ มีหน้าว่าง 2 หน้าขึ้นไป และยังมีอายุมากว่า 6 เดือน
-Cover letter ที่เขียนว่า UDI ตัวใหญ่ๆและมีชื่อทีอยู่เรา นั้นหละครับ พร้อมรูปถ่าย 2 นิ้ว ใช้แค่ใบเดียวเท่านั้น ยังไม่ต้องแปะไปนะครับ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จัดการให้เอง
- Questionnaire โหลดมาแล้วพิมพ์แก้ไขไปได้เลย ไม่ต้องเขียนเอง จะสวยงามกว่า
- ประกันการเดินทางที่มากกว่า 1500000 บาท
-ตั๋วเครื่องบิน กรณีผม ผมซื้อตั๋วเลย ซึ่งไม่ถูกต้องนัก แต่ถ้ามั่นใจก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้ดีก็ให้พวกเอเจนต์ออกให้จะดีกว่าครับ เค้าจะเริ่ม start Visa ในวันแรกที่เดินทางถึง ตามในตั๋วเครื่องบินครับ
-สำเนาพาสปอร์ต ใช้ 2 ชุดครับ
-สำเนาเชงเก้นวีซ่าที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ บางคนเห็นว่าสำเนาวีซ่าทุกอันเลย แต่ผมเลือกสำเนาเฉพาะเชงเก้นเท่านั้นซึ่งมีอยู่อันเดียว ส่วนอันอื่นที่ไม่ใช่เชงเก้น เช่นวีซ่าอเมริกา อังกฤษ หรืออื่นๆ ผมไม่ได้ส่งไปครับ
-ใบแสดงการสมรส (แปลเอกสารพร้อมสำเนาตัวจริงด้วยครับ)
-ใบหลักฐานการทำงาน เป็นภาษาอังกฤษ สำหรับเจ้าของกิจการ แสดงทะเบียนการค้าที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยสำเนาภาษาไทยแนบไปด้วยนะครับ ของผมใช้ทะเบียนการค้าของที่บ้าน(ผมทำงานกิจการที่บ้าน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของเอง) และให้ที่บ้านทำหนังสือรับรองมาให้แทน
-หลักฐานทางการเงิน ของผมใช้สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือนครับ
-หลักฐานการจองโรงแรมตลอดทั้งทริป จองให้ครบทุกเมืองที่จะไป ผมจอง booking.com ไปครับทุกวันครับ
-แผนการเดินทาง ทำคร่าวๆว่า วันนี้ เดินทางไปเที่ยวอะไร พักที่โรงแรมอะไร ใส่เบอร์โทรของโรงแรมไปด้วย ทำเป็นตารางง่ายๆครับ
-หลักฐานเพิ่มเติมนอกเหนือจากในเช็คลิส ผมเตรียมใบจองรถแนบไปด้วย พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน แต่เจ้าหน้าที่เอาใบจองรถไปอย่างเดียวครับ อย่างอื่นไม่ได้ใช้
เมื่อใกล้ถึงวันนัดหมาย จะมีอีเมล์มาเตือนเราอีกรอบนึงว่าใกล้ถึงวันแล้ว ซึ่งถ้าบังเอิญไม่สะดวก ยังสามารถเปลี่ยนแปลงวันยื่นวีซ่าได้
วันยื่นวีซ่า
เนื่องจากผมขอคิวไว้รอบ 11.45 น. เดินทางไปยื่นที่ VFS อยู่ตึก Trendy ซึ่งอยู่ซอยสุขุมวิท 13 ลงจากสถานีรถไฟฟ้านานา ออกที่ exit 3 เดินไปอีกเล็กน้อย ถึงซอย 13 เลี้ยวเข้าซอยไปสัก 70 เมตร เจอตึกอยู่ฝั่งขวา ที่นี่จะพบคนมาทำวีซ่ามากมายเพราะเป็นสถานที่ขอวีซ่าทั้ง อังกฤษ ออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ที่ชั้น 28 ส่วนของเรา อยู่ที่ชั้น 8 มีประเทศกลุ่มสแกนฯ ทั้งหมด นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ค ฟินแลนด์ ขอที่เดียวกันหมด ไปถึง ขึ้นลิฟต์ตัวซ้ายสุดที่จะจอดแค่ 3 ชั้นคือ G 8 และ 28 บางทีลิฟต์แน่นมากๆก็รอไป หรือสามารถขึ้นบันไดเลือนได้ถึงชั้น 5 แล้วเดินขึ้นบันได้ไปอีก 3 ชั้นก็ได้ครับ (ผมใช้ตอนขาลง คนต่อคิวเยอะ เลยเดินลงมาแทนครับ) ผมไปถึงตั้งแต่ 11 โมง ยังไม่ถึงเวลานัดหมาย แต่ก็ลองขึ้นไปดู ขึ้นไปที่ชั้น 8 ลิฟต์เปิดออกมาก็เจอประตู เจอเจ้าหน้าที่ทันที เค้าจะถามเราว่าจะมาทำอะไร ทำวีซ่าก็เข้าประตูไป ผ่านเครื่องแสกน จุดนี้ต้องปิดมือถือแล้ว ผ่านไปก็รับบัตรคิวแล้วเข้าไปนั่งรอ ผมไปก่อนเวลา เจ้าหน้าที่ก็จัดให้เข้าไปทำได้เลย ผมโชคดีไม่มีคิว ก็เลยได้ยื่นเอกสารผ่านเจ้าหน้าที่ได้ทันที เจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็วมาก ตรวจเช็คเอกสาร พบว่าของผมขาดหน้าสำเนาพาสปอร์ตเล่มเก่า เลยต้องไปถ่ายเพิ่ม ใบละ 3 บาท มีบริการอยู่ด้านนอกเลย ส่วนคนที่ลืมเอกสารแล้วให้คนส่งเมล์มาให้ ก็สามารถปริ๊นได้เช่นกัน คิดใบละ 25 บาทครับ ผมไปถ่ายเอกสารเพิ่มแล้วกลับมายื่น เจ้าหน้าที่เตรียมใบเสร็จของผมเรียบร้อย ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 660 บาทเป็นค่าบริการ + ค่า SMS แจ้งวันรับวีซ่า หลังจากนั้นก็ไปถ่ายรูปและเก็บลายนิ้วมือ ใช้เวลาแปปเดียวก็เสร็จเรียบร้อยครับ ก็จะได้ใบเสร็จและสำเนาพาสปอร์ต พร้อมข้อความอธิบายการมารับวีซ่า ซึ่งถ้าไม่สะดวกรับเองให้เตรียมเอกสารอะไรบ้าง มีอธิบายไว้
วันรับวีซ่า
หลังจากยื่นวีซ่าไปวันพุธ วันจันทร์ถัดมา มี SMS มาตั้งแต่ 10 โมงเช้าว่าให้มารับพาสปอร์ตคืนได้ ผมยังตกใจว่า แค่ 3 วันทำการ เจ้าหน้าที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกทีแรกว่าประมาณ 15 วัน แต่หลายคนก็บอกว่าบางที 3 วันก็ได้แล้ว ผมเลยไปรับพาสปอร์ตในวันอังคารแทน และต้องไปรับแทนเพื่อนที่ไปด้วยกันด้วย โดยเตรียมเอกสารคือ สำเนาบัตรประชาชนของผมและเพื่อน และให้เพื่อนเขียนลงในสำเนาพาสปอร์ตที่ได้รับคืนมาว่า ข้าพเจ้า นาย....ขอมอบอำนาจให้นาย...มารับพาสปอร์ต แทนข้าพเจ้า ลงชื่อ.... แต่ผมก็ยังเกรงว่าจะใช้ไม่ได้เลยเตรียมใบมอบอำนาจแบบเป็นทางการไว้เผื่อไปด้วย ซึ่งถ้ามีการรับแทน จะสามารถรับพาสปอร์ตได้หลัง 15.00 น.ไปแล้ว ผมไปถึง 14.30 น. ก็นั่งรอสักพัก เลยลองเข้าไปเลยตอน 14.50 เจ้าหน้าที่ก็ให้เข้าไปรับเลย แต่มีคิวรับประมาณ 8 คิว กว่าผมจะได้ก็ 15.05 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เก็บเอกสารอะไรเพิ่มเลย เอาแค่ใบรับที่เขียนมอบอำนาจลงในใบนั้นเลยก็พอครับ เอกสารอื่นไม่ได้ใช้เลย รับเสร็จ ก็รีบมาเปิดดู ปรากฏว่าได้วีซ่า Multiple มา 1 ปีครับ ยังตกใจเลย เพราะผมขอแบบ single ไป ไม่นึกว่าสถานฑูตจะใจดีให้มาปีนึง เพื่อนผมก็ได้เท่ากันเป๊ะเลยครับ ปีหน้าไปเที่ยวยุโรปได้อีกหลายที (รอบที่แล้วขอไปสวิส ได้มาแค่ single 21 วัน ส่วนเพื่อนเคยขอไปสวีเดน ได้มา 5 วันตามที่ระบุไว้แค่นั้น) ที่นี่ใจดีครับ หรือเป็นเพราะเราเตรียมเอกสารไปพร้อมก็ไม่รู้ครับ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขาดตกตรงไหน สอบถามได้ครับ ขอบคุณมากครับ