[CR] ดอยหลวงเชียงดาว ไม่มีรถก็ไปได้ในงบแค่3000บาท

     แอบรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ดอยหลวงเชียงดาว ฉบับงบน้อยแต่อยากไป กระทู้นี้ขอนำเสนออีกหนึ่งสถานที่เที่ยว "ดอยหลวงเชียงดาว"
ไปกับเเเฟนก็ได้ พาครอบครัวไปก็ดี แต่กับเพื่อนนี่สนุกมากกกกก ทริปนี้เดินทางกันทั้งหมด5คน กำหนดงบประมาณคนละ3,000บาท
ข้อมูลคร่าวๆ  : ดอยหลวงเชียงดาว ตั้งอยู่ที่ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นยอดดอยที่จัดว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ                                      ด้วยความสูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล 
สภาพทางเดิน : เป็นเขาชันเเละไม่ชันสลับกันไป โดยส่วนตัวมองว่าไม่ได้เดินยากมือใหม่เดินได้ แต่เดินนานนิดนึง ขาขึ้นดอยเหนื่อยเเทบตาย ขาลงดอย                         แปปเดียวก็ถึงเเล้ว

......เริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ......
วันเเรก : เดินทางโดยรถไฟฟรีค่ะ ในช่วงที่ไปเป็นช่วงใกล้จะปีใหม่พอดีคนเลยเยอะต้องจองตั๋วรถไฟฟรีตั้งแต่7โมงเช้า แต่รถมาเทียบสถานี
ประมาณ13.45น. ตื่นเต้นมากขึ้นรถไฟฟรีครั้งเเรกแล้วคงจะเป็นครั้งสุดท้าย เริ่มเดินทางคนก็จะเยอะมากเบียดแน่นไปหมด บางคนที่มาจองตั๋วช้าก็จะได้ตั๋วยืน กว่าจะถึงเชียงใหม่14ชั่วโมงเลยอ่ะเเม่เจ้า ยืนขาเเข็งกันไปข้างนึง 555555 แต่ยิ่งกว่านั้นนับถือจริงๆ คนขายของหาบเร่(เรียกแบบนี้ถูกรึเปล่าไม่รู้นะคะ) เดินทุกห้านาทีคนเบียดๆก็ยังจะเเทรกตัวได้เห็นเเล้วเหนื่อยแทน ไก่ย่าง ข้าวผัด ผัดกระเพรา ไส้กรอกลูกชิ้น มีกินตลอดทั้งทางไม่ต้องกลัวจะหิวเลย เห็นเเบบนี้รสชาติก็ใช้ได้นะคะสมกับราคา         

รถไฟออกจากสถานีจริงๆประมาณ 14.00 งบประหยัดนั่งรถไฟฟรีต้องทำใจนั่งจนเมื่อย กว่าจะถึงนี่ นั่งโต้ลมจนหน้าชา 55555555
รถไฟจะเดินทางมาถึงเชียงใหม่ในเวลา 05.20 ค่ะ พอออกจากสถานีจะมีรถแดงรับเหมาอยู่ข้างหน้าสถานีรถไฟจะไปไหนก็สามารถสอบถามได้
ข้างๆสถานีรถไฟก็จะมีเซเว่นอยู่ค่ะเผื่อใครหิว ตอนแรกว่าจะเหมารถแดงไปเชียงดาวสอบถามราคา 4,000บาท นี่คือไปอย่างเดียว ตกคนละ 800 บาท
แต่เนื่องจากพอศึกษาข้อมูลมาบ้างว่ามีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ชื่อร้าน ไบกี้ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) คนแถวนั้นจะรู้จักร้านนี้พอควร เลยตกลงกันว่าจะเหมารถไปร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ไบกี้ค่ะตกคนละ 40บาท ถึงร้านไบกี้ประมาณ7โมงเช้า คนเยอะมาก

* สิ่งที่ต้องใช้นะคะ สำเนาบัตรประชาชน* ค่าเช่าวันละ300บาท แล้วแต่ประเภทรถค่ะถ้าเช่ารถใหญ่รู้สึกว่าจะต้องโทรจองก่อน
ปล. แนะนำว่าตอนเลือกหมวกกันน็อค เลือกอันที่มีชิวปิดหน้านะ เพราะไม่รู้ว่าจะขับรถโดนเเมลงตีเข้าตาตอนไหน
เราเช่ามาสองคัน เริ่มออกเดินทาง ไปแบบไม่รู้เลยว่าเชียงดาวอยู่ไหน55555 จีพีเอสจะช่วยเราได้
เดินทางจากร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ไบค์กี้ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึง อากาศกำลังเย็นเลยขนาดเราออกเดินทางประมาณ10โมงยังหนาวอยู่เลย รถไม่เยอะเหมือนกรุงเทพค่ะ ขับสบายเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก ทางโค้งชันพอควร


พอมาถึงโลตัสเชียงดาว ถามชาวบ้านเขาบอกว่าขึ้นไปที่อุทยานมาเลยเราก็งงๆเพราะตอนแรกไม่คิดว่าที่พักจะอยู่ในอุทยาน
จากโลตัสขึ้นมาหน้าอุทยานประมาณ15โลค่ะ พอถึงหน้าอุทยานเสียค่าเข้าคนละ20บาท
เจ้าหน้าที่ให้คำเเนะนำดีค่ะบอกว่าขับขึ้นไปตามทางเรื่อยๆเดียวก็เจอที่พัก ในใจตอนนั้นคือไม่คิดว่าจะไกลไงโอ้โหคุณพระ 30โลได้5555
ทางนี่โค้งชันสะใจจริงๆ มีเลนสองเลนระหว่างทางโค้งต้องคอยบีบแตรเพื่อส่งเสียงสัญญาณว่ามีรถมา
ทางอันตรายพอควรค่ะใจไม่ถึงขับขึ้นยาก5555555
และเเล้วก็ถึงที่พักเป็นหมู่บ้านเล็กๆ(น่าจะเป็นกลุ่มชนเผ่าค่ะ) เหมือนเขาอยู่กันเองแต่ทำหมู่บ้านให้เป็นที่พัก มีเต้นท์ให้พัก มีห้องน้ำ เป็นที่พัก ต่อๆกันไปค่ะ ที่พักเราหาจากเว็บไซค์นี้ค่ะ http://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87
อย่างที่บอก สถานที่พักเป็นเหมือนหมู่บ้าน ราคามีหลายราคาแต่เรานอนเต้นท์กัน ตกคนละ400บาท(รวมอาหารเช้า-เย็น) เต้นท์มีตั้งแต่นอน 2-3คน 3-4 คน 4-6คน ราคาเท่ากันทุกเต้นท์ คนละ400บาท โอนมัดจำไปก่อนครึ่งนึงแล้วก็จ่ายอีกครึ่งนึงวันที่เข้าพักค่ะ ที่พักจะไฟดับตอนประมาณสองทุ่มครึ่งนะคะเพราะว่าใช้ไฟจากพลังงานโซล่าเซลล์
วันที่สอง : ตั้งใจจะตื่นตี5เพื่อมารอดูทะเลหมอกแต่ความขี้เกียจทำให้ตื่นสะ6โมงครึ่ง แต่ก็ยังทันทะเลหมอกอยู่น้าา อากาศหนาวมากตอนเช้าพูดนี่ควันออกปากเมื่อคืนก็หนาวน้ำค้างลงเต็มเตนทื์เลย อาหารเช้าวันนี้จะมี ไข่เจียว ผัดผักกาด ต้มจืด น้ำพริกลีซอ(ต้องลองเป็นน้ำพริกท้องถิ่นของที่นี่ค่ะ) ถ้าเกิดอยากจะทานอะไรเพิ่มเติม ในหมู่บ้านก็จะมีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆราคาปานกลาง 40-60บาท ร้านน้ำก็มีค่ะ มีพาวเวอร์เเเบงค์ให้เช่า
ตอนเเรกไม่ได้คิดว่าจะต้องขึ้นดอยเพราะว่าไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ความพร้อมก็ไม่มี มีแต่ใจล้วนๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเพื่อนติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานจนได้ขึ้นเป็นกลุ่มสุดท้ายค่ะ จ้างลูกหาบเรียบร้อยเหลือคนสุดท้ายพอดี5555 เราก็เเบ่งกันค่ะ สองคนลงไปเซเว่นข้างล่างเพื่อซื้อขนมปัง นม น้ำ เอาตังค์ลงไป400จะซื้ออะไรก็ซื้อมาที่คิดว่าอิ่ม5555 เช่าเต้นท์มาสองเต้นท์ 600บาท( ตกเต้นท์ละ300) ถุงนอนคนละ 150บาท มีค่ามัดจำขยะค่ะ 600 บาทต้องชั่งขยะขึ้นก่อนขึ้นดอยพอลงจากดอยก็จะนับขยะอีกทีเเล้วก็ได้มัดจำคืน เพื่อป้องกันการทิ้งไม่เป็นที่บนดอยค่ะ ค่าลูกหาบ900บาท ค่ารถกระบะ รับ-ส่ง ปากทางขึ้นดอย 1200 บาท

......เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ
แรกๆทางชิวมากเจอทางเรียบเดินสู้คิดในใจว่าสบาย(ของจริงอยู่ข้างหน้า)555555 ทางเดินมีสองทางค่ะ มีทางเด่นหญ้าขัดกับปางวัว เราขึ้นทางเด่นหญ้าขัดค่ะ เพราะทางจะไม่ชันมากแต่ก็ไกลพอควร ซึ่งทั้งสองทางจะมาบรรจบกันที่สามแยก(ประมาณครึ่งทาง)แล้วก็เดินต่อไปอ่างสลุงเพื่อกางเต้นท์ค่ะ เดินมาได้สักประมาณ300เมตรก็เจอทางขึ้นเขาลูกแรกโอ้โหเลน มีแต่เลนลื่นได้ง่ายๆข้างๆมีแต่พุ่มหญ้าสูงๆถ้าตกก็น่าจะตาย5555555 เดินไปไม่ถึง1โล บ่นเหนื่อย เหนื่อยจริงสำหรับคนที่ขึ้นดอยเดินป่าเป็นครั้งเเรกแบบพวกเรา พักทุก5นาที แล้วขึ้นกลุ่มสุดท้ายอีกเดินทางตอนบ่าย2จะถึงกี่โมงแต่ก็นะ ขึ้นมาเเล้วมันถอยไม่ได้ ปวดขาก็นั่งพัก แล้วน้ำมีแค่สองขวดใหญ่กินแบบประหยัด ตระคริวกินขาก็หยุดพัก555555 พอสักสามโมงเย็นก็จะเริ่มหนาวเเล้วค่ะ เดินแบบไม่รู้จุดหมายปลายทางเพราะว่าคนกลุ่มอื่นขึ้นไปก่อนแล้ว เเต่คิดในใจเดินเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง

ถึงแล้วววดอยหลวงเชียงดาว เดินเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึงกว่าจะถึงนี่แทบเป็นลมอยากจะนอนกลางป่ากลางเขา
เดินสุดจริงถึงใจเดี๋ยวก็ปีนเขาเดี๋ยวก็ลงเขา555  ถึงที่พักอ่างสลุงประมาณ1ทุ่มค่ะหิวมาก กินขนมปังจนเอียน
แต่ดีหน่อยมีพี่เต้นท์ข้างๆชวนกินไส้กรอกด้วยกัน  ข้างบนอากาศหนาวมากหลายคนที่นำเหล้าขึ้นมาทาน
เพราะจะเพิ่มอุณหภูมิในรางกายค่ะไม่ให้หนาวจนเกินไป 
ไฮไลท์เลยอยู่ที่พระอาทิตย์ตก ต้องขึ้นให้ทันนะให้ไม่ทันนี่ถือว่าพลาดดดดดดดด!!!!

วันที่สาม
ตื่นตั้งแต่ตี4เพื่อขึ้นกิ่วลม ถ้าจำไม่ผิดระยะทางประมาณ3โล เพราะทางจะชันมากต้องจับหินปีนขึ้นกันเลยทางก็มืดมองไม่เห็น แต่ระยะทางไม่ค่อยไกลสูงชันอย่างเดียว เพื่อนร่วมทางเยอะ ไม่หลง ไม่เหงาแน่นอน ขึ้นถึงประมาณตี5ก็หาที่นั่งเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่พอมองไปข้างล่างโหเมืองที่คนอาศัยอยู่เป็นไฟเล็กๆเต็มไปหมดสวยมาก พอสักประมาณ หกโมงพระอาทิตย์ก็เริ่มขึ้นค่ะแต่หมอกก็จะลงหนาพอควรพอมองไปอีกข้างจะเห็นภูเขาสลับกันเป็นลูกๆทอดยาวออกไปดอกไม้ ใบไม้มีน้ำค้างที่เกาะจนเป็นน้ำเเข็ง เข้าใจคำว่าไม่มาสัมผัสกับตัวก็ไม่รู้สึก แต่ที่พีคคือพอสว่างเราก็จะเห็นทางที่เราขึ้นมา โอ้โหข้างๆคือไม่มีอะไรเลยโล่ง ตกนี่ตายทางก็แคบมีแต่หิน ขึ้นมาได้ไงยังคิดอยู่
พอลงมาถึงที่พักเราก็เก็บของเตรียมกลับ
*ฝาก รักษาความสะอาดเก็บขยะกันด้วยนะทุกคน*
ขาลงเดินมาเรื่อยๆไม่เหนื่อยเหมือนตอนเดินขึ้น พอมาถึงปากทางก็จะมีรถกระบะจอดอยู่เพื่อรับนักท่องเที่ยวลงไปที่ติดต่อของอุทยาน เก็บของ อาบน้ำ ชั่งขยะเพื่อรับเงินคืน แล้วก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปคืนที่ร้านไบค์กี้ค่ะ (ตอนขึ้นดอยมอเตอร์ไซค์สามารถฝากได้ที่ติดต่อของอุทยาน)
ในการเดินทางกลับคราวนี้เลือกรถทัวร์ ราคาคนละ550บาท สถานนีขนส่งอยู่ใกล้ๆร้านไบกี้ค่ะไม่ไกลกันสามารถเดินได้
ออกจากเชียงใหม่ตอนสองทุ่มถึงกรุงเทพประมาณหกโมงเช้าค่ะ
พอถึงบ้านนี่แบบปวดขามากถึงขั้นอยากจะคลานเข้าห้องน้ำหิวหมูกระทะมาก ขาดแคลนเนื้อสัตว์อย่างเเรงยัดไปแต่ขนมปัง

* ค่าใช้จ่าย (ราคาหาร5คน)
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ คันละ300 ตกคนละ 150 (ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะมีมัดจำนะคะคันละ1,000)
ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ คนละ 150
ค่ารถแดงพาไปร้านไบกี้ คนละ40
ค่าที่พัก คนละ 400
ค่าเข้าอุทยาน 20
ค่าเช่าเตนท์ คนละ 150
ค่าถุงนอนคนละ 150
ค่าลูกหาบ คนละ 180 (หารแล้ว)
ค่ารถกระบะ ไป-กลับ ทางขึ้นดอยหลวง 1,200/คัน หารตกคนละ 240
ค่าของกินคนละประมาณ 500
ค่ารถทัวร์ขากลับ 550

นอกนั้นจะเป็นค่ารถ ไปสถานีรถไฟ กับ ค่ารถกลับบ้านจากหมอชิต 

ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านรีวิวน้าา ลองทำครั้งเเรก ถ้าใช้คำผิดหรือเเท็กห้องผิด ต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ
อ่านแล้วหวังมากระทู้นี้มีประโยชน์ กับหลายๆคนที่กำลังออกเดินทางนะ
ชื่อสินค้า:   ดอยหลวงเชียงดาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่