[CR] [Review] King Arthur Legend of the Sword - หนังเท่เหมือนดูหนังแก๊งสเตอร์ แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่สนุก

เคยมั๊ยครับที่เราประทับใจหนังเรื่องหนึ่งมากๆ แล้วก็คาดหวังว่าภาคต่อหรือภาคที่ถูกนำมาทำใหม่จะต้องกระแทกใจเราเหมือนที่เราเคยประทับใจมาก่อน ผมว่าคนดูหนังหลายๆ คนต้องมีอารมณ์นี้แหละ ยกตัวอย่างตัวผมเองเคยชอบหนัง The Three Musketeers เวอร์ชั่นนึงที่มีเพลงประกอบคือ All for Love อย่างมาก แต่พอมีการเอากลับมาทำใหม่ กลับทำได้แย่กว่าที่หวังไว้เยอะ กับเรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมชอบ King Arthur ที่ Clive Owen เล่นมากๆ พอได้เห็น trailer หนังภาคนี้ และชื่อชั้นของ ผู้กำกับ ‎Guy Ritchie ก็ทำให้คาดหวังไปว่าหนังต้องออกมาเท่ เกรียน กวน และมันส์แน่ๆ แต่....

“King Arthur: Legend of the Sword” เป็นเรื่องแหวกแนวตำนานสุดคลาสสิคของดาบเอกซ์แคลิเบอร์ มีการติดตามชีวิตของอาร์เธอร์ตั้งแต่ชีวิตธรรมดาจนถึงการได้ขึ้นครองบัลลังก์ พ่อของอาร์เธอร์ถูกฆ่าตายตั้งแต่เด็ก วอร์ทิเกิร์น (จู้ด ลอว์) ลุงของอาร์เธอร์ได้ฉวยโอกาสครองมงกุฎ ชิงสิทธิโดยชอบธรรมของเขาและเขาเองก็ไม่รู้ชะตาชีวิตที่แท้จริงของตนเอง อาร์เธอร์เติบโตด้วยความยากลำบากในตรอกเล็กๆ ของเมือง แต่เมื่อเขาดึงดาบขึ้นมาจากหินได้ ชีวิตเขาเกิดพลิกผันและทำให้พบกับชะตาชีวิตที่แท้จริงของตัวเอง.. แม้ว่าเขาจะยินดีหรือไม่ก็ตาม

ผมดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องมา ผมไม่รู้สึกเหมือนกำลังดูหนังเรื่อง King Arthur อยู่เลยแม้แต่น้อย แต่กลับไปคิดถึงเรื่อง The Lords of The Ring มากกว่า ตั้งแต่ตอนแรกที่มีช้างยักษ์ตัวใหญ่เท่าภูเขา, หอคอย (Two Towers), พ่อมด, ตัวอสูรในภวังค์ของพระเอก หรืออีกหลายๆ อย่างมันช่างพาเราออกไปสู่จินตนาของ The Lords of The Ring จริงๆ ไม่เชื่อลองไปดูสิ

หนังทำออกมาได้เท่มากต้อยอมรับตรงๆ ลายเซ็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับ ‎Guy Ritchie ยังทำออกมาได้เป็นตัวของตัวเอง แต่นั่นแหละด้วยความชัดเจนของผู้กำกับ ทำให้หนังออกมาแล้วดูเหมือนหนังแก๊งสเตอร์มากกว่าที่จะเป็นหนังชิงบัลลังก์ พระเอกของเรานี่อย่างกับ Biker (อาจจะเพราะมีภาพของ Sons of Anarchy ติดมาเยอะ) เรียกว่าภาพของคิงในอุดมคติไม่มีอยู่เลย แต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าเท่โคตร

มุมกล้องเท่ๆ สวยๆ ออกมาในเรื่องเยอะมาก และการตัดต่อฝีมือ ‎Guy Ritchie ไม่ต้องสงสัยในความยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แถมหนังยังใช้ CG และเทคนิค Super Slow Motion และ Super Fast มาตัดสลับไปมาในฉากแอ็คชั่น ดูแล้วก็เจ๋งดี แต่พอกลายเป็นว่าทุกฉากที่ต่อสู้ออกมาเป็นแบบนี้ ช่วงหลังๆ ก็เลยค่อนข้างจำเจไปหน่อย

แต่จุดอ่อนจริงๆ ของหนัง ผมขอยกให้เรื่องของการดำเนินเรื่องที่มันค่อนข้างจะนิ่งและเนิบสุดๆ ซึ่งด้วยตัวหนังมันไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้ว และดันมาเจอการเล่าเรื่องแบบเนิบๆ ไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดพีค ยิ่งทำให้หนังมันเนือยไปหมดจนน่าง่วงนอนมากกว่า แต่ก็ยังพอถูไถไปได้จนจบและก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมาย

สรุปเลยดีกว่า สำหรับใครที่ชอบแนวนักรบ period ยุคเก่าๆ คลาสสิคหน่อย อาจจะไม่ชอบเรื่องนี้เหมือนกับที่ผมไม่ชอบ แต่ถ้าใครที่ชอบความเท่แบบวิถี Biker โดยไม่ต้องสนใจอะไรกับการเดินเรื่องและเนื้อหา ผมว่าน่าจะประทับใจเลยล่ะ

พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่เพจนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
ชื่อสินค้า:   King Arthur Legend of the Sword
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่