หนังเก่าเล่าใหม่ 056: il mare (Hyun-seung Lee, 2000)


" อิล มาเร่ รอยต่อของกาลเวลา " เรื่องราวความรักข้ามเวลาของคนสองคน ที่มีตู้จดหมาย ณ บ้าน 'อิล มาเร่' เป็นตัวเชื่อมรอยต่อให้ชายหนุ่มกับหญิงสาวได้ติดต่อกัน หนังเริ่มต้นเรื่องมาอย่างเงียบเหงา แม้จะเป็นช่วงบรรยากาศการฉลองคริสมาตร์ก็ตาม ความเหงาและความเศร้าของชายหนุ่มและหญิงสาวตัดสลับเหตุการณ์ช่วงเวลาในปี ค.ศ. 1997 และ ค.ศ. 1999 ได้อย่างลื่นไหลและสวยงามละมุมไปด้วยความเศร้าแต่กลับส่งกลิ่นไอของความรักได้ตลอดเวลาที่คนสองคนได้ติดต่อกันผ่านจดหมาย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีการส่งจดหมายหากันสำหรับเรายังคงเป็นพล็อตเรื่องที่ทำให้เราอินได้เสมอ หนังเริ่มต้นจาก 'อุนจู' นักพากย์การ์ตูนสาวที่กำลังจะขนของออกจากบ้าน 'อิล มาเร่' ในปี ค.ศ. 1999 เธอได้ทิ้งจดหมายไว้ในตู้จดหมายสีแดง เพื่อหวังให้คนที่มาเช่าบ้านต่อจากเธอได้รับข้อความที่เธอต้องการจะบอก วันเดียวกันนั้นเอง 'ซ่งหยวน' สถาปนิกหนุ่มก็ย้ายเข้ามาบ้าน 'อิล มาเร่' แต่เขาอาศัยอยู่ในปี ค.ศ. 1997 หลังจาก ‘ซ่งหยวน’ ได้รับจดหมายจากโลกอนาคตผ่านตู้จดหมายสีแดงของ 'อุนจู' เรื่องราวความรักข้ามกาลเวลาและความผูกพันของคนสองคนก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความรัก รวมถึงเจ้าหมาน้อยที่เป็นพยานสำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดระหว่างช่วงอดีตและปัจจุบันที่เจ้าของคือเขาและเธอเพียงต่างกันแค่ช่วงเวลา


แม้หนังจะชวนเพ้อฝันกับเรื่องราวของคนสองคนมากมายแค่ไหนตามแบบฉบับหนังเกาหลี แต่ข้อดีที่ทำให้ 'อิล มาเร่' มีเสน่ห์+ละมุม คือการค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสองตัว ดูไปเรื่อยๆเราจะรู้สึกเชื่อมโยงไปกลับตัวละครได้แบบค่อยๆเข้าไปมีส่วนร่วม การสูญเสียคนที่เรารักหรือการรักใครสักคนที่เราไม่มีโอกาสได้เจอกัน แบบไหนรู้สึกเจ็บมากกว่ากัน การไขว่คว้าหาความรักหรือตามหา 'รักแท้' ถ้าสิ่งเหล่านี้ถูกกั้นผ่านด้วยประตูของกาลเวลา เราจะพยายามไขว่คว้าหามันหรือยอมทิ้งความรักในรูปแบบนั้นไปเสีย หนังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของชายหนุ่มที่รักหญิงสาวแบบสุดหัวใจ ภาพรวมสำหรับเรา 'อิล มาเร่' คือหนังที่ปลอบประโลมผู้ชายที่กำลังรอคอยความรักอยู่ที่ไหนสักแห่ง แม้สุดท้ายจะรู้ว่าอาจไม่สมหวังในความรักก็ตาม การรอคอยคนที่ใช่ แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คำว่ารอสำหรับ 'คนที่ใช่' น่าจะเป็นระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก


การแสดงของ 'จอน จีฮุน' ในบท 'อุนจู' ให้อารมณ์ของหญิงสาวใจสลายได้อย่างดี มีช่วงเวลาหนักเบาและช่วงเวลาพีคๆให้เรารับรู้ความรู้สึกของ 'อุนจู' ส่วน 'ลี จุงแจ' ในบท 'ซ่งหยวน' ถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีมาก ไม่ได้เล่นเยอะแต่ดูจริงตามคาแรคเตอร์ที่ตัวละครควรจะเป็น นอกจากการแสดงที่ช่วยทำให้เราอินแล้ว บรรยากาศของหนังและดนตรีประกอบยังทำให้ความหวานปนขมถูกร้อยเรียงได้อย่างสวยงาม โรแมนติก+เพ้อฝัน ประกอบกับโลเคชั่นของตัวบ้าน ‘อิล มาเร่’ ที่ติดชายทะเลคงไม่มีอะไรลงตัวไปมากกว่านี้อีกแล้ว


สุดท้าย 'อิล มาเร่' ทำให้เรารู้สึกถึงช่วงเวลาที่เป็นไปไม่ได้ แต่ความรักก็เกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกช่วงเวลาเช่นกัน ความรักยังคงสวยงามผ่านช่วงเวลา ไร้ซึ่งขอบเขตที่จะไปถึง เรื่องราวของชายหนุ่มในอดีตกับหญิงสาวในโลกอนาคต แม้ในโลกนี้อาจไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง แต่เรายังคงเชื่อว่าความรักที่แสนอบอุ่นที่ 'ซ่งหยวน' มีให้ 'อุนจู' นั้นมีจริงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แน่นอน จนถึงตอนนั้นที่เราได้เจอกัน ณ ช่วงเวลาเดียวกันบนโลกใบนี้ ตู้จดหมายสีแดงคงไม่มีความหมายสำหรับคนสองคนอีกต่อไป เมื่อคนที่เรารักยืนอยู่ตรงหน้าเราและพร้อมจะเล่าเรื่องราวความรักที่แสนยืดยาวให้เราฟัง อีกครั้ง…


ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ

ตัวอย่างหนัง

ฝากกด like Page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/