สวัสดีครับนักวิ่ง ไม่มีอะไรมากครับแค่จะมารีวิวรองเท้าวิ่ง Warrix แบบคร่าวๆ เพราะยังไม่เคยเห็นใครมารีวิวเลย
(รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับผิดถูกยังไงมาพูดคุยในกระทู้กันได้)
เนื่องจากได้รองเท้าคู่นี้มาแบบ ราคาต่ำกว่าท้องตลาดนะครับ ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อมาลองใส่ดู กะวิ่งขำๆ ไม่เกิน 10 KM เพราะรูปลักษณ์แรกเข้าใจว่าจะให้ความรู้สึกเหมือน ไนกี้ฟรีรัน ในรีวิวก็เลยขอเอามาเปรียบเทียบกันระหว่าง 2 รุ่นนี้นะครับ
*รุ่นนี้มี 4 สีนะครับ แดง ดำ ขาว และ เขียวสะท้อนแสง
มาลองดูไปทีละอย่างละกันครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อ
Upper (ด้านบนสุด)
- รองเท้าโอเวอร์ไซส์ครับ ปกติผมใส่ยี่ห้ออื่นเบอร์ 270cm แต่ Warrix ไม่มีครับ มี 265 แล้วข้ามไป 275 เลย ผมเลยสั่ง 265 มา แต่ก็ยังเหลือพื้นที่หัวเยอะมาก
- บอกเลยว่าผ้าด้านบนแข็งครับ จริงๆ วัสดุที่ทำเนื้อผ้าจะเป็นคล้ายพลาสติกอ่อนๆ มากกว่าผ้า เพราะดูรูปแล้วเหมือนผ้าจะนุ่ม เหมือนตระกูลไนกี้ฟรีรันอะไรทำนองนั้น แต่เปล่าเลย แข็งครับ ลองวิ่งไปซัก 5 KM เริ่มรู้สึกเจ็บนิ้วก้อยด้านข้างครับ เจ็บแบบไม่ได้บีบนะครับ แต่เจ็บเพราะเสียดสี
- การโค้งงอตามสรีระของเท้ายิ่งทำให้รู้สึกแข็งเข้าไปอีก
ส้นเท้า
- ตรงส้นเท้าเป็นแบบแข็งครับ มีเกราะกันข้อเท้า ทั้งๆ ที่รูปทรงแบบนี้ น่าจะเป็นแบบย้วยๆ เหมือนฟรีรัน
พื้นรองเท้า
- แน่นอนว่าใครเห็นรูปต้องคิดว่า พื้นต้องให้ความรู้สึกแบบ ฟรีรัน คือวิ่งหนึบๆ เหมือนเหยียบหมากฝรั่ง แต่สำหรับ Warrix ผมว่า มันเหมือนแค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ความรู้สึก คนละเรื่องเลยครับ แต่ถามว่านุ่มมั้ย ก็นุ่มอยู่ แค่ค่อนข้างไปทางแข็งเลยครับ
*ลองเทียบกับพื้นของ ไนกี้ฟรีรัน (แต่ไนกี้เป็นของผู้หญิงนะครับ)
*ดูจากด้านข้างเทียบกันอีกมุมนึง
ทดสอบลงวิ่ง
- ลงวิ่งครั้งแรก พอลองใส่ยืนเดินปกติรู้สึกว่าพื้นแข็งกว่าฟรีรัน ผมก็คิดว่าตัวรองเท้าจะให้แรงส่งเมื่อเราวิ่งเร็วๆ เพราะรองเท้าบางรุ่นเมื่อเราสัมผัสแรกที่ดินหรือวิ่งเหยาะๆ อาจจะรู้สึกแข็งแต่ถ้าใช้ความเร็ว มันจะมีแรงส่งจากพื้นรองเท้าออกมาเอง .... แต่ที่ไหนได้ Warrix มันไม่มีอะไรตอบสนองมาเลยครับ เพราะดูแล้วมันไม่มีเทคโนโลยีอะไรใส่เข้ามาเลย (หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้) คือวิ่งช้าก็ไม่หนึบ วิ่งเร็วก็ไม่มีแรงส่ง แถมวิ่งนานๆ ด้วยหน้าผ้าที่แข็งยังกัดนิ้วเท้าผมอีก
ข้อดี
- ราคาถูก
- แบรนด์ไทย (ไม่รู้รวมเป็นข้อดีด้วยรึเปล่า)
ข้อที่ควรพัฒนา
- ผ้า และ พื้นที่แข็งเกินไป และเป็นรองเท้าที่ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง
- โอเวอร์ไซส์ไปหน่อย สั่งซื้อทางเน็ตอาจจะผิดไซส์ได้ แนะนำควรลองที่ร้านดีกว่า
- แหล่งจำหน่ายที่ยังมีน้อยครับ ในห้างไม่ต้องพูดถึง แทบจะไม่มี ต้องไปตามร้านกีฬา หลังสนามฯ อะไรพวกนั้น
สรุป :
ด้วยราคาระดับ 1000 ต้นๆ เหมาะสำหรับคนเริ่มวิ่ง หรือวิ่งใกล้ๆ ไม่เกิน 5 KM หรือรองเท้าพละศึกษา น่าจะดีสุด
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
ปล.เป็นกำลังใจให้ Warrix นะครับ เพราะเป็นแบรนด์ไทย หวังว่าอนาคตคงมีรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบสนองนักวิ่งได้หลากหลายมากขึ้น
[CR] รีวิว รองเท้าวิ่ง Warrix : ไม่ไปทางไหนซักทาง
(รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับผิดถูกยังไงมาพูดคุยในกระทู้กันได้)
เนื่องจากได้รองเท้าคู่นี้มาแบบ ราคาต่ำกว่าท้องตลาดนะครับ ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อมาลองใส่ดู กะวิ่งขำๆ ไม่เกิน 10 KM เพราะรูปลักษณ์แรกเข้าใจว่าจะให้ความรู้สึกเหมือน ไนกี้ฟรีรัน ในรีวิวก็เลยขอเอามาเปรียบเทียบกันระหว่าง 2 รุ่นนี้นะครับ
*รุ่นนี้มี 4 สีนะครับ แดง ดำ ขาว และ เขียวสะท้อนแสง
มาลองดูไปทีละอย่างละกันครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อ
Upper (ด้านบนสุด)
- รองเท้าโอเวอร์ไซส์ครับ ปกติผมใส่ยี่ห้ออื่นเบอร์ 270cm แต่ Warrix ไม่มีครับ มี 265 แล้วข้ามไป 275 เลย ผมเลยสั่ง 265 มา แต่ก็ยังเหลือพื้นที่หัวเยอะมาก
- บอกเลยว่าผ้าด้านบนแข็งครับ จริงๆ วัสดุที่ทำเนื้อผ้าจะเป็นคล้ายพลาสติกอ่อนๆ มากกว่าผ้า เพราะดูรูปแล้วเหมือนผ้าจะนุ่ม เหมือนตระกูลไนกี้ฟรีรันอะไรทำนองนั้น แต่เปล่าเลย แข็งครับ ลองวิ่งไปซัก 5 KM เริ่มรู้สึกเจ็บนิ้วก้อยด้านข้างครับ เจ็บแบบไม่ได้บีบนะครับ แต่เจ็บเพราะเสียดสี
- การโค้งงอตามสรีระของเท้ายิ่งทำให้รู้สึกแข็งเข้าไปอีก
ส้นเท้า
- ตรงส้นเท้าเป็นแบบแข็งครับ มีเกราะกันข้อเท้า ทั้งๆ ที่รูปทรงแบบนี้ น่าจะเป็นแบบย้วยๆ เหมือนฟรีรัน
พื้นรองเท้า
- แน่นอนว่าใครเห็นรูปต้องคิดว่า พื้นต้องให้ความรู้สึกแบบ ฟรีรัน คือวิ่งหนึบๆ เหมือนเหยียบหมากฝรั่ง แต่สำหรับ Warrix ผมว่า มันเหมือนแค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ความรู้สึก คนละเรื่องเลยครับ แต่ถามว่านุ่มมั้ย ก็นุ่มอยู่ แค่ค่อนข้างไปทางแข็งเลยครับ
*ลองเทียบกับพื้นของ ไนกี้ฟรีรัน (แต่ไนกี้เป็นของผู้หญิงนะครับ)
*ดูจากด้านข้างเทียบกันอีกมุมนึง
ทดสอบลงวิ่ง
- ลงวิ่งครั้งแรก พอลองใส่ยืนเดินปกติรู้สึกว่าพื้นแข็งกว่าฟรีรัน ผมก็คิดว่าตัวรองเท้าจะให้แรงส่งเมื่อเราวิ่งเร็วๆ เพราะรองเท้าบางรุ่นเมื่อเราสัมผัสแรกที่ดินหรือวิ่งเหยาะๆ อาจจะรู้สึกแข็งแต่ถ้าใช้ความเร็ว มันจะมีแรงส่งจากพื้นรองเท้าออกมาเอง .... แต่ที่ไหนได้ Warrix มันไม่มีอะไรตอบสนองมาเลยครับ เพราะดูแล้วมันไม่มีเทคโนโลยีอะไรใส่เข้ามาเลย (หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้) คือวิ่งช้าก็ไม่หนึบ วิ่งเร็วก็ไม่มีแรงส่ง แถมวิ่งนานๆ ด้วยหน้าผ้าที่แข็งยังกัดนิ้วเท้าผมอีก
ข้อดี
- ราคาถูก
- แบรนด์ไทย (ไม่รู้รวมเป็นข้อดีด้วยรึเปล่า)
ข้อที่ควรพัฒนา
- ผ้า และ พื้นที่แข็งเกินไป และเป็นรองเท้าที่ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง
- โอเวอร์ไซส์ไปหน่อย สั่งซื้อทางเน็ตอาจจะผิดไซส์ได้ แนะนำควรลองที่ร้านดีกว่า
- แหล่งจำหน่ายที่ยังมีน้อยครับ ในห้างไม่ต้องพูดถึง แทบจะไม่มี ต้องไปตามร้านกีฬา หลังสนามฯ อะไรพวกนั้น
สรุป : ด้วยราคาระดับ 1000 ต้นๆ เหมาะสำหรับคนเริ่มวิ่ง หรือวิ่งใกล้ๆ ไม่เกิน 5 KM หรือรองเท้าพละศึกษา น่าจะดีสุด
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
ปล.เป็นกำลังใจให้ Warrix นะครับ เพราะเป็นแบรนด์ไทย หวังว่าอนาคตคงมีรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบสนองนักวิ่งได้หลากหลายมากขึ้น