ทริปนี้เราจะไปเมืองที่เค้าล่ำลือกันว่าสวยนักสวยหนา หากไปอเมริกาแล้วเราจะต้องไปกันให้ได้สักครั้งหนึ่ง
นั่นก็คือเมือง San Francisco แห่งรัฐ California นั่นเองงงงงงงง
การไปครั้งนี้มีความท้าทายคือเราต้องตะลุยเดียว และใช้เวลาไม่มาก ออกแนวไปแวบๆ แต่อยากเที่ยวครบ
ตามสไตล์คนโสด เพื่อนไม่ค่อยคบ และงบก็ยังน้อยอีก โอ่ย! ทำไมแลเศร้าขนาดนี้
ไหนๆก็ไหนๆละ ลองดูซิ้ ถ้าเรามีเวลาแค่ 1 วัน ที่ซานฟราน เราจะ(เดิน)ไปที่ไหนกันได้บ้าง

เนื่องจากทริปนี้เรามาเป็นครั้งแรก ก่อนอื่นเราก็ทำการบ้านมาก่อนเลยว่าใน 1 วันนี้มาแล้วต้องไปไหน ต้องทำอะไร ต้องกินอะไร
แพลนของเราคือ LinkedIn Corporation, Pier39, Ghirardelli Square, Lombard street, The First Swensen's Ice Cream Store, Painted ladies และปิดท้ายที่ San Francisco City Hall แพลนค่อนข้างแน่นพอสมควร
เราเริ่มออกจากบ้านสิบโมงกว่า และกลับถึงบ้านประมาณทุ่มนึง /ปาดเหงื่อ
เพื่อให้ง่ายต่อการเดิน ใช่เดินเที่ยว เราก็ mark จุด สถานที่ที่เราจะไปใน Google Maps หลังจากนั้นเราก็แค่เปิดแมพและเดินตาม เอ้า ลุย.

มาเริ่มกันด้วยที่แรก เนื่องด้วยผู้ใหญ่ใจดีที่ให้ที่ซุกหัวนอนเรา เค้าทำงานที่นี่ ได้ข่าวว่าที่ทำงานเค้าเจ๋ง เลยต้องมาเที่ยวสักหน่อย
แถมเราจะได้อิ่มท้องทั้งคาวและหวานแบบฟรีๆอีกด้วย มีหรือจะไม่มา! ยอมรับเลยว่าโคตรน่าทำงานเลย แต่ละชั้นให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน
มีมุมนั่งเล่น ห้องประชุม ห้องเล่นเกม แถมขนม น้ำฟรีทุกชั้น และช่วงบ่ายที่คาเฟ่ด้านบนจะมีไอติมให้ทาน โดยที่จะเปลี่ยนรสไปทุกวัน
นี่เสียใจที่อยู่รอไม่ได้ ใครมาลองแวะมานะ เหมือนเค้าจะให้ทุกคนเยี่ยมชมได้เน้อ

วิวตึกสูงตามทางเดินที่เราเดินไป เดินดูไปเพลินๆไม่เหนื่อยเลย
ถึงแล้ว ตึก LinkedIn ไม่ทันได้ถ่ายหน้าตึกไว้เลย ถ่ายอีกทีก็เข้ามาสะแล้ว
มีห้อง fitness ไว้ให้พนักงานด้วยหละ
เครื่องดื่มในตู้เย็นต่างๆที่หยิบได้
ต่อกันด้วยมุมนั่งพักนั่งรอ
อันนี้คือข้าวฟรีของเราวันนี้! มีบาร์อาหารให้ไปตักตามใจชอบเล้ย อยากเป็นพนักงานที่นี่เพราะสิ่งนี้เลย 5555555

เมื่อท้องอิ่ม เราก็พร้อมออกเดินทาง จุดหมายแรกของเราคือ ไปเยี่ยมน้องแมวน้ำที่ Pier39 เราก็เดินออกจากตึก LinkedIn
แล้วก็ไปตามจุดที่เราได้ mark ไว้ใน google maps เลยจ้า ตอนไปเป็นช่วงเดือนกันยายน อากาศที่ซานฟรานกำลังดี
แถมเมืองที่ได้ชื่อว่าอากาศเย็นตลอดปี นี่ก็ไม่ได้เตรียมใจว่าลมจะเย็นขนาดนี้ ยิ่งเดินริมทะเลยิ่งหนาว
ต้องขอบคุณพลังแสงแดดที่ช่วยชีวิตเราไว้ ไม่พูดมากดีกว่า ขอใช้ภาพเล่าเรื่องราวการเดินเอาแล้วกันนะคะ

เดินไปเรื่อยๆ ฮะ เห็นอะไรสวยก็รีบคว้ากล้องขึ้นมาถ่าย

เริ่มเห็นสัญลักษณ์ชายทะเลแล้ว ใช่! นั่นต้นมะพร้าวงายยยย

การเดินทางมายัง Pier 39 คือมาได้หลายทางมากๆเลย ทางที่นิยมอีกทางก็มีรถรางนี่แหละค่า แต่เราก้มหน้าเดิน! ต่อไป

ระหว่างทาง เราก็จะผ่านตั้งแต่ Pier 1 ไปยัน 39 เล้ย วิวสวยก็ถ่ายกันไป

อ่าห์ ปาดเหงื่อ เห็นธงแบบนี้ก็แปลว่าถึงแล้ว Pier 39!!!

ท่าเรือท่านี้ ก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ร้านของฝากต่างๆมากมาย ที่ให้นักท่องเที่ยวมาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงมีเครื่องเล่นเล็กๆน้อยๆ ให้เด็กๆเล่นด้วยนะเออ

และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของท่านี้ก็คือ เจ้าแมวน้ำ!! วันนี้ขึ้นมานอนอาบแดดกันซะเยอะเชียว ถ่ายรูปซะหน่อย

อันนี้ที่น่าสนใจคือ ที่จอดจักรยาน เค้าให้จอดติดฝาผนังนะเออ จะได้ไม่กินพื้นที่ทางเดิน สร้างสรรค์มากๆฮะ

จุดหมายต่อไปเป็นร้านชอคแลตที่มีต้นกำเนิดที่แคลิฟอเนีย เดินต่อจาก Pier39 ตามจุดต่อไปเลยฮะ
แอบเดินไกลพอสมควรแต่ใจสู้อยู่นะ เอ้าไป!
ความจริงก็ไม่รู้หรอกว่ามีอะไรดี แต่เห็นใครมาเค้าก็ไปกัน งั้นคงต้องไม่พลาดสินะ ไปแวะหาของหวานกินสักหน่อยก็ดี

และนี่คือจุดที่เราเข้า แต่ไม่ได้ถ่ายด้านในมา T^T เข้าไปจะมีพนักงานคอยแจกชอคโกแลตให้เราๆชิมด้วยแหละ คุ้มค่ามากแล้วที่มา 555555

หนึ่งในจุดแลนมาร์คสำคัญที่ต้องไปที่พลาดไม่ได้ คือถนนเส้นนี้ ถนนลำบากลำบนนั่นเอง เราก็เดินออกจาก Ghirardelli Square
จะมีถนนข้างๆที่เป็นทางขึ้นเนิน เราก็ตรงขึ้นไปโลดดด
หนทางการเดินไปมีมุม วิวสวยตลอดทางเลยจ้า ขึ้นเนินไปสูง ชัน ทำเอาเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียว

อะๆ เดินขึ้นมาเช็คๆ มุมข้างบนกันหน่อย รถที่ขับผ่านทางนี้ลงไปก็ดูหวาดเสียวกันทีเดียว
เห็นนักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็เช่ารถ และลองมาขับผ่านจุดๆนี้กัน

ตอนอยู่ไทยนี่บอกเลยว่ากินกระจุย มาถึงที่ถ้าไม่มานี่เสียหมาอะเด้ะ คราวนี้ดีหน่อยได้เดินลงเนินบ้าง
แต่พอมาถึง ด้านนอกปิดปรับปรุงจ้า ตอนแรกตกใจนึกว่าปิด อะลุยชิมจ้า ชิมทุกรส แต่ซื้อโคนเดียว แฮร่ๆ

เดินไม่ไหว การเดินไปไม่มีอยู่จริง แอบไกลนะพอรูทเมพแล้ว อะเรียกขอ uber เลี้ยวกันเนอะ ประมาณ $5
นั่งแบบแชร์ด้วย แวะไปรับคนโน้นคนนี้ก่อนถึงจุดหมาย แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้ปิดปรับปรุงอยู่ ยังไงก่อนไปก็เช็คอีกทีเน้อ

จริงๆเป็นโลเคชันที่สวยมาก แต่ถ่ายมาได้แค่ภาพเดียวจริงจัง T_T