เรื่องราวคือ เป็นความรุนแรงในครอบครัว ผมขอใช้คำว่า 'เขา' นะครับ

วันเกิดเหตุคือวันที่ 4

เขากับผมเกิดการโต้เถียงกัน เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้และก็เมา เขาเลยเดินมาล็อคคอผมจนล้มลงทั้งคู่ ทับโต๊ะวางของจนล้มระเนระนาด เขาพยายามจะลุกขึ้นคร่อมร่างผม แต่ผมเร็วกว่าเลยคร่อมร่างเขาก่อน ช่วงวินาทีนั้น ผมรู้เลยว่ามันคือความรุนแรงและความไม่ปลอดภัยกับชีวิตผมแล้ว นึกถึงตอนที่เขาทำร้ายแม่ผมจนขึ้นโรงพัก ดังนั้นผมต้องป้องกันตัวให้ได้ ไม่รู้ด้วยว่าเขามีอาวุธอะไรไหม เพราะคนอารมณ์ร้อน ฉุนเฉียว การชกต่อยกันจึงเกิดขึ้น สุดท้ายเขาหน้าแตก เลือดออก ผมจำได้ว่าชกเขาเน้นๆ แรงๆ หมัดนึง นอกนั้นมันปะทะกันเร็วเลยจำไม่ได้ ผมลุกขึ้นวิ่งหนีออกนอกห้อง และโทรหาตำรวจในท้องที่

ย้อนก่อนหน้าที่จะชกต่อยกัน และช่วงก่อนทะเลาะโต้เถียงกัน ผมเห็นท่าไม่ดีแต่แรก เลยโทรบอกตำรวจว่าเขามาบุกรุกห้อง ซึ่งตำรวจบอกจะมาดูเหตุการณ์ให้

กลับมาปัจจุบันที่ผมหนีออกนอกห้องและโทรหาตำรวจอีกที ตำรวจมาไม่ได้เพราะติดเหตุทะเลาะวิวาทอีกที่

ส่วนเขาเดินไปหาพวกรปภ. ซึ่งเป็นพรรคพวกของเขา รู้ภายหลังคือ เขาถ่ายรูปสภาพใบหน้าที่เลือดออกไว้เป็นหลักฐาน และให้พรรคพวกที่เป็นรปภ. เป็นพยานว่าเกิดไรขึ้น เขาเล่าเข้าข้างตัวเอง (เขาคือ รปภ. ด้วย แต่งชุดรปภ.ขณะเกิดเรื่องด้วย)

ผ่านไปสิบนาที ผมรอตำรวจมา แต่ตำรวจนัดผมให้ไปเจอที่ป้อม ผมจึงตกลงไป

เมื่อถึงป้อมตำรวจ ผมจะเล่าเหตุการณ์ เรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้น

เขาเคยมีประวัติในป้อมตำรวจท้องที่มาหลายครั้งแล้ว เรื่องการไปบุกรุกห้องแม่ผม และทำร้ายแม่ผม (ตำรวจเลยรู้ดีว่าใครเป็นยังไง)

ตำรวจไม่ได้ลงความว่า ระหว่างเขากับผม ใครผิดใครถูก ถึงขั้นเสียค่าปรับ (แต่ช่วยพูดเจรจาให้จบๆ กันไป) และเขาเองก็ยอมรับสารภาพกับตำรวจแล้วว่า 'เขาเริ่มก่อน' ตำรวจมีแต่ตำหนิ ต่อว่าเขาที่ทำตัวเหมือนเด็ก อายุ 60 แล้ว ไม่ยึดเหตุผล เขาชอบอ้างกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะแม่ ว่า 'เขาคือสามีถูกต้องตามกฎหมาย มีทะเบียนสมรส ดังนั้น เขาจะทำอะไรก็ได้ เช่นการมาบุกรุก มาทำนุ่นนี่ในห้อง กระทั่งชวนทะเลาะและทำร้ายแม่ผม'

แต่ตำรวจบอกเลยว่า 'คุณจะอ้างว่าเป็นสามี มีทะเบียนสมรส ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วจะทำอะไรกับใครในครอบครัวไม่ได้' ตำรวจบอก ผมเอาผิคุณข้อหาบุกรุกได้

แม่ผมกับเขา แยกกันอยู่ครับ แต่ยังไม่หย่า

วันนั้นที่เกิดเหตุ ไปป้อมตำรวจ 2 ครั้ง ครั้งแรก ระหว่างผมกับเขา แต่เขากลับไปก่อน เพราะต้องเข้าเวร รปภ. เหลือผมที่อยู่คุยกับตำรวจ  ก่อนกลับห้อง ตำรวจบอกผมว่า ถุ้าเขามาบุกรุก ชวนทะเลาะอีก ให้โทรหาตำรวจเลย (ผมมีเบอร์ตำรวจคนนี้ เป็นเบอร์ส่วนตัว ได้มาตั้งแต่ครั้งที่เขาทำร้ายแม่ผมและขึ้นโรงพัก ตำรวจให้ไว้)

วันเกิดเหตุ หลังจบจากป้อมตำรวจครั้งแรก เวลาประมาณ 18.30 + เขาเข้ามาในห้อง อย่างเงียบๆ พยายามจะเอารูปภาพใบหน้าที่แตกให้แม่ผมดู คิดว่ามันคือหลักฐานและข้อได้เปรียบทางคดี ว่าผมทำร้ายเขา แต่แม่ผมไม่ดู บอกซ้ำๆ 'ก็เริ่มก่อน มันแค่ป้องกันตัว'

เริ่มทะเลาะกันเสียงดัง ผมรีบโทรหาตำรวจ ไม่เกิน 5 นาที ตำรวจมาถึง เรียกให้ไปเคลียที่ป้อมอีกครั้ง

ตอนนั่งบนรถตำรวจ เขาคุยอย่างดีว่าจะเอาเรื่องผมให้ถึงที่สุด ผมเฉยมาก เพราะรู้ดีว่าคนอย่างเขา 'ชอบคิด ชอบเพ้อ เข้าข้างตัวเอง ว่าตัวเองถูก' พอถึงป้องตำนวจ เขาไม่ทันได้พูดอะไร ตำรวจรีบให้เป่าตรวจความเมาเลย ตำรวจบอก ถ้าเมา คือจับ เพราะเมาในเวลาปฏิบัติหน้าที่รปภ. (ตามจริงเขาเมา แต่คงดื่มช่วงสายๆ ของวัน พอตกค่ำเลยสร่าง) สรุปคือไม่เมา

ไม่นานเป็นเขาเองที่เอ่ยปากต่อหน้าตำรวจว่า 'งั้นอย่าไปหากันอีก ลงบันทึกไว้เลย' แม่ผมจึงตกลง เพราะแม่ผมไม่ได้คิดจะไปยุ่งไรกับเขาอยู่แล้ว มีแต่เขามายุ่งตำรวจเองก็รู้ปัญหา เลยบอกว่า ก็มีแต่คุณแหละไปยุ่งเขา แม่ผมไม่ไปอยู่แล้ว ตำรวจสั่งให้เขาห้ามมาห้องแม่ผมอีก

เพิ่มเติมนิดนึงครับ ห้องแม่ผมคือ พี่สาวเช่าให้ เป็นชื่อพี่สาว แต่คนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในห้องเป็นแม่ผม (ตรงนี้ตำรวจบอก มันคือห้องแม่ผม เขาจะไปยุ่ง บุกรุกได้ไง เมื่อแยกกันอยู่แล้ว ทำไม่ได้)

สรุปคือ เหมือนจะจบกันแค่วันนั้น

วันต่อมา เขาเอากระดาษสอดเข้าใต้ช่องประตู เขียนอะไรต่างๆ มา วันที่ 6 - 7 ก็เขียนมาอีก เนื้อหาประมาณว่า (แม่ผมจะหย่า ต้องฟ้องหย่า และเรียกหลายหมื่น แต่เขาไม่มี เลยจะเอาผมที่ทำร้ายเขาเป็นตัวต่อรอง บอกในดระดาษว่า ถ้าแม่ผมอยากได้เงินหย่า ให้มาเอากับผม เพราะเขาจะดำเนินคดีกับผม เขาว่าไปถึงขั้น เรียกทนาย พวกญาติๆ เขาที่เรียนจบสูง เป็นครูที่ต่างจังหวัดช่วยเรื่องคดี)

คำถามที่ผมอยากรู้คือ

1) เหตุเกิด เพราะเขาล็อคคอผมล้มลง ผมรู้นิสัยที่อารมณ์ร้ายบวกกับเมาของเขา เลยต้องป้องกันตัว ผลคือเขาหน้าแตก เลือดออก (ผมผิดไหมครับ?)
2) เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แค่หน้าแตก ไม่ถึงขั้นต้องเข้าโรงบาลเย็บ ยังปกติ ทำงานได้ ไม่กระทบกับชีวิตเขา เขาว่าจะฟ้องหรือจะดำเนินคดีกับผม เรียกจำนวนเงินหลายหมื่นเป็นค่าหย่า (ทำได้ด้วยเหรอครับ)
3) จริงๆ เขาผิดที่บุกรุก ประวัติในป้อมตำรวจมี บุกรุก ทำร้ายแม่ผม เขาผิดเต็มๆ หากเขาคิดจะทำคดีให้เป็นเรื่องใหญ่ ความผิดที่เขามี ผมกับแม่สามารถใข้ต่อรองทางคดีได้ไหมครับ

ตำรวจที่ป้อม เขาไม่อยากดำเนินคดีกับเขา เพราะอยากเคลียให้จบลง แค่ลงบันทึกไว้ แต่ความรู้สึกเขาคิดว่า ตำรวจไม่เข้าข้าง มาเข้าข้างฝั่งผมกับแม่ เขาเลยคิดจะไปแจ้งความที่สภ.ประจำอำเภอ