สำหรับกระทู้นี้ผมจะเล่าให้ฟังว่าการสะสมไมล์หรือการแลกไมล์นั้น มีอะไรที่เราควรรู้บ้าง เพื่อที่จะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกันนะครับ
เริ่มต้นจากตารางเปรียบเทียบแลกไมล์ Royal Orchid Plus (ROP) ซึ่งเป็นของการบินไทย ในจุดหมายปลายทางและระดับชั้นโดยสารต่างๆ ครับ โดยข้อมูลสุ่มมาจากการทดลองจองตั๋วไปวันที่ 30 กันยายน และกลับวันที่ 8 ตุลาคม แล้วเลือกอัตราค่าโดยสารที่ต่ำที่สุดที่หาได้โดยไม่คำนึงถึงเวลาที่เครื่องออกนะครับ
ก็จะเห็นว่ายิ่งเราไปไกลมากขึ้น และไปในชั้นโดยสารที่หรูขึ้น ก็ยิ่งจะทำให้ไมล์ของเรามีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามลำดับ
แต่ก็เป็นที่รู้กันดีครับ ว่าไมล์ระดับแสนไมล์นั้น หากจะสะสมจากการบินอย่างเดียว คงไม่ได้มีมนุษย์ปกติจะทำได้กันอย่างทั่วไป ซึ่งทางนึงที่จะหาไมล์มาได้ก็คือการใช้บัตรเครดิตนั่นเองครับ
และในรูปนี้ผมได้ลองยกตัวอย่างบัตรที่สมัครได้ไม่ยากจนเกินไปนักและให้ไมล์เยอะในระดับดี คือได้อย่างน้อย 1 ไมล์ต่อ 20 บาท (ซึ่งถ้าบัตรไหนอัตราแย่กว่านี้อย่าไปสะสมกับบัตรนั้นเลยครับ) เมื่อนำมาลองคำนวณว่าต้องใช้จ่ายกี่บาท ถึงจะได้ตั๋วไปที่ต่างๆ ในชั้นโดยสารที่ไมล์จะมีค่ามากที่สุด ก็จะได้ผลออกมาตามภาพครับ
สำหรับคนทั่วๆ ไปอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงอาจจะมองบน แล้วบอกว่า "ชั้นต้องใช้เงินล้านกว่าบาทเพื่อได้ตั๋วชั้นธุรกิจไปญี่ปุ่นเนี่ยนะ" คำตอบก็คือใช่ครับ แต่นั่นมันทำให้คุณได้อัตราผลตอบแทนจากการใช้บัตรราวๆ 5% เลยทีเดียว
แต่สำหรับคนที่คิดว่า การเดินทางชั้นโดยสารสูงๆ ไม่มีความจำเป็นเลย อยากไปให้ได้เร็วๆ มากกว่าไปแบบแพงๆ ผมขอแนะนำตารางง่ายๆ อันนี้ครับ ใช้เทียบกับตารางอันใหญ่ก่อนหน้านี้ว่ามูลค่าไมล์ให้ผลตอบแทนเรากี่ %
ยกตัวอย่างเช่น เราถือบัตร Citibank ROP อยู่ จะแลก 15,000 ไมล์ เพื่อเดินทางในประเทศ ซึ่งมูลค่าไมล์อยู่ที่ 0.22 บาท แสดงว่าเราได้ผลตอบแทน 1% นิดๆ นั่นเองครับ ซึ่งโดยทั่วไปผลตอบแทนที่ควรได้ ห้ามต่ำกว่า 1% เด็ดขาดนะครับ เพราะว่าบัตรที่ให้เงินคืน 1% มีมากมายครับ ถ้าได้ผลตอบแทนต่ำกว่านี้สู้เราเอา cash back มาซื้อตั๋ว ยังจะดีเสียกว่าอีกนะครับ
ปกติวิธีที่ผมใช้ในการใช้บัตรเครดิตสะสมไมล์ก็คือ ยึดบัตรหลักไว้ 1 ใบที่ให้ไมล์สูงสุด (ถ้าเป็นตอนนี้ก็คือ Privimiles ซึ่งมีโปร 12 บาท/ไมล์) แล้วถ้าร้านไหนมีโปรโมชันที่ไม่ได้ให้กับบัตรหลักของเรา ก็ค่อยมาคิดว่าเอาโปรโมชันดี หรือเอาไมล์ดี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถ้าได้ส่วนลดมากกว่า 5% ผมจะสละสิทธิ์การสะสมไมล์ไปใช้บัตรที่มีโปรแทนทันทีครับ
ข้อสังเกตเพิ่มเติมสำหรับคนที่คิดจะสะสมไมล์
1. ตั๋วแลกไมล์ มีโควต้า ไม่ใช่จองได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เต็มเร็วมาก
2. แต้มบัตรเครดิตบางใบ มีวันหมดอายุ
3. ไมล์ก็มีวันหมดอายุเช่นกัน
4. สำหรับนักเดินทางประเภทเน้นประหยัดงบประมาณ การสะสมไมล์อาจจะไม่เหมาะ เพราะหลายๆ จุดหมายปลายทาง เรามี low cost airlines ให้เลือกอีกมาก ไม่จำเป็นต้องบินกับการบินไทยเสมอไป
5. จำนวนเงินที่ต้องใช้ผ่านบัตรเครดิตเพื่อแลกตั๋วได้ต่ำสุดคือ 2 แสนกว่าบาท (แลกเพื่อเดินทางในประเทศ) สำหรับตัวคนเดียวหลายๆ ท่านอาจจะใช้เวลามากกว่านานในการใช้เงินจำนวนนี้ แต่ถ้าเป็นค่าใช้จ่ายของ 1 ครอบครัว ผมว่าหลายๆ บ้านคงมีค่าใช้จ่ายต่อปีสูงกว่านี้อีกเยอะ และทำให้ได้บินได้เร็วขึ้นครับ และถ้ารอไหว บัตรเครดิตที่คะแนนไม่มีวันหมดอายุ ยังมีอยู่อีกหลายใบ ให้เราได้ค่อยๆ เก็บไมล์ไปทีละนิดก็ได้ครับ
เนื้อหาในกระทู้นี้ เป้นอันเดียวกับที่ผมเขียนไว้ใน
https://www.facebook.com/BoyOnBoardByBoy/ ครับ ขอบคุณครับ
สะสมไมล์สายการบิน ดีจริงรึเปล่า?
เริ่มต้นจากตารางเปรียบเทียบแลกไมล์ Royal Orchid Plus (ROP) ซึ่งเป็นของการบินไทย ในจุดหมายปลายทางและระดับชั้นโดยสารต่างๆ ครับ โดยข้อมูลสุ่มมาจากการทดลองจองตั๋วไปวันที่ 30 กันยายน และกลับวันที่ 8 ตุลาคม แล้วเลือกอัตราค่าโดยสารที่ต่ำที่สุดที่หาได้โดยไม่คำนึงถึงเวลาที่เครื่องออกนะครับ
ก็จะเห็นว่ายิ่งเราไปไกลมากขึ้น และไปในชั้นโดยสารที่หรูขึ้น ก็ยิ่งจะทำให้ไมล์ของเรามีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามลำดับ
แต่ก็เป็นที่รู้กันดีครับ ว่าไมล์ระดับแสนไมล์นั้น หากจะสะสมจากการบินอย่างเดียว คงไม่ได้มีมนุษย์ปกติจะทำได้กันอย่างทั่วไป ซึ่งทางนึงที่จะหาไมล์มาได้ก็คือการใช้บัตรเครดิตนั่นเองครับ
และในรูปนี้ผมได้ลองยกตัวอย่างบัตรที่สมัครได้ไม่ยากจนเกินไปนักและให้ไมล์เยอะในระดับดี คือได้อย่างน้อย 1 ไมล์ต่อ 20 บาท (ซึ่งถ้าบัตรไหนอัตราแย่กว่านี้อย่าไปสะสมกับบัตรนั้นเลยครับ) เมื่อนำมาลองคำนวณว่าต้องใช้จ่ายกี่บาท ถึงจะได้ตั๋วไปที่ต่างๆ ในชั้นโดยสารที่ไมล์จะมีค่ามากที่สุด ก็จะได้ผลออกมาตามภาพครับ
สำหรับคนทั่วๆ ไปอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงอาจจะมองบน แล้วบอกว่า "ชั้นต้องใช้เงินล้านกว่าบาทเพื่อได้ตั๋วชั้นธุรกิจไปญี่ปุ่นเนี่ยนะ" คำตอบก็คือใช่ครับ แต่นั่นมันทำให้คุณได้อัตราผลตอบแทนจากการใช้บัตรราวๆ 5% เลยทีเดียว
แต่สำหรับคนที่คิดว่า การเดินทางชั้นโดยสารสูงๆ ไม่มีความจำเป็นเลย อยากไปให้ได้เร็วๆ มากกว่าไปแบบแพงๆ ผมขอแนะนำตารางง่ายๆ อันนี้ครับ ใช้เทียบกับตารางอันใหญ่ก่อนหน้านี้ว่ามูลค่าไมล์ให้ผลตอบแทนเรากี่ %
ยกตัวอย่างเช่น เราถือบัตร Citibank ROP อยู่ จะแลก 15,000 ไมล์ เพื่อเดินทางในประเทศ ซึ่งมูลค่าไมล์อยู่ที่ 0.22 บาท แสดงว่าเราได้ผลตอบแทน 1% นิดๆ นั่นเองครับ ซึ่งโดยทั่วไปผลตอบแทนที่ควรได้ ห้ามต่ำกว่า 1% เด็ดขาดนะครับ เพราะว่าบัตรที่ให้เงินคืน 1% มีมากมายครับ ถ้าได้ผลตอบแทนต่ำกว่านี้สู้เราเอา cash back มาซื้อตั๋ว ยังจะดีเสียกว่าอีกนะครับ
ปกติวิธีที่ผมใช้ในการใช้บัตรเครดิตสะสมไมล์ก็คือ ยึดบัตรหลักไว้ 1 ใบที่ให้ไมล์สูงสุด (ถ้าเป็นตอนนี้ก็คือ Privimiles ซึ่งมีโปร 12 บาท/ไมล์) แล้วถ้าร้านไหนมีโปรโมชันที่ไม่ได้ให้กับบัตรหลักของเรา ก็ค่อยมาคิดว่าเอาโปรโมชันดี หรือเอาไมล์ดี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถ้าได้ส่วนลดมากกว่า 5% ผมจะสละสิทธิ์การสะสมไมล์ไปใช้บัตรที่มีโปรแทนทันทีครับ
ข้อสังเกตเพิ่มเติมสำหรับคนที่คิดจะสะสมไมล์
1. ตั๋วแลกไมล์ มีโควต้า ไม่ใช่จองได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เต็มเร็วมาก
2. แต้มบัตรเครดิตบางใบ มีวันหมดอายุ
3. ไมล์ก็มีวันหมดอายุเช่นกัน
4. สำหรับนักเดินทางประเภทเน้นประหยัดงบประมาณ การสะสมไมล์อาจจะไม่เหมาะ เพราะหลายๆ จุดหมายปลายทาง เรามี low cost airlines ให้เลือกอีกมาก ไม่จำเป็นต้องบินกับการบินไทยเสมอไป
5. จำนวนเงินที่ต้องใช้ผ่านบัตรเครดิตเพื่อแลกตั๋วได้ต่ำสุดคือ 2 แสนกว่าบาท (แลกเพื่อเดินทางในประเทศ) สำหรับตัวคนเดียวหลายๆ ท่านอาจจะใช้เวลามากกว่านานในการใช้เงินจำนวนนี้ แต่ถ้าเป็นค่าใช้จ่ายของ 1 ครอบครัว ผมว่าหลายๆ บ้านคงมีค่าใช้จ่ายต่อปีสูงกว่านี้อีกเยอะ และทำให้ได้บินได้เร็วขึ้นครับ และถ้ารอไหว บัตรเครดิตที่คะแนนไม่มีวันหมดอายุ ยังมีอยู่อีกหลายใบ ให้เราได้ค่อยๆ เก็บไมล์ไปทีละนิดก็ได้ครับ
เนื้อหาในกระทู้นี้ เป้นอันเดียวกับที่ผมเขียนไว้ใน https://www.facebook.com/BoyOnBoardByBoy/ ครับ ขอบคุณครับ