วันนี้ กลับมาบ้าน ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ฝนตกหนักมาก
เอารถเก็บที่หน้าบ้าน เปิดประตูเข้าบ้านตามปกติ ที่ไม่ปกติ คือ ไฟฉุกเฉินในบ้านทำงาน
อ่ะ ไฟดับแน่ๆ จึงเดินไปเปิดไฟดวงอื่น ปรากฎว่า ไฟไม่ติดครับ
ความคิดแวบแรก ไปดูบ้านอื่นก่อนที่อยู่ข้างๆ ปรากฎว่าไม่มีใครกลับมาถึงบ้านสักคน
กอรปด้วยฝนตกหนัก สงสัย จากฝนนี่แหละ ไฟเลยดับ
นั่งในบ้านมันร้อน เลยมานั่งหน้าบ้าน
นั่งไป 10 นาที หลอดไฟก็ยังไม่ติด ไฟฉุกเฉินก็ยังทำงานอยู่
โทรหาการไฟฟ้าดีกว่า โทรไปสายไม่ว่าง เดาเลยว่า คงมีคนโทรไปเรื่องไฟดับหลายสาย กดโทรซ้ำไปสามครั้ง ก็สายไม่ว่างตลอด
นั่งรูดไลน์ไป อีก 5 นาทีมาโทรใหม่ รอไป 20 วินาที จึงมี จนท.การไฟฟ้ามารับสาย
บทสนทนา
ผม - สวัสดีครับ บ้านผมไฟดับ เลขมิเตอร์เลขที่.......
จนท. - ไปดูเบรกเกอร์ก่อน เพราะมีฟ้าผ่าลงแถวนั้น
ผม - ได้ครับ
เดินไปดูเบรกเกอร์(ดู cut out) ก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีสวิทย์ตัวไหนทำงาน เลยเงยหน้าขึ้นไปนิดนึง safe-T-cut ทำงานนี่เอง
ก็กดสวิทช์ ดันขึ้น ไฟฟ้าก็มาปกติ ก็ขอบคุณ จนท.การไฟฟ้าไป
พอดีคนข้างบ้านมา เห็นเขาเปิดไฟก็ติดปกติ

ขำตัวเองที่มโนไปแล้วว่า ฝนตกนี่แหละ ไฟเลยดับ ไม่ได้เข้าไปดูเรื่องเบรกเกอร์เลย
และที่สงสัยคือ ข้างบ้าน เขาก็ติดเบรกเกอร์ ทำไมไฟไม่ดับเหมือนบ้านเรา
และบ้านถัดไป ไม่ติดเบรกเกอร์ ไฟฟ้าก็ใช้ได้ปกติ

คำถามคือ
1.แล้วถ้าฟ้าผ่าจริง safe-T-Cutเราทำงาน เราไปกดเปิดสวิทช์ได้เลยไหม หรือต้องสำรวจอะไรก่อน
2. Safe-T-cut จำเป็นต้องติดไหม ในเมื่อเรามีเบรกเกอร์แล้ว
3. ทำไมฟ้าผ่าละแวกเดียวกัน แต่ละบ้านได้ผลกระทบไม่เหมือนกัน เช่นบ้านผม safe-T-cut ทำงาน แต่อีบ้านถัดไป ไม่เป็นไร
4. safe-T-cut ติดแล้ว มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน