Song to Song

เรื่องของ เฟย์(รูนนี่ มาร่า) หญิงสาวที่ต้องการค้นหาตัวเอง และความรัก โดยชีวิตต้องมาพัวพันกับนักดนตรีและนักแต่งเพลง BV (เซบาสเตียนจาก La La Land เอ๊ย! ไรอัน กอสลิ่ง) แต่ก่อนหน้านั้นเธอยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ คุก ที่ดูเหมือนจะเป็นโปรดิวเซอร์หรือผู้มีอิทธิพลในวงการเพลง อะไรสักอย่าง(ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) และยังมีความสัมพันธ์ของทับซ้อนกันอยู่ในระหว่างที่เป็นคนรักของ BV

ความรัก การหักหลัง การปิดบัง การค้นหา การทดลอง เหล่านี้ล้วนวนเวียนอยู่กับชีวิตของเฟย์ และตัวเธอเองก็ดูเหมือนจะพอใจกับความไม่แน่นอนนี้อยู่ไม่น้อย จนวันหนึ่งเธอรู้ตัวว่ารัก BV เข้าให้แล้ว เธอจะหยุดใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายและลงเอยกับใครสักคนได้หรือไม่

เป็นหนังที่ขนเอานักแสดงชื่อดังมาเพียบ!!!
ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ั
ไรอัน กอสลิ่ง
รูนี่ มาร่า
นาตาลี พอร์ตแมน
เคท แบลนเชท

แต่ละคนผ่านการเข้าชิงออสการ์มาแล้วทั้งนั้น  ได้ไปแล้วสองกับนาตาลีและเคท

ถึงจะมากันแน่นขนาดนี้ แต่กลับรับรู้ได้แค่พลังเบาบางที่ส่งผ่านแต่ละคาแรคเตอร์ ด้วยบทแบบดาวกระจาย และวิธีเล่าเรื่องที่แทบไม่มีบทสนทนา
สื่อสารกับคนดูด้วยการใช้เป็นเสียงบรรยายความคิดความรู้สึก พร้อมการตัดภาพไปมาสลับเหตุการณ์ไปๆมาๆ ทั้งเหตุการณ์ปัจจุบันในช่วงเวลาเดียวกันแต่เกิดขึ้นคนละที่ หรือบางทีก็ตัดไปช่วงอดีต

ถาม. ดูยากมั้ย
ตอบ. จะเหลือเหรอ!!!

ต้องใช้สมาธิและการปะติดปะต่อเรื่องราว พร้อมกับทำความเข้าใจอยู่พอสมควร แต่หนังก็พาเราให้ล่องลอยไปกับเรื่องราวได้อย่างไม่น่าเบื่อมากนัก

ความงามอันโดดเด่นของหนังคือหน้าท้องซิกแพ็คของสาวๆ ที่มาพร้อมโชว์ตลอดเวลา พร้อมฉากเลิฟซีนนัวเนียกันทั้งเรื่อง ทำให้หนังเป็นโทนเพ้อฝัน
กับชีวิตที่มีแค่กันและกัน  จนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า วันๆทำงานทำการกันบ้างไหมนะ

ไม่รู้เป็นความตั้งใจของหนัง หรือคิดไปเอง เพราะรู้สึกว่าคาแรคเตอร์เฟย์ของมาร่า เป็นคนที่น่ารำคาญมาก เป็นผู้หญิงที่ดูแอ๊บๆเวลาอยู่กับผู้ชาย ตามคนนั้นทีคนนี้ที เหมือนคนขาดความอบอุ่น ขาดความรักไม่ได้ เป็นคนประเภทที่แบบแฟนหายไปสักชั่วโมง จะโพสต์เวิ่นเว้อบนเฟซบุค อะไรทำนองนี้ และเราไม่รู้สึกว่านางจะเป็นคนน่ารักน่าเอ็นดู ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามเต้นท่ารั่วๆแล้วก็ตาม

เคท แบลนเช็ท มาในบทแฟนใหม่ของ BV ซึ่งเป็นช่วงที่เฟย์เองก็ลองคบผู้หญิงพอดี

มันก็จะมีความ Carol อยู่หน่อยๆนะ