เอเอฟพี - สื่อเกาหลีเหนือออกคำประณามจีน พันธมิตรหลักและผู้สนับสนุนทางการทูตของประเทศ และระบุว่าปักกิ่งควรสำนึกในการที่มีประเทศนี้คอยคุ้มครอง
สำนักกลางเกาหลีของทางการ (เคซีเอ็นเอ) รายงานบทวิจารณ์ที่เตือนถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะตามมา” หากจีนทดสอบความอดทนของพวกเขาไปมากกว่านี้
ปักกิ่งและเปียงยางมีความสัมพันธ์ที่หล่อหลอมมาจากการนองเลือดในสงครามเกาหลี และยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียรายนี้ยังคงเป็นผู้สนับสนุนด้านความช่วยเหลือและการค้ารายสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มตกต่ำลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากจีนไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของโสมแดง ด้วยกลัวว่าจะเกิดวิกฤตในภูมิภาค
ปักกิ่งมักเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ หลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเตรียดซึ่งอาจสื่อถึงทั้งวอชิงตันและเปียงยาง และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จีนประกาศระงับการนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหลือสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ทำให้เปียงยางขาดแหล่งรายได้สกุลเงินต่างชาติที่สำคัญ
สื่อทางการจีนเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหนักกว่านี้หากมีการทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยาง “อย่ากระทำสิ่งผิดพลาดในตอนนี้” และพูดถึงความจำเป็นสำหรับเกาหลีเหนือที่จะต้องละทิ้งโครงการนิวเคลียร์
บทวิจารณ์ของเคซีเอ็นเอที่ลงชื่อ “คิม โชล” โดยเชื่อว่าเป็นนามปากกา ประณาม “ความคิดเห็นที่ไม่มีการไตร่ตรอง” นี้ และระบุว่าไม่มีอะไรจะสั่นคลอนความตั้งใจของเปียงยางได้
“ดีพีอาร์เคจะไม่ร้องขอให้จีนรักษาความเป็นมิตร หากมันไม่เป็นผลดีต่อโครงการนิวเคลียร์ที่มีค่าเท่ากับชีวิตของตนเอง” บทวิจารณ์นี้ระบุ โดยเรียกเกาหลีเหนือด้วยชื่ออย่างเป็นทางการ คือสาธารณรัฐประชาธิปไตยเกาหลี (ดีพีอาร์เค)
บทวิจารณ์เมื่อค่ำวานนี้ (17) เสริมว่า เปียงยางทำหน้าที่เป็นเขตกันชนระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันนับตั้งแต่สงครามเกาหลีในช่วงทศวรรษ 1950 “มีส่วนช่วยปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของจีน” และว่า จีนควร “ขอบคุณดีพีอาร์เคสำหรับเรื่องนี้”
ปักกิ่งไม่ควรลองทดสอบขีดจำกัดความอดทนของเกาหลีเหนือ บทวิจารณ์ระบุ และเตือนว่า “จีนควรครุ่นคิดให้มากกว่านี้เกี่ยวกับผลลัพธ์ร้ายแรงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากการตัดแกนความสัมพันธ์ดีพีอาร์เค-จีน”
บทวิจารณ์นี้เป็นสัญญาณของระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ตกต่ำลง ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ยังไม่เคยไปเยือนกรุงปักกิ่งหลังจากขึ้นสู่อำนาจมากกว่า 5 ปี
ในขณะเดียวกัน วอชิงตันกำลังผลักดันจีนให้เพิ่มแรงกดดันต่อเปียงยางให้มากกว่านี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เตือนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรง” หากประชาคมโลกโดยเฉพาะจีนไม่อาจกดดันให้โสมแดงละทิ้งโครงการอาวุธ
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ ไม่ให้น้ำหนักกับความคิดเห็นของทิลเลอร์สัน และกล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายจีน”
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000045124
ไหงเป็นงี้??? สื่อโสมแดงเตือน “จีน” อย่าทดสอบความอดทน ชี้ควรสำนึกบุญคุณเกาหลีเหนือ
สำนักกลางเกาหลีของทางการ (เคซีเอ็นเอ) รายงานบทวิจารณ์ที่เตือนถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะตามมา” หากจีนทดสอบความอดทนของพวกเขาไปมากกว่านี้
ปักกิ่งและเปียงยางมีความสัมพันธ์ที่หล่อหลอมมาจากการนองเลือดในสงครามเกาหลี และยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียรายนี้ยังคงเป็นผู้สนับสนุนด้านความช่วยเหลือและการค้ารายสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มตกต่ำลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากจีนไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของโสมแดง ด้วยกลัวว่าจะเกิดวิกฤตในภูมิภาค
ปักกิ่งมักเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ หลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเตรียดซึ่งอาจสื่อถึงทั้งวอชิงตันและเปียงยาง และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จีนประกาศระงับการนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหลือสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ทำให้เปียงยางขาดแหล่งรายได้สกุลเงินต่างชาติที่สำคัญ
สื่อทางการจีนเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหนักกว่านี้หากมีการทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยาง “อย่ากระทำสิ่งผิดพลาดในตอนนี้” และพูดถึงความจำเป็นสำหรับเกาหลีเหนือที่จะต้องละทิ้งโครงการนิวเคลียร์
บทวิจารณ์ของเคซีเอ็นเอที่ลงชื่อ “คิม โชล” โดยเชื่อว่าเป็นนามปากกา ประณาม “ความคิดเห็นที่ไม่มีการไตร่ตรอง” นี้ และระบุว่าไม่มีอะไรจะสั่นคลอนความตั้งใจของเปียงยางได้
“ดีพีอาร์เคจะไม่ร้องขอให้จีนรักษาความเป็นมิตร หากมันไม่เป็นผลดีต่อโครงการนิวเคลียร์ที่มีค่าเท่ากับชีวิตของตนเอง” บทวิจารณ์นี้ระบุ โดยเรียกเกาหลีเหนือด้วยชื่ออย่างเป็นทางการ คือสาธารณรัฐประชาธิปไตยเกาหลี (ดีพีอาร์เค)
บทวิจารณ์เมื่อค่ำวานนี้ (17) เสริมว่า เปียงยางทำหน้าที่เป็นเขตกันชนระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันนับตั้งแต่สงครามเกาหลีในช่วงทศวรรษ 1950 “มีส่วนช่วยปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของจีน” และว่า จีนควร “ขอบคุณดีพีอาร์เคสำหรับเรื่องนี้”
ปักกิ่งไม่ควรลองทดสอบขีดจำกัดความอดทนของเกาหลีเหนือ บทวิจารณ์ระบุ และเตือนว่า “จีนควรครุ่นคิดให้มากกว่านี้เกี่ยวกับผลลัพธ์ร้ายแรงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากการตัดแกนความสัมพันธ์ดีพีอาร์เค-จีน”
บทวิจารณ์นี้เป็นสัญญาณของระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ตกต่ำลง ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ยังไม่เคยไปเยือนกรุงปักกิ่งหลังจากขึ้นสู่อำนาจมากกว่า 5 ปี
ในขณะเดียวกัน วอชิงตันกำลังผลักดันจีนให้เพิ่มแรงกดดันต่อเปียงยางให้มากกว่านี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เตือนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรง” หากประชาคมโลกโดยเฉพาะจีนไม่อาจกดดันให้โสมแดงละทิ้งโครงการอาวุธ
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ ไม่ให้น้ำหนักกับความคิดเห็นของทิลเลอร์สัน และกล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายจีน”
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000045124