ขอเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ขึ้นศาลก่อนะคะ
วันที่6 ก.พ.2560 พ่อแม่เราไปตลาดตอนเย็น มีน้ากับป้ากับหลานประมาณ5ขวบอีก2 นั่งรถส่วนตัวไป
เป็นรถยนต์แคพกระบะ พ่อเราขับแม่เรานั่งเบาะข้างคนขับ ป้ากับน้าและหลานอีก2คนก็นั่งกระบะหลัง
พอซื้อของกันเสร็จก็ประมาณสี่โมงเย็นถึงห้าโมงเย็นเลยกลับบ้านกัน ในระหว่างทางกลับบ้านจะเป็นถนน4เลน
ซึ่งช่วงเวลานี้รถจะเยอะกว่าเวลาอื่นและมีรถคันใหญ่พวกรถบรรทุกของ8ล้อ10ล้อค่อนข้างเยอะ
ในทางกลับบ้านมีทางขึ้นเนินก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้าน พอถึงทางขึ้นเนินพ่อเราขัลขึ้นไปอยู่ๆก็มีรถอีแต๋นขนไม้อยู่ข้างหน้า
ท้ายรถโผล่ออกมาเกินเลนวิ่งทางซ้าย (ไม่รู้เรียกถูกรึเปล่านะคะ) เลนข้างขวาก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ขับมาหลายคัน
ทำให้รถที่พ่อเราขับขึ้นเนินชนที่ท้ายรถอีแต๋นคันนั้น ซึ่งรถอีแต๋นไม่เปิดสัญญาณไฟอะไรเลยทำให้ไม่รู้ว่าจอดไว้หรือจะเลี้ยว
พอชนท้ายรถอีแต๋น พอชนแม่ที่นั่งข้างๆกำลังหยิบของในกระเป๋ามาดูที่วางไว้เบาะแคพหลัง
ทำให้แม่เราหน้าผากกระแทกตรงข้างหน้า(ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) และมีเศษกระจกปักอยู่ตรงหน้าผากแม่เราด้วยค่ะเลือดออกเป็นทางเลยค่ะ
ไม้ที่ขนมาท้ายรถอีแต๋นก็เสียบเข้ามาข้างเบาะที่แม่เรานั่ง ทำให้กระจกรถข้างหน้าแตกออกหมดเลยค่ะ
แต่ดีที่ไม้ไม่โดนตัวแม่เรา หลังคาก็เบี้ยวพังซ่อมไม่ได้เลยค่ะ ต้องซื้อเปลี่ยนอย่างเดียว(ช่างบอก)
คนที่นั่งกระบะหลังก็จับตัวเด็ก2คนไว้ แต่ของที่ซื้อกันมาลงไปอยู่พื้นถนนเกือบหมด ตัวป้ากับน้าเราก็กระแทกกับตัวรถเลย
ในตอนนั้นไม่เป็นไรมากค่ะ ช้ำนิดหน่อย
พอชนรถอีแต๋นแล้ว ก็มีคนลงมาจากรถค่ะ กลายเป็นคนที่รู้จักกับคนในบ้านเป็นผชอายุราวๆ40ต้นๆ เขาลงรถได้ก็ถามพ่อเราว่า
"อ้าวลุงXXจะเอายังไง ให้มันจบตรงนี้จะได้ไม่ต้องยากความ ให้มันจบตรงนนี้ จะใช้ผมยังไงเท่าไหร่ก็ว่ามา"
พ่อเรา "จะเอายังไงก็ค่อยเคลียร์กันทีหลัง มีคนเจ็บมีเด็ก รถผมมีประกันอยู่ ค่อยไปว่ากันทีหลัง เรียกรถพยาบาลก่อน"
น้าเราก็โทรเรียกรถพยาบาลและโทรหาพี่ชายเราซึ่งทำงานอย่ใกล้ๆ ในระหว่างรอรถพยาบาลกับพี่ชายเรา
เขาก็กวาดเศษกระจกข้างถนนที่เลยออกมากวาดไปหารถเขา พ่อเราเลยบอกอย่าพึ่งทำอะไร รอตำรวจมาก่อน
เขาไม่ฟังก็ทำต่อ และถ่ายรูปไว้ค่ะ พ่อกับแม่เราใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็นด้วยค่ะเลยไม่ได้ถ่ายเลย ในเวลานั้นไม่มีใครถ่ายรูปไว้เลย
รถก็ไม่ได้ติดกล้อง พอรถพี่เรามาถึงก็ถามว่าเรียกตำรวจรึยัง เรียกรถพยาบาลยัง ประกันเรียกยัง แล้วก็ไปถ่ายรูปรถเรา รถเขา ตรงที่ชน
รถพยาบาลมา ตำรวจมา ประกันมา ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจกับประกันค่ะ(ประกันชั้น3) ก็เอารถไปที่โรงพักทั้งสองคัน
ส่วนแม่เรากับป้าน้าก็ไปโรงพยาบาล ตอนแรกแม่เราเอาเศษกระจกออกมันก็จะปูดหน่อยนึง สักพักก็ปูดใหญ่เลยค่ะ
หมอเลยให้นอนดูอาการคืนนั้น ป้ากับน้า ตัวช้ำหัวโนกันนิดหน่อยเลยกลับบ้าน พอกลับบ้านมาก็อ้วกกัน ทำให้ต้องไปโรงพยาบาลอีกรอบค่ะ
แล้วก็ได้นอนคืนนั้นทั้งสามคนลยค่ะ ส่วนพ่อเราไม่เป็นอะไรค่ะ จะมาพิมพ์ต่อนะคะ
พิมพ์ในมือถือพิมพ์ยากมากค่ะพึ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกด้วยค่ะ ยังไงรบกวนด้วยนะคะ จะพิมพ์ต่ออยู่นะคะ
พรุ่งนี้พ่อกับแม่ต้องขึ้นศาลแล้ว จะทำยังไงดีคะ
วันที่6 ก.พ.2560 พ่อแม่เราไปตลาดตอนเย็น มีน้ากับป้ากับหลานประมาณ5ขวบอีก2 นั่งรถส่วนตัวไป
เป็นรถยนต์แคพกระบะ พ่อเราขับแม่เรานั่งเบาะข้างคนขับ ป้ากับน้าและหลานอีก2คนก็นั่งกระบะหลัง
พอซื้อของกันเสร็จก็ประมาณสี่โมงเย็นถึงห้าโมงเย็นเลยกลับบ้านกัน ในระหว่างทางกลับบ้านจะเป็นถนน4เลน
ซึ่งช่วงเวลานี้รถจะเยอะกว่าเวลาอื่นและมีรถคันใหญ่พวกรถบรรทุกของ8ล้อ10ล้อค่อนข้างเยอะ
ในทางกลับบ้านมีทางขึ้นเนินก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้าน พอถึงทางขึ้นเนินพ่อเราขัลขึ้นไปอยู่ๆก็มีรถอีแต๋นขนไม้อยู่ข้างหน้า
ท้ายรถโผล่ออกมาเกินเลนวิ่งทางซ้าย (ไม่รู้เรียกถูกรึเปล่านะคะ) เลนข้างขวาก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ขับมาหลายคัน
ทำให้รถที่พ่อเราขับขึ้นเนินชนที่ท้ายรถอีแต๋นคันนั้น ซึ่งรถอีแต๋นไม่เปิดสัญญาณไฟอะไรเลยทำให้ไม่รู้ว่าจอดไว้หรือจะเลี้ยว
พอชนท้ายรถอีแต๋น พอชนแม่ที่นั่งข้างๆกำลังหยิบของในกระเป๋ามาดูที่วางไว้เบาะแคพหลัง
ทำให้แม่เราหน้าผากกระแทกตรงข้างหน้า(ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) และมีเศษกระจกปักอยู่ตรงหน้าผากแม่เราด้วยค่ะเลือดออกเป็นทางเลยค่ะ
ไม้ที่ขนมาท้ายรถอีแต๋นก็เสียบเข้ามาข้างเบาะที่แม่เรานั่ง ทำให้กระจกรถข้างหน้าแตกออกหมดเลยค่ะ
แต่ดีที่ไม้ไม่โดนตัวแม่เรา หลังคาก็เบี้ยวพังซ่อมไม่ได้เลยค่ะ ต้องซื้อเปลี่ยนอย่างเดียว(ช่างบอก)
คนที่นั่งกระบะหลังก็จับตัวเด็ก2คนไว้ แต่ของที่ซื้อกันมาลงไปอยู่พื้นถนนเกือบหมด ตัวป้ากับน้าเราก็กระแทกกับตัวรถเลย
ในตอนนั้นไม่เป็นไรมากค่ะ ช้ำนิดหน่อย
พอชนรถอีแต๋นแล้ว ก็มีคนลงมาจากรถค่ะ กลายเป็นคนที่รู้จักกับคนในบ้านเป็นผชอายุราวๆ40ต้นๆ เขาลงรถได้ก็ถามพ่อเราว่า
"อ้าวลุงXXจะเอายังไง ให้มันจบตรงนี้จะได้ไม่ต้องยากความ ให้มันจบตรงนนี้ จะใช้ผมยังไงเท่าไหร่ก็ว่ามา"
พ่อเรา "จะเอายังไงก็ค่อยเคลียร์กันทีหลัง มีคนเจ็บมีเด็ก รถผมมีประกันอยู่ ค่อยไปว่ากันทีหลัง เรียกรถพยาบาลก่อน"
น้าเราก็โทรเรียกรถพยาบาลและโทรหาพี่ชายเราซึ่งทำงานอย่ใกล้ๆ ในระหว่างรอรถพยาบาลกับพี่ชายเรา
เขาก็กวาดเศษกระจกข้างถนนที่เลยออกมากวาดไปหารถเขา พ่อเราเลยบอกอย่าพึ่งทำอะไร รอตำรวจมาก่อน
เขาไม่ฟังก็ทำต่อ และถ่ายรูปไว้ค่ะ พ่อกับแม่เราใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็นด้วยค่ะเลยไม่ได้ถ่ายเลย ในเวลานั้นไม่มีใครถ่ายรูปไว้เลย
รถก็ไม่ได้ติดกล้อง พอรถพี่เรามาถึงก็ถามว่าเรียกตำรวจรึยัง เรียกรถพยาบาลยัง ประกันเรียกยัง แล้วก็ไปถ่ายรูปรถเรา รถเขา ตรงที่ชน
รถพยาบาลมา ตำรวจมา ประกันมา ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจกับประกันค่ะ(ประกันชั้น3) ก็เอารถไปที่โรงพักทั้งสองคัน
ส่วนแม่เรากับป้าน้าก็ไปโรงพยาบาล ตอนแรกแม่เราเอาเศษกระจกออกมันก็จะปูดหน่อยนึง สักพักก็ปูดใหญ่เลยค่ะ
หมอเลยให้นอนดูอาการคืนนั้น ป้ากับน้า ตัวช้ำหัวโนกันนิดหน่อยเลยกลับบ้าน พอกลับบ้านมาก็อ้วกกัน ทำให้ต้องไปโรงพยาบาลอีกรอบค่ะ
แล้วก็ได้นอนคืนนั้นทั้งสามคนลยค่ะ ส่วนพ่อเราไม่เป็นอะไรค่ะ จะมาพิมพ์ต่อนะคะ
พิมพ์ในมือถือพิมพ์ยากมากค่ะพึ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกด้วยค่ะ ยังไงรบกวนด้วยนะคะ จะพิมพ์ต่ออยู่นะคะ