วินาทีที่บอกครอบครัวว่าเราเป็นเพศที่สาม

ก่อนอื่นเลย ต้องขอสวัสดีทุกท่านกันด้วยเลยนะครับ
กระทุ้นี้ไม่ใช่กระทูแรกแต่อย่างใด พอดี จำพาสของไอดีเดิมไม่ได้ละ 5555 เลยสมัครมาแบ่งปันประสบการณ์
ซึ่งไอ่ประสบการณ์ครั้งนี้มันก็ไม่ใช่ว่าจะเจอกันบ่อยๆนะครับ นั้นก็คือ ประสบการณ์ของการบอกพ่อของตนเองว่า ตัวตนเรานั้นเป็นแบบไหน
จุดประสงค์ของกระทู้นี้แค่อยากจะเล่า และอยากให้เพื่อนๆกล้าที่จะบอกครอบครัวของตัวเอง จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจหรือคิดมากกันครับ
ปล. อาจจะมีคำพูดไม่สุภาพบ้างก็ต้องขอ อภัย เผื่ออรรถรสนะครับ อะ!!ไปกันเลย

           ผมเป็นเด็กคนนึงครับ ที่ไม่ค่อยจะมีจิตใจที่เป็น ชายจริง หญิงแท้แต่อย่างใด ผมเริ่มสังเกตุตัวตนของตนเองมาสักระยะใหญ่ เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมาแล้วว่า ตัวของเรานั้น มีเพศสภาพเป็นผู้ชาย แต่จะบ้าไปแล้ว ทำไมเรามีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกัน โอ้โห พักแรกค้นหาตัวอยู่พักใหญ่ครับ มีแฟนเป็น ผญ บ้าง ขืนใจตัวเองบ้าง จนที่สุดเราก็แน่ใจในคำตอบแล้วว่า ตัวเราเอง เป็น เพศ ที่ถูก เรียกว่าเกย์ครับ (พอรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์แล้ว ยังต้องปวดหัวอีกว่า สรุปแล้ว กรูเป็นรุก รับโบ๊ท อะไรอีกไม่รุ้มากมาย จนทุกวันนี้รู้แล้วครับ 55555) ซึ่งเมื่อรู้ตัวตนของตัวเองแล้ว ธรรมดาครับ เราก็ต่างไม่อยากให้ครอบครัวรุ้ เพราะว่ากลัวท่านจะด่าหัว โดนไล่ออกจากบ้าน เอาปืนไล่ยิง ดั่งเป็นตัวร้ายในหนังช่องเจ็ด จนในที่สุดก็ไม่ได้บอกครับ หาจังหวะไม่ได้ แต่แล้วเหมือน(โชค)ชะตาจะเข้าข้าง ตัวผมเองไม่ได้ออกสาวมากนัก อยู่บ้านร้อนๆถอดเสื้อ เดินรอบบ้าน นั่งเล่นเกมส์ ทั้งวันทั้งคืน พ่อเลยไม่สงสัยแต่อย่างใด เอ่ยลืมบอกไปนะครับ พ่อแม่ของครอบครัวผมนั้นแยกทางกัน ผมจึงอยุ่กับพ่อ 2 คน ซึ่ง พอผ่านมาสักพักเวลาก็ไวเหมือนนั่งไทม์แม๊คชีนครับ ผมได้เรียนในมหาลัยชื่อดังแห่งนึง ซึ่งเป็นต่างจังหวัดไกลบ้านกันเลยทีเดียว แต่แล้วก็ได้มีแอ๊คซิเด้นครับ ผมได้ประสบอุบัติเหตุที่เป็นผลข้างเคียงจากการเล่นกีฬาจนในที่สุดแล้วก็ต้องเข้าไปรักษาในโรงพยาบาล โชคยิ่งเล่นตลกกับผมเข้าไปใหญ่เลย คือต้องได้รับการผ่าตัดเร่งด่วนภายใน 6 ชม. จังหวะในตอนนั้นเพื่อนสนิทผมคอยให้กำลังใจอยุ่ข้างๆครับ และประสานโทรบอกคุณพ่อให้ อาการเจ็บของผมนั้น เรียกได้ว่า โอ้โห อิเหร้ ปวดอีกนิดก็ตายได้ละเถอะ จึงหวะนั้นคือคิดไว้ว่า ตายๆ เราตายแน่ๆ จนอาการมันได้ดับลงไปเพราะฉีดมอฟีนไป 2 เข็มในเวลา 4-5 ชม. จนผมสงบลงครับ ส่วนทางพ่อของผมก็นั่งรถมา แต่แกมาไม่ทันเวลาผ่าตัดครับ..... ไม่รุ้ว่าในใจคิดยังไง ตอนจังหวะนั้นคิดถถึงคุณพ่อของตัวเอง อยากจะเจอแกสักแปบนึงก็ยังดี.

         ผมเข้าห้องผ่าตัดไปกว่า 5.ชม รวมเวลาพักฝืนเล็กน้อยแล้วครับ ก่อนที่จะย้ายตึก สายตาขอผผมที่ง่วงนอนมากๆนั้นก็ได้เหลือบไปเห็นสายตาอันละห้อยของชายวัยทำงานค่อนแก่คนนึงครับ เขาคือพ่อของผมเอง ผมก็ได้แต่ยกมือสวัสดีก่อนที่จะนอนไป และฟื้นตัวขึ้นมาอีกทีใน ห้องพิเศษครับ ในห้องก็มีเพื่อนสนิทผมอยู่ 2-3 คน และพ่ออีกคนนึงที่นั่งเฝ้าที่หัวเตียง ผมได้สติขึ้นมาเจ็บแปร๊ปสุดๆที่แผล จนขยับตัวไม่ได้ แต่ก็พูดคุยกับพ่อได้เล็กน้อย สักพักคุณหมอก็เข้ามาครับ เขามาบอกอาการและผลข้างเคียงของอาการที่ผมเป็นอยุ่ และแน่นอน มันมีผลกระทบที่น่าตกใจคือผมนั้นมีบุตรยาก(โอกาศคิดเป็นเปอร์เซ็นก็ราวๆ 20 เปอร์เซ็นที่มีบุตรได้ ) ตอนนั้นในใจคือแบบ เออ ช่างๆมันเถอะยังไงก็ไม่ได้จะเอาเมีย จังหวะนั้นความคิดเลยประเดประดังเข้ามาในหัวว่า เอาว่ะ ไหนๆก็ไหนๆละ เอาตรงนี้เป็นจุดที่เอาไว้ต่อรองกับพ่อดีกว่า ในหัวของผมตอนนั้นคิดว่า ม่ะ เป็นไงเป็นกัน บอกก็บอกว่ะ ตอนนั้นกลัวมากครับ แต่ในขณะที่ผมกำลังจะเรียกพ่อมานั่งใกล้ๆ เพราะผมขยับตัวลำบากอยู่นั้น หมอก็เข้ามา และฉีดยาระงับความปวดให้ผม จนผมอยากอวก และหลับไปก่อนครับ ตอนโดนยาฉีดเข้าไป นี่มีหน้ามืดครับ (ทั้งๆที่มืดอยู่ทั้งหน้าอยู่แล้ว) เลยคิดว่า เออ สักพักก่อนละกันอยุ่อีกตั้ง 3 วัน เดะค่อยบอก.......

        เช้าวันต่อมาครับผมตื่นขึ้นมาด้วยความปวดอีกครั้ง และกิจกรรมในวันนี้นคือการที่ผมนั่งดูแดจังกึมนั่นเอง โอ้โห ดูต่อกันยาวเลยครับ จนลืมว่าตนเองนั้นจะบอกพ่อว่า ตัวเรานัน้เป็นอะไร จนพี่ของผมโทรมาถามไถ่อาการครับ พ่อเลยพูดถึงเรื่องครอบครัวเล็กน้อย อ่ะ เข้าทางเลยทีนี้ ผมเลยได้จังหวะ เรียกพ่อมานั่งใกล้ๆอีกครั้งนึง พร้อมกับพูดดังต่อไปนี้ครับ(ขอแทนชื่อตัวเองว่า เอ นะครับ)
เรา : พ่อ เอว่า เอไม่ปกติเหมือนคนอื่นอะ
พ่อ : เอ้า ทำไม เรื่องที่ผ่าตัดหรอ
เรา : เปล่า........คือ.....
พ่อ : ..........
บรรยากาศนิ่งไปนิดนึงครับ ในใจผมตอนนั้นคิดแค่ว่ากลัวพ่อตัวเองเสียใจมาก และกลัวพ่อด่ามาก
เรา : เอ อะก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงนะ แต่เอรู้สึกว่ามันไม่ใช่อะ เอว่า เอดูเหมือนจะไม่ปกติเหมือนคนอื่นๆ................ เอว่าเอ ชอบผู้ชายอะพ่อ
พ่อ ..............................................................................
พ่อนิ่งเงียบไปยาวมาก จนห้องเงียบกริบ จนเสียงฝนที่ตกด้านนอกดูดังขึ้นมาในทันที
เรา : เอ ว่า เ..
พ่อ : อื้ออ (พ่อลากเสียงยาวพร้อมกับถอนหายใจหน่อยๆ) ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ เรื่องแค่นี้เอง  
พ่อพูดแล้วมองผม ก่อนที่จะเอามือมาลูบที่หัวเบาๆ
พ่อ : จริงๆอะ เอจะเป็นอะไรมันก็อยุ่ที่ตัวของเอ เอเลือกเอง พ่อนะ ไม่ยุ่งหรอก แต่พ่อก็อยากให้เอ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเอ เอาตัวให้รอด พ่อนะ สบายชิวๆ ขอแค่เอเป็นคนดีก็พอละ
เรา : ........ เงียบและน้ำตาคลอเบ้าสิครับ รออะไร
พ่อ : จริงๆหน้าที่ของพ่อก็คือส่งเอเรียนให้จบ แค่นั้นพ่อก็ดีใจแล้ว พ่อไม่ได้หวังให้เอมาเลี้ยงพ่อหรืออะไร ใครจะว่าอะไรอย่าไปสนใจ เราเอาตัวเราเองว่า ทุกวันนี้ คนที่เป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงจริงๆเนี่ย มันก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเขาจะทำอะไรได้ดีกว่าเราสักหน่อย ขอแค่เอดูแลตัวเองให้ได้ก็พอแล้วแหละ
เรา : ครับ ... (น้ำตาร่วงเป็นเม็ดเลยครับ)
พ่อ : แต่ยังไงซะ เวลาเราเป็นแบบนี้เนี่ยก็เก็ยเงินไว้เยอะๆละกัน แก่ตัวมา คนดูแลไม่มีก็จะลำบาก ถ้าหากเรามีลูกมันก็ยังดีใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าไม่มีคนดูตอนแก่มานี่สิจะลำบากเอา ยังไงเก็บตังไว้ด้วย ได้เยอะ ก็ใช้เยอะนะเรา(ทำำไมพ่อพูดเหมือนลูกจะไม่มีแฟนทั้งชีวิตเลย 55555555)

แล้วหลังจากนั้นพ่อที่ปกติชอบดุผม ชอบหน้านิ้วคิ้วขมวดใส่ผมตอนเด็กๆก็กลับกลายเป้นคนที่ยอมรับผมจากใจคนแรก และก็เป็นคนแรกที่ผมรู้สึกอุ่นใจที่จะบอกเรื่องนี้มากที่สุดด้วยครับ หลังจากนั้นพ่อก็ได้สอนเรื่องการใช้ชีวิตต่างๆ การเก็บเงินอีกมากมาย ให้กับผม และแน่นอนครับ จากผมกับพ่อที่จะไม่ค่อยพูดกันเท่าไหร่ หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่า เราทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้นครับ

นี้แหละครับ คือสิ่งที่ผมอยากแบ่งปัน ประสบการณ์ดีๆในจุดนี้
แต่ผมไม่ได้แนะนำว่า ทำให้ตัวเองเข้าโรงพยาบาลแล้วบอกนะครับ 5555555
ซึ่งเรื่องนี้มันก็ทำให้ผมรุ้ว่า นี้แหละครับ คือพ่อแม่ เขายอมรับในตัวของลูกตัวเองได้เสมอ อาจจะไม่ใช่ทุกครอบครัว แต่เชื่อเถอะครับ ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแม่ของเราแล้ว เขาจะยอมรับเราได้ไม่ช้า ก็เร็วครับ ฉะนั้น อย่าอายที่จะบอกเลยครับ บางเรื่องเรากลับไม่อายที่จะโกหก แต่บางเรื่องเรากลับอายที่จะบอกความจริง สังคมเดี๋ยวนี้เปิดกว้างนะครับ จริงๆ ชีวิต ของผมมีเรื่องเล่าเยอะแยะมากมายครับ ไม่รุ้ว่าผมเขียนสนุกกันไหม ยังไง มาพูดคุยกันด้วยนะครับ ไว้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้พบได้เจอกันมาอีกนะครับ
แล้วเพื่อนมีประสบการณ์บอกที่บ้านแล้วเป็นยังไงมาแชร์กันนะครับ
เอาละครับวันนี้ไปก่อนครับ สวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
คุณโชคดีที่มีพ่อแม่ที่มีลูก"เพื่อลูก".......ไม่ใช่พ่อแม่ที่มีลูก"เพื่อตัวเอง".....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่