ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่า เกรดน้อยที่ว่า มันน้อยจริงๆ ไม่ใช่ 2.7 หรือ 2.8 ที่ว่าน้อยนะคะ แต่มันคือ 2.5 (เป็นไงล่ะ น้อยใช่มั้ย ประสบการณ์ทำงานก็ไม่มี เลยไม่มีอะไรมาดึงขึ้น ที่ทำให้ประวัติเราดูดีเท่าคนอื่นๆเลย)
จริงๆ แล้ว เราตั้งใจตั้งแต่จะเรียนจบแล้วว่า เราอยากต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ เพราะมองว่าระบบการศึกษาของที่ประเทศอังกฤษเค้าเน้นการช่วยเหลือตัวเอง และรับผิดชอบตัวเอง อาจารย์จะไม่ได้มาป้อนความรู้ใส่เรา แต่เป็นเราที่ต้องขวนขวายหาความรู้เพื่ออัพเดตให้ทันสถานการณ์ต่างๆตลอดเวลา
ตอนที่เราอยากจะไปต่อต่างประเทศ ประเทศอังกฤษไม่ใช่ประเทศเดียวที่เรามองหานะคะ เรายังมองมหาวิทยาลัยและคอร์สเรียนที่ประเทศอเมริกา และใกล้ๆบ้านเราอย่างออสเตรเลียด้วย แต่ปัญหาติดอยู่อย่างเดียวคือ เกรดเราน้อยมาก ไม่มีทางเข้ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาได้แน่นอน และอีกเหตุผลคือ อยากเรียนแค่ปีเดียวจบ (กลัวไฟความขยัน และความตั้งใจมันจะหมดก่อนเรียนจบ 55555)
หลังจากที่เราเลือกประเทศได้แล้ว เราก็เริ่มหาข้อมูลเลยค่ะ จะเรียนที่ไหนดี เมืองไหน เรียนหลักสูตรอะไรของมหาลัยไหนดัง คือเรื่องคอร์สที่อยากเรียนเราคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ตัวเราจบวิศวะมา เราก็อยากเรียนสายบริหารต่อ เพื่อเอามาปรับใช้เข้าด้วยกัน เราจะได้มีหลายมุมมองเวลาทำงานจริง แต่ๆๆๆ ปัญหาไม่ได้มีแค่นี้ค่ะ ประเด็นคือ แค่พอเราเริ่มหาข้อมูลว่าอยากเรียนที่ไหน มันก็ขึ้นมาเยอะมาก จนงงไปหมดเลยว่า เราต้องกดเข้าตรงไหน หรือเราจะต้องเริ่มที่ตรงไหนก่อน อย่างเช่น เราอยากดู ranking มหาวิทยาลัยในอังกฤษที่เด่นด้านบริหาร เราก็เข้าไปดูจากหลายเว็บค่ะ แต่โพลที่ออกมาคือ ไม่ตรงกันเลย (สรุปมันวัดจากอะไรกันแน่ = =’) เราเลยตัดสินใจ เปลี่ยนคำที่ใช้ในการค้นหา จากมหาลัยที่อยากเรียนต่อ เป็นแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศค่ะ
ตัวเราเอง เราก็หาข้อมูลไปเองอยู่แล้ว ว่าเราอยากเข้าที่ไหน แต่เราไม่ได้รู้เลยว่า เกรดเราสามารถเข้าที่นั่นได้รึเปล่า เพราะว่ากว่าจะหารายละเอียดเจอมันซับซ้อน แล้วยังต้องเข้าไปตามหน้าเว็บมหาลัยอีก เราเลยตัดสินใจใช้บริการเอเจนซี่ค่ะ (ฟรีนะ ไม่เสียตังเลยด้วย ไม่ต้องทำอะไรเองเลยค่ะ 55555) พอเราไปเจอพวกพี่ๆ เค้า พี่เค้าก็ขอดูลิสต์มหาลัยที่เราเลือกไป เหมือนที่คิดเป๊ะเลยค่ะเพื่อนๆ เค้ารับเกรด 3.0 เราเข้าไม่ได้แน่นอน โอเค ตัดทิ้งค่ะ ตอนแรกเราก็ดื้อนะว่ามันต้องมีวิธีอื่นสิที่จะมาทำให้เราดูดีเท่าคนอื่นที่เกรดสูงๆ.. มีมั้ย ตอบเลยว่ามีค่ะ แต่ว่ามันก็เป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้น เพราะสิ่งที่เค้าต้องมองเป็นอันดับแรกคือเกรดของเราที่เป็นตัวชี้วัดค่ะ
พี่ๆเค้าบอกเรามาด้วยว่า เข้าได้หรือไม่ได้ ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเข้าไปแล้ว เรียนไม่ได้ เรียนไม่ไหว มันเกินตัวเรา แล้วส่งผลในตอนสุดท้ายว่าเราเรียนไม่จบทำยังไง ถึงตรงนี้เครียดเลยค่ะ ไม่เคยคิดถึงจุดนี้มาก่อนเลย เราเลยยอมรับฟังข้อเสนอพี่เค้าว่าให้มองมหาวิทยาลัยในระดับที่เราเข้าได้ เราเลยมาเจอ ที่นี่ค่ะ University of East Anglia หรือ UEA มหาวิทยาลัยนี้ บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ไม่ติดหูเหมือนพวก University of Liverpool หรือ University of Reading แต่ถ้าคนที่อยู่ในแวดวงนี้จะรู้เลยค่ะว่ามหาวิทยาลัยนี้ดังมากด้านบริหาร แล้วยังอยู่ในเมืองที่ไม่ไกลลอนดอนจนเกินไป พอเราหาข้อมูลเพิ่มเติมด้านคอร์สเรียน ด้านสภาพแวดล้อม เราตัดสินใจได้ทันทีเลยค่ะ อยากลองสมัครที่นี่แน่นอนนนน
แต่กว่าจะสมัครได้ เราต้องมีเอกสารจากมหาลัยครบก่อนนะคะ แล้วที่สำคัญคือ SOP เพื่อโน้มน้าวจิตใจกรรมการว่าทำไมเค้าต้องเลือกเรา 55555 ตอนนั้นเข้ากูเกิ้ลเลยค่ะ how to ต่างๆนาๆ เขียนยังไงให้ top u รับ หรือจะเป็นหัวข้อที่ควรมีใน SOP คือพยายามมากค่ะ เอาวะ เค้าต้องอ่านแล้วเค้าต้องพิจารณาเราแน่นอน พอเราเขียนเสร็จแล้วจนเราพอใจ เราเลยส่งเมล์ไปให้พี่ๆ เอเจนซี่ช่วยตรวจค่ะ พี่ๆช่วยเหลือเราดีมากกกกก (กอไก่ล้านตัว) อ่านและแก้ไขแกรมม่าที่อ่อนด้อยของเรา 55555 แล้วพี่เค้าอ่านจริงๆนะ จุดเล็กจุดน้อยพี่เค้าเห็นหมด จนในที่สุดเราก็เตรียมเอกสารพร้อมสมัครค่ะ พี่ใจดีมากด้วย ให้โอกาสเราได้ลองสมัครมหาลัยที่เราอยากได้ในตอนแรก เพราะว่าก็ไม่เสียหายอะไร ที่จะสมัคร (แต่ผลที่ออกมาทุกคนก็คงรู้กันนะ 55555)
สุดท้ายยยยย เราได้ offer จาก UEA ค่า ดีใจมากกก คือตอนนั้นมันเหมือนเราแอดมิทชั่นได้มหาลัยป.ตรีเลย สิ่งที่เรียนมา มันส่งผลแล้ว 55555 เราดีใจมากค่ะ หลังจากปรึกษาผู้สนับสนุนหลักทางด้านการเงินของเราแล้ว เราเลยเลือกเรียนที่นี่ค่ะ แล้วก็ดำเนินการจ่ายค่ามัดจำค่าเรียนแล้วหาหอพัก ตลอดจนขั้นตอนการทำวีซ่า พี่ๆดูแลดี ไม่เคยที่จะไลน์ไปแล้วไม่ตอบ โทรไปหาแล้วเหมือนไม่อยากคุย เรานี่คุยไลน์กันจนเหมือนจะเป็นเพื่อนรู่นพี่กันอยู่แล้วค่ะ 555555
เราก็อยากฝากบอกทุกคนน้า ว่ามันไม่ยากเกินไปที่เราจะเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยดีๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น TOP University in UK เราทำได้ ทุกคนก็ต้องทำได้ค่ะ สู้ๆนะค้า ใช้เวลาหนึ่งปีให้คุ้มค่าและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด อยากรู้ข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลัง ถามเราได้เลยค่ะ เรายินดีให้ความรู้กับทุกคนเลยน้า จะถามข้างหน้าตรงนี้ หรือจะหลังไมค์ก็ได้หมดเลยค่า
ยาวไปแล้วววกระทู้แรกของเรา 55555 แต่มันมีประโยชน์น้า อิอิ บายค่ะทุกคน
แชร์ประสบการณ์ เกรดน้อย ก็ต่อโท UK Top University (Top U) ที่อังกฤษได้...
จริงๆ แล้ว เราตั้งใจตั้งแต่จะเรียนจบแล้วว่า เราอยากต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ เพราะมองว่าระบบการศึกษาของที่ประเทศอังกฤษเค้าเน้นการช่วยเหลือตัวเอง และรับผิดชอบตัวเอง อาจารย์จะไม่ได้มาป้อนความรู้ใส่เรา แต่เป็นเราที่ต้องขวนขวายหาความรู้เพื่ออัพเดตให้ทันสถานการณ์ต่างๆตลอดเวลา
ตอนที่เราอยากจะไปต่อต่างประเทศ ประเทศอังกฤษไม่ใช่ประเทศเดียวที่เรามองหานะคะ เรายังมองมหาวิทยาลัยและคอร์สเรียนที่ประเทศอเมริกา และใกล้ๆบ้านเราอย่างออสเตรเลียด้วย แต่ปัญหาติดอยู่อย่างเดียวคือ เกรดเราน้อยมาก ไม่มีทางเข้ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาได้แน่นอน และอีกเหตุผลคือ อยากเรียนแค่ปีเดียวจบ (กลัวไฟความขยัน และความตั้งใจมันจะหมดก่อนเรียนจบ 55555)
หลังจากที่เราเลือกประเทศได้แล้ว เราก็เริ่มหาข้อมูลเลยค่ะ จะเรียนที่ไหนดี เมืองไหน เรียนหลักสูตรอะไรของมหาลัยไหนดัง คือเรื่องคอร์สที่อยากเรียนเราคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ตัวเราจบวิศวะมา เราก็อยากเรียนสายบริหารต่อ เพื่อเอามาปรับใช้เข้าด้วยกัน เราจะได้มีหลายมุมมองเวลาทำงานจริง แต่ๆๆๆ ปัญหาไม่ได้มีแค่นี้ค่ะ ประเด็นคือ แค่พอเราเริ่มหาข้อมูลว่าอยากเรียนที่ไหน มันก็ขึ้นมาเยอะมาก จนงงไปหมดเลยว่า เราต้องกดเข้าตรงไหน หรือเราจะต้องเริ่มที่ตรงไหนก่อน อย่างเช่น เราอยากดู ranking มหาวิทยาลัยในอังกฤษที่เด่นด้านบริหาร เราก็เข้าไปดูจากหลายเว็บค่ะ แต่โพลที่ออกมาคือ ไม่ตรงกันเลย (สรุปมันวัดจากอะไรกันแน่ = =’) เราเลยตัดสินใจ เปลี่ยนคำที่ใช้ในการค้นหา จากมหาลัยที่อยากเรียนต่อ เป็นแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศค่ะ
ตัวเราเอง เราก็หาข้อมูลไปเองอยู่แล้ว ว่าเราอยากเข้าที่ไหน แต่เราไม่ได้รู้เลยว่า เกรดเราสามารถเข้าที่นั่นได้รึเปล่า เพราะว่ากว่าจะหารายละเอียดเจอมันซับซ้อน แล้วยังต้องเข้าไปตามหน้าเว็บมหาลัยอีก เราเลยตัดสินใจใช้บริการเอเจนซี่ค่ะ (ฟรีนะ ไม่เสียตังเลยด้วย ไม่ต้องทำอะไรเองเลยค่ะ 55555) พอเราไปเจอพวกพี่ๆ เค้า พี่เค้าก็ขอดูลิสต์มหาลัยที่เราเลือกไป เหมือนที่คิดเป๊ะเลยค่ะเพื่อนๆ เค้ารับเกรด 3.0 เราเข้าไม่ได้แน่นอน โอเค ตัดทิ้งค่ะ ตอนแรกเราก็ดื้อนะว่ามันต้องมีวิธีอื่นสิที่จะมาทำให้เราดูดีเท่าคนอื่นที่เกรดสูงๆ.. มีมั้ย ตอบเลยว่ามีค่ะ แต่ว่ามันก็เป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้น เพราะสิ่งที่เค้าต้องมองเป็นอันดับแรกคือเกรดของเราที่เป็นตัวชี้วัดค่ะ
พี่ๆเค้าบอกเรามาด้วยว่า เข้าได้หรือไม่ได้ ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเข้าไปแล้ว เรียนไม่ได้ เรียนไม่ไหว มันเกินตัวเรา แล้วส่งผลในตอนสุดท้ายว่าเราเรียนไม่จบทำยังไง ถึงตรงนี้เครียดเลยค่ะ ไม่เคยคิดถึงจุดนี้มาก่อนเลย เราเลยยอมรับฟังข้อเสนอพี่เค้าว่าให้มองมหาวิทยาลัยในระดับที่เราเข้าได้ เราเลยมาเจอ ที่นี่ค่ะ University of East Anglia หรือ UEA มหาวิทยาลัยนี้ บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ไม่ติดหูเหมือนพวก University of Liverpool หรือ University of Reading แต่ถ้าคนที่อยู่ในแวดวงนี้จะรู้เลยค่ะว่ามหาวิทยาลัยนี้ดังมากด้านบริหาร แล้วยังอยู่ในเมืองที่ไม่ไกลลอนดอนจนเกินไป พอเราหาข้อมูลเพิ่มเติมด้านคอร์สเรียน ด้านสภาพแวดล้อม เราตัดสินใจได้ทันทีเลยค่ะ อยากลองสมัครที่นี่แน่นอนนนน
แต่กว่าจะสมัครได้ เราต้องมีเอกสารจากมหาลัยครบก่อนนะคะ แล้วที่สำคัญคือ SOP เพื่อโน้มน้าวจิตใจกรรมการว่าทำไมเค้าต้องเลือกเรา 55555 ตอนนั้นเข้ากูเกิ้ลเลยค่ะ how to ต่างๆนาๆ เขียนยังไงให้ top u รับ หรือจะเป็นหัวข้อที่ควรมีใน SOP คือพยายามมากค่ะ เอาวะ เค้าต้องอ่านแล้วเค้าต้องพิจารณาเราแน่นอน พอเราเขียนเสร็จแล้วจนเราพอใจ เราเลยส่งเมล์ไปให้พี่ๆ เอเจนซี่ช่วยตรวจค่ะ พี่ๆช่วยเหลือเราดีมากกกกก (กอไก่ล้านตัว) อ่านและแก้ไขแกรมม่าที่อ่อนด้อยของเรา 55555 แล้วพี่เค้าอ่านจริงๆนะ จุดเล็กจุดน้อยพี่เค้าเห็นหมด จนในที่สุดเราก็เตรียมเอกสารพร้อมสมัครค่ะ พี่ใจดีมากด้วย ให้โอกาสเราได้ลองสมัครมหาลัยที่เราอยากได้ในตอนแรก เพราะว่าก็ไม่เสียหายอะไร ที่จะสมัคร (แต่ผลที่ออกมาทุกคนก็คงรู้กันนะ 55555)
สุดท้ายยยยย เราได้ offer จาก UEA ค่า ดีใจมากกก คือตอนนั้นมันเหมือนเราแอดมิทชั่นได้มหาลัยป.ตรีเลย สิ่งที่เรียนมา มันส่งผลแล้ว 55555 เราดีใจมากค่ะ หลังจากปรึกษาผู้สนับสนุนหลักทางด้านการเงินของเราแล้ว เราเลยเลือกเรียนที่นี่ค่ะ แล้วก็ดำเนินการจ่ายค่ามัดจำค่าเรียนแล้วหาหอพัก ตลอดจนขั้นตอนการทำวีซ่า พี่ๆดูแลดี ไม่เคยที่จะไลน์ไปแล้วไม่ตอบ โทรไปหาแล้วเหมือนไม่อยากคุย เรานี่คุยไลน์กันจนเหมือนจะเป็นเพื่อนรู่นพี่กันอยู่แล้วค่ะ 555555
เราก็อยากฝากบอกทุกคนน้า ว่ามันไม่ยากเกินไปที่เราจะเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยดีๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น TOP University in UK เราทำได้ ทุกคนก็ต้องทำได้ค่ะ สู้ๆนะค้า ใช้เวลาหนึ่งปีให้คุ้มค่าและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด อยากรู้ข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลัง ถามเราได้เลยค่ะ เรายินดีให้ความรู้กับทุกคนเลยน้า จะถามข้างหน้าตรงนี้ หรือจะหลังไมค์ก็ได้หมดเลยค่า
ยาวไปแล้วววกระทู้แรกของเรา 55555 แต่มันมีประโยชน์น้า อิอิ บายค่ะทุกคน