มาเริ่มจากตีนเขาเขาก่อนเลยละกัน เราขึ้น Bana Hills โดยการนั่ง  Cable car ขึ้นนะฮะ ระหว่างทางขึ้นก็ผ่านน้ำตก ผ่านก้อนเมฆขึ้นไป


นั่งไปได้ 15 นาทีก็จะถึงยอดเขาที่เป็นที่พักและสวนสนุกที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเลียนแบบสิ่งปลูกสร้างสไตล์ยุโรปนะฮะ


วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ ลงจากกระเช้าก็เจอนักท่องเที่ยวเพียบเลย บรรยากาศจ๊อกแจ๊กจอแจน่าเวียนหัว


มาถึงก็เกือบบ่ายสาม หาของกินมื้อกลางวันกันก่อน นี่ขนาดบ่ายสามแล้วนะ ถ้ามาหาของกินตรงมื้อตอนเที่ยงพอดีนี่จะวุ่นวายขนาดไหน เราก็เดินๆหาร้านกินข้าว มีให้เลือกอยู่ 4-5 ร้านได้ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่อาหารเวียดนามนะฮะ แหม... บรรยากาศยุโรปจะให้นั่งกินเฝอได้ไงฮะ


กินข้าวเสร็จแล้วก็เดินเล่นย่อยอาหารกันหน่อย อาคารที่สร้างขึ้นมาใน French Village บางส่วนจะเป็นร้านอาหาร บางส่วนเป็นสปา ( ไม่แน่ใจว่าเปิดบริการรึยัง ) บางส่วนเป็นสระว่ายน้ำในร่ม เป็นร้านเบเกอรี่ เป็นที่พัก และบางส่วนก็ยังไม่เปิดใช้งาน รูปแบบสถาปัตยกรรมก็ลอกแบบมาจากเมืองเก่าในยุโรปนั่นแหล่ะ เดินๆไปก็มี Piazza เดินต่อไปอีกหน่อยก็มี Duomo งั้นๆแหล่ะเนอะ แถวฟอเร้นซ์ก็มี


เดินๆอยู่จากฟ้าใสๆก็มีหมอกลอยมา อันที่จริงมันเป็นก้อนเมฆหน่ะ แหม... แบบนี้ดอยปุยก็มี ทำมะด๊า...


ทีนี้เราจะนั่งกระเช้าลงไปหน่อยนึง ไปดูสวนดอกไม้และวัด Linh Ung ซึ่งจะอยู่ด้านล่างเยื้องไปทางขวามือถ้าเราหันหลังให้ French Village นะ


สวนดอกไม้ไม่ใหญ่เท่าไหร่อ่ะ สวนหลวง ร.9 ก็แทนได้.... มีลาเวนเดอร์นิดหน่อย มีทะเลหมอก.... ดอยอินทนนท์บ้านเราก็มี๊ งั้นๆแหล๊ะ


แล้วก็เดินชมวิวไปทางวัด Linh Ung จะเห็นตัวโรงแรม Debay Hotel ตั้งอยู่บนเนินกลางทะเลหมอก..... เออ มันก็สวยดีอ่ะนะ


เริ่มจะเย็นละ เราก็กลับขึ้นมาด้านบน French Village ดีกว่า นักท่องเที่ยวเริ่มกลับบ้าน จะเหลือแต่พวกที่พักบนนี้ เริ่มถ่ายรูปวิวได้แบบคนไม่พลุกพล่าน บรรยากาศ Vanilla Sky ซะด้วย.... เออ เริ่มไม่ธรรมดา สวยดีอ่ะ


เดินเล่นเสร็จก็ไปกินข้าวเย็น ที่นี่ตอนเย็นจะเหลือร้านอาหาร 3 - 4 ร้าน ตัวเลือกมีไม่มาก มีร้านอาหารเวียดนามแค่ร้านเดียวมั้ง อยู่บนสถานนีเคเบิ้ลคาร์อันกลาง คือที่นี่จะมีเคเบิ้ลคาร์ทั้งหมด 3 ไลน์ ไว้มาอธิบายทีหลังละกัน
ผมคิดว่าข้ามเรื่องมื้อเย็นไปเลยดีกว่า มาต่อที่ตอนเช้าวันกลับดีกว่า
มื้อเช้าของ Mercure Danang French Village ซึ่งให้คะแนนตัวเอง 4 ดาว ผมว่าต่ำกว่ามาตราฐานนิดนึง ห้องอาหารใหญ่ แต่คนที่เข้าพักเยอะกว่ามาก อาหารขาดตอน ไม่มีคนมาเติมกาแฟในเครื่องชงกาแฟ แถมด้วยเรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่สนเรื่องการเข้าคิว อันนี้ผมมองข้ามๆมันไปอ่ะนะ ไปเจอที่สนามบินดานังตอนกลับนี่หนักกว่าตอนกินข้าวเช้าเยอะ แต่แนะนำว่าเวลาไปเที่ยวอ่ะ ควรทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง มันไม่มีอะไรมาทำลายความสุขเราได้หรอก คิดไว้งี้... อ่ะ ไปดูรูปกันต่อ....
เช้ามาเราเดินไปด้านหลังของ French Village จะมีทางไปวัดจีนซึ่งผมไม่รู้ชื่อวัดจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษมาด้วย ขอโตดนะ ดูรูประหว่างทางเดินขึ้นไปวัดไปก่อนละกัน ก็จะมีวิวที่มองลงมาเห็น French Village ด้วยนะเออ


ระหว่างทางขึ้นไปที่วัดจะมีร้านขายชาอยู่ บรรยากาศดีเลยฮะ แวะเห๊อะ

ลงมาถ่ายรูปอีกนิดหน่อย แดดร้อนอ่ะ เตรียมตัวกลับละ เพราะต้องไปให้ถึงสนามบินให้ทันไฟลท์บ่ายครึ่ง

เราใช้เวลาหนึ่งคืนอยู่บน Bana Hills French Village .... เดินเล่นเรื่อยเปื่อย โดยมีสิ่งนึงที่ไม่ได้ทำ คือการเดินไปดูเครื่องเล่นในสวนสนุก เลยไม่รู้เลยว่ามันมีอะไรให้เล่นบ้าง เห็นคนเคยมาเค้าว่ามันเฉยๆ จิงป่าว ถถถถถ+ .... เอาเป็นว่าถ้าใครได้มา Bana Hills ก็ช่วยมารีวิวส่วนที่เป็นสวนสนุกให้ดูหน่อยนะ อยากเห็น
บั๊ยบาย Bana Hills แล้วจะมาใหม่น้าาาาาา (( เสียงก้อง )) หรอออออออ?
ปล. แล้วจะมาลงรายละเอียดการเดินทางให้นะ ถ้าไม่ลืมอ่ะ