Day 7 : 30/01/17 ทะเลสาบไบคาล ในตำนานที่ต้องมา
Irkutsk, Listvyanka, Baikal Lake, Russia
6 โมงเช้า ป้าพนักงานเคาะประตู เปิดไฟ บอกให้พวกเราเตรียมพร้อม และคืนอุปกรณ์ทำงานแกด้วยคือชุดผ้าปู ปลอกหมอน ปลอกผ้าห่มอ่ะ ทั้งๆที่รถไฟอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะถึงปลายทาง
7.20 น. ถึงสถานีรถไฟปลายทางเมือง Irkutsk (เอียคุทสค์) รัสเซีย โผล่หน้าออกมาจากรถไฟ... หนาวเข้ากระดูกเช่นเคย เดินเข้าสถานีเพื่อหาที่ซื้อตั๋วรถไฟสำหรับไป Moscow ล่วงหน้า ถามใครก็ไม่พูดภาษาอังกฤษ ขนาดตำรวจยังไม่พูดเลย จึงต้องใช้สูตรเดิมคือภาษาใบ้ค่ะ ไปที่ประตู
Entrance 1 (long distance train) พอตอนจะซื้อตั๋วก็ลำบากอีกเพราะป้าแกเล่นเซย์ No อย่างเดียว โชคดีที่พนักงานช่องสุดท้ายพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย (ประมาณ 1%) แต่น่ารักตรงที่พยายามช่วยพวกเราสุดฤทธิ์ ถามอังกฤษ ตอบรัสเซีย วาดรูป ชี้โบ้ชี้เบ้ ในที่สุดก็ได้ตั๋วไป Moscow 11,220 รูเบิล จะซื้อตั๋วต้องถามดีๆนะคะว่าเป็นเวลาท้องถิ่น หรือ มอสโก เพราะประเทศรัสเซียมี time zoning เวลาต่างกันนะจ๊ะ เดี๋ยวตกขบวนแล้วแย่เลย
ซื้อตั๋วเสร็จถามทางไปเมือง Listvyanka (ลิสท์เวียงก้า) เอาสิ ใบ้กันอีกรอบ ไปได้ 2 แบบ
-นั่งรถ Tram 15 รูเบิล หน้า Main entrance ของสถานีรถไฟไปลงที่ Central market นั่งรถมินิบัส (van) 120 รูเบิล ยาวสุดปลายทางเลยจ้า
-แท็กซี่ จอดเรียงเต็มไปหมด ราคาประมาณ 2,000 รูเบิล ถามหลายๆคันก่อนนะ
สรุปพวกเราเลือกแท็กซี่ ต่อราคาเหลือ 1,800 รูเบิล แท็กซี่หนุ่มเฟี้ยวมาก! รถเก่า กระจกร้าว ขับรถเร็ว สูบบุหรี่ ติดไฟแดงทีก็เปิดรูปมีดในมือถือขายของให้ตรูอีก เอ๊ะ!รึว่าขู่ว่ามีมีดวะ ไม่กลัว น้องๆเป็นตำรวจ (ช่วยได้มั้ยเนี่ย 555+)
8.30 น. พาไปทางไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ข้ามสะพาน ผ่านเมือง รถติด ท่อไอเสียควันโขมง มลพิษอากาศทุกคัน ออกนอกเมือง เป็นป่าสลับหมู่บ้านไปตลอดทาง เฮียแกแวะเติมน้ำมัน+ซื้อบุหรี่ ด้วย เอากะเค้าสิ สุดๆละ เต็มที่เลยเฮียไหนๆก็เหมาจ่ายละ ระยะทางประมาณ 60 กม. ที่รู้เพราะมี app สามารถดูแผนที่ตอน offline ได้ มันดีงามตรงนี้แหละ ถ้ามีงบจำกัดไม่แนะนำให้นั่งแท็กซี่นะคะเพราะถึงแม้จะต่อราคาได้ 1,800 รูเบิลเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย แต่การเดินทางด้วยรถ tram ต่อรถมินิบัสก็ไม่ได้ยุ่งยากลำบากอะไร ราคารวม 4 คนก็ไม่ถึง 1,000 รูเบิลด้วยค่ะ
ถึง Belka Hostel เลขที่ 77 A เวลา 10.25 น. ประตูรั้วบ้านไม้ทุกหลังปิดเงียบ นี่มาถูกที่รึเปล่าวะ กดออดเรียกอยู่นาน สักพักประตูเปิดอัตโนมัติแต่ไม่มีคนมาต้อนรับ จึงต้องเดาๆเดินตามรอยเท้าคราบหิมะไปที่เรือนกลางซึ่งเป็นหลังใหญ่สุด เคาะประตูเรียกตั้งนานกว่าเจ้าของจะมาเปิดประตูให้ พวกเรามาถึงก่อนเวลา นั่งรอ check in สักพักใหญ่ๆ พวกเราได้ห้องนอนรวม 4 เตียงห้องใต้หลังคา ราคา 2,440 รูเบิล (คนละ 610 รูเบิลต่อคืน) บรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่มาก เสียอย่างเดียวไม่มี WIFI เป็นบ้านไม้โอ๊คสีน้ำตาล 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้อง check in และมีคนเช่าอยู่อีก 1 ห้อง ส่วนชั้นบน มี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องส้วม และ ห้องครัว
ป้าเจนเจ้าของ hostel อัธยาศัยดี พูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ แนะนำที่เที่ยวแถบๆนี้ จริงๆพวกเราอยากนั่งเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกไปที่เกาะ Okhorn island (เกาะโอลขอน) แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ไม่เป็นไร ตัดออก เที่ยวเท่าที่ได้
เดินจาก hostel ออกมาหน้าปากซอยประมาณ 1 กม. ทั้งหนาวทั้งลื่นหิมะ เลี้ยวขวาเดินมาสักพักมีร้านอาหาร Listvyanka club ตรงดิ่งเข้าไปกินข้าวเลย อาหารแพงทุกจาน ราคานักท่องเที่ยว มีดีที่ร้านสวย รับฝากกระเป๋าเดินทาง และฟรี wifi
พวกเราสั่ง ปลาโอมุล (Omul) ย่าง ไก่ราดข้าว สปาเกตตี และ pork chop และขนมเค้ก 2 ชิ้น โดนไป 2,150 รูเบิล จิเป็นลม แพงแท้! กินแบบพออยู่ท้อง ไม่ค่อยอิ่ม
เมือง Listvyanka ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำ เป็นต้นน้ำของแม่น้ำอังการา Angara river ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเดียวที่ไหลออกจากทะเลสาบไบคาลค่ะ (Baikal Lake) อยู่ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก โดยจุดที่ลึกที่สุดคือ 1,640 เมตร มีความยาว 650 กิโลเมตร (ประมาณเดินทางจาก กทม.-เชียงใหม่อ่ะค่ะ) กว้าง 50 กิโลเมตร พื้นที่รวม 31,722 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุด แต่ไม่ได้ใหญ่ที่สุดในโลกนะคะ (รองจากทะเลสาบแคสเปี้ยนค่ะ) เกิดจากแม่น้ำกว่า 330 สาย ไหลเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยแตกของเปลือกโลกเมื่อ 25 ล้านปีก่อน แม่เจ้า! แต่ผันออกแค่แม่น้ำอังการาเพียงสายเดียวนะคะ ที่สำคัญยังเป็นที่เก็บกักน้ำจืด 20% ของน้ำจืดบนโลกใบนี้ ด้วยเหตุนี้ บริเวณนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์ มีระบบนิเวศวิทยาที่สวยงาม น่าหลงใหล โดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกเมื่อปี 1996 (พ.ศ. 2539) ในฤดูหนาว (ซึ่งก็คือ ณ. ตอนนี้) ทะเลสาบทั้งผืนกลายเป็นน้ำแข็งจับตัวกันเป็นก้อน ลวดลาย สีสันสวยงามตามธรรมชาติบรรจงประดิษฐ์น่าพิศมัยยิ่งนัก ใครๆก็ต้องมาชื่นชมความงามด้วยสายตาตนเองค่ะ ภาพ และ บรรยายอย่างไรก็ไม่เท่ากับได้มาเห็นกับตาตนเอง
เดินลัดเลาะบริเวณนี้คืออ่าว Bay Listvennichny อุณหภูมิ -29 องศา น้ำในทะเลสาบฤดูนี้จับตัวกันเป็นน้ำแข็งสามารถเดินบนทะเลสาบหรือเล่น ice skate รวมถึงเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแล่นบนน้ำแข็งได้เลย
เดินไปน้ำมูกไหลไปไม่หยุด หนาวจับใจแต่อยากได้บรรยากาศและภาพสวยๆ เดินกันแบบงงๆมึนๆๆ ไปทางแม่น้ำอังการา ระหว่างทางที่ผ่านเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรแวะเป็นจุด Landmark อาทิ
-ร้านขายของฝาก เข้าไปรับไออุ่นและดูสินค้าแป๊บนึง
-Baikal Museum พิพิธภัณฑ์ทะเลสาบเพียงแห่งเดียวในรัสเซีย สร้างขึ้นปี 1993
-ทางแยกเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวเชอร์สกี้ (Cherskiy Stone) ซึ่งตั้งชื่อตามนักวิจัยที่เข้ามาศึกษาที่นี่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ถ้าใครมาต้องขึ้นไปชมวิวบนยอดเขานี้ให้ได้นะคะ เพราะจะสามารถเห็นทิวทัศน์ทะเลสาบไบคาลแบบพานอรามาสุดลูกหูลูกตาสลับกับเทือกเขาสวยๆลูกโตๆอย่างกับภาพวาดเลยค่ะ
พวกเราเอาไงดี ได้แต่มองแผนที่ตาปริบๆ เดินต่อไปละกัน เรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย ตรงไหนสวยก็แวะถ่ายรูปละกัน....
-Monument to Alexander Vampilov ตรงหัวโค้งมีแท่งๆคล้ายอนุสรณ์สถานหินสลัก เข้าไปอ่านป้ายชื่อใกล้ๆ ปรากฎว่าที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานของ Alexander Vampilov นักเขียนชื่อดังชาวรัสเซีย ซึ่งจมน้ำในบริเวณนี้ในปี 1972 ขณะที่กำลังตกปลาค่ะ ทางการเค้าจึงได้สร้างอนุสรณ์สถานนี้ไว้
มองไปทางขวาของทะเลสาบ บริเวณที่แม่น้ำแยกตัวโค้งออกไปจากทะเลสาบไบคาลคือ แม่น้ำอังการา ตรงกลางแม่น้ำมีหินชาแมนร็อค (Shaman Rocks) ซึ่งมีตำนานว่าเป็นหินที่เทพเจ้าไบคาลใช้เพื่อที่จะพยายามหยุดลูกสาวที่ชื่ออังการา ไม่ให้หนีออกไปจากทะเลสาบ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานได้ แม่น้ำอังการาจึงไหลออกจากทะเลสาบไบคาลไงคะ ตอนแรกที่น้องๆบอกว่านี่ๆไงชาแมนร็อค... เอิ่ม เราก็อะไรวะไม่รู้จัก ไม่รู้เรื่อง แต่พอมาทราบตำนานว่าเป็นหินโบราณศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ต้องแชะภาพไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย
เสียดายที่ไม่ได้ไปเกาะ Okhorn island (เกาะโอลขอน) ติดอันดับ 1 ใน 9 สถานที่ลี้ลับมหัศจรรย์ของเอเชีย ที่เกาะนี้มีหมู่บ้านชนเผ่าดั้งเดิมและชาวบูร์ยัต ที่นับถือ ชาแมนร็อคหรือศิลาอาถรรพ์ ตั้งอยู่บนแหลมยื่นออกไปในทะเลสาบ มีถ้ำเล็กๆ ภาพเขียนอักษรสันสกฤต บนยอดศิลามีลักษณะเป็นรอยหยักแหลมๆ พวกเขาเชื่อว่า เกาะเป็นสถานที่ที่มีจิตวิญญานต่างๆสิงสถิตย์อยู่ ซึ่งเทพเจ้าที่พวกเขานับถือมีทั้งสิ้น 13 เทพเจ้าที่ดูแลเกาะโอขอนนั่นเอง ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ ไม่งั้นจะเสียใจฝุดๆเหมือนพวกเรานะคร้า
ยอมแพ้กับความหนาวเย็นอย่างไม่ปราณี พวกเราโบกแท็กซี่หน้า Baikal museum bus stop (รอรถมินิบัสก็ได้นะแต่ถ้าจะนานค่ะ) ไปที่ fish market 150 รูเบิล
Fish market หรือตลาดปลาพื้นเมืองท้องถิ่นบ้านๆ เดินเข้ามาเป็นซุ้มๆไม้ขายปลาย่าง หมูย่าง อาหารต่างๆ ของที่ระลึก พ่อค้าแม่ค้าตะโกนโหวกเหวกขายของ พอเห็นหัวดำหน้าเอเชียปุ๊บก็ หนีห่าว เลยทันที ประมาณว่านักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเยอะ แถมพูดจีนแบบน้ำไหลไฟดับได้เลย ที่รู้เพราะเพื่อนๆก็พูดจีนกับพ่อค้าแม่ค้าด้วย เก๋มั้ยล่ะ เค้าไม่พูดภาษาอังกฤษนะ กรูยืนงงแดรกอยู่คนเดียว
ปลา Omul (โอมุล) ปลาเศรษฐกิจขึ้นชื่อ มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวในโลก ถ้าอยากกินต้องมาลิ้มลองกันเองนะคะ รสชาติจืดๆแต่เมื่อใส่ซอส โรยเกลือและปิ้งขายไม้ละ 100 รูเบิล บวกกับอากาศหนาวสุดขั้วนี่มันช่างอร่อยสุดยอดยิ่งนัก ไม่อิ่มกันใช่มั้ย แวะร้านอาหารในตลาดนี้แหละ สั่งหมูปิ้ง 250 รูเบิล 2 ไม้ +ข้าวผัด รวม 650 รูเบิล
กินเสร็จ เดินเล่น นอน เกลือกกลิ้ง ถ่ายรูปกันบนน้ำแข็งของทะเลสาบไบคาล ความมหัศจรรย์ของธรรมชาตินี่มันน่าทึ่งจริงๆ ลวดลายรอยแตกร้าวของน้ำแข็งเป็นชั้นๆแล้วแต่ใครจะจินตนาการว่าเป็นอะไร แต่โดยรวมแล้วสวย+สยองมากๆ 555+ กลัวจะตกลงไปในน้ำแข็งไง รีบถ่ายรูปรัวๆๆๆๆๆๆๆ รีบกลับขึ้นมาบนฝั่งเพราะทั้งหนาว ทั้งลม
ถ้าอยู่จากแผนที่ The nerpa seal zoo อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ เนอร์ปา(Nerpa)เป็นภาษาท้องถิ่นแปลว่าแมวน้ำ (Seal) อาหารหลักของมันคือ Golomyanka เป็นปลาตัวเล็กๆมีไขมันมากกว่าครึ่งตัวซึ่งสามารถใช้ชีวิตอยู่ในอุณหภูมิเยือกแข็งแบบนี้ได้สบายๆ ตัดโปรแกรมนี้ออกค่ะ ตะวันใกล้ตกดินละ
รอบๆบริเวณของถนนทั้งสองฝั่ง มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกสลับกันไป โรงแรมที่ตั้งเด่นเป็นสง่า สีสันฉูดฉาดต้องยกให้ Mayak hotel ตั้งตระหง่านรูปทรงโค้งมนหน้าทะเลสาบ
นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้า แวะซื้อของกินที่ Shopping market รวม 715+480+125.38 รูเบิล จัดไวน์แดงมา 2 ขวด (ขวดละ 240 รูเบิล) ถูกมาก เดินหอบเสบียงกลับมาที่พัก กินข้าวเมาท์ดัง และแยกย้ายกันนอนหลับเป็นตาย!
นั่งรถไฟสายทรานไซบีเรีย จีน มองโกเลีย รัสเซีย (วันที่7: ทะเลสาบไบคาล)
Irkutsk, Listvyanka, Baikal Lake, Russia
6 โมงเช้า ป้าพนักงานเคาะประตู เปิดไฟ บอกให้พวกเราเตรียมพร้อม และคืนอุปกรณ์ทำงานแกด้วยคือชุดผ้าปู ปลอกหมอน ปลอกผ้าห่มอ่ะ ทั้งๆที่รถไฟอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะถึงปลายทาง
7.20 น. ถึงสถานีรถไฟปลายทางเมือง Irkutsk (เอียคุทสค์) รัสเซีย โผล่หน้าออกมาจากรถไฟ... หนาวเข้ากระดูกเช่นเคย เดินเข้าสถานีเพื่อหาที่ซื้อตั๋วรถไฟสำหรับไป Moscow ล่วงหน้า ถามใครก็ไม่พูดภาษาอังกฤษ ขนาดตำรวจยังไม่พูดเลย จึงต้องใช้สูตรเดิมคือภาษาใบ้ค่ะ ไปที่ประตู
Entrance 1 (long distance train) พอตอนจะซื้อตั๋วก็ลำบากอีกเพราะป้าแกเล่นเซย์ No อย่างเดียว โชคดีที่พนักงานช่องสุดท้ายพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย (ประมาณ 1%) แต่น่ารักตรงที่พยายามช่วยพวกเราสุดฤทธิ์ ถามอังกฤษ ตอบรัสเซีย วาดรูป ชี้โบ้ชี้เบ้ ในที่สุดก็ได้ตั๋วไป Moscow 11,220 รูเบิล จะซื้อตั๋วต้องถามดีๆนะคะว่าเป็นเวลาท้องถิ่น หรือ มอสโก เพราะประเทศรัสเซียมี time zoning เวลาต่างกันนะจ๊ะ เดี๋ยวตกขบวนแล้วแย่เลย
ซื้อตั๋วเสร็จถามทางไปเมือง Listvyanka (ลิสท์เวียงก้า) เอาสิ ใบ้กันอีกรอบ ไปได้ 2 แบบ
-นั่งรถ Tram 15 รูเบิล หน้า Main entrance ของสถานีรถไฟไปลงที่ Central market นั่งรถมินิบัส (van) 120 รูเบิล ยาวสุดปลายทางเลยจ้า
-แท็กซี่ จอดเรียงเต็มไปหมด ราคาประมาณ 2,000 รูเบิล ถามหลายๆคันก่อนนะ
สรุปพวกเราเลือกแท็กซี่ ต่อราคาเหลือ 1,800 รูเบิล แท็กซี่หนุ่มเฟี้ยวมาก! รถเก่า กระจกร้าว ขับรถเร็ว สูบบุหรี่ ติดไฟแดงทีก็เปิดรูปมีดในมือถือขายของให้ตรูอีก เอ๊ะ!รึว่าขู่ว่ามีมีดวะ ไม่กลัว น้องๆเป็นตำรวจ (ช่วยได้มั้ยเนี่ย 555+)
8.30 น. พาไปทางไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ข้ามสะพาน ผ่านเมือง รถติด ท่อไอเสียควันโขมง มลพิษอากาศทุกคัน ออกนอกเมือง เป็นป่าสลับหมู่บ้านไปตลอดทาง เฮียแกแวะเติมน้ำมัน+ซื้อบุหรี่ ด้วย เอากะเค้าสิ สุดๆละ เต็มที่เลยเฮียไหนๆก็เหมาจ่ายละ ระยะทางประมาณ 60 กม. ที่รู้เพราะมี app สามารถดูแผนที่ตอน offline ได้ มันดีงามตรงนี้แหละ ถ้ามีงบจำกัดไม่แนะนำให้นั่งแท็กซี่นะคะเพราะถึงแม้จะต่อราคาได้ 1,800 รูเบิลเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย แต่การเดินทางด้วยรถ tram ต่อรถมินิบัสก็ไม่ได้ยุ่งยากลำบากอะไร ราคารวม 4 คนก็ไม่ถึง 1,000 รูเบิลด้วยค่ะ
ถึง Belka Hostel เลขที่ 77 A เวลา 10.25 น. ประตูรั้วบ้านไม้ทุกหลังปิดเงียบ นี่มาถูกที่รึเปล่าวะ กดออดเรียกอยู่นาน สักพักประตูเปิดอัตโนมัติแต่ไม่มีคนมาต้อนรับ จึงต้องเดาๆเดินตามรอยเท้าคราบหิมะไปที่เรือนกลางซึ่งเป็นหลังใหญ่สุด เคาะประตูเรียกตั้งนานกว่าเจ้าของจะมาเปิดประตูให้ พวกเรามาถึงก่อนเวลา นั่งรอ check in สักพักใหญ่ๆ พวกเราได้ห้องนอนรวม 4 เตียงห้องใต้หลังคา ราคา 2,440 รูเบิล (คนละ 610 รูเบิลต่อคืน) บรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่มาก เสียอย่างเดียวไม่มี WIFI เป็นบ้านไม้โอ๊คสีน้ำตาล 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้อง check in และมีคนเช่าอยู่อีก 1 ห้อง ส่วนชั้นบน มี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องส้วม และ ห้องครัว
ป้าเจนเจ้าของ hostel อัธยาศัยดี พูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ แนะนำที่เที่ยวแถบๆนี้ จริงๆพวกเราอยากนั่งเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกไปที่เกาะ Okhorn island (เกาะโอลขอน) แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ไม่เป็นไร ตัดออก เที่ยวเท่าที่ได้
เดินจาก hostel ออกมาหน้าปากซอยประมาณ 1 กม. ทั้งหนาวทั้งลื่นหิมะ เลี้ยวขวาเดินมาสักพักมีร้านอาหาร Listvyanka club ตรงดิ่งเข้าไปกินข้าวเลย อาหารแพงทุกจาน ราคานักท่องเที่ยว มีดีที่ร้านสวย รับฝากกระเป๋าเดินทาง และฟรี wifi
พวกเราสั่ง ปลาโอมุล (Omul) ย่าง ไก่ราดข้าว สปาเกตตี และ pork chop และขนมเค้ก 2 ชิ้น โดนไป 2,150 รูเบิล จิเป็นลม แพงแท้! กินแบบพออยู่ท้อง ไม่ค่อยอิ่ม
เมือง Listvyanka ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำ เป็นต้นน้ำของแม่น้ำอังการา Angara river ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเดียวที่ไหลออกจากทะเลสาบไบคาลค่ะ (Baikal Lake) อยู่ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก โดยจุดที่ลึกที่สุดคือ 1,640 เมตร มีความยาว 650 กิโลเมตร (ประมาณเดินทางจาก กทม.-เชียงใหม่อ่ะค่ะ) กว้าง 50 กิโลเมตร พื้นที่รวม 31,722 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุด แต่ไม่ได้ใหญ่ที่สุดในโลกนะคะ (รองจากทะเลสาบแคสเปี้ยนค่ะ) เกิดจากแม่น้ำกว่า 330 สาย ไหลเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยแตกของเปลือกโลกเมื่อ 25 ล้านปีก่อน แม่เจ้า! แต่ผันออกแค่แม่น้ำอังการาเพียงสายเดียวนะคะ ที่สำคัญยังเป็นที่เก็บกักน้ำจืด 20% ของน้ำจืดบนโลกใบนี้ ด้วยเหตุนี้ บริเวณนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์ มีระบบนิเวศวิทยาที่สวยงาม น่าหลงใหล โดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกเมื่อปี 1996 (พ.ศ. 2539) ในฤดูหนาว (ซึ่งก็คือ ณ. ตอนนี้) ทะเลสาบทั้งผืนกลายเป็นน้ำแข็งจับตัวกันเป็นก้อน ลวดลาย สีสันสวยงามตามธรรมชาติบรรจงประดิษฐ์น่าพิศมัยยิ่งนัก ใครๆก็ต้องมาชื่นชมความงามด้วยสายตาตนเองค่ะ ภาพ และ บรรยายอย่างไรก็ไม่เท่ากับได้มาเห็นกับตาตนเอง
เดินลัดเลาะบริเวณนี้คืออ่าว Bay Listvennichny อุณหภูมิ -29 องศา น้ำในทะเลสาบฤดูนี้จับตัวกันเป็นน้ำแข็งสามารถเดินบนทะเลสาบหรือเล่น ice skate รวมถึงเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแล่นบนน้ำแข็งได้เลย
เดินไปน้ำมูกไหลไปไม่หยุด หนาวจับใจแต่อยากได้บรรยากาศและภาพสวยๆ เดินกันแบบงงๆมึนๆๆ ไปทางแม่น้ำอังการา ระหว่างทางที่ผ่านเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรแวะเป็นจุด Landmark อาทิ
-ร้านขายของฝาก เข้าไปรับไออุ่นและดูสินค้าแป๊บนึง
-Baikal Museum พิพิธภัณฑ์ทะเลสาบเพียงแห่งเดียวในรัสเซีย สร้างขึ้นปี 1993
-ทางแยกเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวเชอร์สกี้ (Cherskiy Stone) ซึ่งตั้งชื่อตามนักวิจัยที่เข้ามาศึกษาที่นี่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ถ้าใครมาต้องขึ้นไปชมวิวบนยอดเขานี้ให้ได้นะคะ เพราะจะสามารถเห็นทิวทัศน์ทะเลสาบไบคาลแบบพานอรามาสุดลูกหูลูกตาสลับกับเทือกเขาสวยๆลูกโตๆอย่างกับภาพวาดเลยค่ะ
พวกเราเอาไงดี ได้แต่มองแผนที่ตาปริบๆ เดินต่อไปละกัน เรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย ตรงไหนสวยก็แวะถ่ายรูปละกัน....
-Monument to Alexander Vampilov ตรงหัวโค้งมีแท่งๆคล้ายอนุสรณ์สถานหินสลัก เข้าไปอ่านป้ายชื่อใกล้ๆ ปรากฎว่าที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานของ Alexander Vampilov นักเขียนชื่อดังชาวรัสเซีย ซึ่งจมน้ำในบริเวณนี้ในปี 1972 ขณะที่กำลังตกปลาค่ะ ทางการเค้าจึงได้สร้างอนุสรณ์สถานนี้ไว้
มองไปทางขวาของทะเลสาบ บริเวณที่แม่น้ำแยกตัวโค้งออกไปจากทะเลสาบไบคาลคือ แม่น้ำอังการา ตรงกลางแม่น้ำมีหินชาแมนร็อค (Shaman Rocks) ซึ่งมีตำนานว่าเป็นหินที่เทพเจ้าไบคาลใช้เพื่อที่จะพยายามหยุดลูกสาวที่ชื่ออังการา ไม่ให้หนีออกไปจากทะเลสาบ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานได้ แม่น้ำอังการาจึงไหลออกจากทะเลสาบไบคาลไงคะ ตอนแรกที่น้องๆบอกว่านี่ๆไงชาแมนร็อค... เอิ่ม เราก็อะไรวะไม่รู้จัก ไม่รู้เรื่อง แต่พอมาทราบตำนานว่าเป็นหินโบราณศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ต้องแชะภาพไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย
เสียดายที่ไม่ได้ไปเกาะ Okhorn island (เกาะโอลขอน) ติดอันดับ 1 ใน 9 สถานที่ลี้ลับมหัศจรรย์ของเอเชีย ที่เกาะนี้มีหมู่บ้านชนเผ่าดั้งเดิมและชาวบูร์ยัต ที่นับถือ ชาแมนร็อคหรือศิลาอาถรรพ์ ตั้งอยู่บนแหลมยื่นออกไปในทะเลสาบ มีถ้ำเล็กๆ ภาพเขียนอักษรสันสกฤต บนยอดศิลามีลักษณะเป็นรอยหยักแหลมๆ พวกเขาเชื่อว่า เกาะเป็นสถานที่ที่มีจิตวิญญานต่างๆสิงสถิตย์อยู่ ซึ่งเทพเจ้าที่พวกเขานับถือมีทั้งสิ้น 13 เทพเจ้าที่ดูแลเกาะโอขอนนั่นเอง ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ ไม่งั้นจะเสียใจฝุดๆเหมือนพวกเรานะคร้า
ยอมแพ้กับความหนาวเย็นอย่างไม่ปราณี พวกเราโบกแท็กซี่หน้า Baikal museum bus stop (รอรถมินิบัสก็ได้นะแต่ถ้าจะนานค่ะ) ไปที่ fish market 150 รูเบิล
Fish market หรือตลาดปลาพื้นเมืองท้องถิ่นบ้านๆ เดินเข้ามาเป็นซุ้มๆไม้ขายปลาย่าง หมูย่าง อาหารต่างๆ ของที่ระลึก พ่อค้าแม่ค้าตะโกนโหวกเหวกขายของ พอเห็นหัวดำหน้าเอเชียปุ๊บก็ หนีห่าว เลยทันที ประมาณว่านักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเยอะ แถมพูดจีนแบบน้ำไหลไฟดับได้เลย ที่รู้เพราะเพื่อนๆก็พูดจีนกับพ่อค้าแม่ค้าด้วย เก๋มั้ยล่ะ เค้าไม่พูดภาษาอังกฤษนะ กรูยืนงงแดรกอยู่คนเดียว
ปลา Omul (โอมุล) ปลาเศรษฐกิจขึ้นชื่อ มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวในโลก ถ้าอยากกินต้องมาลิ้มลองกันเองนะคะ รสชาติจืดๆแต่เมื่อใส่ซอส โรยเกลือและปิ้งขายไม้ละ 100 รูเบิล บวกกับอากาศหนาวสุดขั้วนี่มันช่างอร่อยสุดยอดยิ่งนัก ไม่อิ่มกันใช่มั้ย แวะร้านอาหารในตลาดนี้แหละ สั่งหมูปิ้ง 250 รูเบิล 2 ไม้ +ข้าวผัด รวม 650 รูเบิล
กินเสร็จ เดินเล่น นอน เกลือกกลิ้ง ถ่ายรูปกันบนน้ำแข็งของทะเลสาบไบคาล ความมหัศจรรย์ของธรรมชาตินี่มันน่าทึ่งจริงๆ ลวดลายรอยแตกร้าวของน้ำแข็งเป็นชั้นๆแล้วแต่ใครจะจินตนาการว่าเป็นอะไร แต่โดยรวมแล้วสวย+สยองมากๆ 555+ กลัวจะตกลงไปในน้ำแข็งไง รีบถ่ายรูปรัวๆๆๆๆๆๆๆ รีบกลับขึ้นมาบนฝั่งเพราะทั้งหนาว ทั้งลม
ถ้าอยู่จากแผนที่ The nerpa seal zoo อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ เนอร์ปา(Nerpa)เป็นภาษาท้องถิ่นแปลว่าแมวน้ำ (Seal) อาหารหลักของมันคือ Golomyanka เป็นปลาตัวเล็กๆมีไขมันมากกว่าครึ่งตัวซึ่งสามารถใช้ชีวิตอยู่ในอุณหภูมิเยือกแข็งแบบนี้ได้สบายๆ ตัดโปรแกรมนี้ออกค่ะ ตะวันใกล้ตกดินละ
รอบๆบริเวณของถนนทั้งสองฝั่ง มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกสลับกันไป โรงแรมที่ตั้งเด่นเป็นสง่า สีสันฉูดฉาดต้องยกให้ Mayak hotel ตั้งตระหง่านรูปทรงโค้งมนหน้าทะเลสาบ
นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้า แวะซื้อของกินที่ Shopping market รวม 715+480+125.38 รูเบิล จัดไวน์แดงมา 2 ขวด (ขวดละ 240 รูเบิล) ถูกมาก เดินหอบเสบียงกลับมาที่พัก กินข้าวเมาท์ดัง และแยกย้ายกันนอนหลับเป็นตาย!