ใครเคยคบแฟนที่ต่างกันมากๆมั้ยคะ (ทั้งฐานะ ทั้งนิสัยใจคอ) แล้วไปกันได้กันถึงจุดไหนคะ

ตอนนี้เรารู้สึกสับสนว่าเราควรจะไปต่อ หรือว่าควรหยุดเอาไว้แค่นี้ดี

แบคกราวน์ของเราและแฟนนะคะ
เราอายุ 27 ปี ทำงานประจำมีเงินเดือนเฉลี่ยนเดือนละประมาณ 30,000 บาท พอกินพอใช้ มีเงินเก็บประมาณนึง อยากกินอะไรก็ได้กิน
ที่บ้านก็ไม่มีหนี้สินอะไร ใช้ชีวิตชิวๆ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรก็อยู่ได้อ่ะค่ะ

เรามีแฟนอายุ 25 ปี เรียนไม่จบปวส. เคยทำงานเป็นช่างฟรีแลนซ์อยู่พักนึง ซึ่งก็มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย จนกระทั่งมีหนี้ก้อนใหญ่ของที่บ้านเข้ามา เค้าต้องรับผิดชอบตรงนี้เองทำให้เงินที่ได้จากฟรีแลนซ์เริ่มไม่พอ (เพราะบางอาทิตย์ก็ไม่มีงานเข้ามาเลย แต่รายจ่ายที่มีมันต้องจ่ายอย่างคงที่ค่ะ) เราเลยแนะนำให้เค้าทำงานประจำ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ผ่านโปร จะได้เงินเดือนประมาณ 7,000 - 9,000 บาท แต่ถ้าผ่านโปรก็จะขยับได้ถึง 12,000 - 15,000 บาท
ซึ่งแฟนเราก็ผ่านไปได้อย่างยากลำบากในแต่ละเดือน ไม่กล้ามาเดทกับเราเพราะว่ากลัวตังค์ไม่พอกินข้าว
เราก็เลยชอบทำกับข้าวใส่กล่องฟรีซไว้ให้ พอเค้าแวะมาหาก็จะเอาอาหารที่ทำไว้ให้เค้าไว้ไปกินที่ทำงานได้เป็นอาทิตย์ๆ

และเดือนที่ผ่านมาแม่แฟนเราไม่มีเงินใช้ แฟนเราเลยเอาเงินให้หมด แล้วก็ไม่มีข้าวกิน เราเลยให้ยืมไปเกือบหนึ่งหมื่นบาทค่ะ เพื่อเอาไปซ่อมรถ เอาไปกินข้าว

แล้วเราก็มานั่งคิดว่าในอนาคตแล้วถ้าเค้าใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง คิดจะช่วยคนอื่น แต่ไม่คำนึงถึงชีวิตที่เหลือในเดือนนั้นๆ
ต่อไปสร้างครอบครัว เราจะลำบากกันหมดรึเปล่า เราจะกลายเป็นผู้นำครอบครัวเหรอ
ทำงานก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องมาเหนื่อยกับครอบครัวสามีอีกเหรอ
ยิ่งเวลาเค้าเครียดเรื่องเงิน บางครั้งเค้าก็ชอบตะคอกใส่เรา ซึ่งพอเค้าอารมณ์เย็น เค้าก็จะมาขอโทษเราทุกครั้ง

อีกจุดที่ทำให้เราคิดว่าเค้าจะดูแลเราได้รึเปล่า ก็คืออาทิตย์ที่ผ่านมาเราต้องผ่าตัดใหญ่ค่ะ ซึ่งเรากลัวมากๆ เค้าสัญญาว่าเค้าจะมาเยี่ยมเรา
แต่สุดท้ายก็ไม่มาค่ะ ทำให้แม่เราไม่ปลื้มเอามากๆ (ซึ่งก่อนหน้านี้แม่เราไม่ค่อยสบายใจที่แฟนเราจบไม่สูง เงินเดือนน้อยกว่าเราหลายเท่า มีรอยสักแล้วก็ยังไม่เคยมาเจอที่บ้านเราค่ะ แม่เราก็อยากให้คบคนที่เท่ากันกว่านี้ อันนี้ต่างกันเกินไป) ทีนี้เวลาจะคุยกันก็ต้องแอบคุย ไม่ให้แม่เห็นว่าคุยกัน เพราะแม่อยากให้เลิกกัน แม่บอกว่าเค้าดูแลเราไม่ได้
เพื่อนๆเราเองก็ไม่ชอบที่เค้าไม่รักษาสัญญาที่จะมาเจอเราบ่อยๆ ยิ่งไม่มาเยี่ยมเรา เพื่อนเราก็ไม่ชอบไปกันใหญ่

เราเองก็โกรธและเสียใจมากนะคะ แต่เราอยากลองให้โอกาสเค้าดูค่ะ ครั้งสุดท้าย ถ้าจากนี้เค้ายังเป็นแบบนี้อยู่เราทิ้งเค้าไปเราจะใจร้ายไปรึเปล่า
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น เรื่องเงินกับอย่างอื่นไม่ได้สำคัญกับเราเลย
แต่ความใส่ใจและการรักษาคำพูดสำคัญกว่า ซึ่งถ้าเค้ารักษามันไม่ได้ เราคงไม่มีเหตุผลที่จะรักเค้าต่อไปแล้ว

เราให้โอกาสเค้ามากไปรึเปล่าคะ มีคำแนะนำสำหรับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ ขอบคุณค่ะ

เพิ่มเติมเนื้อหากระทู้ค่ะ


ขอบพระคุณทุกความเห็นที่เข้ามาให้คำแนะนำที่มีคุณค่า ร่วมกับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละท่าน
เราตั้งใจอ่านทุกความเห็นจริงๆค่ะ

เรายังคงหงุดหงิดที่เค้าไม่มาเยี่ยม เลยทะเลาะกันอีกหลายทีค่ะ
เค้าบอกว่าเค้าต้องทำงาน กว่าจะเสร็จจ๊อบสองก็สี่ทุ่มกว่า ซึ่งมันเลยเวลาเยี่ยมแล้ว เค้าจะมาเยี่ยมเราอีกวัน แต่เราออกโรงบาลไปก่อน
ซึ่งตรงนี้เราก้ไม่พอใจนะ เพราะเค้าก็รู้ว่าเราเข้าโรงบาลวันไหน ก่อนจะไปทำจ๊อบสองเค้าสามารถมาหาเราก่อนได้
จนหลุดมาว่า กลัวที่จะต้องเจอแม่ของเราอ่ะค่ะ เราเลยไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

ตอนนี้เราคิดว่านี่คือเนื้อแท้ของเค้าแล้วค่ะ ที่ไม่รู้จักวางแผน และไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ เค้าแคร์เราน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เอาแต่บอกว่าจะเอาเราเป็นเป้าหมายชีวิต แต่ระหว่างที่เค้ากำลังเดินทางไปยังเป้าหมาย เค้าไม่ใส่ใจเรา นัดกันก็เทง่ายๆ
มีเวลาให้กับทุกๆอย่าง ให้เราเป็นลำดับท้ายๆ เพราะรู้ว่ายังไงเราก็ให้อภัย


ตอนนี้ยอมรับเลยว่าความรักที่มีมันลดลงไปมากหลังจากเราผ่าตัดและมาพักฟื้นที่บ้านค่ะ เรามองไปยังอนาคตข้างหน้าแล้วจินตนาการได้รางๆว่าถ้าเค้ายังไม่ปรับปรุงตัวคงจะเลวร้ายกว่านี้แน่นอน ถ้าเราโสดแล้วเรามีความสุขกว่านี้ ตอนนี้เราพร้อมจะเลิกกับแฟนเราแล้วค่ะ แต่แฟนเราขอร้องให้อยู่ข้างๆเค้าไปก่อน แต่เราก้คงค่อยๆลดระดับความสัมพันธ์ไปก่อนค่ะ เพราะลึกๆเราเองก็สงสารที่เค้าเองต้องทำงานหนักและต้องรับผิดชอบหลายๆอย่างของทางบ้าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าเป็นพี่ พี่จะ "หยุด" ความสัมพันธ์ ไว้ ณ ตรงนี้ค่ะ

อันนี้เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ พี่มาจากครอบครัวที่อบอุ่น ฐานะดี การศึกษาดี หน้าที่การทำงานดี
เงินเดือน 60,000 อัพ
ส่วนแฟนตรงข้ามทุกอย่าง ครอบครัวแฟน เวลามีปัญหาจะไม่หันหน้าเข้าคุยกัน หาเช้ากินค่ำ
แฟนพี่จบแบบ 2 ปีครึ่ง เป็นหลักสูตรที่ในเมืองไทยค่อนข้างขาดแคลน เลยทำให้เงินเดือนค่อนข้างสูง
เลยเหมือนเป็นหัวเรือหลักของที่บ้าน ที่บ้านแฟนพี่ทำอะไรไม่เคยวางแผน ไม่เคยมีเงินเก็บ พื้นฐานครอบครัวนิสัยไม่เลวร้าย แต่ออกแนวเห็นแก่ตัวและใจใหญ่ เป็นบางครั้งค่ะ

ตอนเป็นแฟนกัน พี่มองแค่ว่า แฟนพี่เป็นคนดี พ่อแม่แฟนก็ถือว่าเป็นคนดีนะคะ เราคบกันมา 5 ปี ถึงแต่งงานกัน
ตอนแรกที่เป็นแฟนกัน ก็พอจะเห็นปัญหาลางๆ เกี่ยวกับการใช้เงิน ใช้ชีวิตไม่วางแผน และบางครั้งใช้เงินเกินตัวในเรื่องที่ไม่จำเป็นของทางแม่แฟน

พอแต่งงานกัน ปัญหาที่เคยเห็นลางๆ ต่างๆ เริ่มชัดเจนขึ้น ทุกวันนี้พ่อ-แม่ ของแฟนพี่ ไม่ทำงานเลยนะคะ ให้เหตุผลว่าเหนื่อยมาตลอดชีวิตแล้ว ในขณะที่พ่อ-แม่ ของพี่ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ถึงจะอยากพักแต่เพราะเป็นธุรกิจส่วนตัว เลยทำต่อไปเรื่อยๆ (ส่วนนึงเป็นเพราะ ทั้ง 2 ท่านคำนึงถึงลูกของพี่ทั้ง 2 คน ด้วยค่ะ เลยยังไม่อยากวางมือซะทีเดียว)

ทุกวันนี้ต้องให้เงินบ้านแฟนเดือนละ 10,000 บาท บางครั้งมีขอนอกรอบกัน แต่พี่ทำเป็นไม่รับรู้ไปค่ะ
เวลาท่านทั้ง 2 มาเที่ยวหาหลาน (ปู่ย่าอยู่กรุงเทพ - บ้านพี่อยู่เชียงใหม่) พี่และแฟนเป็นคนรับผิดชอบค่าเดินทางทุกอย่าง
ในท่านก็เดินทางโดยรถบัส VIP บางครั้งที่มีตั๋วโปรโมชั่นถึงจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้ หลังๆมาท่านติดใจ ไม่ยอมนั่งรถบัสแล้ว
ถ้าจะมาหาหลาน ท่านจะบอกเลยว่าขอเครื่องบินอย่างเดียว แล้วปีนึงมา 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1- 2 อาทิตย์ แล้วต้องพาเที่ยว หาร้านอาหารดีๆ ให้ทานทุกครั้ง เลี้ยงทุกมื้อ

เวลาพาหลานไปเที่ยวหาที่กรุงเทพ ก็ต้องพาครอบครัว(ปู่-ย่า-พี่ชาย-พี่สะใภ้-ย่าคนรอง-หลาน) ไปทานข้าวนอกบ้าน ควักจ่ายตลอด เพราะทุกคนนั่งนิ่งกันหมด ในขณะเดียวกันถ้าท่านมาเชียงใหม่ พี่ก็ควักจ่ายตลอดเหมือนกัน หรือเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดนัดเจอกัน ถ้าไม่ออกค่าโรงแรมให้ แกก็จะใช้วิธีไปเช้า - เย็นกลับ พอถึงมื้อหารก็ตามเดิม นั่งเฉยๆ

โชคดีที่ครอบครัวของพี่ไม่คิดมาก ถือซะว่าเรามีมากกว่า ก็จ่ายให้ได้
แต่พี่ไม่เคยสบายใจเรื่องนี้เลย ทะเลาะกับแฟนเรื่องนี้ทุกครั้งมาตลอด 5 ปี
ที่สำคัญ ไม่เคยเคลียร์ปัญหานี้ได้เลยค่ะ ทุกวันนี้ต้องกล้ำกลืนฝืนทนเพราะลูกตลอด

น้องลองเก็บเรื่องราวของครอบครัวพี่ไปเป็นข้อคิดดูค่ะ แล้วจะได้คำตอบ
แฟน ในอนาคตก็คือสามี นั่นแหละค่ะ ขนาดเป็นแค่แฟนในปัจจุบัน เค้ายังไม่สามารถดูแลน้องในทุกๆเรื่องได้เลย
แม้แต่เรื่องกำลังใจในยามเจ็บป่วย ลองคิดดูดีๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
มีสองจุด ที่จะย้ำให้ จขกท. เก็บไปคิด แล้วค่อยๆตัดสินใจเอานะคะ

1) อารมณ์ไม่ดี เครียดเรื่องเงิน แล้วตะคอก !

ผู้ชายที่ไม่มีเงิน  มีภาระทางบ้าน บริหารเงินไม่เป็น นี่ยังอาจมองหาข้อดีในข้อเสียได้บ้าง
แต่ผู้ชายที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ อีกทั้งแยกแยะไม่ได้ว่าปัญหาเกิดจากเขา
เราช่วยเขาสุดตัว สุดท้ายถูกตะคอกใส่...ต่อไปจะโดนอะไรเพิ่มบ้าง....

ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทรา อย่างนี้ไม่น่าเสี่ยง

2) ผ่าตัดใหญ่ ไม่มาดูแล ทั้งที่รับปากไว้แล้ว

เรื่องนี้มันบั่นทอนหัวใจดีนักแล.. คนที่ร่วมแต่สุข ยามทุกข์เพิกเฉยนี่ เราจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเขาได้หรือคะ
ในชีวิตหนึ่งๆ ของคนเรา ใช่ว่าจะมีการผ่าตัดใหญ่ได้บ่อยๆ
เวลาร่างกายอ่อนแอ จิตใจอ่อนแอ คนที่อยู่เคียงข้าง คนที่คอยกุมมือของคุณคือใครคะ
(แม่ใช่มะ ถ้าอย่างนั้นน่าจะเชื่อแม่เนาะ)

จากนี้ จะเลือกใครมา..
ไม่ได้อยู่ที่ฐานะ ชาติตระกูล การศึกษา
แต่อยู่ที่เขาเป็นคนดีพอ ที่รักเรามากพอหรือเปล่า...

คุณคิดว่าเขารักคุณไหมคะ (ถ้าไม่นับคำพูด นับที่การกระทำของเขาน่ะค่ะ)

หมายเหตุ.  คุณจะได้ชื่อว่าใจร้าย หากเขาดีกับคุณทุกอย่าง คุณไม่เห็นค่า อยากจะทิ้งเขาเพียงเพราะเบื่อขี้หน้า
                 นอกนั้น คงไม่มีใครมาประนามคุณว่าใจร้ายได้หรอกค่ะ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่