“นั่งสมาธินานๆ ระวังจะเป็นสมาธิไก่” หลวงพ่อชา!!! เตือนสติพระฝรั่งที่ชอบนั่งสมาธินานๆแต่ไม่เกิดปัญญา

นั่งสมาธินานๆ ระวังจะเป็นสมาธิไก่” หลวงพ่อชา!!! ... เตือนสติพระฝรั่งที่ชอบนั่งสมาธินานๆแต่ไม่เกิดปัญญา

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อชาอบรมพระฝรั่งที่ชอบนั่งสมาธินานๆ ท่านเตือนสติให้ระวัง อย่าหลงว่านั่งยิ่งนานยิ่งดี มันไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป  ท่านเปรียบเหมือนกับไก่ ที่แม้จะนั่งนานสักเท่าใด ปัญญาก็ไม่เกิดสักที เราจะเอาแต่ระยะเวลาที่นั่งเป็นประมาณไม่ได้

ท่านบอกว่ามันไม่ได้อยู่ที่อิริยาบถ มันอยู่ที่ว่าในระหว่างที่นั่งนั้น จิตใจเราอยู่ที่ไหน หากจิตใจไม่อยู่กับอารมณ์กรรมฐาน หรือจิตใจมัวแต่ไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ แม้จะนั่งนานเท่าใด ก็ไม่เกิดประโยชน์

เราจะเอาอิริยาบถเป็นเครื่องวัดการปฏิบัติของเราไม่ได้ ท่านสอนว่า คุณภาพดีกว่าปริมาณ เมื่อจะปฏิบัติก็จงปฏิบัติอย่างมีคุณภาพ ถึงแม้ว่าเมื่ออยู่บ้าน เราจะมีเวลาปฏิบัติได้ไม่นานนัก ก็ทำเวลานั้นให้มีคุณภาพ มีคุณภาพด้วยการตั้งอกตั้งใจ ไม่ใช่สักแต่ว่านั่งพอเป็นพิธีหรือไม่ตั้งใจ ปล่อยจิตให้ไปหมกมุ่นอยู่กับเรื่องอดีตบ้าง หรือปล่อยให้จิตเพ้อฝันเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึงบ้าง นานๆ เข้าเราก็จะรู้สึกท้อแท้ใจ นั่งสมาธิไม่เห็นได้เรื่องเลย

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สมาธิ ไม่ได้อยู่ที่คำสั่งสอน และไม่ได้อยู่ที่วิธีการ เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนดีอยู่แล้ว เพราะผู้ที่ใช้คำสั่งสอนและวิธีการของพระพุทธองค์ เป็นเครื่องมือในการฝึกอบรมจิตจนเกิดผลมีมากมายนับไม่ถ้วน

หากการปฏิบัติของเรามักจะไม่ได้ผล เพราะขาดความต่อเนื่องหรือความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ ซึ่งขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเรา คนบางคนขยันก็ปฏิบัติ ขี้เกียจขี้คร้านก็ไม่ปฏิบัติ จิตใจสบายก็นั่งสมาธิบ้าง จิตใจวุ่นวายกลัดกลุ้ม ซึมเศร้าก็ไม่นั่ง เหตุผลที่ไม่นั่งเพราะคิดว่าถ้านั่งก็คงไม่สงบ นี่เป็นความคิดผิด เพราะถ้าเราไม่ฝึกนั่ง ย่อมไม่มีวันที่เราจะสามารถชนะจิตใจของตนเอง ไม่มีวันที่เราจะได้พ้นจากความวุ่นวาย

แต่ถ้าเราอดทน จะสงบหรือไม่สงบช่างมัน เราจะต้องนั่งให้ได้ ถ้าเรานั่งอยู่กับอารมณ์ที่ว้าวุ่นขุ่นมัว ก็พยายามปล่อยๆๆๆๆ เหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็ลุก ไม่ยอมเบื่อ ในที่สุดแล้วเราจะได้พบวันที่จิตใจพ้นจากอารมณ์นั้นได้ ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่สำคัญและมีอานิสงส์มากในชีวิต เพราะหลังจากนั้น เราจะไม่เชื่ออารมณ์เหมือนแต่ก่อน เราจะมีสัญญาจำได้หมายรู้ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยทุกข์มาก นั่งสมาธิแล้วไม่คิดว่าจะได้ผลดีอะไร แต่ก็นั่งเพียงเพราะครูบาอาจารย์ท่านสอน อย่างนั้น ก็พยายามนั่งอยู่อย่างนั้น

แต่ไม่น่าเชื่อที่จิตใจมันพลิก พลิกจากความวุ่นวายที่สุดเป็นสงบนิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นไปได้อย่างไร เมื่อเรามีประสบการณ์อย่างนี้แล้ว จะทำให้เรามีกำลังใจ เวลาจิตใจวุ่นวาย เราจะไม่พึ่งสิ่งอื่น เราจะไม่หนีจากอารมณ์ของตัวเอง แต่จะกล้าเผชิญหน้ากับอารมณ์นั้น
การไม่กล้าเผชิญหน้ากับอารมณ์ของตนเอง เป็นการส่งเสริมความอ่อนแอของจิตใจ

เมื่อเกิดความทุกข์ความเดือดร้อน ก็ จะหาวิธีกลบเกลื่อนอารมณ์ด้วยกาม คือดูทีวีบ้าง ไปพูดคุยกับใครบ้าง หรือกินอะไรสักอย่าง สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นกาม หรือเป็นเครื่องกลบอารมณ์

***********************
จากหนังสือ อักษรส่อสาร ชยสาโรภิกขุ หน้าที่ ๕-๗
ภาพงานอาจริยบูชา หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๑๒ -๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ โดยคุณ John Tanakorn Arunruengsawat
ที่มา : FB เพจ วัดป่า @watpah
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :
ข่าวโดย :  กิตติ จิตรพรหม ทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์


เรียบเรียงโดย

กิตติ จิตรพรหม : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/bg/314709
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่