ตามหัวข้อเลยย เรากับเพื่อนสงสัยมากว่าทำไมฝรั่งถึงชอบไปกระบี่กัน
เพราะปกติเราก็เที่ยวกันแบบคนไทยมาโดนตล๊อดด ร้อนปุ๊บ หลบแดด เจอแดดเหมือนเจอผีจ้าา 55
วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟัง และรีวิวทริปไปกระบี่ของเรากับเพื่อน รวมถึงรีวิวสิ่งของที่ต้องเตรียม
และ outfit ทั้งหมดด้วย ว่าจะแต่งยังงัยให้เป็นฝอ 3 วัน!!
นี่เป็นทริปแรกที่มาเล่าในพันทิพเลย และเป็นกระทู้แรกของเรา
ผิดพลาดยังงัย ขออภัยไว้ด้วยนะเคิ้บบ อะ สามม สี่ เริ่มม!!
เข้าหน้าร้อนด้วยอากาศที่ไม่บอกก็รู้ว่าหน้าร้อน..
heat wave ทะลุทะลวงเข้ามาในบ้านขนาดยังไม่ก้าวออกข้างนอกยังร้อนแบบนี้นี่
ใครไม่หนีร้อนไปทะเลก็ไม่รู้จะว่าไงล้าวว ว ก็ตามนั้น เกริ่นมาซะขนาดนี้นี่ บอกเลยว่ารอบนี้เราจะ
หนีร้อนไปที่ทะเลใต้กั๊นน จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก! ดาบบบนั่นเอง!!!
(ใครก็ได้ช่วยแก้ทีว่ากระบี่ เดี๋ยวจะมีความหน้าแหก!!55)
อะๆ มองข้ามมุขข้างบนไป แล้วมาสนใจกันที่ว่ากระบี่รอบนี้ เราเลือกอากาศมาแบบไม่ตรงกับชาวบ้านเค้า
เพราะเราอยากได้ฟิลแบบ ไม่ร้อนมากอะแกรร๊ แบบว่า อยากตัวดำวันนึง ตัวขาววันนึงงี้! ซึ่งมันเหมาะม๊ากกับ
อากาศในตอนนี้ ที่เดี๋ยวก็ฝนตกซะจนน้ำแทบท่วมกรุงเทพ เดี๋ยวก็แดดออกซะจนนึกว่าอยู่ทะเลทรายซาฮาร่า อีบ้า!
เราเลยเลือกวันแรกและวันที่สองให้แดดออก ส่วนวันสุดท้ายขอเป็นฝนตกละกัน เพราะแพลนของเราคือ..
เราจะสัมผัสให้ครบมันทุกรสชาติ และมาอวดว่ามันเด็ดอย่างไรรร ร
เกาะที่เราจะไปมี ถ้ำพระนาง, เกาะไก่, เกาะปอดะ, และทะเล
แหวก กันนะเคิ้บบ ของที่ต้องเตรียมนี่ก็คือ MUST HAVE มากๆ
เพราะการไปกับทัวร์ที่มีคนหลายคนนี่เตรียมโดนทิ้งไว้กลางเกาะ
เกาะละ 1-2 ชั่วโมงกันได้เลย เพราะฉะนั้น เราจะไม่มีอะไรทำมากมาย
นอกจากอาบแดดวนไปค่ะ! หลังจากเล่นน้ำชมธรรมชาติกันแล้ว
เอาภาพฝออาบแดดบน 1 ในเกาะของเรามาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม
กันก่อน และ tips ในการเตรียมของไปติดเกาะกับเราเด้ออ
อย่าลืมว่าเราจะโดนปล่อยอยู่ในเกาะ เกาะละ 1-2 ชั่วโมง
เตรียมของไร้สาระไปทำแก้เบื่อกันตามภาพได้เลยย ย
Boat Restaurant!!! OMG! นี่เป็นเสียงฝรั่งที่เดินผ่านไปมาแล้วเห็นเรือพวกนี้พูดกัน
ซึ่งเราก็ไม่ตกใจเลย เพราะขนาดเรายังแบบบ..
เห้ยยยย ร้านอาหารรร!! แต่เป็นอเมซิ่งคนละแบบกัน
เพราะฝรั่งเขาจะเป็น เห้ยย แบบเกิดมาไม่เคยเห็น
แต่เราจะเป็น เห้ยยย แบบ หิววว!! ของกินน แกกกก๊ บวกๆๆ
แต่อันที่จริงแล้วก็ค่อนข้าง unseen เพราะ พัทยามีไหม?
หัวหินมีไหม? ไม่ค่อยมีให้เห็นกันนะจ้าา
เดี๋ยวเราจะพาไปดูรูปทะเลกันต่อ ตอนนี้ตัดภาพมาที่วันแรกกันดีกว่า
วันแรกของเราก็ชิลล์ในโรงแรม เพราะเรามาวันศุกร์ช่วงบ่าย
เลยเลือกที่พักที่เหมาะกับการพักผ่อน แล้วไปเดินเล่นแถวๆ ร.ร.
ถนนคนเดินและอ่าวนางเป็นพอ คืนแรกเราเลือกพักที่
Phupiman Aonang Resort and spa เพราะมาก็บ่ายแล้ว
คงไปเกาะไหนไม่ทัน นอกจากเกาะเพื่อนที่มาด้วยกิน
เนื่องจากกรอบมากกกตอนนี้ หลังจากโดดงานมาแรด55
วิวจากโรงแรมคือดีงามมม เราเลือกโรงแรมไม่ติดทะเลวันแรก เพื่อเซฟคอสด้วย
และอยากพักผ่อน เปลี่ยนฟิล เห็นวิวภูเขาบ้างอะไรบ้างงง
แต่ก็ให้ 9/10 ไปเลยละกันกับโรงแรมนี้ หัก 1 คะแนนที่ราคา
ที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับเรา นานๆมาที เราว่าคุ้มมเกินคุ้ม
คืนละ 5500 บาท สำหรับที่นี่ พร้อมอาหารเช้าและหลายสิ่งอัน
อันนี้เป็นด้านหน้าโรงแรม แค่เห็นก็รู้แล้วเอาะว่าข้างในสวยหรูดูดี๊!!
อัลไลยแบบว่า น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชึ่น ไม่มีใครจ้างมาค่ะ หนูเล่นใหญ่เองค่ะพี่ 55
พอเข้ามาถึงที่พักแล้วคือ ฝันเป็นจริงง อยากแก้ภาพอาบน้ำ
ให้ภูเขาและธรรมชาติได้ยลมานานล้าววว จะแก้ให้คนดูเราก็เขินเนาะ
เลยไม่รอช้า แชะรูปแล้วรีบไปตีฟองเล่นน้ำกันเลยจ้าา
อากาศเป็นใจ ตกเย็นพอดี ร่มเย็นมากที่นี่
แชะ!! วิวมันดีงาม ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำอีกซักรูปละกัน
ที่นี่ค่อนข้าง private เพราะคนไม่เพล่นพล่าน
เหมาะสำหรับวันพักผ่อน แขกส่วนมากเป็นฝรั่งอีก
เพราะฉะนั้น สงบมากก
(ฝรั่งสูงวัยน่ะแกร เลยไม่มีเฮฮาปาตี้ปาจิงโกะไรมากมาย)
คนส่วนมากมาพักผ่อนจริงๆ เลยตอบโจทย์วันพักผ่อนเรามากก
ใครเป็นไหม เห็นต้นมะพร้าวที่ทะเลแล้วรู้สึกมาถึงแล้วอย่างไง
ก็ไม่รู้ คือมันรู้สึกดี และชิวมากก
หลังจากว่ายน้ำเสร็จ เราก็ไปเดินอ่าวนางกันตอนกลางคืน
แต่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ จะมีบาร์ที่แนะนำ ก็เป็น BAMBOO BAR
เลยย ถูกและดี ว่าแล้วก็ตัดฉากไปวัน 2 กันเลยดีกว่า!
DAY 2
อาบแดดกระจุยกระจาย ตะลุยเกาะต่างๆ ใช้ชีวิต
แบบเดินรอยฝรั่งกันเลยทีเดียว อยากรู้ทำไมเค้าชอบ
ภาคใต้ของไทยเรามาก เราต้องทำกิจกรรมที่เค้าชอบกันดู๊!
จะมากลัวแดดกลัวอะไร ไม่ได้สนุกแบบเค้ากันหรอกเชื่อพี่!
ถึงแล้วว สำหรับหาดแรกของเรา ถ้ำพระนาง หาดนี้อาจจะยังไม่
สวยพีคมาก เราเลยไปดูเค้าไหว้พระ และไปดูต่างชาติปีนเขากันเลยดีกว่าา
ราคาคือ 1000 บาท ต่อชั่วโมง แต่เราว่ามันคุ้มนะ พอปีนขึ้น
ไปข้างบนจะได้เห็นวิวทะเลโดยรอบเกาะกันเลยทีเดียวว
และเป็นอะไรที่อยากทำมานานมากก
การปีนจะมี 3 ระดับให้เลือก
easy - ไกด์จะให้ปีนถึงแค่ 100เมตร
จากพื้น เอาพอสนุกพอกรุบๆ
medium - อันนี้จะสูงขึ้นไปอีก แต่ก็อยู่ในระดับ
ที่เราไหว ถ้าเราไป hard ได้ เค้าก็จัดให้โลดเลยยย
hard - อันนี้สำหรับคนที่เคยปีนแล้ว ไม่ต้องสอน
ก็จะสูงเหมือนรูปเมื่อกี้นี้เลยย
หลังจากเหน็ดเหนื่อยและเพลียแดดตอนเช้ามา เราก็ได้มาถึง
Poda Island!! เราว่าที่นี่เริ่ดดสุด รองมาจากทะเลแหวกเลย
เมื่อชื่นชมความงามเรียบร้อยแล้ว เราก็ปู่เสื่ออาบแดดสิค๊า
จะรออะไรรร๊ มาทะเลต้องดำค่ะ!
เห็นไหมว่าเราไม่ได้คิดไปคนเดียว เพื่อนร่วมทีมเต็มเลยจ้าา
จะเห็นว่าบางมุม หาดก็คนเยอะ บางมุมก็คนไม่เยอะนะ
เลือก spot สวยๆ แล้วปูนอนกันเลยย มันชิวมากจริงๆ
รูปนี้อาจจะไม่ค่อยชัด โกโปรฝ้าขึ้นจ้าา
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปเกาะไก่ ซึ่งวิวข้างทางคืออ
สวยตลอดดด มืงนึงก็จะอัดวิดีโอ อีกมือก็จะถ่ายรูป
ถ้ากล้องมันพูดได้มันคงบ่นเหนื่อยน่าดูเลยแหละเราว่า55
ก็วิวมันสวยอะะะะ จะทำไมมม
แล้วเรือสปีทโบ๊ทของเราก็ได้มาถึงแล้วจ้าา เกาะไก่
กุ๊กๆๆๆ เห็นไหมม นายเห็นเป็นไก่แบบที่เราเห็นรึเปล่า B2
ไกด์เราก็แวะให้ดำน้ำครึ่งชั่วโมง แล้วไปทะเลแหวกต่อเลยย
ถึงแล้วววววว ทะเลแหวก หรือ TUB ISLAND ที่เป็นที่ฮอตฮิต
ใครๆก็ถามถึง เราก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าภาษาปะกิดเค้าเรียกเกาะตับ
ฝรั่งถามนี่ยืนงงเป็นควายโง่อยู่หลายรอบมากก
สวยสมชื่อมากเลยเกาะตับบบ ตับตับตับตับบ!
น้ำนี่ใสสสยิ่งกว่าหนังหน้าตอนเข้าวุฒิศักดิ์ไปอี้ก
ดูปลาสิ ว่ายกันยั้วเยี้ยแบบนี้หาได้ที่ไหนน เข้าใจก็วันนี้ทำไมฝรั่งเค้าชอบเมืองไทยกันจั๊ง
ขนาดเราเอง มาตั้งแต่เด็กๆ ยังมีอะไรใหม่ๆขึ้นทุกวัน ทะเลเปลี่ยนแปลงตลอด กิจกรรมก็มีให้ทำเพิ่มขึ้นตลอด
ตกเย็นแล้ว เราก็เริ่มเดินทางกลับฝั่งกันแล้ว แต่ยังไม่อยาก
ไปจากวิวสวยๆนี้เลยย สัญญาว่าถ้ามาอีกจะไป 1 วัน 10 เกาะมันเล๊ยย
พระอาทิตย์เริ่มจะตกแล้วตอนทางกลับ วิวคือดีงาม คุ้มค่า
กับที่โดดงานช่วงบ่ายวันศุกร์มาจริงจริงง
ใครที่คิดว่าทำงานแล้วหาวันหยุดยาก เที่ยวยากนะ
เปลี่ยนความคิดเลยย สามวันของเรายังเที่ยวได้ทุกซอกทุกมุมเลย
ที่พักคืนที่สองชื่อ พระนางอินน์ตรงอ่าวนาง
ตกแต่งสไตล์บาหลีๆแบบธรรมชาติๆเน้นไม้และลายผ้าพื้นเมือง
เดินออกจากโรงแรมปุ๊บ เป็นทะเลปั๊บเลยย คืนสองก็อยากจะอยู่
ติดทะเลบ้างอะไรบ้าง ส่วนที่พักจะมีบาร์ส่วนตัว
เป็น rooftop bar ตอนเย็นเราไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกมันมา
คือดีงามมากก จนลืมถ่ายรูป แหะๆ เพราะงั้นต้องไปดูด้วย
ตัวเองนะจ๊ะ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องบาร์มาก เพราะมันเห็นวิวสวยย
DAY 3
เราเลือกมาพายเรือคายัคกับอากาศชื้นๆระหว่างฝนตก
และมาดูฟ้าหลังฝนกัน ที่ป่าชายเลน ซึ่งชื้นอยู่แล้ว
เหมาะแก่การไปหน้าฝนม๊ากก ถ้าคนไม่ชอบอากาศร้อนจัด
วันไปพายเรือ เราก็แต่งตัวตามนี้เลย ให้ทะมัดทะแมง ใส่อะไร
ก็ได้ ง่ายๆ ที่สำคัญอย่าแพงมาก เพราะเลอะแน่ๆ โคลนเน้นๆ
สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ กระเป๋ากันน้ำ ซึ่งเราไม่ได้เตรียมไป
เลยหาซื้อถูกๆเอา แต่พอไปถึง สรุปทางทัวร์เค้ามีให้อยู่แล้วจ้าา
แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่ามีเก็บไว้ละกัน ปลอบใจตัวเอง 55
ถึงแล้ววว อ่าวท่าเลน กระบี่
เห็นฟ้าครึ้มๆนั่นไหมมม เรามากันถูกวันแล้วจ้าาา
ลงเรือปุ๊บ ฝนตกปั๊บ! ดีงามม แต่คือมันได้ฟิลมากเลย
เป็นอย่างที่เราคิด พายเรือ 2 ชั่งโมงกว่า
จะถึงลากูน นึกสภาพดูถ้าไม่มีเมฆบังแดด และฝนมาเป็น
พัดลมไอน้ำ สาดน้ำให้เราเย็นขึ้น คงเหนื่อยกว่านี้ 50 เท่า!
เพราะฉะนั้น เราว่าเราเลือกวันถูกมากก
ใกล้แล้วๆ ใกล้ถึงลากูนสวยๆล้าววว หลังจากพายมา 1 ชั่วโมง
ระหว่างทางไป สวยงามตลอดทางเลยย
เราลืมบอกว่าทริปนี้ เสียค่ามาแค่คนละ 500 เองง
ได้ยินถูกแล้วว มีรถมารับตรงโรงแรมมาถึงนี่รวมเรือ
และทุกสิ่ง ห้าร้อยย เท่านั้นจ้าา
พาย พายย แล้วก็พายยย ไปซักพัก
จนหิวพายข้าวโพดแม็คโดนัลด์แล้วเนี้ยย
ในที่สุด เราก็ถึงลากูนน!!
ขอจบทริปนี้ด้วยภาพ Lagoon สวยๆนี้แล้วกัน
ที่จริงเราจะได้ไปในป่าชายเลน ซึ่งเป็นไม้พาดไปมา
สวยงามมากก แต่... เนื่องจากลูกทัวร์สองลำที่เป็นคนจีน
เค้าพายช้ามากก ทำให้ไกด์ต้องวนไปลากให้หลายรอบ
ทำให้เราไปไม่ทัน เพราะน้ำมันลดซะก่อน
แต่ไม่เป็นไร ไกด์เราก็พาไปดูปลาดาวอะไรแทน
ซึ่งก็สวยเหมือนกัน เราจะไม่ว่าเธอ ชาวจีนน
เพราะเธอสร้างรายได้หลักให้ประเทศเรา 55
ขอจบทริปนี้ไว้เพียงเท่านี้ อยากให้ลองไปกันดูนะ
ถ้าชอบรูปก็อย่าลืมติดตามรูปท่องเที่ยวของเราเพิ่มเติมได้ที่-->>
https://www.facebook.com/2yearsago.travel/ ล่ะแกกกก
เคยสงสัยไหม ทำไมฝรั่งถึงชอบไปกระบี่กันนักหนาา?
เพราะปกติเราก็เที่ยวกันแบบคนไทยมาโดนตล๊อดด ร้อนปุ๊บ หลบแดด เจอแดดเหมือนเจอผีจ้าา 55
วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟัง และรีวิวทริปไปกระบี่ของเรากับเพื่อน รวมถึงรีวิวสิ่งของที่ต้องเตรียม
และ outfit ทั้งหมดด้วย ว่าจะแต่งยังงัยให้เป็นฝอ 3 วัน!!
นี่เป็นทริปแรกที่มาเล่าในพันทิพเลย และเป็นกระทู้แรกของเรา
ผิดพลาดยังงัย ขออภัยไว้ด้วยนะเคิ้บบ อะ สามม สี่ เริ่มม!!
เข้าหน้าร้อนด้วยอากาศที่ไม่บอกก็รู้ว่าหน้าร้อน..
heat wave ทะลุทะลวงเข้ามาในบ้านขนาดยังไม่ก้าวออกข้างนอกยังร้อนแบบนี้นี่
ใครไม่หนีร้อนไปทะเลก็ไม่รู้จะว่าไงล้าวว ว ก็ตามนั้น เกริ่นมาซะขนาดนี้นี่ บอกเลยว่ารอบนี้เราจะ
หนีร้อนไปที่ทะเลใต้กั๊นน จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก! ดาบบบนั่นเอง!!!
(ใครก็ได้ช่วยแก้ทีว่ากระบี่ เดี๋ยวจะมีความหน้าแหก!!55)
อะๆ มองข้ามมุขข้างบนไป แล้วมาสนใจกันที่ว่ากระบี่รอบนี้ เราเลือกอากาศมาแบบไม่ตรงกับชาวบ้านเค้า
เพราะเราอยากได้ฟิลแบบ ไม่ร้อนมากอะแกรร๊ แบบว่า อยากตัวดำวันนึง ตัวขาววันนึงงี้! ซึ่งมันเหมาะม๊ากกับ
อากาศในตอนนี้ ที่เดี๋ยวก็ฝนตกซะจนน้ำแทบท่วมกรุงเทพ เดี๋ยวก็แดดออกซะจนนึกว่าอยู่ทะเลทรายซาฮาร่า อีบ้า!
เราเลยเลือกวันแรกและวันที่สองให้แดดออก ส่วนวันสุดท้ายขอเป็นฝนตกละกัน เพราะแพลนของเราคือ..
เราจะสัมผัสให้ครบมันทุกรสชาติ และมาอวดว่ามันเด็ดอย่างไรรร ร
เกาะที่เราจะไปมี ถ้ำพระนาง, เกาะไก่, เกาะปอดะ, และทะเล
แหวก กันนะเคิ้บบ ของที่ต้องเตรียมนี่ก็คือ MUST HAVE มากๆ
เพราะการไปกับทัวร์ที่มีคนหลายคนนี่เตรียมโดนทิ้งไว้กลางเกาะ
เกาะละ 1-2 ชั่วโมงกันได้เลย เพราะฉะนั้น เราจะไม่มีอะไรทำมากมาย
นอกจากอาบแดดวนไปค่ะ! หลังจากเล่นน้ำชมธรรมชาติกันแล้ว
เอาภาพฝออาบแดดบน 1 ในเกาะของเรามาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม
กันก่อน และ tips ในการเตรียมของไปติดเกาะกับเราเด้ออ
อย่าลืมว่าเราจะโดนปล่อยอยู่ในเกาะ เกาะละ 1-2 ชั่วโมง
เตรียมของไร้สาระไปทำแก้เบื่อกันตามภาพได้เลยย ย
Boat Restaurant!!! OMG! นี่เป็นเสียงฝรั่งที่เดินผ่านไปมาแล้วเห็นเรือพวกนี้พูดกัน
ซึ่งเราก็ไม่ตกใจเลย เพราะขนาดเรายังแบบบ..
เห้ยยยย ร้านอาหารรร!! แต่เป็นอเมซิ่งคนละแบบกัน
เพราะฝรั่งเขาจะเป็น เห้ยย แบบเกิดมาไม่เคยเห็น
แต่เราจะเป็น เห้ยยย แบบ หิววว!! ของกินน แกกกก๊ บวกๆๆ
แต่อันที่จริงแล้วก็ค่อนข้าง unseen เพราะ พัทยามีไหม?
หัวหินมีไหม? ไม่ค่อยมีให้เห็นกันนะจ้าา
เดี๋ยวเราจะพาไปดูรูปทะเลกันต่อ ตอนนี้ตัดภาพมาที่วันแรกกันดีกว่า
วันแรกของเราก็ชิลล์ในโรงแรม เพราะเรามาวันศุกร์ช่วงบ่าย
เลยเลือกที่พักที่เหมาะกับการพักผ่อน แล้วไปเดินเล่นแถวๆ ร.ร.
ถนนคนเดินและอ่าวนางเป็นพอ คืนแรกเราเลือกพักที่
Phupiman Aonang Resort and spa เพราะมาก็บ่ายแล้ว
คงไปเกาะไหนไม่ทัน นอกจากเกาะเพื่อนที่มาด้วยกิน
เนื่องจากกรอบมากกกตอนนี้ หลังจากโดดงานมาแรด55
วิวจากโรงแรมคือดีงามมม เราเลือกโรงแรมไม่ติดทะเลวันแรก เพื่อเซฟคอสด้วย
และอยากพักผ่อน เปลี่ยนฟิล เห็นวิวภูเขาบ้างอะไรบ้างงง
แต่ก็ให้ 9/10 ไปเลยละกันกับโรงแรมนี้ หัก 1 คะแนนที่ราคา
ที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับเรา นานๆมาที เราว่าคุ้มมเกินคุ้ม
คืนละ 5500 บาท สำหรับที่นี่ พร้อมอาหารเช้าและหลายสิ่งอัน
อันนี้เป็นด้านหน้าโรงแรม แค่เห็นก็รู้แล้วเอาะว่าข้างในสวยหรูดูดี๊!!
อัลไลยแบบว่า น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชึ่น ไม่มีใครจ้างมาค่ะ หนูเล่นใหญ่เองค่ะพี่ 55
พอเข้ามาถึงที่พักแล้วคือ ฝันเป็นจริงง อยากแก้ภาพอาบน้ำ
ให้ภูเขาและธรรมชาติได้ยลมานานล้าววว จะแก้ให้คนดูเราก็เขินเนาะ
เลยไม่รอช้า แชะรูปแล้วรีบไปตีฟองเล่นน้ำกันเลยจ้าา
อากาศเป็นใจ ตกเย็นพอดี ร่มเย็นมากที่นี่
แชะ!! วิวมันดีงาม ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำอีกซักรูปละกัน
ที่นี่ค่อนข้าง private เพราะคนไม่เพล่นพล่าน
เหมาะสำหรับวันพักผ่อน แขกส่วนมากเป็นฝรั่งอีก
เพราะฉะนั้น สงบมากก
(ฝรั่งสูงวัยน่ะแกร เลยไม่มีเฮฮาปาตี้ปาจิงโกะไรมากมาย)
คนส่วนมากมาพักผ่อนจริงๆ เลยตอบโจทย์วันพักผ่อนเรามากก
ใครเป็นไหม เห็นต้นมะพร้าวที่ทะเลแล้วรู้สึกมาถึงแล้วอย่างไง
ก็ไม่รู้ คือมันรู้สึกดี และชิวมากก
หลังจากว่ายน้ำเสร็จ เราก็ไปเดินอ่าวนางกันตอนกลางคืน
แต่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ จะมีบาร์ที่แนะนำ ก็เป็น BAMBOO BAR
เลยย ถูกและดี ว่าแล้วก็ตัดฉากไปวัน 2 กันเลยดีกว่า!
DAY 2
อาบแดดกระจุยกระจาย ตะลุยเกาะต่างๆ ใช้ชีวิต
แบบเดินรอยฝรั่งกันเลยทีเดียว อยากรู้ทำไมเค้าชอบ
ภาคใต้ของไทยเรามาก เราต้องทำกิจกรรมที่เค้าชอบกันดู๊!
จะมากลัวแดดกลัวอะไร ไม่ได้สนุกแบบเค้ากันหรอกเชื่อพี่!
ถึงแล้วว สำหรับหาดแรกของเรา ถ้ำพระนาง หาดนี้อาจจะยังไม่
สวยพีคมาก เราเลยไปดูเค้าไหว้พระ และไปดูต่างชาติปีนเขากันเลยดีกว่าา
ราคาคือ 1000 บาท ต่อชั่วโมง แต่เราว่ามันคุ้มนะ พอปีนขึ้น
ไปข้างบนจะได้เห็นวิวทะเลโดยรอบเกาะกันเลยทีเดียวว
และเป็นอะไรที่อยากทำมานานมากก
การปีนจะมี 3 ระดับให้เลือก
easy - ไกด์จะให้ปีนถึงแค่ 100เมตร
จากพื้น เอาพอสนุกพอกรุบๆ
medium - อันนี้จะสูงขึ้นไปอีก แต่ก็อยู่ในระดับ
ที่เราไหว ถ้าเราไป hard ได้ เค้าก็จัดให้โลดเลยยย
hard - อันนี้สำหรับคนที่เคยปีนแล้ว ไม่ต้องสอน
ก็จะสูงเหมือนรูปเมื่อกี้นี้เลยย
หลังจากเหน็ดเหนื่อยและเพลียแดดตอนเช้ามา เราก็ได้มาถึง
Poda Island!! เราว่าที่นี่เริ่ดดสุด รองมาจากทะเลแหวกเลย
เมื่อชื่นชมความงามเรียบร้อยแล้ว เราก็ปู่เสื่ออาบแดดสิค๊า
จะรออะไรรร๊ มาทะเลต้องดำค่ะ!
เห็นไหมว่าเราไม่ได้คิดไปคนเดียว เพื่อนร่วมทีมเต็มเลยจ้าา
จะเห็นว่าบางมุม หาดก็คนเยอะ บางมุมก็คนไม่เยอะนะ
เลือก spot สวยๆ แล้วปูนอนกันเลยย มันชิวมากจริงๆ
รูปนี้อาจจะไม่ค่อยชัด โกโปรฝ้าขึ้นจ้าา
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปเกาะไก่ ซึ่งวิวข้างทางคืออ
สวยตลอดดด มืงนึงก็จะอัดวิดีโอ อีกมือก็จะถ่ายรูป
ถ้ากล้องมันพูดได้มันคงบ่นเหนื่อยน่าดูเลยแหละเราว่า55
ก็วิวมันสวยอะะะะ จะทำไมมม
แล้วเรือสปีทโบ๊ทของเราก็ได้มาถึงแล้วจ้าา เกาะไก่
กุ๊กๆๆๆ เห็นไหมม นายเห็นเป็นไก่แบบที่เราเห็นรึเปล่า B2
ไกด์เราก็แวะให้ดำน้ำครึ่งชั่วโมง แล้วไปทะเลแหวกต่อเลยย
ถึงแล้วววววว ทะเลแหวก หรือ TUB ISLAND ที่เป็นที่ฮอตฮิต
ใครๆก็ถามถึง เราก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าภาษาปะกิดเค้าเรียกเกาะตับ
ฝรั่งถามนี่ยืนงงเป็นควายโง่อยู่หลายรอบมากก
สวยสมชื่อมากเลยเกาะตับบบ ตับตับตับตับบ!
น้ำนี่ใสสสยิ่งกว่าหนังหน้าตอนเข้าวุฒิศักดิ์ไปอี้ก
ดูปลาสิ ว่ายกันยั้วเยี้ยแบบนี้หาได้ที่ไหนน เข้าใจก็วันนี้ทำไมฝรั่งเค้าชอบเมืองไทยกันจั๊ง
ขนาดเราเอง มาตั้งแต่เด็กๆ ยังมีอะไรใหม่ๆขึ้นทุกวัน ทะเลเปลี่ยนแปลงตลอด กิจกรรมก็มีให้ทำเพิ่มขึ้นตลอด
ตกเย็นแล้ว เราก็เริ่มเดินทางกลับฝั่งกันแล้ว แต่ยังไม่อยาก
ไปจากวิวสวยๆนี้เลยย สัญญาว่าถ้ามาอีกจะไป 1 วัน 10 เกาะมันเล๊ยย
พระอาทิตย์เริ่มจะตกแล้วตอนทางกลับ วิวคือดีงาม คุ้มค่า
กับที่โดดงานช่วงบ่ายวันศุกร์มาจริงจริงง
ใครที่คิดว่าทำงานแล้วหาวันหยุดยาก เที่ยวยากนะ
เปลี่ยนความคิดเลยย สามวันของเรายังเที่ยวได้ทุกซอกทุกมุมเลย
ที่พักคืนที่สองชื่อ พระนางอินน์ตรงอ่าวนาง
ตกแต่งสไตล์บาหลีๆแบบธรรมชาติๆเน้นไม้และลายผ้าพื้นเมือง
เดินออกจากโรงแรมปุ๊บ เป็นทะเลปั๊บเลยย คืนสองก็อยากจะอยู่
ติดทะเลบ้างอะไรบ้าง ส่วนที่พักจะมีบาร์ส่วนตัว
เป็น rooftop bar ตอนเย็นเราไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกมันมา
คือดีงามมากก จนลืมถ่ายรูป แหะๆ เพราะงั้นต้องไปดูด้วย
ตัวเองนะจ๊ะ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องบาร์มาก เพราะมันเห็นวิวสวยย
DAY 3
เราเลือกมาพายเรือคายัคกับอากาศชื้นๆระหว่างฝนตก
และมาดูฟ้าหลังฝนกัน ที่ป่าชายเลน ซึ่งชื้นอยู่แล้ว
เหมาะแก่การไปหน้าฝนม๊ากก ถ้าคนไม่ชอบอากาศร้อนจัด
วันไปพายเรือ เราก็แต่งตัวตามนี้เลย ให้ทะมัดทะแมง ใส่อะไร
ก็ได้ ง่ายๆ ที่สำคัญอย่าแพงมาก เพราะเลอะแน่ๆ โคลนเน้นๆ
สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ กระเป๋ากันน้ำ ซึ่งเราไม่ได้เตรียมไป
เลยหาซื้อถูกๆเอา แต่พอไปถึง สรุปทางทัวร์เค้ามีให้อยู่แล้วจ้าา
แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่ามีเก็บไว้ละกัน ปลอบใจตัวเอง 55
ถึงแล้ววว อ่าวท่าเลน กระบี่
เห็นฟ้าครึ้มๆนั่นไหมมม เรามากันถูกวันแล้วจ้าาา
ลงเรือปุ๊บ ฝนตกปั๊บ! ดีงามม แต่คือมันได้ฟิลมากเลย
เป็นอย่างที่เราคิด พายเรือ 2 ชั่งโมงกว่า
จะถึงลากูน นึกสภาพดูถ้าไม่มีเมฆบังแดด และฝนมาเป็น
พัดลมไอน้ำ สาดน้ำให้เราเย็นขึ้น คงเหนื่อยกว่านี้ 50 เท่า!
เพราะฉะนั้น เราว่าเราเลือกวันถูกมากก
ใกล้แล้วๆ ใกล้ถึงลากูนสวยๆล้าววว หลังจากพายมา 1 ชั่วโมง
ระหว่างทางไป สวยงามตลอดทางเลยย
เราลืมบอกว่าทริปนี้ เสียค่ามาแค่คนละ 500 เองง
ได้ยินถูกแล้วว มีรถมารับตรงโรงแรมมาถึงนี่รวมเรือ
และทุกสิ่ง ห้าร้อยย เท่านั้นจ้าา
พาย พายย แล้วก็พายยย ไปซักพัก
จนหิวพายข้าวโพดแม็คโดนัลด์แล้วเนี้ยย
ในที่สุด เราก็ถึงลากูนน!!
ขอจบทริปนี้ด้วยภาพ Lagoon สวยๆนี้แล้วกัน
ที่จริงเราจะได้ไปในป่าชายเลน ซึ่งเป็นไม้พาดไปมา
สวยงามมากก แต่... เนื่องจากลูกทัวร์สองลำที่เป็นคนจีน
เค้าพายช้ามากก ทำให้ไกด์ต้องวนไปลากให้หลายรอบ
ทำให้เราไปไม่ทัน เพราะน้ำมันลดซะก่อน
แต่ไม่เป็นไร ไกด์เราก็พาไปดูปลาดาวอะไรแทน
ซึ่งก็สวยเหมือนกัน เราจะไม่ว่าเธอ ชาวจีนน
เพราะเธอสร้างรายได้หลักให้ประเทศเรา 55
ขอจบทริปนี้ไว้เพียงเท่านี้ อยากให้ลองไปกันดูนะ
ถ้าชอบรูปก็อย่าลืมติดตามรูปท่องเที่ยวของเราเพิ่มเติมได้ที่-->> https://www.facebook.com/2yearsago.travel/ ล่ะแกกกก