เพิ่งมารู้ว่าตัวเองเป็นโรค PCOS หรือถุงน้ำในรังไข่ หลังจากประจำเดือนทิ้งช่วงห่าง รอบละเกือบ 60-75 วัน
จากที่เมื่อก่อนประจำเดือนจะมาทุก 30-40 กว่าวัน ซึ่งเมื่อก่อนเราก็ไม่เคยเอ๊ะใจว่าผู้หญิงคนอื่นเขามีรอบเดือนกันแบบไหนปกติคืออะไร
จนกระทั่งเราคิดจะมีลูก เราแต่งงาานตอนอายุ 35 ปี และวางแผนจะมีลูก ชีวิตหลังแต่งงานกิน ดื่มหนัก เที่ยว อย่างเต็มที่
จนน้ำหนักจาก 57 กิโล ขึ้นไป 63 กิโล ภายในเวลาไม่กี่เดือน ฟังดูแล้วอาจไม่มาก แต่ด้วยความสูงเพียง 157
เราดูบวมอืดไปหมด จึงตัดสินใจไปหาหมอสูติ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
ตรวจภายในครั้งนี้ หมอวินิจฉัยว่าเป็น PCOS และอธิบายเกี่ยวกับโรคนี้ให้ฟังคร่าวๆว่า
คนที่เป็นโรคนี้ในรังไข่จะทีถุงน้ำเล็กๆข้างละ 12ใบขึ้นไป ซึ่งไม่มีอันตรายใดๆ แต่จะมีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 3 ข้อ
1. ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่สม่ำเสมอ อาจทิ้งช่วงนานเป็นหลายเดือน บางรอบเดือนจะไม่มีไข่ตก (irregular period)
2. อ้วน อ้วนง่าย หรือ เป็นเบาหวานประเภทสอง เพราะอินซูลินทำงานไม่ปกติ (diabetes type 2)
3. สิวเยอะ ผิวมัน
4. บางคนมีอาการผมร่วง หรือผมบาง
5. ขนเยอะ ตามใบหน้า อาจมีหนวด เครา และตามร่างกายบริเวณ แขน ขา หน้าอก (Hiruism)
6. ถ้าเป็นคนผอมบางจะเป็นคนขี้หนาว เข้าห้องแอร์จะรู้สึกหนาวจัด ถ้าอ้วนจะร้อนวูบวาบบ่อยๆ (hot flashes)
หมอแนะนำเริ่มให้สามีมาตรวจน้ำเชื้อด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าต้องแก้ที่เราหรือสามี หรือทั้งสองคน ผลตัวน้ำเชื้อของสามีออกมาปกติดี
ส่วนตัวเราเริ่มกินยากระตุ้นไข่ Clomid หรือลอง Femara ในรอบถัดไปหากยาตัวแรกใช้ไม่ได้ผล
พร้อมกับใช้แผ่นตรวจนับวันไข่ตก เราจัดทั้งแบบแผ่นเทสต์แบบจุ่มธรรมดา Baby for sure
และดิจิตอล ยี่ห้อ Clearblue Digital Test ผ่านไปหลายเดือนกับการใช้ยากระตุ้นบ้าง ไม่ใช้บ้างก็ยังไม่มีทีท่าจะท้อง
โรงพยาบาลและคลีนิกในจังหวัดและอำเภอนี้ไม่มียาฉีดให้ไข่ตก เราก็เลยเก็บข้อมูลด้วยการถามเพื่อนๆ
อ่านตามกระทู้ต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้ง pantip
หนึ่งปีต่อมา มารักษาโดยการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก หรือ IUI ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพ
เราไม่ได้เลือกหมอคนไหนเป็นพิเศษ โดยรอบนั้นคุณหมอภิญโญให้ฉีดฮอร์โมน Gonal-F แบบปากกา
เข้าบริเวณหน้าท้องเป็นเวลาสิบสองวัน โดยหมอนัดตรวจภายในทุก 3-4 วัน เพื่อดูการเจริญเติบโตของไข่
แล้วฉีดยาให้ Pregnyl ให้ไข่ตก แล้วนัดฉีดเชื้อสามีแบบสดในเวลาอีก 36 ชม.
ในวันที่ 17 และ19 รอบนั้นได้ไข่ใบใหญ่เพียงใบเดียวขนาดแค่ 17 มม. เท่านั้น
โดยหมอบอกว่าจะทำแบบวันเว้นตามวิธีการรักษาของหมอท่านนี้ สองอาทิตย์ผ่านไปประจำเดือนมา
เสียค่าใช้จ่ายไปเบ็ดเสร็จ 5x,xxx บาท
รอบถัดไปเราอยากลองทำ IUI อีกครั้ง เลยเปลี่ยนมาทำที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กับคุณหมอวรวรรณ
แต่รอบนี้เปลี่ยนมากินยา Letrozole ยี่ห้อ Femara สามเม็ดก่อนนอนติดต่อกันเป็นเวลาห้าวันรวม 15 เม็ด ราคา 3000 บาท
รอบนี้เรากินยาจีนกับหมอแมะชัยณรงค์ ตรอกโรงโคม ตรงถนนทรงวาดด้วย ยาหนึ่งชุด 3500 บาท
พอถึงวันที่12ของรอบ หมอนัดตรวจได้ไข่ใบโต 2 ใบขนาด 21 มม กับ 20 มม ฉีดยาให้ไข่ตกแล้วหมอนัดฉีดเชื้อหนึ่งรอบ
และให้ทำการบ้านเองซ้ำอีกวันมะรืน จากนั้นสองอาทิตย์ต่อมาประจำเดือนก็มา
เสียค่าใช้จ่ายไปเบ็ดเสร็จ 1x,xxx บาท รวมค่าฉีดเชื้อ ยาไข่ตก ตรวจ ภายใน 7,xxx ราวๆ บาท
เดี๋ยวมาเขียนต่อค่ะ
ขออนุญาตแปะลิงก์เกี่ยวกับโรคนี้ เผื่อมีใครอยากอ่านเพิ่มเติ่ม
http://haamor.com/th/พีซีโอเอส/
PCOS กับการทำ ICSI
จากที่เมื่อก่อนประจำเดือนจะมาทุก 30-40 กว่าวัน ซึ่งเมื่อก่อนเราก็ไม่เคยเอ๊ะใจว่าผู้หญิงคนอื่นเขามีรอบเดือนกันแบบไหนปกติคืออะไร
จนกระทั่งเราคิดจะมีลูก เราแต่งงาานตอนอายุ 35 ปี และวางแผนจะมีลูก ชีวิตหลังแต่งงานกิน ดื่มหนัก เที่ยว อย่างเต็มที่
จนน้ำหนักจาก 57 กิโล ขึ้นไป 63 กิโล ภายในเวลาไม่กี่เดือน ฟังดูแล้วอาจไม่มาก แต่ด้วยความสูงเพียง 157
เราดูบวมอืดไปหมด จึงตัดสินใจไปหาหมอสูติ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
ตรวจภายในครั้งนี้ หมอวินิจฉัยว่าเป็น PCOS และอธิบายเกี่ยวกับโรคนี้ให้ฟังคร่าวๆว่า
คนที่เป็นโรคนี้ในรังไข่จะทีถุงน้ำเล็กๆข้างละ 12ใบขึ้นไป ซึ่งไม่มีอันตรายใดๆ แต่จะมีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 3 ข้อ
1. ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่สม่ำเสมอ อาจทิ้งช่วงนานเป็นหลายเดือน บางรอบเดือนจะไม่มีไข่ตก (irregular period)
2. อ้วน อ้วนง่าย หรือ เป็นเบาหวานประเภทสอง เพราะอินซูลินทำงานไม่ปกติ (diabetes type 2)
3. สิวเยอะ ผิวมัน
4. บางคนมีอาการผมร่วง หรือผมบาง
5. ขนเยอะ ตามใบหน้า อาจมีหนวด เครา และตามร่างกายบริเวณ แขน ขา หน้าอก (Hiruism)
6. ถ้าเป็นคนผอมบางจะเป็นคนขี้หนาว เข้าห้องแอร์จะรู้สึกหนาวจัด ถ้าอ้วนจะร้อนวูบวาบบ่อยๆ (hot flashes)
หมอแนะนำเริ่มให้สามีมาตรวจน้ำเชื้อด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าต้องแก้ที่เราหรือสามี หรือทั้งสองคน ผลตัวน้ำเชื้อของสามีออกมาปกติดี
ส่วนตัวเราเริ่มกินยากระตุ้นไข่ Clomid หรือลอง Femara ในรอบถัดไปหากยาตัวแรกใช้ไม่ได้ผล
พร้อมกับใช้แผ่นตรวจนับวันไข่ตก เราจัดทั้งแบบแผ่นเทสต์แบบจุ่มธรรมดา Baby for sure
และดิจิตอล ยี่ห้อ Clearblue Digital Test ผ่านไปหลายเดือนกับการใช้ยากระตุ้นบ้าง ไม่ใช้บ้างก็ยังไม่มีทีท่าจะท้อง
โรงพยาบาลและคลีนิกในจังหวัดและอำเภอนี้ไม่มียาฉีดให้ไข่ตก เราก็เลยเก็บข้อมูลด้วยการถามเพื่อนๆ
อ่านตามกระทู้ต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้ง pantip
หนึ่งปีต่อมา มารักษาโดยการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก หรือ IUI ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพ
เราไม่ได้เลือกหมอคนไหนเป็นพิเศษ โดยรอบนั้นคุณหมอภิญโญให้ฉีดฮอร์โมน Gonal-F แบบปากกา
เข้าบริเวณหน้าท้องเป็นเวลาสิบสองวัน โดยหมอนัดตรวจภายในทุก 3-4 วัน เพื่อดูการเจริญเติบโตของไข่
แล้วฉีดยาให้ Pregnyl ให้ไข่ตก แล้วนัดฉีดเชื้อสามีแบบสดในเวลาอีก 36 ชม.
ในวันที่ 17 และ19 รอบนั้นได้ไข่ใบใหญ่เพียงใบเดียวขนาดแค่ 17 มม. เท่านั้น
โดยหมอบอกว่าจะทำแบบวันเว้นตามวิธีการรักษาของหมอท่านนี้ สองอาทิตย์ผ่านไปประจำเดือนมา
เสียค่าใช้จ่ายไปเบ็ดเสร็จ 5x,xxx บาท
รอบถัดไปเราอยากลองทำ IUI อีกครั้ง เลยเปลี่ยนมาทำที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กับคุณหมอวรวรรณ
แต่รอบนี้เปลี่ยนมากินยา Letrozole ยี่ห้อ Femara สามเม็ดก่อนนอนติดต่อกันเป็นเวลาห้าวันรวม 15 เม็ด ราคา 3000 บาท
รอบนี้เรากินยาจีนกับหมอแมะชัยณรงค์ ตรอกโรงโคม ตรงถนนทรงวาดด้วย ยาหนึ่งชุด 3500 บาท
พอถึงวันที่12ของรอบ หมอนัดตรวจได้ไข่ใบโต 2 ใบขนาด 21 มม กับ 20 มม ฉีดยาให้ไข่ตกแล้วหมอนัดฉีดเชื้อหนึ่งรอบ
และให้ทำการบ้านเองซ้ำอีกวันมะรืน จากนั้นสองอาทิตย์ต่อมาประจำเดือนก็มา
เสียค่าใช้จ่ายไปเบ็ดเสร็จ 1x,xxx บาท รวมค่าฉีดเชื้อ ยาไข่ตก ตรวจ ภายใน 7,xxx ราวๆ บาท
เดี๋ยวมาเขียนต่อค่ะ
ขออนุญาตแปะลิงก์เกี่ยวกับโรคนี้ เผื่อมีใครอยากอ่านเพิ่มเติ่ม
http://haamor.com/th/พีซีโอเอส/