‘กกท.’ขอเวลาเก็บข้อมูลไตร่ตรองกีฬา’อี-สปอร์ต’ ก่อนส่งเข้าร่วมชิงชัย’เอเชียนเกมส์2018′

ตามที่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) บรรจุกีฬาอี-สปอร์ต เข้าเป็นกีฬาสาธิตในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2018 และบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาที่นับเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ในปี 2022

“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เรื่องนี้คงต้องมีคำอธิบายหลายแง่มุม อย่ามองว่าอีสปอร์ตเป็นเรื่องงมงายเล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่สามารถมองเป็นกีฬาพัฒนาทักษะได้เช่นกัน เพราะนักกีฬาอีสปอร์ตเป็นคนละกลุ่มกับตามร้านเกม โดยทีมอีสปอร์ตหลายทีมได้เข้ามาคุยกับ กกท. แล้วเห็นได้ว่า เป็นกลุ่มมีทักษะสูง มีการฝึกซ้อม วิ่งออกกำลัง ฟิตเนส ทดสอบสมรรถภาพ และพักผ่อนเป็นเวลา เพราะต้องใช้สมาธิสูง ไม่ใช่ว่าจะเล่นเกมทั้งวันตามที่เข้าใจกัน

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า ประเด็นนี้กระแสสังคมยังต่อต้าน เพราะอาจมองเพียงด้านเดียว ซึ่ง กกท.จะต้องทำข้อมูลให้รอบด้านก่อนนำเข้าบอรด์ กกท. ยอมรับว่าต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาพอเก็บข้อมูลอีกระยะหากจะส่งแข่งขัน แม้จะไม่มีสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยก็สามารถส่งแข่งขันในนามคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ หรือ องค์กรกีฬาที่รับผิดชอบได้เป็นกรณีพิเศษ

“นักกีฬาอีสปอร์ตของไทยเคยแข่งขันในระดับโลกมามากแล้ว กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีทักษะด้านคอมพิวเตอร์สูง และเรียนค่อนข้างดี แต่ถูกมองว่าเป็นเด็กติดเกม และหากสนับสนุนจะกลายเป็นว่าชนะเกม และจะทำให้ติดเกมมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ เราต้องเลือกจะมองในทุกด้าน” (บิ๊กเสือ)กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: http://www.matichon.co.th/news/542580
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่