เพศศึกษามีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้วัยรุ่นชะลอการมีเพศสัมพันธ์ได้ สอดคล้องกับงานวิจัยใหม่ที่ได้เริ่มทำขึ้นมา
วัยรุ่นผู้ชายที่ได้ศึกษาวิชาเพศศึกษาในโรงเรียนพบว่า 71 เปอร์เซ็นต์มีแนวโน้มที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ และเช่นเดียวกันวัยรุ่นผู้หญิง 59 เปอร์เซ็นต์ก็มีแนวโน้มไปในทางเดียวกันที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ในขณะเดียวกันผู้ชายที่เข้าโรงเรียนก็มีแนวโน้มที่จะคุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกหากพวกเขาได้เข้าเรียนวิชาเพศศึกษา
“เพศศึกษาดูเหมือนว่าเป็นวิชาที่ใช้ได้ผล” กล่าวโดยหัวหน้าวิจัยอย่าง Trisha Mueller นักระบาดวิทยาจากสถาบัน Disease Control And Prevention “โดยเฉพาะมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยผู้คนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์”
นักวิจัยหลายคนพบว่า เพศศึกษาช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันในโรงเรียนที่พยายามจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรได้ อย่างไรก็ตามปกติแล้วเพศศึกษาจะใช้ไม่ได้ผลกับวัยรุ่นผู้หญิงที่เคยผ่านการคุมกำเนิดมาก่อน
สอดคล้องกับ Mueller ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการวิจัยถึงความไร้ประสิทธิภาพของวิชาเพศศึกษาในช่วงปี 1970 จนถึงปี 1990 จากการศึกษาต่างๆก็พบว่า วิชาเพศศึกษาไม่ได้ช่วยชะลอการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด เธอกล่าวเอาไว้
จากการวิจัยใหม่ก็ได้ทำการสุ่มตัวอย่างจากวัยรุ่นอายุ 15-19 ปีจำนวน 2019 คน ที่ได้ทำแบบสำรวจในช่วงปี 2002
นักวิจัยหลายคนได้ทำการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในผลกระทบที่ว่า เพศศึกษาส่งผลต่อชีวิตเซ็กส์ของวัยรุ่นและมีการปรับตัวเข้ากับสภาวะการณ์ของคนในครอบครัวอย่างไร
จากการศึกษาก็ไม่ได้ทำการขุดคุ้ยประเด็นข้อถกเถียงที่ร้อนแรงที่สุดในวิชาเพศศึกษาที่ว่า เป็นวิชาที่ควรที่จะสอนประเด็นการคุมกำเนิดหรือการยับยั้งชั่งใจของตัวเองหรือไม่อย่างไร ซึ่งนักศึกษาที่ได้ศึกษาวิชาเพศศึกษาก็ได้เรียนรู้ถึงข้อแนะนำต่างๆเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งก็สอดคล้องกับงานวิจัย
แม้ว่างานวิจัยจะชี้ให้เห็นว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างเพศศึกษากับพฤติกรรมทางเพศ แต่นักวิจัยหลายคนก็ไม่ได้ทำการพิสูจน์หลักเหตุและผลในความเชื่อมโยงทั้งสองประเด็นนี้
Clare Brindis เป็นผู้อำนวยการชั่วคราวแห่ง Philip R.Lee จากสถาบันการวิจัยนโยบายทางด้านสุขภาพในมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียที่ซานฟานซิโกก็ได้กล่าวว่า เพศศึกษาเป็นวิชาที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากเด็กเล็กยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์อยู่ บางคนก็ยังเชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถทำใครท้องได้หากมีเพศสัมพันธ์ในท่ายืนหรือมีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกหรือหากแฟนชายดื่มมากเกินไป
“วิชาเพศศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของทำกิจกรรมทางเพศส่วนใหญ่ โดยมีการสอนให้พวกเขารู้ถึงระบบร่างกายของมนุษย์กับสรีรวิทยา แล้วสอนให้รู้ว่าถุงยางอนามัยเป็นอย่างไร” Brindis กล่าว “คนที่จะต้องทำการช่วยเหลือจริงๆก็คือ เป็นคนที่ชอบนั่งหลังหรือชอบอยู่งานปาร์ตี้ และไม่มีผู้ใหญ่รอบข้างให้คำแนะนำและมีภาวะกดดันจากปัจจัยภายนอก พวกเขาอยากรู้ว่า เขาจะต้องทำอย่างไรกับสภาวการณ์แบบนี้?”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
จากการวิจัยพบว่า เพศศึกษาสามารถชะลอการมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มวัยรุ่นได้
เพศศึกษามีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้วัยรุ่นชะลอการมีเพศสัมพันธ์ได้ สอดคล้องกับงานวิจัยใหม่ที่ได้เริ่มทำขึ้นมา
วัยรุ่นผู้ชายที่ได้ศึกษาวิชาเพศศึกษาในโรงเรียนพบว่า 71 เปอร์เซ็นต์มีแนวโน้มที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ และเช่นเดียวกันวัยรุ่นผู้หญิง 59 เปอร์เซ็นต์ก็มีแนวโน้มไปในทางเดียวกันที่ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ในขณะเดียวกันผู้ชายที่เข้าโรงเรียนก็มีแนวโน้มที่จะคุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกหากพวกเขาได้เข้าเรียนวิชาเพศศึกษา
“เพศศึกษาดูเหมือนว่าเป็นวิชาที่ใช้ได้ผล” กล่าวโดยหัวหน้าวิจัยอย่าง Trisha Mueller นักระบาดวิทยาจากสถาบัน Disease Control And Prevention “โดยเฉพาะมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยผู้คนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์”
นักวิจัยหลายคนพบว่า เพศศึกษาช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อของผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันในโรงเรียนที่พยายามจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรได้ อย่างไรก็ตามปกติแล้วเพศศึกษาจะใช้ไม่ได้ผลกับวัยรุ่นผู้หญิงที่เคยผ่านการคุมกำเนิดมาก่อน
สอดคล้องกับ Mueller ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการวิจัยถึงความไร้ประสิทธิภาพของวิชาเพศศึกษาในช่วงปี 1970 จนถึงปี 1990 จากการศึกษาต่างๆก็พบว่า วิชาเพศศึกษาไม่ได้ช่วยชะลอการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด เธอกล่าวเอาไว้
จากการวิจัยใหม่ก็ได้ทำการสุ่มตัวอย่างจากวัยรุ่นอายุ 15-19 ปีจำนวน 2019 คน ที่ได้ทำแบบสำรวจในช่วงปี 2002
นักวิจัยหลายคนได้ทำการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในผลกระทบที่ว่า เพศศึกษาส่งผลต่อชีวิตเซ็กส์ของวัยรุ่นและมีการปรับตัวเข้ากับสภาวะการณ์ของคนในครอบครัวอย่างไร
จากการศึกษาก็ไม่ได้ทำการขุดคุ้ยประเด็นข้อถกเถียงที่ร้อนแรงที่สุดในวิชาเพศศึกษาที่ว่า เป็นวิชาที่ควรที่จะสอนประเด็นการคุมกำเนิดหรือการยับยั้งชั่งใจของตัวเองหรือไม่อย่างไร ซึ่งนักศึกษาที่ได้ศึกษาวิชาเพศศึกษาก็ได้เรียนรู้ถึงข้อแนะนำต่างๆเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งก็สอดคล้องกับงานวิจัย
แม้ว่างานวิจัยจะชี้ให้เห็นว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างเพศศึกษากับพฤติกรรมทางเพศ แต่นักวิจัยหลายคนก็ไม่ได้ทำการพิสูจน์หลักเหตุและผลในความเชื่อมโยงทั้งสองประเด็นนี้
Clare Brindis เป็นผู้อำนวยการชั่วคราวแห่ง Philip R.Lee จากสถาบันการวิจัยนโยบายทางด้านสุขภาพในมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียที่ซานฟานซิโกก็ได้กล่าวว่า เพศศึกษาเป็นวิชาที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากเด็กเล็กยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์อยู่ บางคนก็ยังเชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถทำใครท้องได้หากมีเพศสัมพันธ์ในท่ายืนหรือมีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกหรือหากแฟนชายดื่มมากเกินไป
“วิชาเพศศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของทำกิจกรรมทางเพศส่วนใหญ่ โดยมีการสอนให้พวกเขารู้ถึงระบบร่างกายของมนุษย์กับสรีรวิทยา แล้วสอนให้รู้ว่าถุงยางอนามัยเป็นอย่างไร” Brindis กล่าว “คนที่จะต้องทำการช่วยเหลือจริงๆก็คือ เป็นคนที่ชอบนั่งหลังหรือชอบอยู่งานปาร์ตี้ และไม่มีผู้ใหญ่รอบข้างให้คำแนะนำและมีภาวะกดดันจากปัจจัยภายนอก พวกเขาอยากรู้ว่า เขาจะต้องทำอย่างไรกับสภาวการณ์แบบนี้?”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com